กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

19กย49 ไม่ใช่การรัฐประหารครั้งสุดท้าย

เหตุการณ์ยึดอำนาจรัฐบาลทักษิณโดยกลุ่มบุคคลที่ใช้ชื่อว่า
"คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ คปค"
ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นครั้งที่มีการร่วมมือกันอย่างกว้างขวางที่สุดและเปิดเผยที่สุดของผู้ที่มีส่วนร่วมจนทำให้เกิดการรัฐประหาร 19กย49 นี้
สัญลักษณ์และสัญญาณต่าง ๆ ถูกส่งออกมาและใช้กันอย่างกว้างขวางและเปิดเผย
โดยปราศจากการปฏิเสธจาก "แหล่งที่มา" ของสัญลักษณ์และสัญญาณต่าง ๆ เหล่านั้น
และถูกสำทับทำให้ข้อมูลเหล่านั้นดูหนักแน่นยิ่งขึ้นไปอีกด้วยความร่วมมือของ "สื่อ" ต่าง ๆ
ที่พร้อมใจกันโหมประโคมกันอย่างพร้อมใจและพร้อมเพรียง ทำราวกับว่าได้รับ "สัญญาณตรง" มาเองก็ไม่ปาน

ผ่านไป 5 ปี หลาย ๆ เหตุการณ์ได้พิสูจน์โดยตัวของมันเองแล้วว่า สัญลักษณ์ หรือ สัญญาณ ต่าง ๆ ที่เคยมีการใช้กันในเหตุการณ์ 19กย49 นั้น
หลาย ๆ อย่างเป็น "ของจริง" ซึ่งทำให้เกิดเป็นสิ่งที่น่าตระหนกยิ่งกว่าตามมาก็คือ "ของจริง" ต่าง ๆ เหล่านั้น
ถูกประมวล ประเมิน และแทนที่ด้วย "ความจริง" เป็นความจริงที่ยากจะหวนกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์

และก็ต้องทำให้รับรู้กันอย่างจริงจังว่า หลังจากประสบความสำเร็จในเหตุการณ์ 19กย49 แล้ว "ของจริง" ยังไม่เคย "รามือ" เลยแม้แต่นิดเดียว
ดังจะเห็นได้จากเหตุการณ์เกี่ยวเนื่องต่าง ๆ ที่ตามมาจากผลพวงของการรัฐประหารเมื่อ 19กย49 นั้น
มีแต่ความเข้มข้น เบ็ดเสร็จ และเด็ดขาดอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการ ยุบพรรค ปลดนายกฯ รวมถึงการล้อมฆ่าคนเสื้อแดงกลางเมืองหลวงด้วย

ปัจจัย 2 ประการที่นำไปสู่การรัฐประหาร 19กย49 "ภายใน และ ภายนอกประเทศ"

ภายนอกประเทศ จากการที่รัฐบาลทักษิณมีแนวโน้มที่จะปรับลดท่าทีที่มีต่อสหรัฐฯ ลง
โดยหันไปทาง ตะวันออกกลาง จีน และ รัสเซียมากขึ้น ดังจะเห็นได้จาก แนวคิดในเรื่อง "Barter Trade"
ซึ่งทำให้สหรัฐฯ สงวนท่าทีต่อการรัฐประหารในครั้งนี้
ภายในประเทศ ภาพของภาคประชาชนถูกกำหนดโดยการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ
โดยหากมองผ่านการเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนี้จะทำให้มองเห็นว่าเป็นการเคลื่อนไหวปกติของภาคประชาชนที่มักจะต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ
หากแต่เป็นข้ออ้างที่ออกจะแปลกประหลาดอยู่สักหน่อย นั่นก็คือ "เผด็จการรัฐสภา" หรือการคอรัปชั่นโกงกินของรัฐบาล
แต่ปัจจัยที่ทำให้ฝ่ายทหารรับมุกก็คือประเด็นการ "ปกป้องสถาบัน"
ซึ่งหากจะมองให้ "ลึก" ลงไปอีกในประเด็นของ "สถาบัน" ผ่านข้อมูลของ Wikileaks
ก็จะทำให้เห็นประเด็นความขัดแย้งที่แท้จริงและชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก
นั่นก็คือประเด็นความวิตกกังวลที่กลุ่ม "ชนชั้นสูง" มีต่อ "ภาพพจน์และความสัมพันธ์" ที่ 000 มีต่อคุณทักษิณ
จนถึงประเด็นการมองหาหนทาง "สำรอง"
ซึ่งตรงนี้เป็นประเด็นภายใน ท่ามกลาง "สถานการณ์เปลี่ยนผ่านในช่วงปลายรัชกาล"
และกำลังจะเป็น "เงื่อนไข" ที่จะนำไปสู่การรัฐประหารรอบใหม่อีกครั้งหนึ่ง


