กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

เมื่อคืนหมอไม่ได้ดูฮอร์โมน #HormoneTheSeries2 แต่เพิ่งมาดูรีรันเมื่อเช้านี้

เข้าใจแล้วว่า ทำไม หลายๆคนบอกว่า ฮอร์โมนตอนนี้ค่อนข้างบีบคั้นหัวใจ

เป็นตอนที่เกี่ยวกับความรักล้วนๆ

รักในวัยรุ่นเป็นเรื่องที่ไม่ได้ผิดปกติ ช่วงฮอร์โมนพุ่งพล่าน
แต่ความรักก็เป็นสัจธรรม รักแล้วสมหวัง รักแล้วผิดหวัง

ผู้ใหญ่อย่างเราๆเมื่อผิดหวังในความรักก็เศร้าไปหลายวัน แล้วนับประสาอะไร กับเด็กๆที่เพิ่งผ่านช่วงประถมหรือเข้าสู่ชั้นมัธยม

ร่างกายที่เติบโต รูปร่างที่สูงใหญ่ ไม่ได้แปลว่าเค้าจะเป็นจิตใจและสมองจะเป็นผู้ใหญ่ตามขนาดตัว หรือควรจะสามารถควบคุมตัวเองหรือการกระทำได้ เท่าๆกับ ผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะแล้ว

เด็กๆเหล่านี้จึงมีแนวโน้มสามารถทำอะไรก็ได้เพื่อความรักของเค้า

ไปรอคนที่ชอบเป็นวัน
พับดาวใส่ขวดเป็นร้อยๆพันๆ
ของที่เธอชอบ ถ้าไม่ใช่ดาวเดือน
ชั้นจะไปหามาให้เธอ...

แต่ทำอะไรตรงนั้นควรจะมีขอบเขต
ทำอย่างไรโดยไม่ได้ส่งผลกระทบถึงตัวเองและคนอื่น

คนที่ดูฮอร์โมนตอนเมื่อคืนคงตกใจกับการกระทำของขนมปัง แฟนของต้า

จากซีซั่นที่แล้ว ต้าแอบชอบเต้ยที่เป็นเพื่อนสนิท แต่เต้ยไม่ได้คิดอะไรกับต้า

ด้วยความที่ต้าเป็นเด็กที่ปรับตัวและใจได้เร็ว แม้จะผิดหวังจากเต้ย แต่ก็สามารถผ่านจุดนั้นไปได้ ต้าและเต้ยยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

จนมาถึงซีซั่นนี้ ต้าเริ่มคบเป็นแฟนกับขนมปัง
ต้าคิดว่าตัวเองลืมเต้ยได้แล้ว
แต่จริงๆไม่ใช่

ตอนเมื่อคืน ต้ารู้ใจตัวเองว่ายังชอบเต้ยอยู่ ความรู้สึกเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป เต้ยเองก็รู้ตัวว่าจริงๆก็ชอบต้า แต่ตอนนี้ทุกอย่างไม่ได้เหมือนเดิม เพราะต้ามีขนมปังเป็นแฟน

ทุกอย่างเป็นเรื่องขึ้นมา เพราะระหว่างงานคอนเสิร์ตที่วงต้าขึ้นโชว์ ขนมปังเซอร์ไพรส์ต้าด้วยการถือดอกกุหลายมาให้บนเวที ร้องเพลงให้ต้า

ตอนนั้นเต้ยเป็นคนดู เห็นเหตุการณ์บนเวที สีหน้าของเต้ยเปลี่ยนไป
เต้ยเดินออกจากงานทันที ต้าก็เห็นว่าเต้ยเดินไป

ทันใดนั้น ต้าก็เหมือนไม่คิดอะไร ทิ้งกีต้าร์ วิ่งตามเต้ยออกไป

...ขนมปังยืนช๊อคอยู่บนเวที

ต้าตัดสินใจมาบอกขนมปัง ว่าตัวเองความรู้สึกไม่เหมือนเดิม ขอเลิกกับขนมปัง

ขนมปังรับไม่ได้ ยืนยันไม่ยอมที่จะเลิกกับต้า ขนมปังร้องไห้ พูดกับต้า...

...ไม่เอาอ่ะ ไม่เอาได้มั้ย
ปังไม่อยากเลิกกับพี่ต้า
พี่ต้าไม่ไปได้มั้ย
ปังขอโอกาสอีกครั้งได้มั้ย

เราขอโทษ เราตัดสินใจแล้ว...ต้าพูด น้ำตาคลอ

...พี่ต้าอยากให้ปังทำอะไร บอกปังได้เลยนะ ปังจะทำทุกอย่างเลย
ไม่เลิกได้มั้ย ปังไม่อยากเลิกกับพี่ต้า

เราขอโทษ...ต้ายังยืนยันเหมือนเดิม

อย่าไปนะ ปังพยายามทำทุกอย่างให้พี่ต้าแล้ว เท่าที่ปังจะทำได้
อย่าไปนะ อย่าไปนะ ปังไม่อยากให้พี่ต้าไป
อยู่กับปังนะ
ปังไม่อยากเลิกกับพี่ต้า ปังมีพี่ต้าคนเดียว
อยู่กับปังนะ ปังรักพี่ต้านะ

ฉากตรงนี้ ขนมปังถอดเสื้อตัวเองออก พยายามจะถอดเสื้อและจูบต้าร์

โชคยังดีที่ต้ายังมีสติ ไม่ได้ปล่อยตัวเองไปตามอารมณ์ที่เกิด

ต้าบอกปัง ...ปังพอเถอะ ถึงปังทำอย่างนี้ต่อไป วันหนึ่งเราก็ต้องไปอยู่ดี เราขอโทษนะ

ต้าหยิบเสื้อมาคลุมตัวขนมปัง...ขนมปังร้องไห้หนัก ต้าตัดสินใจเดินจากไป

หมอเชื่อว่าคนที่ดูถึงตอนนี้คงตกใจ ไม่คิดว่าขนมปังจะตัดสินใจยอมมีอะไรกับต้าเพียงเพื่อใช้เหตุผลนี้ดึงต้าไว้

ถ้าขนมปังมีสติและรักตัวเอง
ถ้าเธอเห็นคุณค่าของตัวเองมากกว่านี้
ถ้าเธอคิดถึงอนาคตมากกว่านี้ ว่าชีวิตเธอยังมีโอกาสอีกยาว
คิดถึงการเรียนต่อ การทำงานที่ใฝ่ฝัน
หมอเชื่อว่าเธอจะไม่เลือกวิธีนี้ในการแก้ปัญหา

คุณค่าในตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ เป็นพื้นฐานทางจิตใจตั้งแต่เล็กจนเป็นผู้ใหญ่ อย่างน้อยเมื่อมีปัญหาหรืออุปสรรค คุณค่า=ความรู้สึกดีๆกับตัวเอง จะเป็นต้นทุนที่สำคัญที่จะทำให้คนๆหนึ่งก้าวผ่านเหตุการณ์ต่างๆในชีวิต ไม่ว่าจะดีหรือร้าย จะทำอะไรก็ต้องคิดให้ดีก่อน ว่าจะมีผลกระทบกับตัวเองอย่างไร

เมื่อไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง ก็จะไม่สนใจว่าตัวเองจะเป็นอย่างไร ไม่คิดอะไรไกลๆ คิดสั้นๆแคบๆ ไม่เห็นอนาคต ไม่มีความหวัง จึงมีแนวโน้มมากที่จะทำอะไรที่เป็นอันตรายกับตัวเอง หรือมีผลเสียกับตัวเอง เพราะคิดว่าจะทำอะไรก็ได้ ให้คนรักยังอยู่กับเรา เหมือนอย่างที่ขนมปังทำ ส่วนผลที่ตามมาจะเป้นอย่างไร ก็ช่าง ไม่คิด ลืมคิด ไม่สนใจ

ตรงนี้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ พ่อแม่ที่จะต้องปลูกฝังการสร้างคุณค่าในตัวเองให้เด็ก

ซึ่งต้องเริ่มตั้งแต่การให้ความรัก ความอบอุ่น ให้ความใกล้ชิด ความเอาใจใส่ อย่างเหมาะสม เมื่อเด็กรู้สึกว่ามีคนที่รักและหวังดี เด็กจะมีสุขภาพจิตที่ดี รักคนอื่นเป็น รวมถึงรักตัวเองเป็นด้วย ถ้าคนใกล้ชิดไม่ทำให้เด็กรับรู้ถึงความรัก เด็กก็จะรักตัวเองไม่เป็น

อย่างไรก็ตาม การให้ความรัก ต้องให้อย่างสมดุลกับการที่ให้เด็กๆ รู้จักเรียนรู้ที่จะให้เด็กทำอะไรด้วยตัวเอง ตรงนี้จะทำให้เด็กมีความภาคภูมิใจ ทำให้รู้สึกว่า ตัวเองมีความสามารถ มีคุณค่า และการที่ทำอะไรเอง ก็จะทำให้ได้เรียนรู้ความพยายาม บางครั้งอาจจะผิดหวัง สมหวัง เริ่มจากเรื่องเล็กๆน้อยๆ เมื่อผิดหวังในเรื่องใหญ่ๆ เช่น อกหักจากความรัก เด็กจะไม่ฟูมฟายมากนัก

เมื่อเด็กมีคุณค่าในตัวเอง เขาจะเริ่มมีความใฝ่ฝัน มีความหวังในชีวิตภายหน้า เช่นอยากทำงานแบบไหน ทำงานเพื่อตัวเอง เพื่อสังคม ตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้เด็กๆคิดก่อนจะทำอะไรก็ตาม และพยายามไม่ทำอะไรที่ทำให้ตัวเองมีอันตราย หรือมีผลกระทบตามมา

และคงไม่ยอมมีอะไรกับคนที่ตัวเองรัก เพียงเพื่อจะดึงเขาให้อยู่กับตัวเอง

หมอเชื่อว่าที่ขนมปังทำไปนั้น เป็นอารมณ์ชั่ววูบ
แต่ในชีวิตจริงนั้น
ผู้ชายคนอื่นๆ คงไม่ได้มีสติแบบต้า
อารมณ์ที่พาไปอาจจะทำให้เกิดเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด

แม้ว่าฉากนี้ถ้าเปลี่ยนเป็นต้ายอมมีอะไรกับขนมปังจริงๆ สุดท้ายขนมปังจะยิ่งเสียใจมากขึ้นกับสิ่งที่ตัวเองทำไป

เด็กๆหลายคนที่มาหาหมอ รู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า ขาดคนที่รักและเอาใจใส่ สิ่งที่หมอทำก็คือ ทำให้เด็กมองเห็นคุณค่าที่ตัวเองมีอยู่ โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องให้ความรู้สึกนี้มาจากคนรอบข้าง

ปลูกฝังความรู้สึกรักตัวเอง ความมีคุณค่าในตัวเอง เริ่มที่บ้านของเรา ตั้งแต่เด็กยังเล็กๆ

ชีวิตข้างหน้ายังอีกยาวไกล รักในวัยรุ่น บางครั้งก็เป็นแค่จุดเริ่มต้นประสบการณ์จี๊ดใจ ที่หลายๆคนเคยเผชิญ

และต้องผ่านไปได้

เพราะฟ้าหลังฝนนั้น สวยงามเสมอ ถ้าเรามีเวลาจะมอง

ขอบคุณ#หมอมินบานเย็น จาก เฟสบุ๊คเข็นเด็กขึ้นภูเขา

 

แบ่งปันสิ่งเตือนใจดีๆมาให้ทั่วกันค่ะ