ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

30 ปีบันเทิงของนางเอกลูกเป็ดขี้เหร่ ''จิ๋ม'' ปนัดดา โกมารทัต

เริ่มโดย ทีมงานบ้านเรา, 12:58 น. 07 ก.ย 54

ทีมงานบ้านเรา

โดย สยามดารา
http://www.siamdara.com/Variety/110903_1014.html

สัมผัสชิวิตบนเส้นทางบันเทิงกว่า 30 ปี ของนางเอกลูกเป็ดขี้เหร่ ''จิ๋ม'' ปนัดดา โกมารทัต

[attach=1]

หายต่อหลายคนมองว่าชีวิตของมนุษย์เราทุกคนนั้น ต่างก็ได้ถูกคนบนฟ้าขีดชะตาลิขิตให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้แล้ว แต่จริงๆ แล้วก็คงไม่ถูกต้องไปซะหมด เพราะคนเราทุกคนที่เกิดมาบนโลกกลมๆ ใบนี้ ต่างก็สามารถเลือกทำดี เลือกสิ่งที่ดีให้กับชีวิตเราเองได้ อย่างที่เคยได้ยินเพลงท่อนหนึ่งที่ร้องเอาไว้ว่า ''30; ลิขิตฟ้า 70 ต้องฝ่าฟัน'' นี่ก็คงจะเป็นประโยคหนึ่งที่พอได้ฟังแล้วก้ต้องคิดตามและเห็นด้วยเป็นอย่าง ยิ่ง ว่าเราสามารถเลือกและทำสิ่งดีๆ ให้ชีวิตเราไปในทางที่ดีได้

    ดาราเก่า เธอเขาอยูที่ไหนในวันนี้จะพาผู้อ่าทุกท่านไปติดตามเรื่องราวชีวิตในวงการ บันเทิงของนักแสดงรุ่นใหญ่ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการมากว่า 30 ปี เธอมีผลงานมากมายหลากหลายตั้งแต่บทนางเอก แม่นางเอก แม่บ้าน คนใช้ และอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน ขอพาทุกท่านไปสัมผัสชีวิตบนเส้นทางมายาของ ''จิ๋ม'' ปนัดดา โกมารทัต อดีตนางเอกฉายาลูกเป็ดขี้เหร่ของเมืองไทย
     
    จากการสนทนาพูดคุยกับพี่จิ๋มอย่างออกรสออกชาติถึงชีวิตที่จับพลัด จับผลูจากพี่เลี้ยงนางงามจนกลายมาเป็นนางเอกที่โลดแล่นบนวงการบันเทิงมาจน ถึงปัจจุบันกว่า 30 ปี นั้น พี่จิ๋มก็ได้เล่าให้ฟังถึงต้นเหตุที่ทำให้ชีวิตก้าวเข้ามาสู่วงการแสงสีแห่ง นี้ว่า
     
