ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

สธ.สงขลาชวนสื่อใต้รณรงค์ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่และไข้เลือดออกในกลุ่มเสี่ยง

เริ่มโดย ทีมงานประชาสัมพันธ์, 16:33 น. 07 ก.ค 57

ทีมงานประชาสัมพันธ์

สาธารณสุขจังหวัดสงขลา จัดแถลงข่าว "การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ และไข้เลือดออกในประชาชนกลุ่มเสี่ยงจังหวัดสงขลา" กระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของปัญหาความรุนแรงของโรคผ่านเครือข่ายสื่อมวลชน

[attach=1]

วันนี้ (7 ก.ค. 57) ที่ โรงแรมไดมอนด์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา นายแพทย์ศิริชัย ลีวรรณภาใส นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยดร.นพ.สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมโรคที่ 12 สงขลา ร่วมกันแถลงข่าว "การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ และไข้เลือดออกในประชาชนกลุ่มเสี่ยงจังหวัดสงขลา" โดยมีนายทีปวัฑฒ์ มีแสง นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ พร้อมคณะสื่อมวลชน และผู้เข้าร่วมงานให้การต้อนรับ


นายแพทย์ศิริชัย ลีวรรณภาใส นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ในสังคมรวมทั้งปัญหาด้านสุขภาพ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากสื่อมวลชนทุกแขนง ที่จะช่วยสร้างความรู้ ความเข้าใจ และสร้างกระแสให้สังคมเกิดความตื่นตัว กระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของปัญหาความรุนแรงของโรค ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ และสังคม รวมทั้งการขอความร่วมมือให้ประชาชนมีการปฎิบัติ มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้องเหมาะสม ตลอดจนมีส่วนร่วมดำเนินการแก้ไขปัญหาสุขภาพ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ท้องถิ่น เอกชน และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต่างๆ

สำหรับสถานการณ์สุขภาพในปัจจุบัน ประชาชนจังหวัดสงขลา มีความเสี่ยงต่อโรค และภัยสุขภาพที่เกิดขึ้นในช่วงที่เริ่มเข้าสู่ดูฝน เนื่องจากมีสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการเกิดโรคระบบทางเดินหายใจ และโรคที่เกิดจากยุงลายเป็นพาหะ ซึ่งจากข้อมูลรายงานการเฝ้าระวังโรคโดยสถานบริการสาธารณสุขของจังหวัดสงขลา พบว่าสถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่ และโรคไข้เลือดออกมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น หากไม่มีการแจ้งเตือนประชาชนผ่านสื่อมวลชน และช่องทางต่างๆ แล้ว อาจจะทำให้ประชาชนเจ็บป่วยมากขึ้น และอาจจะทำให้เสียชีวิตได้

[attach=2]

โดยการจัดแถลงข่าว "การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ และไข้เลือดออกในประชาชนกลุ่มเสี่ยงจังหวัดสงขลา" ในวันนี้มีหัวข้อหลักสำคัญ 2 เรื่อง คือ 1.เตือนประชาชนกลุ่มที่มีสุขภาพอ่อนแอเสี่ยงต่อโรคไข้หวัดใหญ่ และ 2.โรคไข้เลือดออกอาจระบาดในชุมชนเมืองช่วงเดือน กรกฏาคม-สิงหาคม ซึ่งประชาชนต้องกำจัดลูกน้ำยุงลายอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง สำหรับสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ที่พบในปัจจุบัน ไม่ใช่เชื้อใหม่แต่เป็นสายพันธุ์ที่เคยระบาดมาแล้ว ที่พบมีผู้ป่วย และเสียชีวิตเพิ่มขึ้นในปีนี้ (ในภาพรวมของประเทศ) อาจจะเป็นเพราะส่วนหนึ่งไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันมาก่อน ประกอบกับไข้หวัดใหญ่ไม่มีการระบาดหนักมานาน ผู้ป่วยจึงชะล่าใจคิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา ไม่คิดว่าจะป่วยหนักจึงไปถึงหมอช้า ทำให้ไม่ได้รับการรักาทันท่วงที โดยประชาชนที่มีสุขภาพอ่อนแอ มีภูมิต้านทานต่ำ จึงสุ่มเสี่ยงต่อเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ได้ง่าย โดยกลุ่มเสี่ยงที่จำเป็นต้องได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และต้องมีการป้องกันอย่างต่อเนื่อง แบ่งได้เป็น 7 กลุ่มหลัก คือ 1. ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปี ขึ้นไป  2. หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ตั้งแต่ 4 เดือน ขึ้นไป  3. เด็กอายุ 6 เดือน-2 ปี  4. ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 โรค ได้แก่ โรคปอดอุดกั้น , หอบหืด , หัวใจ ,หลอดเลือดสมอง ,ไตวาย ,เบาหวาน และผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัด  5. บุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการตรวจเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการสัมผัสโรค  6. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และ 7. คนอ้วนที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 100 กก. หรือ BMI มากกว่า 35 กก. ต่อตารางเมตร

[attach=3]

สำหรับสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้ในจังหวัดสงขลา มีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยเอื้ออำนวยทางด้านสภาพภูมิอากาศเหมาะสม โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเมืองพบจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นในเดือนมิถันายน 2557 ได้แก่ อ.สะเดา , อ.เมือง และ อ.หาดใหญ่ ซึ่งปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากลักษณะชุมชนหนาแน่นจำนวนมาก มีสิ่งแวดล้อมที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการเคลื่อนย้ายของประชากรเข้ามาทำงานในพื้นที่เขตเมือง จึงมีโอกาสนำเชื้อโรคไข้เลือดออกจากพื้นที่อื่นๆ เข้ามา และหากมีผู้ป่วยเป็นไข้เลือดออกจะเกิดการแพร่เชื้อระบาดได้ง่าย เพราะบ้านเรือนอยู่อาศัยหนาแน่น

ซึ่งในปัจจุบันมีแนวโน้มของผู้ป่วยไข้เลือดออกจะพบในกลุ่มวัยเด็กโต และผู้ใหญ่มากขึ้น ซึ่งมักจะทำให้มีอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไป ทั้งนี้เนื่องจากเด็กโตแ และผู้ใหญ่ เมื่อเป็นไข้จะคิดว่าไม่เป็นไข้เลือดออก จึงไม่ได้ดูแลอาการตนเองอย่างใกล้ชิดจนเกิดอาการรุนแรง และอาจเข้าสู่ภาวะช๊อค และทำให้เสียชีวิตได้ ดังนั้นจึงควรให้ระวังป้องกันตนเองโดยเฉพาะในช่วงนี้ หากพบว่ามีไข้สูงเฉียบพลัน ให้สงสัยไว้ก่อนว่าเป็นไข้เลือดออก และหากเป็นไข้ 2 วัน อาการไม่ดีขึ้น วันที่ 3 ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษา