กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

โรงเรียนปากพะยูนพิทยาคาร  พัทลุง ร่วมกับปราชญ์พื้นบ้านพัฒนานวัตกรรมสเปรย์เลิกบุหรี่จากหญ้าดอกขาวที่หาได้ทั่วไปในท้องถิ่น   พร้อมใช้กระบวนการสภานักเรียนจับคู่สิงห์อมควัน ช่วยพ่นยา ตรวจสอบพฤติกรรมและให้กำลังใจ หลังจากประสบความสำเร็จในโรงเรียนแล้วยังขยายแนวคิดออกสู่ชุมชนวงกว้าง

[attach=1]

นายยุทธนา ศรีวิโรจน์ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนปากพะยูนพิทยาคาร ผู้รับผิดชอบโครงการสเปรย์สมุนไพรลดการสูบบุหรี่จากโรงเรียนสู่ชุมชน ซึ่งได้รับการสนับสนุน จาก สำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม สสส. เล่าว่า ปัญหาบุหรี่กับโรงเรียนมัธยมเป็นของคู่กันเพราะเป็นช่วงวัยที่เด็กมักถูกชักจูงให้สูบบุหรี่ กรณีโรงเรียนปากพะยูนพิทยาคาร พบเด็กสูบบุหรี่ราว 5%จากเด็ก 600 กว่าคน ขณะเดียวกันยอมรับว่ายังพบนักสูบหน้าใหม่เพิ่มได้อีก 


"ผมสอนวิชาสุขศึกษา ให้ความรู้เรื่องนี้อยู่แต่จะมีบางกลุ่มที่มีปัญหาสูบบุหรี่โดยเฉพาะเด็กที่ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ เหตุเพราะพ่อแม่ต้องออกไปทำงาน อีกกลุ่มพ่อแม่สูบบุหรี่ ลูกเห็น ลองสูบเล่นจนติด ซึ่งการสูบบุหรี่ มักนำไปสู่ยาเสพติดชนิดอื่น"
     
[attach=2]

นายยุทธนา  เล่าว่า  ช่วงที่ผ่านมา  ทางโรงเรียนใช้ระเบียบลงไปจัดการนักเรียนสูบบุหรี่ โดยหักคะแนนความประพฤติ นำมาลงโทษ กระทั่งภาคการศึกษาที่ผ่านมา ได้ให้ความสำคัญมากขึ้นโดยนายปรีชา มากมณี ผู้อำนวยการโรงเรียนบรรจุเรื่องนี้เป็นพันธกิจของโรงเรียน มุ่งมั่นให้เป็นสถานศึกษาปลอดยาเสพติด จึงมีการทำงานอย่างบูรณาการ ทั้งกิจกรรมและหลักสูตรการเรียนการสอน

"มีการใช้สภานักเรียนเป็นแกนนำรณรงค์ทำกิจกรรมเกี่ยวกับการเลิกบุหรี่ มีการจัดโครงงานช่วยกันลดควันบุหรี่ โครงการชนะเลิศคือสเปรย์สมุนไพร มี นางสาวกมลรัตน์ จิตพรหม ซึ่งมีบิดาเป็นหมอพื้นบ้านจึงได้องค์ความรู้ภูมิปัญญาสมุนไพรจากพ่อมาใช้"
   
นายยุทธนา  เล่าว่า  มีการขยายความคิดในสภานักเรียนทำต่ออย่างเป็นรูปธรรม เรียกโครงการว่า "พี่สภาฯอาสาช่วยน้องเลิกบุหรี่" พร้อมกับออกแบบเครื่องมือทำงาน เช่นสมุดบันทึกการเลิกบุหรี่โดยใช้สเปรย์ ให้กรรมการสภานักเรียน ออกไปสืบเสาะหา ตามกลุ่มเพื่อนที่ติดบุหรี่ มาร่วมเลิกบุหรี่ จับคู่คนที่อยากเลิกบุหรี่ระหว่างกรรมการสภานักเรียนกับคนที่ต้องการเลิกบุหรี่ คอยช่วยเหลือเพื่อนที่มีความตั้งใจเลิกบุหรี่ ในทุกรูปแบบติดตาม ตรวจสอบ ให้กำลังใจ
   
"เราให้คนติดบุหรี่ใช้สเปรย์ หากหยุดสูบได้ 1-2 เดือน พบว่าความอยากบุหรี่จะลดลง จนในระดับที่เห็นคนอื่นก็จะไม่อยากสูบเหมือนที่ผ่านมา แต่ความตั้งใจจริงที่จะเลิกสูบจะเป็นส่วนสำคัญ  สเปรย์จะเป็นตัวช่วย ผู้ปกครอง หรือร้านขายบุหรี่เองก็ต้องให้ความร่วมมือ"
   
หลังเกิดผลในโรงเรียนกับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง พบว่าเป้าหมายนักเรียน 18 คน สามารถเลิกได้ 10  คน จึงได้ขยายผลสู่ชุมชน  โดยการออกไปร่วมกิจกรรมในตลาดนัด หรือในงานของเขตการศึกษา มีจัดบู๊ทแนะนำสมุนไพรเลิกบุหรี่ พบการตอบรับที่ดี แต่ยังไม่สามารถประเมินความสำเร็จในระดับชุมชน เพราะยากในการควบคุม กลุ่มสภานักเรียนยังมีการเปิดเพจสเปรย์เลิกบุหรี่ในอินเตอร์เนท กำหนดราคาจำหน่ายขวดละ 80บาท  พบว่ามีคำสั่งซื้อทางอินเตอร์เนท จากหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย รายได้จากการขายสมุนไพรได้นำมาทำกิจกรรมในการเลิกบุหรี่
     
นายสวัสดิ์ จิตพรหม หมอพื้นบ้าน  ผู้ค้นพบสูตรสเปรย์สมุนไพรหญ้าดอกขาวเพื่อลดการสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นบิดาของนางสาวกมลรัตน์ จิตพรหม  ซึ่งนำสูตรการเลิกบุหรี่มาเผยแพร่ในโรงเรียน  เล่าว่าสูตรดังกล่าว ตอนแรกใช้วิธีต้มเอามาดื่ม แต่หญ้าดอกขาวอย่างเดียวได้ผลน้อย  จึงได้ทดลองผสมชะเอมเทศ กานพลู  เบปเปอรมินต์ แก่นคูน มาต้มรวมกันได้ผลมากกว่า ต่อมาพบว่าการต้มกินได้ผลน้อยกว่าทำแบบสเปรย์ฉีดพ่นลิ้นและโคนฟัน เพราะทำให้ตัวยาติดอยู่ทนนาน 
     
"นอกจากสะดวกแล้วยัง มีประโยชน์ถึง 3 ทาง คือทำให้ไม่รู้รสชาติของบุหรี่และเหล้า ชาในปาก และเคลือบอยู่นาน ระหว่างนี้ถ้าสูบบุหรี่ก็ทำให้จืดไม่มีรสชาติ  ขณะที่ตัวชะเอมเทศช่วยคลายเครียด คลายความกังวล ทำให้สบาย ชุ่มคอ บำรุงปอด และที่สำคัญจะไม่มีผลข้างเคียง รสชาติ และกลิ่นก็ปกติธรรมดาเหมือนยาพ่นระงับกลิ่นปากทั่วไป"
     
นายสวัสดิ์  เล่าว่า  หากไม่คิดถึงการช่วยเลิกบุหรี่สเปรย์ตัวนี้จะมีสรรพคุณในการระงับกลิ่นปาก หลังพ่นสเปรย์ตัวยาจะอยู่ได้นานราว ครึ่งชั่วโมง  ถ้าอยากสูบบุหรี่ ก็พ่นซ้ำได้อีก ใช้จนหยุดสูบ และพบว่าเมื่อคนที่เลิกไปแล้วกลับมาได้กลิ่นบุหรี่จะเกิดอาการเหม็น และแพ้กลิ่นบุหรี่
     
"ผมคิดว่าอุบายในการไปใช้ เราอย่าบอกเขาว่า เป็นสเปรย์เลิกบุหรี่ แต่ให้บอกว่าเป็นสเปรย์ดับกลิ่นปาก เพราะจริงแล้ว มันมีสรรพคุณดังกล่าวจริงคือระงับกลิ่นปาก ลดแบคทีเรียในช่องปาก"ส่วนการใช้ให้ได้ผลจริงสวัสดิ์เล่าว่าควรใช้ยาประมาณ 4 ขวด ระยะเวลาต่อเนื่อง ไม่เกิน 3 เดือน พ่นทุกครั้งที่อยากสูบบุหรี่
 
   นายสุริยา นาคอนันต์ นักเรียนชั้น ม.5/1  โรงเรียนปากพะยูนวิทยาคาร ซึ่งเลิกบุหรี่ได้จากโครงการดังกล่าว เมื่อตั้งใจว่าจะเลิกให้ได้ ก็มาปรึกษากับพี่สภานักเรียนที่สนิท เลือกเพื่อนในห้องเป็นคู่บัดดี้และ ใช้สมุดบันทึกพฤติกรรมในการเลิกบุหรี่

"การใช้สเปรย์หญ้าดอกขาวฉีดตอนแรก จะรู้สึกฝาดๆที่คอ พอใช้ไปจะรู้สึกว่าสูบบุหรี่ไม่อร่อย  มันเฝื่อนปากจนทิ้งไปเลย"
เขาเล่าใช้สมุนไพร4ขวด ฉีดเข้าปาก มากกว่า 10 ครั้งในแต่ละวัน ในช่วงแรกแม้ เมื่ออยากสูบบุหรี่มาก พยายามหากิจกรรมอย่างอื่นมาทำด้วย เช่นเล่นฟุตบอล เล่นตะกร้อ ร้องเพลง ทำการบ้าน เรียนให้หนักขึ้น หรือกินของเปรี้ยวอย่างเช่นมะม่วง จนผ่านมา2 เดือนครึ่ง ก็สามารถเลิกได้ พร้อมกับเพื่อนรุ่นน้องอีกคน

   "เราคิดว่าเลิกได้แน่ คือวันที่เราเห็นบุหรี่แล้วเราคิดอย่างแน่ใจว่าจะไม่หวนกลับไปสูบอีกแล้ว เห็นเขาสูบก็เดินได้ตามสบายไม่รู้สึกอยาก เพื่อนชวนเราก็บอกว่าไม่เอาแล้ว เลิกขาดหนนี้ ผมเองตั้งใจ 100%ว่าจะไม่สูบอีก"เขาเล่าว่า  หลังเลิกบุหรี่รู้สึกว่าผลการเรียนดีขึ้น สมองปลอดโปร่ง ทำกิจกรรมอะไรได้อย่างคล่องแคล่วกว่าเดิม เขากำลังเรียนอยู่โปรแกรมวิทย์-คณิต ตอนที่สูบบุหรี่เกรดเฉลี่ย 3.12 ตอนหลังเกรดเฉลี่ยเพิ่มเป็น 3.62 มีความฝันที่สอบเข้าเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์  เทคโนโลยี ลาดกระบังเกรดผม   

"ผมภูมิใจมากๆ ที่เลิกได้ พ่อแม่ก็ดีใจกับผมที่เลิกได้  แม่บอกว่าดีมากลูกบ่าวที่เลิกได้ และได้ไปเที่ยวสวนสัตว์เป็นรางวัล ผมคิดว่าใจที่เข้มแข็งเป็นส่วนสำคัญ ทุกอย่างอยู่ที่ใจเรา"

   ทางด้าน  นายปรีชา มากมณี ผู้อำนวยการโรงเรียนปากพะยูนพิทยาคาร กล่าวว่ากิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมหลักของโรงเรียน จึงสนับสนุนด้านงบประมาณให้สภานักเรียนเต็มที่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรบ้างที่จะแก้ปัญหาเร่งด่วนให้นักเรียน ไม่ไปติดยา และที่ติดแล้วก็เลิกให้ได้ส่วนชุมชนเราให้นักเรียนไปสร้างความตระหนัก กระตุ้นให้ชาวบ้าน ชุมชน เกิดสำนึกในกาลดละเลิกบุหรี่


ข้อมูล - ถนอม  ขุนเพ็ชร