    ''พี่จิ๋มเข้าวงการมาได้เพราะน้องสาวพี่จิ๋มเป็นนางงามแล้วพี่จิ๋ม เป็นพี่เลี้ยงนางงาม และด้วยความก๋ากั่นของพี่ก็เลยไปเข้าตาพี่ ''วิทยา สุขดำรง'' ที่เป็นนักข่าวและนักจัดรายการในสมัยนั้น แล้วเขาก็ชวนพี่ว่าหนูลองไปเล่นหนังไหม เพราะพี่เขาเห็นว่าเราหน่วยก้านดี ด้วยความที่พี่เป็นเด็กที่แบบชอบหาเงินน่ะก็เลยถามไปคำแรกเลยว่าได้ตังค์ไหม พี่ เขาก็บอกว่าได้ พี่ก็เลยตกลงไป ก็เลยตั้งแต่นั้นมาก้เลยทำให้ได้เล่นเป็นนางเอกเรื่องแรก เรื่องหยาดพิรุณ คู่กับคุณ ''สรพงษ์ ชาตรี'' เรื่องแรกก็เป็นนางเอกเลยนะ เห็นขี้เหร่แบบนี้ก็เป็นนางเอกนะ พี่ ''สันติ เศวตวิมล'' ยังเคยตั้งฉายาให้พี่ว่าลูกเป็ดขี้เหร่ของเมืองไทย รองจากพี่ ''ทัศวรรณ เสรีวงษ์'' พี่ก็สงสัยตัวเองเหมือนกันนะว่าพี่ขี้เหร่จริงหรอ จริงๆ แล้วพี่ก็ขี้เหร่ค่ะ แต่ไม่รู้ว่าอะไรทำให้พี่เป็นนักแสดงได้ พีเชื่อเลยนะว่า นักแสดงบ้านเราส่วนใหญ่เป็นคนที่มีความคิดดีและจิตใจดี วินัยของการแสดงต้องมี แต่พี่เป็นคนที่ไม่ค่อยออกงาน จนปัจจุบันนี้พี่เล่นมาแล้วเป็นเวลา 30 กว่าปี ทั้งหนังทั้งละคร''
     
    จากนั้นพี่จิ๋มก็ได้เล่าถึงผลงานต่างๆ ที่ผ่านมา และได้เล่าถึงผลงานที่เรียกว่าเป็นชิ้นโบแดงของพี่จิ๋ม จนได้รับรางวัลเมขลามาครอง ซึ่งแววตาและสีหน้าในขณะที่พี่จิ๋มกำลังนึกย้ายถึงอดีตนั้นช่างเป็นแววตาที่ เปี่ยมไปด้วยความสุขอย่างเห็นได้ชัด
     
    ''พี่จิ๋มเองก็ไม่รู้นะว่าผลงานชิ้นไหนมันดังมากจริงๆ แต่เท่าที่พี่รู้สึกได้เนี่ย คงจะเป็นละครเรื่องกุหลาบไร้หนาม เพราะในเวลานั้นพี่ไปเดินตลาด หรือเวลาที่ไปไหนมาไหนเนี่ย ไปช่วยแม่ซื้อของมาทำกับข้าวเนี่ย พี่ก็จะได้ยินคำชมเชยมาเยอะมาก หลายคนก็จะบอกว่า สู้เขาสิ สู้นางร้ายบ้าง พี่ก็จะรู้สึกดีใจมากเลยนะ ช่วงนั้นละครเรื่องกุหลาบไร้หนามก็ออกอากาศทาง ช่อง 9 แล้วอีกเรื่องก็จะเป็นเรื่อง บางระจัน ทางช่อง 3 เรื่องสุดท้ายที่เล่นเป็นนางเอกคือเรื่องจำเลยรัก แล้วหลังจากนั้นก็ไปเล่นเป็นแม่บ้าน หลังจากนั้นไม่นานพี่ก็ท้อง พอพี่คลอดลูกเสร็จสักพักพี่ก็กลับมาเล่นละครใหม่ แต่ว่าพี่จิ๋มได้รางวัลเมขลาในเรื่องมฤตยูยอดรัก เป็นงานที่พี่ไม่ได้ตั้งใจนะ เพราะพี่ก็มองว่าบทเป็นอะไรที่ง่าย เพราะตัวละครตัวนี้ต้องนิ่งๆ ใช้สายตาซะส่วนมากแล้วพี่เนี่ยเป็นคนที่ที่นิ่งไม่ค่อยได้นะ เป็นคนต้องทำโน่นทำนี่ เล่นเรื่องนี้พี่ก็ไม่คิดว่าจะทำให้ได้รับรางวัลเมขลามาครอง ก็ภูมิใจและดีใจมากเหมือนกันค่ะ''
     