จากประเด็นที่เปิดเผยใน Cable Leaks(หาอ่านเอาเอง) เกี่ยวกับความกังวลที่ "ชนชั้นสูง" มีต่อ พฤติกรรม ภาพลักษณ์
และความสัมพันธ์ ระหว่าง 000 กับทักษิณนั้น เป็นความวิตกกังวลถึงความไม่มั่นคงต่อสถานภาพในอนาคตของกลุ่มตน
เพราะจากประเด็นต่อ "ยุคสมัยหน้า" ตามที่ทักษิณได้เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้กับ สำนักข่าว Times Online
เมื่อ 9 พฤศจิกายน 2552 กดที่นี่ เกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจ
เป็นต้นว่า การปกครองระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญจะต้องยึดถือปฏิบัติตามอย่างเข้มงวด(สถาบันกษัตริย์ต้องมีการปรับปรุง),
(รัชสมัยใหม่)คนใกล้ชิดราชวังจะมีขนาดเล็กลง,
กษัตริย์ทรงต้องหมุนเปลี่ยนไปพร้อมกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยนี้เช่นกัน(สมเด็จฯ ทรงเป็นคนรุ่นใหม่ ทันสมัย เข้าใจโลกสมัยใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลง),
(ราชวงศ์ไทยในยุคสมัยหน้า)เป็นกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ และเข้าใจว่าโลกกำลังเปลี่ยนแปลง
เหล่านี้คือนัยที่แสดงให้เห็นว่า "ทักษิณมีแนวคิดต่อทิศทางการเปลี่ยนผ่านไปสู่รัชสมัยใหม่อย่างใด"
และจากความสัมพันธ์ส่วนตัว "อาจจะ" เคยมีการพูดคุยกันไปแล้วในระดับหนึ่งก็เป็นได้
บทแปลฉบับเต็ม(หาอ่านเอาเอง-โดยคุณดวงจำปา)

ดังนั้น สถานการณ์จึงอยู่ที่ว่าภายใน "กลุ่มชนชั้นสูง" จะรับสภาพต่อสถานะใหม่ในอนาคตได้หรือไม่ หากรับได้ก็เป็นบุญของคนไทย

แต่ถ้าหากมีการมุ่งมั่นที่จะ "คงสภาพเดิม" เอาไว้อย่างนี้ อะไรจะเกิดกับสังคมไทย
หากมองไปถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านพ้นมาหมาด ๆ คงไม่ยากเกินคาดเดา
_________________

ผมเกลียดการปฏิวัติแต่ยอมรัับว่ายังจำเป็นสำหรับประเทศที่ปกครองกันเละเทะแบบนี้ ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ ถึงแม้รัฐประหารไม่ทำให้ประเทศดีขึ้นในทันที แต่อย่างน้อยเป็นการจ่ายยาแรงหยุดโรคร้ายไว้ก่อนจนกว่ายาดีจะมาถึง ดีกว่าปล่อยให้ร่างกายผ่ายผอมทรุดโทรมรอความตายอย่างเดียวแบบทุกวันนี้
แต่น่าเสียดาย"หมอ"ยุคนี้ก็มาไร้ฝีมือกระทันหัน แม้แต่จะจับเข็มฉีดยามือไม้สั่นผั่บๆหัวจิตหัวใจของความหมอมันถูกซื้อไปหมดแล้ว จะเหลือใครที่ฝากบ้านฝากเมืองได้อีก?แม้แต่เสียงฮึ่มๆของใครบางคนก็ค่อยๆเบาลงๆๆๆๆจนเงียบสูญไปแล้ว หลังจากได้รัฐบาลนายกฯสวยรวยและไร้เดียงสามาไม่ทันครบเดือน
ชาวบ้านอย่างเราๆได้แต่นั่งดูให้มันลอยไปตามน้ำเช่นนี้เรื่อยๆจนกว่าจะชนหินกลางน้ำแล้วล่มสลายไปพร้อมๆกัน

แปลกที่สังคมไทยยังจะมีอุดมการณ์แบบนี้ "ประชาธิปไตยแบบไทยๆ" เป็นเพราะประชาชนอ่อนแอ ไม่มีศรัทธา ไม่มีความเชื่อมั่นว่าประชาชนควรเป็นผู้กำหนดทิศทางของประเทศหรือเปล่า?  กลับจะมองหาแต่อำนาจนอกระบบคิดว่านั้นคือสิ่งที่เหมาะกับประเทศ คิดว่าคนที่เขาคัดสรรมาจะดีกว่าคนที่ประชาชนเลือก.

