กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

คสช.ชี้ แผนเร่งด่วน สธ. 'พัฒนาระบบสุขภาพ' สอดคล้องวิสัยทัศน์

โดย ไทยรัฐออนไลน์
31 พ.ค. 2557 18:15


คสช.เผยแผนเร่งด่วน สธ. สอดคล้องวิสัยทัศน์ หลังเสนอแผน 3 ระยะ เน้นพัฒนาระบบสุขภาพที่ดี สมานฉันท์ เตรียม ศปป.สร้างความปรองดองประชาชนคิดต่างทางการเมือง...

เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางมามอบนโยบายที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมหารือด้านสาธารณสุขร่วมกับผู้บริหาร

ทั้งนี้ สธ.ได้เสนอการพัฒนาระบบสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ สมานฉันท์ บนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน 3 ระยะ คือ 1. ระยะเร่งด่วน ทำทันทีในปัจจุบันถึง 1 ต.ค. 2557 2. ระยะกลาง จะดำเนินการใน 1 ปี ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2557 - 30 ก.ย. 2558 และ 3. ระยะยาว จะดำเนินการใน 3 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ 1 ต.ค. 2558 - 30 ก.ย. 2561 ซึ่งจะครอบคลุมนโยบายความปรองดองสมานฉันท์ของคน ในชาติฟื้นฟูเยียวยาสังคม

พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า มีแผนงานที่ สธ.จะต้องพิจารณาอย่างเร่งด่วน หลังเกิดวิกฤติทางการเมือง ที่มีการยุบสภา จึงยังต้องรอการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี เช่น เรื่องการบรรจุลูกจ้างเป็นข้าราชการ โดยจะเร่งผลักดันให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ซึ่งในงบประมาณปี 2557 ซึ่งเหลือเวลา 4 เดือน นอกจากนี้ ปลัด สธ.ยังได้ชี้แจงนโยบายและยุทธศาสตร์ของ สธ. ซึ่งมีการวิเคราะห์และจัดลำดับความสำคัญของงานได้อย่างชัดเจน ซึ่งเห็นด้วย เพราะสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และเจตนารมณ์ของฝ่ายสังคมจิตวิทยาที่ได้ให้ไว้

สำหรับแผนนโยบายทั้ง 3 ระยะ คือ 1. ระยะเร่งด่วน ต้องปฏิบัติทันที เน้นพัฒนาระบบบริการให้ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนทุกกลุ่มวัย 2. ระยะกลาง จะดำเนินการใน 1 ปี เน้นปฏิรูประบบเขตบริการสุขภาพ ระบบการเงินการคลังด้านสุขภาพ ระบบข้อมูลด้านสุขภาพ และ 3. ระยะยาว ดำเนินการใน 1-3 ปี เน้นทำแผนการลงทุนของ สธ. ให้สอดคล้องกับแนวทางการจัดบริการแบบเขตสุขภาพ และจัดทำแผนผลิต พัฒนาคน เพื่อรองรับระบบบริการและกระจายบุคลากรให้เกิดความเป็นธรรม

ทางด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. กล่าวว่า กลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น ผู้บาดเจ็บ และครอบครัวผู้เสียชีวิต จะดูแลในทุกมิติ ส่วนผู้ที่มีความคิดเห็นขัดแย้งทางการเมือง จะมีศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) ระดับจังหวัดเป็นกลไกสำคัญ โดย สธ.จะมีกำลังคนและวิธีการเข้าไปช่วยเสริม ซึ่งอาจจะต้องมีการวิเคราะห์พื้นที่ กลุ่มเสี่ยง และจัดเวทีรับฟังแลกเปลี่ยนกันและกัน ซึ่งมีเทคนิคด้านสังคมจิตวิทยาเข้าไปช่วย.