กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

เมื่อมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ก็จะมีบรรดาโหราจารย์ และหมอดูการเมืองน้อยใหญ่ออกมาผ่าดวงผู้นำประเทศตามหน้าสื่อกันจนเป็นภาพชินตา ล่าสุด ไม่กี่วันก่อนนักข่าวยิงคำถามที่น่าสนใจไปยังนายกรัฐมนตรีป้ายแดง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงความเชื่อเรื่องหมอดูและการดูหมอ? ซึ่งเมื่อลองมองย้อนกลับไป เรื่องราวความเชื่อของเหล่าผู้นำประเทศมักจะถูกบี้ถามเสมอๆ

คำถามที่สำคัญของคนทั่วไปที่สงสัยใคร่รู้ก็คือ การที่บรรดาโหราจารย์ต่างๆ ออกมาผ่าดวงนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยในทุกยุคทุกสมัย เป็นการถือวิสาสะ อยากดัง หรือ กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเพราะไม่ว่าใครจะก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯ มักจะถูกหมอดูชำแหละดวงเสมอๆ จนเป็นภาพชินตา กระทั่งข้อสงสัยที่ว่า โหราศาสตร์กับประเทศเมืองไทยเป็นของคู่กันตั้งแต่เมื่อไหร่ ข้างล่างนี้มีคำตอบ

โหรไพศาล ซอยพิบูลเวศม์ โหราจารย์ชื่อดังของเมืองไทย

ย้อนประวัติศาสตร์ หมอดูคู่สังคมไทย

เรื่องนี้ โหรไพศาล ซอยพิบูลเวศม์ โหราจารย์ชื่อดังของเมืองไทย โหรการเมืองชื่อดังสุดแม่นยำในเมืองไทยที่อยู่ในวงการนี้มาเกือบ 50 ปี กล่าวผ่านไทยรัฐออนไลน์ว่า โหราศาสตร์มันเข้ามาเกี่ยวข้องกับทางการเมืองและบ้านเมืองไทยมาตั้งแต่ยุคโบราณแล้ว อย่างในรัชกาลที่ 7 ขณะถวายรัฐธรรมนูญ พระองค์ก็ทรงให้โหรหลวงดูว่านายกรัฐมนตรีดวง ซึ่งต้องมีเวลาตกฝากด้วยเช็กให้ละเอียดว่าเป็นยังไง รัฐธรรมนูญให้ไปแล้วจะมีอันตรายไหม ถ้ารัฐธรรมนูญที่ให้ไปแล้วผู้ที่บริหารไม่ดีจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศ

"เท่าที่ดูจากประวัติและศึกษามาจะเห็นได้ว่า การแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและการลงพระปรมาภิไธยทุกครั้งจะมีโหราศาสตร์ของโหรหลวงเป็นผู้แนะนำทูลเกล้าฯ ถวาย ตามแต่ยุค ตามแต่สมัย ว่าดวงจะเป็นอย่างไรพร้อมกับถวายคำแนะนำแด่พระมหากษัตริย์ตั้งแต่มีนายกรัฐมนตรีคนแรกเลย หลังจากนั้นโหรานุโหรการเมืองต่างๆ ก็จะนำเอาวันที่ลงพระปรมาภิไธย กับดวงนายกฯ ในสมัยนั้นมาเทียบกันเพื่อทำนายว่าจะอยู่รอดไหม อยู่นานไหม เป็นการทำนายกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ยุคนั้นมันมีโหรเก่าๆ เยอะ อย่างอาจารย์เทพ สาริกบุตร เป็นโหรหลวงในวัง อาจารย์เทพก็ดูให้ทุกครั้ง แต่พอท่านเสียชีวิตไปตอนนี้ก็ยังไม่ได้ตั้งโหรคนไหนขึ้นมา แต่ก็จะมีโหรหลวงที่เข้ามาปรึกษาพระฤกษ์ให้"

ถนอม กิตติขจร

จากถนอม คึกฤทธิ์ ถึง ฮิตเลอร์และผู้นำทั่วโลก

โหราจารย์ชื่อดัง บอกว่า ถ้าโหรการเมืองทำนายดวงนายกฯ ออกสื่อก็มีมานานตั้งแต่นายกฯ คนแรก อย่างตนเองอยู่ในวงการนี้มาเกือบ 50 ปีดูมาตั้งแต่สมัยถนอม กิตติขจร (นายกรัฐมนตรีคนที่ 10) สมัยหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช นายกฯ (นายกรัฐมนตรีคนที่ 13)

"สมัยก่อนส่วนใหญ่การดูดวงนายกรัฐมนตรีก็จะไม่แตกต่างจากสมัยนี้เท่าไร คือนักข่าวโทร.มาถามว่านายกรัฐมนตรี จะมีปฏิวัติไหม สิ้นสุดยังไง ดีไหม ถามแค่นี้เอง เราจะไปทายก้าวล่วงเขามากไม่ได้ แล้วที่สำคัญถ้าเราสังเกตดีๆ นายกฯ ต่างๆ จะปิดบังเวลาเกิด เราจะไม่รู้เวลาเกิดเขา ส่วนใหญ่หมอดูที่ทายก็เดากันหูตาแหก จริงๆ นายกฯ ทุกคนจะมีหมอดูประจำตัวของเขา แม้กระทั่งฮิตเลอร์ก็มีหมอดูประจำตัว อังกฤษก็มีหมอดูประจำตัวผู้นำชาติ เวลาจะทำอะไรก็จะให้ดูฤกษ์ดูยาม ประเทศต่างๆ ก็มีหมอดูประจำตัวของผู้นำของเขา เวลาเขาจะทำอะไรก็จะให้หมอดูดูก่อน"

บิ๊กตู่ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน

เวลาตกฝากนายกฯ ปริศนาที่หมอดูต้องเดา

โหรการเมืองรุ่นเก๋า บอกอีกว่าหมอดูทำนายดวงนายกฯ ที่เมืองนอกจะทายดุกว่าเมืองไทย เช่นดวงนายกรัฐมนตรีคนนี้เลือกตั้งได้วันนี้จะดีไหม ทำงานได้นานไหม แล้วเขาจะได้รับการสาบานเป็นทางการลงพระปรมาภิไธยในวันนี้ดีไหม แต่จะไม่ทำนายเรื่องเสียหาย

"แต่หมอดูเมืองไทยก็จะผ่าเปรี้ยงปร้างๆ ซึ่งก็ผิดเป็นส่วนใหญ่ เพราะไม่รู้เวลาเกิด เวลาตกฟากแท้จริงของนายกฯ จะรู้แค่ว่าดวงที่ทรงลงพระปรมาภิไธยมันมีกำหนดให้ผู้ที่จะเป็นนายกฯ จะไปได้ดีแค่ไหน จะเจอปัญหาเยอะไหม จะไปได้หรือเปล่าแค่นั้น ซึ่งไม่รู้เวลาตกฟากแท้จริงก็ทายออกมาถูกยาก อย่างที่ผมดูดวงคึกฤทธิ์ท่านเองก็เคยบอกเองว่า หมอดูเคยทายท่านมาหลายทีละ และท่านก็ด่าหมอดู หมอดูหน้าตาแหกหมด เพราะว่าบอกว่าคึกฤทธิ์จะได้เป็นนายกฯ อีกรอบนึง ปรากฏว่าท่านสอบตกคนเดียว สาปหมอดูไอ้ห่าไปไหนก็ไปทายผิดยกขโยงเลย"

เมื่อถามว่ามีนายกฯ คนไหนที่ดูเป็นการส่วนตัวไหม? โหราจารย์การเมืองรุ่นเดอะบอกว่า นายกฯ ชวน หลีกภัย ก็ดูเป็นส่วนตัว ท่านอยากรู้ว่าจะไปได้ดีไหม ขณะนั้นถือว่าดวงดีแต่ดวงเจอมรสุมการเมืองภายในพรรคทั้งนั้นที่ล้มท่านเอง ทำให้ประชาธิปัตย์รวนเรมาตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้

"ตามความเชื่อโบราณเหมือนเป็นสาป เพราะดวงเมืองเขากำหนดไว้ว่า คนที่จะเป็นรัฐมนตรี หรือเป็นนายกฯ ก็ตาม สืบสกุลไม่ได้ คนที่จะสืบสกุลต่อเนื่องได้ก็จะมีแต่กษัตริย์ ถ้าจะเอาจอมพลสฤษดิ์เอาวงศ์วานว่านเครือขึ้นมาก็จะพังทันที ถ้าจะเอาคุณทักษิณหรือเอาตระกูลขึ้นมาก็จะพังทันทีเหมือนกันมันเป็นคำสาป สืบทอดได้เฉพาะตระกูลกษัตริย์"

หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช

นายกฯ ที่เกลียดหมอดู และถูกสื่อถามมากที่สุด!

ใช่ นายกฯ คนไหนที่เกลียดหมอดูมากที่สุด โหรการเมืองคนสำคัญของเมืองไทยบอกว่า ในมุมมองของตนเองน่าจะเป็นหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช

"แต่ที่นักข่าวโทร.มาถามมากที่สุดก็คือนายกฯ ทักษิณ เพราะว่าทักษิณมีคนรักเยอะ เขาก็สงสัยว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เขาจะไปรอดไหม จะได้กลับบ้านไหม หลายคนก็อยากให้กลับ ผมก็บอกไปว่าคงกลับลำบาก แต่ชีวิตนี้จะได้กลับ โดยห้วงเวลาน่าจะปีหน้าหลังจากมีการเลือกตั้งเสร็จสิ้น กลับมาสู้คดี"

ถามย้ำว่า อาชีพหมอดูกับการทำนายดวงนายกรัฐมนตรีจะอยู่คู่กันชั่วฟ้าดินสลายไหม โหราจารย์ชื่อดังบอกว่า ชั่วฟ้าดินสลาย เพราะว่าเราไม่รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า เรื่องบ้านเมืองมันเป็นเหตุการณ์ใหญ่มาก คนที่เข้ามาเขาไม่รู้จะรับไว้ไหมเขากลัว

"บางคนเข้ามาแบบยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ในใจกลัว เพราะเขาก็ไม่ได้มีความถนัดทุกเรื่อง ถ้าเขาเข้ามาก็จะกลัวว่ามีความผิดพลาดตรงไหนบ้าง เขาก็จะมีโหรประจำตัวทุกคนอยู่ ทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่แต่ลับๆ ไม่ใช่อีทีนะ อีทีบ้าๆ บอๆ อย่าไปเชื่อ"

สุดท้าย โหรการเมืองชื่อดังระดับประเทศ ฝากไปถึงนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันด้วยว่า การบริหารราชการในคราวนี้มันก็เหมือนซอ 3 สาย ถ้าตึงเกินไปก็ขาด ถ้าหย่อนเกินไปก็เสียหาย ดังนั้น เราต้องเดินทางสายกลาง ต้องยืดหยุ่น ดังนั้นถ้าคณะปฏิวัติ หรือ คสช. เดินสายตึงเกินไปรัฐบาลจะไปไม่นาน แต่ตามดวงหากผ่านเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ไปได้ก็จะจนกระทั่งออกรัฐธรรมนูญและเลือกตั้งขึ้นมา แต่ไม่ใช่อยู่เป็นสิบปี เป็นร้อยปี มันบ้าๆ บอๆ เชียร์กันเกินไป

"ตามดวงเราต้องมาลุ้นว่าท่านประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรีจะสามารถผ่านเดือนกุมภาพันธ์ปี 2558 ไปได้ไหม เขาก็จะลงจากเก้าอี้ได้อย่างสง่า จะเป็นรัฐบุรุษอย่างที่ป๋าเปรมเป็นได้อย่างแน่นอน ส่วนเรื่องสุดท้ายก็อยากจะฝากว่าการเป็นโหรน่าจะมีการสอบว่ามีความสามารถในศาสตร์นั้นๆ จริงไหม ถ้าทายไม่ถูก 50% ก็ยึดใบอนุญาต เพราะการทำแบบนี้จะทำให้วิชาโหราศาสตร์มีมาตรฐาน" นักโหราศาสตร์รุ่นเก๋ากล่าวในที่สุด

โหรการเมือง เก่งกาจ จงใจพระ

2520 ยุคกฎหมายปิดปากโหรถึงยุคโหรการเมืองรุ่งเรือง!

ขณะที่ เก่งกาจ จงใจพระ โหรการเมืองชื่อดังที่อยู่ในวงการนี้มากว่า 30 ปี พูดถึงประเด็นนี้ตรงกันว่า เรื่องหมอดูกับการดูดวงนายกรัฐมนตรี มีมานานแล้ว นายกฯ ทุกคนจะมีโหรประจำตัวทั้งนั้น ส่วนมากจะเป็นพระที่นับถือจะไปหาแบบเงียบๆ พระท่านก็ตรวจดวงชะตาให้ ถามว่ามีมานานไหม ตนอยู่วงการนี้เป็นโหรการเมืองมากว่า 30 ปีก่อนหน้านี้ก็มีโหราการเมืองมากมาย อย่างอาจารย์ตนหมอดูภูหลวงก็ใช่ ท่านเน้นดูการเมืองแทบจะอย่างเดียวท่านก็ทายถูกมาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2517 ตนไปครอบครูฝากตัวเป็นลูกศิษย์แล้วก็ศึกษาและทำนายเรื่องการเมืองตามรอยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518-2519 

"แต่โหรการเมืองในยุคนั้นก็ไม่ได้อยากจะทายอะไรแบบมีอิสระอย่างทุกวันนี้ โดยเฉพาะสมัยผมปี 2520 มี กบว.(คณะกรรมการบริหารวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์สังกัดในกรมประชาสัมพันธ์) ออกกฎว่าห้ามหมอดูพูดออกสื่อต่างๆ อย่างผมพยากรณ์นายกฯ และว่ารัฐบาลธานินทร์ กรัยวิเชียร (คนที่ 14) อยู่ไม่ถึงปี คุณสมัคร สุนทรเวช รมต.มหาดไทยสมัยนั้น จึงร่าง ปร.42 ห้ามโหราทำนายดวงเมืองดวงประเทศผมก็เลยถูกหักปากกา ไม่ได้ออกสื่อ สื่อก็ไม่กล้ามาถาม เขียนหรือพยากรณ์ไม่ได้เรื่องนายกและรัฐบาล ยุคนั้นสื่อถูกปิดกันเยอะ เขาไม่พอใจใครก็โดนปิด หลังจากนั้นจึงหันเหไปเป็นที่ปรึกษาให้กับท่านชาติชาย ชุณหะวัณ กินเงินเดือน 1 หมื่นบาทสมัยนั้น เห็นดวงก็ทายว่า ท่านจะได้เป็นนายกฯ ปรากฏว่าท่านก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 17 จริงๆ แต่หลังจากได้เป็นนายกฯ ท่านและภรรยา ก็มีหมอดูประจำตัวดูดวงเสริมโน่นนี่มากมาย หลายคนก็ไม่ได้เรื่อง ผมก็เตือนไป ตนที่สุดจึงขออนุญาตแยกจากกันด้วยดี ผมการันตรีว่า นายกรัฐมนตรีมีหมอดูประจำตัวทุกคน" โหราชื่อดังกล่าว

พลเอกสุนทร คงสมพงษ์


หมอดูให้ฤกษ์ปฏิวัติ!!

โหรเก่งกาจ บอกอีกว่า หมอดูไม่เพียงเป็นที่ปรึกษาดูฤกษ์ดูยาม และทำนายดวงนายกฯ ออกสื่อ หลายคนก็ให้ฤกษ์ปฏิวัติอย่างรัฐประหาร สมัยบิ๊กจ๊อด (พลเอกสุนทร คงสมพงษ์ ประธานคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ รสช.) เชิญผมไปหาเพื่อขอฤกษ์ปฏิวัติ ผมก็ให้ฤกษ์วันที่ 23 ก.พ. 2534 เวลา 11.30 น. ก็ทำสำเร็จ พอ รสช.ผมก็ไปขอให้ยกเลิก กบว.ควบคุมหมอดูห้ามดูหมอออกอากาศ สรุปแล้วยกเลิกให้ดูแลกันเองมาจนถึงความเลอะเทอะของวงการหมอดูมีพวกทรงเจ้าปลอมๆ ออกมามากมายเหมือนกับปัจจุบัน

"ถามว่าใครเร่ิมก่อนอย่างที่บอกมันเป็นเหมือนประเพณี โหราศาสตร์เป็นสิ่งที่เราเชื่อถือมาแต่สมัยโบราณเป็นศาสตร์ที่เชื่อถือได้ อย่างที่บอกพอเลิก กบว.หมอดูการเมืองก็เกิดขึ้นมากมาย คนชอบก็ทำตามเรื่อยๆ เพราะว่าลงเรื่องนี้หนังสือขายดี อีกสาเหตุหนึ่งนักข่าวหรืออย่างคุณผมว่าคุณรู้ว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างนี้ๆ แต่เขียนไปแล้วไม่มีอะไรยืนยันก็ต้องสัมภาษณ์โหรเพื่อใช้ศาสตร์ยืนยัน โยนมาให้ผมพูด บางเรื่องคุณก็รู้อยู่แล้ว แต่พูดลอยๆ คนจะไม่เชื่อ รัฐบาลฟังก็จะถามกลับว่าเอาหลักอะไรมาคิด โหราศาสตร์ก็ทำหน้าที่ให้ข้อมูลหนักแน่นขึ้น"




วิกฤติความแม่น แนะคุมมาตรฐานโหรมั่วศาสตร์ระบาด?

ถามว่านายกฯ ที่ถูกทำนายมากที่สุด? โหราการเมืองชื่อดังบอกว่า ก็มีมาทุกคน

"อย่างธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกฯ ไม่เชื่อหมอดูเลยแถมมีปฏิกิริยาตอบกลับแรงตอนเป็นนายกฯ เขาบอกจะอยู่ 12 ปี แต่ผมทายว่าปีหนึ่งให้ถึงก่อน สรุปหนังสือพิมพ์ที่ผมเขียนลงถูกปิด 13 วัน สมัยคุณชวน หลีกภัย ก็ไม่ชอบนักข่าวนะ คุณทักษิณก็ไม่ชอบหมอดูทายออกสื่อแต่ชอบดู ที่ผ่านมา นายกทุกคนโหรการเมืองแบบผมดูดวงออกสื่อมาหมดแล้ว ดังนั้นการทายดวงนายกฯ ออกสื่อไม่ใช่เรื่องแปลกมันเป็นของคู่กัน แล้วที่สำคัญเรื่องแบบนี้ชาวบ้านก็อยากรู้ ยิ่งปัจจุบันใครก็สามารถเป็นหมอดูการเมืองได้ ทายแรงๆ สื่อก็ไปสัมภาษณ์พอไม่ถูกมาคนก็ไม่สนใจแต่ดังไปแล้ว สื่อก็ไปถามมาอีก ผมถึงบอกว่า ถ้าจะให้ได้มาตรฐานอยากให้มีการออกกฎหมายให้หมอดูต้องมีใบประกอบวิชาชีพ ต้องสอบเหมือนกับอาชีพทนาย หรือหมอ ผมเคยเสนอให้หมอดูอยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งหมอดูอยู่ในหมวดคล้ายๆ กับจิตแพทย์เพื่อที่จะได้ควบคุมคุณภาพและจำนวนได้ ทายผิดไม่ถึง 50% ต้องยึดใบอนุญาต ไม่ใช่ปล่อยให้มั่วศาสตร์มากมายทายออกสื่อแบบนี้" โหรการเมืองกล่าวในที่สุด

ซินแส ภานุวัฒน์ พันธ์ุวิชาติกุล


การันตรีเพราะเรานั่นคู่กันจริง!

"เพราะเรานั่นคู่กันจริงๆ..." ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ซินแสชื่อดังที่อยู่ในวงการการเมืองมากกว่า 20 ปี ยืนยันถึงประเด็นดังกล่าวผ่านไทย รัฐออนไลน์อย่างหนักแน่น


"ใช่ครับ ไม่เพียงหมอดูกับการทายดวงนายกอยู่คู่กัน ศาสตร์หมอดูยังอยู่คู่กับสังคมไทยมาตั้งแต่โบราณการจริงๆ อย่างผมอยู่ในวงการมากว่า 20 ปี ผมก็ถูกสัมภาษณ์เรื่องนายกฯ มาตลอด สมัยผมส่วนมากผู้สื่อข่าวเป็นคนเข้ามาสัมภาษณ์ เพราะว่าคนทั่วไปเขาอยากจะรู้ว่า นายกรัฐมนตรีคนนี้ที่ขึ้นมาคุมประเทศ ดวงเป็นยังไง คณะ รมต.ดวงเป็นอย่างไร รัฐบาลจะอยู่นานไหม สมัยก่อนหมอดูการเมือง หรือ ซินแสที่ดูเรื่องการเมือง งานเยอะมากๆ แต่ช่วงหลังๆ มีโซเชียลมีเดียมากขึ้น เช่น เว็บไซต์ ไลน์ เฟซบุ๊ก แถมปัจจุบันหัวหนังสือพิมพ์ก็น้อยลงกว่าแต่ก่อน แล้วหมอดูก็เกิดขึ้นง่ายด้วย สื่อก็ชอบคนที่พูดแรงๆ แม่นไม่แม่นอีกเรื่อง แต่ชอบคนพูดแรงๆ หมอดูพวกนี้จะมีอายุอยู่ไม่นานเพราะถ้าไม่ตรงมากๆ คนมาสัมภาษณ์ก็จะเงียบหายไป แต่สำหรับตนเองงานยังเยอะอยู่"

เมื่อถามถึงสิ่งที่นักข่าวอยากรู้มากที่สุดในดวงนายกฯ เหล่านี้ ซินแสฝีปากกล้าบอกว่า ส่วนใหญ่จะเป็นคำถามยอดฮิตก็คือ ดวงนายกฯ คนนี้เป็นอย่างไร อยู่นานไหม รัฐมนตรีดวงส่งเสริมบ้านเมืองไทย แต่ส่วนมากจะถามว่าตรงๆ ว่า 'อยู่นานไหม' มากที่สุด

"หมอดู หรือซินแสดูดวงการเมืองเข้ามามีบทบาทนานมากๆ ยิ่งปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่านายกฯ เชิญซินแสฮวงจุ้ย ไปดูดวง ไปดูฮวงจุ้ยที่ทำงาน ไปปลูกต้นไม้แก้ดวงกันมากขึ้นนอกจากจะตามหลักแล้ว ก็ถือเป็นอีกหนึ่งที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ถามว่าศาสตร์ไหนจะได้รับความนิยม
มากที่สุด ก็แล้วแต่เรื่องไป"

อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร

นายกฯ สุดฮอตของหมอดู!

ซักต่อว่านายกฯ คนไหนถูกนักข่าวสอบถามให้โทร.เช็กดวงมากที่สุด?  ซินแสการเมืองบอกว่า ในยุคของตนน่าจะเป็น ชวน หลีกภัย และทักษิณ ชินวัตร เพราะอยู่ในตำแหน่งนานและมีคนสนใจมากมาย

"จำได้ดีเรื่องทายดวงนายกฯ ตอนนั้นผมทายคุณชวนแกโกรธมาก หาว่าเราไปโจมตีรัฐบาล เพราะผมทายว่านายกฯ และรัฐบาลนี้ จะมีปัญหามาก ซึ่งก็มีจริงๆ หลังผมทายก็มีเรื่อง สปก.4-01 เรื่องความขัดแย้งในพรรค ท่านก็ว่าหมอดูเป็นฝ่ายค้าน โจมตีรัฐบาล หรือ สมัยนายกฯ ชวน หลีกภัย ก็โดนพูดออกสื่อว่า ก่อนดูดวงคนอื่น ดูดวงตัวเองด้วยนะ การดูดวงนายกรัฐมนตรีมันคือ หน้าที่ของโหรทุกยุคทุกสมัย"

สุดท้ายซินแสการเมืองชื่อดังเมืองไทย จะฝากทิ้งท้ายไปยังผู้นำประเทศด้วยว่า ส่วนตัวที่ทำอาชีพนี้มากว่า 20 ปี อยากจะบอกนายกฯ ทุกคนว่า อย่าโกรธกันเลย เพราะท่านเป็นบุคคลสาธารณะ และที่สำคัญหมอดูก็ทำนายไปตามที่สื่อตั้งประเด็นมา หรือส่ิงที่คนสงสัยเท่านั้น

แต่สิ่งที่สำคัญ ถ้าหมอดูการเมืองคนนั้นๆ ทำนายไม่ตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้น อีกไม่นานมันก็เสื่อมไปเอง แต่สิ่งไหนที่เป็นประโยชน์ก็อยากให้พิจารณาให้ประเทศเดินก้าวไปข้างหน้าเพราะว่าโหรศาสตร์มันมีศาสตร์ที่อธิบายได้เป็นศาสตร์ที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ มีมาเนิ่นนานเป็นสิ่งที่เชื่อถือได้เพียงแต่เชื่อแบบไม่งมงายก็พอ" ซินแสฝีปากกล้า กล่าว.

ขอบคุณ thairath.co.th/
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=39793&page=1