    ด้วยประสบการณ์ในวงการที่มากเหลือของพี่จิ๋มที่ส้รางผลงานจรรโลง จิตใจให้ความบันเทิงแก่ผู้คนมานานกว่า 30 ปีนั้นจึงอดที่จะถามไม่ได้ว่า เพราะเหตุใดพี่จิ๋มจึงสามารถใช้ชีวิตอยู่ในวงการได้อย่างยาวนานขนาดนี้ วึ่งพี่จิ๋มเองก็ได้ส่งยิ้มและสายตาอันอุ่นมาให้ก่อนที่จะเล่าให้ฟังว่า จิตใจที่ดีงามของคนเรานี่แหละสำคัญที่สุดในการทำงาน
     
    ''พี่ว่าเป็นเพราะจิตใจที่ดีงาม วินัยการแสดง ไม่พูดอะไรที่เสียหายให้ใครทั้งนั้น พี่เชื่อว่าคนทุกคนมีเหตุผลทุกอย่างในการทำ จิตเราต้องดีก่อน พี่ชอบการแสดงมากนะเพราะรู้สึกว่ามันผูกพันเรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต พี่เลยก็ว่าได้ พี่เคยไปใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกามาปีกว่า พี่รู้สึกว่าพี่ร้องไห้ คิดถึงงานละคร งานหนังในบ้านเรามาก นานที่สุด 2 เกือบ 3 ปี ที่ไม่ได้จับงานตรงนี้ พี่ก้กลัวสนิทกินเหมือนกันนะ ค่าตัวมันไม่มีความหมายสำหรับพี่แล้วแหละ ขอแค่พี่ได้เล่น ในบทที่ดีด้วยนะ เพราะมีหลายเรื่องที่ติดต่อเข้ามาแล้วแบบมันไม่เหมาะกะพี่ เราก็ไม่ได้รับ แต่พี่รู้ว่าพี่รักและผูกพันกับอาชีพนักแสดงมาก มันคือส่วนหนึ่งในชีวิตของพี่''
     
    จากมุมมองของผู้ที่อยู่ในวงการมานานขนาดนี้ อยากทราบถึงความรู้สึกถึงวงการบันเทิงตั้งแต่สมัยก่อนมาจนปัจจุบันว่าแตก ต่างหรือเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหนในสายตาคนที่เรียกว่าเป็นคนบันเทิงแท้ อีกคนในวงการ ซึ่งพี่จิ๋มก็ได้ให้ความเห็นกลับมาว่า
     
    ''วงการบันเทิงสมัยนี้ถ้าในแง่ของเทคนิคเพอร์เฟกต์ เริ่มดีขึ้นมากๆ ในแง่ของนักแสดงก็ดูเป็นรุ่นใหม่ที่มีวิวัฒนาการที่ดีนะ อย่างพี่จิ๋มเนี่ยเล่นเรื่องแรกเนี่ยบอกเลยนะว่าเล่นแข็งเป็นสากกระเบือเลย เพราะว่าพี่จิ๋มไม่มีพื้นฐานที่ดี ที่พร้อมเหมือนอย่างเช่นทุกวันนี้ เพราะเดี๋ยวนี้ก็จะมีโรงเรียนสอนการแสดงต่างๆ เต็มไปหมด พี่ว่ามันเจ๋งน่ะ ไม่มีอะไรที่พี่จะตำหนิเลย นอกจากขอร้องผู้สร้างทั้งหลายแหล่ว่าเวลาผลิตชิ้นงานออกมาเนี่ย อย่าหลอกคนดู มากจนเกินไป บางทีทำให้มันสมจริงมั่งก็ได้ อย่างรุ่นน้องรุ่นหลังที่กำลังก้าวเข้ามาสู่วงการนี้พี่ก้อยากจะฝากบอกว่า เรื่องของความสามารถที่น้องๆ มีตอนนี้พี่ชอบแล้ว ก็ขอแค่น้องๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ วินัยการแสดงที่ดีพี่ว่าน้องๆ ที่ก้าวเข้ามาอยู่ ณ จุดๆ นี้ก็น่าจะรู้และเข้าใจแล้ว ก็อยากฝากว่าทำอะไรให้คิดถึงส่วนรวมคิดถึงประเทศชาติ เราเป็นตัวกลาง เป็นคนที่เป็นตัวอย่างของคนหลายๆ คน เวลาที่เราจะพูดอะไรออกไปเราควรจะคิดอะไรที่สอดแทรกสิ่งดีๆ ที่เป็นประโยชน์ให้กับคนดูด้วยมันก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี''
     
