ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ส่อ..ยุบ อบจ..อบต..เอาแล้วโว้ยเฮ้ยย..

เริ่มโดย ฟานดี้, 13:31 น. 06 ต.ค 57

ฟานดี้

คสช.ถก "มหาดไทย" ส่อยกเลิก "องค์การบริหารส่วนจังหวัด" ผนวก อบจ.เข้ากับเทศบาลเมือง ยกเป็น "เทศบาลจังหวัด" แทน สมาชิกมาจากทั้งเลือกตั้ง-แต่งตั้ง สัดส่วนเท่ากัน พร้อมยกเลิก อบต. คงเหลือเฉพาะเทศบาลจังหวัด เทศบาลอำเภอ เทศบาลตำบล

การปฏิรูปโครงสร้างการปกครองส่วนท้องถิ่นมีแนวโน้มที่อาจจะยกเลิกองค์กรปกครองท้องถิ่นบางองค์กร โดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ประชุมหารือพร้อมเชิญตัวแทนกระทรวงมหาดไทย(มท.) เข้าร่วม เพื่อวางแนวทางการยุบโครงสร้างองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ตั้งแต่ อบจ. เพื่อปรับเป็น เทศบาลจังหวัด ส่วนตำแหน่ง นายก อบจ. เปลี่ยนเป็น นายกเทศมนตรีจังหวัด

สำหรับแนวทางในการปฏิรูปโครงสร้างนั้น ให้ยุบเทศบาลเมืองของจังหวัดรวมกับ อบจ. เป็นเทศบาลจังหวัด ซึ่งต่อไปนี้จะมีเพียงเทศบาลจังหวัด เทศบาลอำเภอ เทศบาลตำบล ส่วนองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ให้ยกเลิกไป

สำหรับอำนาจหน้าที่ นายกเทศมนตรีจังหวัด จะไม่ได้มามีส่วนเกี่ยวข้องในการแต่งตั้งโยกย้าย แต่จะเป็นหน้าที่ของ ปลัดสภาจังหวัด โดยสมาชิกจะมาจาก 2 ระบบ คือ มาจากการเลือกตั้ง 50% และแต่งตั้ง 50% ที่มาจาก เทศบาลอำเภอ ตำบล และข้าราชการประจำ

ส่วนข้อเสนอการปฏิรูปองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ประกอบด้วย 1.ปฏิรูปท้องถิ่น จากเดิม มี 4 รูปแบบคือ 1.อบต. 2.เทศบาล 3.อบจ. และ 4.รูปแบบพิเศษ กทม.-เมืองพัทยา ให้คงเหลือ 2 รูปแบบ คือ 1.เทศบาล กับ 2.รูปแบบพิเศษ

2.ให้เปลี่ยนแปลงรูปแบบท้องถิ่น อบต.ทั้งหมด เป็นเทศบาลตำบล มีที่ตั้ง 1 ตำบล 1 ท้องถิ่น อบต.ใดที่มีพื้นที่เป็นตำบลเดียวกัน แต่มี 2 อบต. หรือ ตำบลเดียวกัน มีทั้ง อบต.และเทศบาลอยู่ด้วยกัน หรือ ตำบลเดียวกัน มี 2 เทศบาลอยู่ในตำบลเดียวกัน ให้ยุบรวมเป็น 1 เทศบาล ต่อ 1 ตำบล

3.จัดให้เทศบาล มี 3 รูปแบบ คือ 1.เทศบาลตำบล มีที่ตั้ง อยู่ในเขตตำบล นั้น ๆ 2.เทศบาลอำเภอ มีที่ตั้งอยู่ในเขตตำบลที่เป็นที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอ นั้น ๆ 3.เทศบาลจังหวัด มีที่ตั้งอยู่ในเขตตำบลที่เป็นที่ตั้งของศาลากลางจังหวัด หรือเขตเทศบาลเมือง หรือเทศบาลนคร เดิม

4.แบ่งระดับชั้น ขนาดของเทศบาลไว้ 3 ระดับ ดังนี้ 1.เทศบาลตำบล มี 3 ขนาด คือ ใหญ่ กลาง เล็ก 2.เทศบาลอำเภอ มี 3 ขนาด คือ ใหญ่ กลาง เล็ก และ 3.เทศบาลจังหวัด มี 3 ขนาด คือ ใหญ่ กลาง เล็ก โดยแบ่งตาม จำนวนหมู่บ้าน พื้นที่ ประชากร พื้นที่เศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และแหล่งท่องเที่ยว ตามเกณฑ์ที่คณะกรรมการฯ กำหนด

5. อบจ. หรือองค์การบริหารส่วนจังหวัด ให้เปลี่ยนอำนาจหน้าที่ จากเดิมให้บริการสาธารณะเหมือนท้องถิ่นอื่น เปลี่ยนใหม่ให้เป็นฝ่ายอำนวยการ โดยให้เปลี่ยนชื่อองค์กรใหม่ จัดตั้งเป็น สำนักงานท้องถิ่นจังหวัด............. มีหน้าที่ เป็นฝ่ายอำนวยการให้กับเทศบาล จัดตั้งแยกงบประมาณเป็นกองทุน จัดสวัสดิการ เงินเดือน ค่าตอบแทน ประโยชน์ตอบแทนอื่น การบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น กำกับดูแล ตรวจสอบ รับเรื่องร้องเรียน สอบสวนทางวินัย ฝึกอบรมให้ความรู้ ให้กับข้าราชการท้องถิ่น ในจังหวัดนั้น ๆ และจัดสรรงบประมาณให้กับ เทศบาลตำบล เทศบาลอำเภอ และเทศบาลจังหวัด อย่างเป็นธรรมและเสมอภาค เป็นประจำทุกปี โดยจัดให้มี หัวหน้าสำนักงานมาจากข้าราชการประจำ (อาจมาจาก ปลัดเทศบาลที่มีคุณสมบัติผ่านการสอบคัดเลือกมาก็ได้) เรียกชื่อ ผู้อำนวยการท้องถิ่นจังหวัด.....ไม่มีฝ่ายการเมืองมาทำหน้าที่ ยกเลิกการเลือกตั้งในระดับนี้

6.จัดให้มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี ทุกระดับโดยตรง ให้เทศบาลตำบล มี รอยนายกฯ ได้ 1 คน เลขานายก 1 คนเทศบาลอำเภอ มีรองนายก 2 คน เลขานายก 1 คน เทศบาลเมือง มีรองนายก 3 คน เลขานายก 1 คน เป็นผู้ช่วยเหลือการปฏิบัติงาน ให้นายกเทศมนตรี มีอัตราเงินเดือนอยู่ที่ขั้นสูงสุดของระดับซีหรือแท่งเงินเดือนของปลัดเทศบาลนั้น ๆ นายกเทศมนตรีอยู่ได้ ไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน มีวาระละ 4 ปี

7.สภาเทศบาลตำบล และเทศบาลอำเภอ ให้มาจากจำนวนผู้ใหญ่บ้าน ทุกหมู่บ้านในเขตตำบลนั้น ๆ เท่าที่มีอยู่เป็นสมาชิกสภาโดยตำแหน่ง สภาเทศบาลจังหวัด ให้ใช้หัวหน้าชุมชน เป็นสมาชิกสภาเทศบาล มีจำนวน ไม่เกิน 36 คน หากจำนวนชุมชนเกินกว่า 36 ชุมชน ให้เลือกกันเองให้เลือกไม่เกิน 36 คน ตามขนาดของเทศบาลจังหวัด โดยให้สมาชิกสภาเทศบาล ได้รับค่าตอบแทนรายเดือน แต่ไม่น้อยกว่าเงินเดือนขั้นต่ำระดับปริญญาตรี และมีเบี้ยประชุม เป็นรายครั้งที่มีการประชุม ตามระเบียบที่กำหนด

8.จำนวนสมาชิกสภาเทศบาลตำบล ขนาดเล็ก มีจำนวน ไม่เกิน 10 คน ขนาดกลาง ไม่เกิน 12 คน ขนาดใหญ่ ไม่เกิน 16 คน หากจำนวนหมู่บ้านมีเกินกว่าจำนวนสมาชิก จัดให้มีการจับฉลากออกเพื่อสับเปลี่ยนทุก ๆ 2 ปี

9.จำนวนสมาชิกสภาเทศบาลอำเภอ ขนาดเล็ก มีจำนวน ไม่เกิน 12 คน ขนาดกลาง ไม่เกิน 16 คน ขนาดใหญ่ ไม่เกิน 18 คน หากจำนวนหมู่บ้านมีเกินกว่าจำนวนสมาชิก จัดให้มีการจับฉลากออกเพื่อสับเปลี่ยนทุก ๆ 2 ปี

10.จำนวนสมาชิกสภาเทศบาลจังหวัด ขนาดเล็ก มีจำนวน ไม่เกิน 18 คน ขนาดกลาง ไม่เกิน 24 คน ขนาดใหญ่ ไม่เกิน 36 คน หากจำนวนชุมชนมีเกินกว่าจำนวนสมาชิก จัดให้มีการจับฉลากออกเพื่อสับเปลี่ยนทุก ๆ 2 ปี

11.อำนาจการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น ให้อยู่ในรูปคณะกรรมการ 3 ฝ่าย คือ 1.ผู้แทนส่วนราชการอื่นจำนวน 6 คน ผู้แทนผู้บริหารท้องถิ่น จำนวน 6 คน ผู้แทนข้าราชการประจำ 6 คน ผู้ทรงคุณวุฒิ 6 คน มีวาระการดำรงตำแหน่ง คราวละ 4 ปี โดยให้คณะกรรมการคัดเลือก ผู้ทรงคุณวุฒิ 1 คน ขึ้นเป็นประธาน มีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี ให้มีการคัดเลือกใหม่ ผู้ทรงคุณวุฒิ จะเป็นประธาน เกิน 2 วาระติดต่อกัน ไม่ได้

12.ไม่เห็นด้วย ที่จะไปเปลี่ยนให้ตำบล มี ผอ.เขต ให้บริหารงานเหมือนกับกรุงเทพมหานคร(กทม.) เพราะบริบท พื้นที่แต่ละแห่งไม่เหมือนกัน พื้นที่ในเมืองหลวงมีความแตกต่างกับพื้นที่ชนบท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ออกประกาศฉบับที่ 85 และ 86/2557 ให้งดการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นทั่วประเทศ รวมถึงงดการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และ สมาชิกสภาเขต (ส.ข.) เป็นการชั่วคราว และให้ใช้การสรรหาแทน

โดยกำหนดจำนวนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนตำบล มีสมาชิกสภาจำนวน 10 คน เทศบาลทุกประเภท มีสมาชิกสภาจำนวน 12 คน และองค์การบริหารส่วนจังหวัด ให้มีสมาชิกสภาจังหวัดกึ่งหนึ่ง ของจำนวนปัจจุบัน

และให้งดจัดการเลือกตั้ง ส.ก.และ ส.ข. แล้วให้ใช้วิธีการคัดเลือกบุคคลจำนวน 30 คนทำหน้าที่ ส.ก.โดยอย่างน้อย 2 ใน 3 ของจำนวน ส.ก. ต้องเคยเป็นข้าราชการ หรือข้าราชการตั้งแต่ระดับนักบริหารระดับสูง หรือระดับ 10 หรือเทียบเท่า

ซึ่งระหว่างวันที่ 28 พ.ค.-31 ธ.ค.2557 มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ครบวาระทั้งหมด 255 แห่ง โดยแบ่งเป็นองค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง เทศบาลนคร 2 แห่ง เทศบาลเมือง 8 แห่ง เทศบาลตำบลจำนวน 157 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตำบล 86 แห่ง และกรุงเทพมหานครอีก 1 แห่ง

ทันทีที่มีประกาศดังกล่าวออกมา ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาทั้งจากสมาชิกองค์บริหารส่วนท้องถิ่น และนักวิชาการ จนเป็นประเด็นหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และหัวหน้าคสช. ต้องหยิบยกขึ้นมาอธิบายถึงเหตุผลที่ คสช.ต้องออกประกาศ "งดการเลือกตั้งท้องถิ่น" และกำหนดให้มีการสรรหาทดแทนในตำแหน่งที่ว่างลง

และจากประกาศคสช.ดังกล่าว มีการคาดการณ์กันว่าจะไม่มีการเลือกท้องถิ่นไปจนกว่าจะมีรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

นอกจากนี้ระหว่างที่คณะทำงานด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของคสช.ที่มี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผบ.ทบ.เป็นหัวหน้าคณะ ในขณะนั้น ได้เชิญเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) และเจ้าหน้าที่ด้านการเลือกตั้งเข้าไปหารือเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้น ทางคณะทำงานของคสช.ได้มีความเห็นว่า น่าจะชะลอการเลือกตั้งท้องถิ่นไปก่อน เพราะหากเลือกตั้งก็จะได้ผู้บริหารที่เป็นฐานเสียงของพรรคการเมืองระดับชาติอีก

รวมถึงหากมีรัฐธรรมนูญและมีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งฉบับใหม่ ซึ่งอาจจะกำหนดที่มาของสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นใหม่ ก็ต้องดำเนินการเพื่อให้ได้สมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นชุดใหม่ตามที่กฎหมายกำหนด จึงอาจจะเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยเปล่าประโยช


..จาก.กรุงเทพธุรกิจ...


ยายเขียว


ฟานดี้

..เค้าลาง..จากการสั่งชลอเลือกตั้งท้องถิ่นตั้ง
แต่เดือนที่ผ่านมาแว้ววว....


ส-ดีใจ ส-ดีใจ

หาดใหญ่ใหม่

ผมยังงงกับอำนาจหน้าที่ของเทศบาลแต่ละระดับเพราะพื้นที่มันซ้ำซ้อนกันเหมือนเดิมครับ ตำบอลู่ในอเำอ อำเภออยู่ในจังหวัด ความจริงน่าจะมีท้องถิ่นแค่ 2 ระดับ

ระดับจังหวัด ผู้ว่าฯ มาจากการเลือกตั้งโดยตรง สจ.มาจากการเลือกตั้ง อ.ละ 1 คน หัวหน้าส่วนราชการในระดับกระทรวง 20 กระทรวง 20 คนเป็นสภาที่ปรึกษา

เทศบาล 1 อำเภอ 1 เทศบาล ดูแลงานพัฒนาท้องถิ่นเป็นหลัก

ระดับตำบลมีเฉพาะฝ่ายปกครองท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านหรือประธานชุมชนที่มาจากเลือกตั้ง   
หาดใหญ่ใหม่ www.facebook.com/hatyaimai
เมืองหลวงภาคใต้ หลากหลายเรื่องราว บอกเล่าแบ่งปัน

สนุกแระทีนี้

เป็นการกุมอำนาจเบ็ดเสร็จของ คสช

กิมหยง

สร้าง & ฟื้นฟู

ฟานดี้

มาดูความเห็นนักวิชาการบ้าง



ฮือฮาพอสมควรสำหรับพิมพ์เขียวการปรับโครงสร้างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่เป็นผลจากการประชุมลับระหว่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับกระทรวงมหาดไทย เพราะหากทำจริงต้องถือว่า "รื้อ" กันขนานใหญ่ ไม่ใช่แค่ "ปรับโครงสร้าง"

ข้อเสนอที่เป็นพิมพ์เขียวและหลุดออกมาถึงสื่อ สรุปให้เข้าใจได้ง่ายๆ ดังนี้
1.ยุบรวมองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เข้ากับเทศบาล กลายเป็นเทศบาลจังหวัด 2.อปท.จะเหลือเพียง 2 รูปแบบ คือ เทศบาล กับแบบพิเศษ เช่น กรุงเทพมหานคร (กทม.) เมืองพัทยา 3.เทศบาลมี 3 ระดับ คือ เทศบาลจังหวัด เทศบาลอำเภอ เทศบาลตำบล โดยเทศบาลตำบลเป็นการยุบรวม หรือยกระดับจากองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หรือสภาตำบลในพื้นที่ ให้มีตำบลละ 1 เทศบาล
4.ฝ่ายบริหาร นำโดยนายกเทศมนตรีทุกระดับ มาจากการเลือกตั้งโดยตรง แต่ฝ่ายนิติบัญญัติ คือ สภาเทศบาล มาจากการแต่งตั้งหรือเลือกกันเองของผู้ใหญ่บ้านและหัวหน้าชุมชนในพื้นที่ของเทศบาลนั้นๆ 5.อบจ.เดิมปรับรูปแบบเป็นสำนักงานท้องถิ่นจังหวัด มีผู้อำนวยการเป็นข้าราชการ ทำหน้าที่จัดสรรงบประมาณและงานธุรการ ห้ามฝ่ายการเมืองเข้าไปทำหน้าที่ 6.ตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่าย จากฝ่ายราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น และผู้ทรงคุณวุฒิ รับผิดชอบบริหารงานบุคคลท้องถิ่น
ข้อเสนอนี้จัดว่าแรง และส่งผลลบต่อภาพลักษณ์ คสช.กับรัฐบาล ทำให้มีการออกมาปฏิเสธข่าวจากผู้เกี่ยวข้องทันควัน ทั้งๆ ที่ข้อมูลที่หลุดออกมานั้นเป็นเอกสารที่ใกล้เคียงกับเอกสารราชการ ตัวเลขยังพิมพ์ด้วยเลขไทย!

คนในวงการท้องถิ่นบอกว่า พิมพ์เขียวนี้มีสมาพันธ์ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย (สมาพันธ์ปลัด อบต.) และสมาคมข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย (สมาคมข้าราชการ อบจ.) จัดให้...
ผศ.ดร.วีระศักดิ์ เครือเทพ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องการปกครองท้องถิ่น กล่าวว่า พอจะทราบตื้นลึกหนาบางของข้อเสนอนี้พอสมควร จึงรู้สึกว่าไม่ดีเท่าไร เพราะวัตถุประสงค์ที่ต้องการทำก็เพื่อรวมศูนย์อำนาจ และทำให้รัฐบาลควบคุมท้องถิ่นได้ง่ายขึ้น
"ตามข่าวระบุว่าไปคุยลับๆ กัน ทั้งๆ ที่น่าจะรอให้มีสภาปฏิรูปแห่งชาติเสียก่อน แล้วค่อยไปถกเถียงกันในนั้น" ผศ.ดร.วีระศักดิ์ กล่าว และว่าข้อเสนอที่ออกมามองดูก็รู้ว่าได้รับการผลักดันจากข้าราชการมหาดไทยกับข้าราชการท้องถิ่นบางกลุ่ม มหาดไทยอยากลดจำนวนท้องถิ่นลงอยู่แล้ว และอยากให้การปรับโครงสร้างครั้งนี้ทำให้ราชการส่วนภูมิภาคมีอำนาจเข้มแข็งขึ้น
"ที่ผ่านมานายก อบจ.กับผู้ว่าฯ บารมีข่มกันอยู่ ฉะนั้นหากลดฐาน อบจ.เป็นเทศบาลจังหวัด ข้าราชการท้องถิ่นบางส่วนจึงเห็นด้วย โดยเฉพาะสายที่ไปเลือกข้างกับมหาดไทย แต่ อปท.ฝ่ายการเมือง ภาคประชาสังคม ภาควิชาการ ไม่เห็นด้วย"