ถ้าหยุดคิดสักนิด!! ที่เรารู้ว่านักการเมืองคนไหนแย่ คนไหนเลว คนไหนโกง เป็นเพราะเราสามารถตรวจสอบวิพากษ์วิจารณ์ได้ใช่หรือไม่ แล้วลองคิดสิว่ากระบวนตรวจสอบ กระบวนการวิพากษ์วิจารณ์ ที่เราปฏิบัติต่อนักการเมืองเราสามารถใช้กระบวนการเหล่านั้นกับบุคคลที่มีอำนาจนอกระบบได้เหมือนกันไหม ไม่ได้ใช่ไหม ก็เพราะรู้อยู่แล้วว่าจะถูกโยงให้ไปกระทบต่อสถาบันใด หากบรรทัดฐานยังแตกต่าง ยังเป็นมาตราฐานซ้อนมาตราฐานอยู่แบบนี้ แล้วจะรู้ได้ไงว่าจริงแล้วนักการเมืองเลวสุดจริงหรือเปล่า หรือใครเลวกว่า เราไม่มีทางรู้ได้เลย   

รัฐประหารไม่ใช่ ยา ไม่ใช่หมอ ไม่ใช่การบรรเทา อะไรเลย ลองตรองดูใหม่เถิด ^^

มันสายไปแล้ว

ถ้าระบบพรรคของการเมืองไทยเข้มแข็ง  แน่นอน60กว่าปีที่เรามีใช้  มีกี่พรรคที่โตมาด้วยอุดมการณืทางการเมือง  เรายังเห็น สส.สัมภเวสี  เวียน ว่านตายเกิดตามพรรคต่างๆที่ฟาดหัวได้  เดี๋ยวนี้เรามีพรรคจังหวัดกันแล้ว  ต่อไปพรรคอำเภอ  แล้วมันสอนอะไรกันในการเมืองไทย  หาเสียงในบ้านเอง  พอแทรกตัวเป็น สส.แล้วค่อยมองหาโอกาสเสียบเพื่อปากท้อง  นี่เหรอ ประชาธิปไตย  เคยเห็นไหม หัวหน้าพรรค  ย้ายหนีลูกพรรค  เมืองไทย มี  เชื่อไหม ถ้าทักษิณตายไป เหตุการเมษาไม่มีชัวร์  ขนาดอยู่เมืองนอกโทรเช้า ออนไลน์เกือบทุกวัน  พรรคใกล้แตก เหลิมไปทาง เหนาะไปทาง จตุพรไป ทาง  หันไปโยนหัวโขนให้น้องขึ้น 48วัน  พระเจ้า มันลอยมาตัวเป็น  นายกเมืองไทย  พระเจ้าส่งมาโปรดสัตว์แท้ๆ  แล้วพัฒนาระบบพรรคทำซากอะไรล่ะครับ  หาช่องโหว่  รอร่วมเสียบ  กินไปวันๆเพื่อประเทศไทย  มีซักกี่พรรค  ที่หัวหน้าพรรค ตาย  นายทุนพรรคตายแล้วพรรคอยู่ได้  ลองกลับไปดูวิครับแล้วจะเห็นดั่งที่ว่ามาหรือไม่  สส  บ้านเราเงินมันยังฟาดหัวได้ เสมอๆ

อย่างที่ว่า เราวิจารณ์ และด่าได้แต่นักการเมืองเท่านั้น ประกอบกับความจริงที่ว่า สังคมเว้นการเอ่ยถึงบางคน หรือบางสถาบันที่เกี่ยวข้องกับการเมืองแถมไม่สามารถใช้มาตราฐานการตรวจสอบอย่างเดียวกันได้  แล้ววันนี้จะสรุปว่าปัญหาทุกอย่างเป็นเพราะนักการเมือง นักการเมืองเลวสุดได้หรือไม่ ก็ลองย้อนคิดดู ^^

จุดอื่นจะสามารถแก้ไขได้ แค่ต้องเริ่มที่นักการเมืองก่อนเท่านั้น เพราะเสมือนตัวแทนจากประชาชน

"รำลึก" รัฐประหารครั้งสุดท้าย?


http://www.voicetv.co.th/flowplayer/flowplayer.commercial-3.2.5.swf?config=http%3A%2F%2Fwww.voicetv.co.th%2Fcontent%2Fembedconfig%2F%3Fid%3D%255C%2522%258Abr%25DE%25E3%25A7%25BF-39N%25B6%250A%25A1%26embed%3D1"