    จนถึงตรงนี้แล้วสิ่งหนึ่งที่อยากรู้จากความรู้สึกของคนบันเทิงตัว จริงอย่างพี่จิ๋มแล้ว นั่นก็คือวงการบันเทิงนั้นได้ให้อะไรกับชีวิตพี่จิ๋มบ้าง ตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้ามาจนถึงปัจจุบัน โดยก่อนตอบพี่จิ๋มก็ได้อึ้งและคิดทบทวนอยู่สักพัก ก่อนจะตอบด้วยคำพูดที่แสนประทับใจให้ฟังว่า
     
    ''วงการบันเทิงสร้างให้พี่เป็นคน สร้างให้พี่มีความอดทน สร้างให้พี่รู้จักคุณค่าของชีวิตแต่ละชีวิต ส้รางให้พี่เป็น ปนัดดา โกมารทัต สร้างให้พี่มีประสบการณ์ในการเก็บเกี่ยวชีวิต เพราะโลกนี้มันเป็นเสมือนครูให้กับชีวิตพี่ค่ะ ยังไงก็ต้องขอฝากถึงแฟนคลับหรือผู้ชมที่ติดตามพี่ซึ่งสำหรับพี่แล้วมีน้อย มากนะ แต่ว่าแต่ละคนจริงใจมากเลย ทั้งๆ ที่พี่ไม่ได้โด่งดังมากมายขนาดนั้น พี่ต้องขอขอบคุณนะคะ ที่ให้โอกาสดาราสูงวัยอย่างพี่ สิ่งใดที่เป็นสิ่งดีงามในโลกนี้ขอให้สนองกลับแด่แฟนๆ ที่คิดดีทำดี พี่ก็ยังใช้ชีวิตอยู่ในวงการบันเทิงแบบนี้ แม้จะไม่ค่อยได้เห็นหน้าค่าตาบ่อยเหมือนเมื่อก่อนก้ตาม พี่ก็ยังรักและผูกพันกับวงการนี้อยู่เสมอ''
     
    นี่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตลูกผู้หญิงตัวเล็กที่ก้าวเข้ามสู่วงการ แห่งแสงสี และมีความรักความผูกพันกับวงการนี้อย่างมาก หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นักแสดงรุ่นใหม่ๆ ที่กำลังผุกขึ้นเป็นดอกเห็ดอย่างทุกวันนี้จะมีจิตวิญญาณของอาชีพนัก แสดงอย่างแท้จริง เฉกเช่นผู้หญิงคนนี้ ''จิ๋ม'' ปนัดดา โกมารทัต
สนับสนุนการขับเคลื่อนโดย
- ฮอนด้าพิธานพาณิชย์-อริยะมอเตอร์ www.phithan.co.th/hondaphithan
- ปาล์มสปริงส์ & ซิตี้รีสอร์ท บ้านและคอนโดคุณภาพจากเครืองศุภาลัย www.hatyainakarin.com
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ (เยื้องบิ๊กซีคลองแห) โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy
- เอนกการช่าง ผู้นำการพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร โทร 081-7382622 www.an-anek.com/contact.php
รีวิวธุรกิจ เกาะติดบ้านเมือง ร้อยเรื่องท้องถิ่น TLP 0897384215

Krasoon.Int

เคยเจอตัวจริง  นั่งทานข้าวโตะเดยวกันแปบนึง พ่เค้าน่ารักด ใจด รักลูกชายมาก พกรูปโชว์ตลอด น่ารักๆ