นักรัฐศาสตร์จากจุฬาฯ ยังชี้ประเด็นที่น่าจะสร้างปัญหาตามมาอย่างมากกว่า โครงสร้างนี้ให้ความสำคัญกับข้าราชการประจำมากเกินไป ทั้งข้าราชการท้องถิ่นและส่วนภูมิภาค ซึ่งถือว่าน่ากลัว เพราะถ้าเราพูดถึงการปกครองท้องถิ่นที่มีเป้าหมายให้ประชาชนเข้มแข็ง สิ่งที่จะปรับโครงสร้างนี้ก็ไปสวนทางกับหลักการทั้งหมดเลย
"ถ้าให้ข้าราชการเข้ามามีบทบาท ถามว่าข้าราชการทุกคนโอเคหรือไม่ ถ้าโอเคก็คงไม่ต้องกังวลอะไร แต่ถ้าข้าราชการบางส่วนเกิดมีผลประโยชน์ จะตรวจสอบได้อย่างไร เพราะกลไกตรวจสอบข้าราชการมีน้อยกว่านักการเมือง"
ด้าน ดร.สติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการจากสำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า ย้อนถามว่า "โมเดลแบบนี้กำลังจะพาประเทศไทยกลับไปเป็นรัฐราชการหรือเปล่า" ก่อนจะขยายความว่าโมเดลที่ปรากฏออกมาถือว่าให้บทบาทกับฝ่ายประจำมากเกินไป เทศบาลระดับตำบลเอาผู้ใหญ่บ้านมาเป็นสภาเทศบาลเลย
"เรื่องผู้ใหญ่บ้านมันยังมีข้อถกเถียงกันอยู่ เช่น ที่มาของผู้ใหญ่บ้านมีข้อครหาค่อนข้างเยอะ เพราะการเลือกผู้ใหญ่บ้านใช้เงินมาก แข่งขันกันสูง มากกว่าการเมืองระดับชาติเสียอีก บางพื้นที่ซื้อเสียงกันหัวละ 5 พันบาทก็ยังมี ส่วนวาระของผู้ใหญ่บ้านยังเป็นถึงอายุ 60 ปี ฉะนั้นสภาเทศบาลที่ให้ผู้ใหญ่บ้านเข้าไปทำหน้าที่จะต้องกำหนดวาระหรือไม่ หรือแม้จะกำหนดวาระ แต่ตัวบุคคลเป็นคนเดิม เพราะเป็นไปถึงอายุ 60 ปี มันก็ไม่เกิดระบบหมุนเวียน"
ส่วนการปรับบทบาทให้ อบจ.เป็นสำนักงานท้องถิ่นจังหวัด ให้ข้าราชการส่วนท้องถิ่นเป็นผู้อำนวยการ ดูแลเรื่องงบประมาณซึ่งจะตั้งเป็นกองทุนพัฒนาท้องถิ่นนั้น ดร.สติธร บอกว่า เป็นแนวคิดที่ดี แต่ต้องใช้แค่ชั่วคราว หรือระยะเริ่มต้นเท่านั้น
"หลักการคือต้องทำเพื่อกระจายการดูแลเรื่องงบประมาณและการบริหารงานบุคคลไปให้ท้องถิ่น สอดคล้องกับภารกิจที่ถ่ายโอนจากส่วนกลางหรือส่วนภูมิภาคเพิ่มขึ้น ซึ่งสุดท้ายต้องออกแบบให้ทุกระดับมาจากการเลือกตั้ง เพียงแต่ในช่วงแรกฝ่ายประจำอาจเข้าไปช่วยเป็นพี่เลี้ยง เพราะท้องถิ่นอาจไม่เชี่ยวชาญหรือไม่มีความชำนาญ ที่สำคัญคือป้องกันปัญหาการทุจริต แต่โมเดลนี้ควรใช้แค่ 1-3 ปี จากนั้นระยะยาวควรให้อิสระกับ อปท.ในการดูแลกิจการท้องถิ่นทั้งหมด"

ดร.สติธร กล่าวด้วยว่า ถ้าจะให้โมเดลนี้เป็นโมเดลถาวร ต้องบอกว่าย้อนยุค เพราะการพัฒนาท้องถิ่นไทยเดินหน้ามาไกลมากแล้ว ถึงขั้นเลือกตั้งนายก อปท.โดยตรง เลือกตั้งสภาท้องถิ่นทั้งหมดโดยตรง และวางบทบาทให้ อบจ.กำกับดูแลภาพรวมของการพัฒนาในจังหวัดด้วย


เด็กใต้รักจริง

โยนหินถามทาง สุดท้ายเหมือนเดิมครับ แต่ได้ข่าวว่าจะเพิ่มเขตปกครองพิเศษแม่สอด แหลมฉบัง สมุย
...น้ำหมึกปลายปากกา ไม่ได้สอนประสบการณ์ชีวิต...

นายไข่นุ้ย

ยัง งง ว่าทำงานซ้ำซ้อนกันไหมนี่ ส-ฝนเล็บ ส-เขิน
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

ไข่ดำ

คิดว่ามีการเปลี่ยนแปลงแน่นอนไม่รู้แนวทางไหน..คาดว่าใกล้เคียง
แนวทางนี้แหล่ะ..ขณะนี้บางจังหวัดนายกหมดวาระเลือกตั้งไม่ได้อลม่าน
กันพอสมควร..ปีหน้าคงได้เห็นเป็นรูปเป็นร่าง

ส.โบยบิน

w_2005