กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

โดย  ASTVผู้จัดการภาคใต้ www.ASTVsouth.com

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ประชาชนในชุมชนเตาอิฐ จ.สงขลา รวมตัวคัดค้าน "วัดอุทัยธาราม" ขึ้นไวนิลประกาศออกโฉนดที่ธรณีสงฆ์ทับที่ดินชาวบ้าน และเรียกร้องให้ลงทะเบียนเช่าที่ดิน ด้านชาวบ้านเผยทำกินในที่ดินดังกล่าวมากว่า 50 ปี พร้อมเตรียมร้องสภาทนายความขอความช่วยเหลือ
       
       วันนี้ (15 ก.ย.) ที่บริเวณลานจอดรถขนส่ง ใกล้ท่าเรือประมงใหม่ เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา นายบุญเหลือ สุขปลื้ม ประธานชุมชนเตาอิฐ เขตเทศบาลนครสงขลา พร้อมด้วยชาวชุมชนเตาอิฐ กว่า 100 คน รวมตัวกันคัดค้านไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่สำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดสงขลา นำป้ายไวนิลซึ่งเป็นป้ายประกาศของสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดสงขลาให้ชาวบ้านเช่าที่ธรณีสงฆ์วัดอุทัยธาราม และป้ายโฉนดที่ดินของวัดอุทัยธาราม มาติดประกาศบริเวณชุมชนเตาอิฐทั้งหมด
       
       เนื่องจากชาวบ้านอ้างว่า ที่ดินบริเวณนี้ชาวชุมชนเตาอิฐอาศัยทำกินมากว่า 50 ปี และถูกทางวัดอุทัยธาราม ออกโฉนดที่ดินธรณีสงฆ์ทับที่ดินทำกินที่ชาวบ้านอยู่อาศัยมาก่อน โดยโฉนดที่ดินได้ออกเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557
       
       สำหรับประกาศสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดสงขลา ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากวัดอุทัยธาราม ในการจัดเก็บ ดูแล บำรุงรักษาผลประโยชน์ของวัด ต้องการให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ดินวัดมาลงทะเบียนเช่าที่ดิน ทางสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดสงขลา จะทำการสำรวจรังวัดจัดทำแผนผังเป็นรายบุคคล เพื่อประกอบสัญญาเช่า และนำใบโฉนดที่ดินเลขที่ 55085 เลขที่ดิน 604 เนื้อที่ 33 ไร่ 1 งาน 81.2 ตารางวา ที่ออกเป็นโฉนดเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 มาติดประกาศด้วย
       
       นายบุญเหลือ สุขปลื้ม ประธานชุมชนเตาอิฐ เปิดเผยว่า สำหรับที่ดินของวัดอุทัยธารามเดิม ที่ขึ้นทะเบียนเป็นศาสนสมบัติเลขที่ 146 ทิศเหนือจดคลองระยะทาง 5 เส้น ทิศใต้จดบ้านนายกิมหยง ทิศตะวันออกจดวัด ระยะ 3 เส้น 7 วา 3 ศอก ทิศตะวันตกจดทะเลสาบ ระยะ 2 เส้น 7 วา และที่ดินทางทิศตะวันตก ที่ชาวบ้านได้รับการจัดสรรให้เข้าไปอยู่ก็ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของศาสนสมบัติของวัดอุทัยแต่อย่างใด หลังจากนี้ จะยื่นเรื่องขอให้สภาทนายความช่วยเหลือขอให้เพิกถอนโฉนดที่ดินแปลงที่ครอบคลุมพื้นที่ชุมชนเตาอิฐผืนนี้ รวมทั้งทำการยื่นถวายฎีกาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย
   

พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ของวัดอยู่นานแล้วแต่พวกคุณเข้าบุกรุกขายสิทธิ์ที่ดินทำกินกันเอง
และมีกลุ่มนายทุนแบ่งพื้นที่ขายสิทธิ์ให้เช่าต่ออีกที พื้นที่วัดกลายเป็นพื้นที่สลัมเกิดปัญหาต่างๆตามมามากมาย
ไม่ว่ายาเสพติด ชิงทรัพย์ ฯลฯ ภายในชุมชนนี้

ขอให้ภาครัฐจัดการให้เด็ดขาดกับกลุ่มคนพวกที่ชอบบุกรุก ถ้าไม่จัดการให้เด็ดขาดต่อไปจะไม่สามารถเป็นบรรทัดฐานให้สังคมได้ และในพื้นที่อื่นๆจะเกิดการบุกรุกเพิ่มขึ้นอีกต่อไป

 ผมเคยไปเช่าบ้านอยู่ข้างวัดอุทัยช่วงพ.ศ.25-26 ได้เห็นและรู้อะไรๆหลายอย่าง เรื่องบุกรุกที่วัดก็ได้ยินชาวบ้านชักชวนกันไปจับจองปลูกกระต๊อบหรือลูกหนำในเขตวัด เพื่อ"จองสิทธิ์ในที่ดิน"กรณีถ้ามีการสำรวจพวกนี้ก็จะอ้างว่าเป็นเจ้าของและอยู่มานานแล้ว โดยมีพวกบุกรุกด้วยกัน"ร่วมหัว"เป็นพยาน เช่นเดียวกับที่พวกนายทุนบุกรุกป่าสงวนมูลค่าร้อยล้านพันล้านก็ใช้วิธีพื้นฐานแบบนี้ เพียงแต่พวกนายทุนเขาลงทุนจ่ายค่าเบิกทางแก่จนท.รัฐเป็นกอบเป็นกำ
สำหรับที่ดินวัดอุทัยและวัดอื่นๆในตัวเมืองสงขลาล้วนมีบริเวณกว้างขวางใหญ่โต แต่ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์ ปล่อยทิ้งร้างว่างเปล่าเป็นสิบๆปี บางวัดลืมแล้วด้วยซ้ำว่าที่วัดมีกี่สิบกี่ร้อยไร่ เหตุนี้เองชาวบ้านจึงฉวยโอกาส"ยึด"มาเป็นของตัวเอง หลายรายทำสำเร็จจนออกหนังสือได้ ขายได้ร่ำรวยกันไป