ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ว่าด้วยเรื่อง "พระไม่อยากดัง"

เริ่มโดย กิมหยง, 11:44 น. 21 ก.ย 54

พระอยากดัง

อ้างจาก: netman เมื่อ 10:16 น.  25 ก.ย 54
นิกร
ยันตระ
เปรตกู้
ท่านๆรู้จักชื่อนี้กันบ้างไหมครับ
ห่มเหลือง แต่กิเลสยังเต็มหัวทั้งนั้นเลย
ทิดเกษมนี่ ก็ไม่พ้นกิเลส ... ส.เดี๋ยวโดน ส.เดี๋ยวโดน

เพิ่มให้อีกหนึ่ง จำชื่อไม่ได้ ที่เอาเลือดไปสาดทีสภา

คนค้าแก้ว

ขอบคุณคุณหลวงครับอ่านแล้วสว่างขึ้นเยอะ ต่อไปจะทำตามคำแนะนำที่ว่า ไม่ไหว้ ไม่ใส่บาตร ไม่สุงสิง และคว่ำบาตร แต่ก็นั่นแหละครับผมก็ต้องใช้วิจารณญานเองในการพิจารณาถึงพฤติกรรมของพระแต่ละรูป เริ่มที่พระยืนรอรับบาตรโดยไม่เดินบิณฑบาตร พระที่มาบิณฑบาตรเอาตอน 9-10 โมง คงไม่บาปนะครับ
ไม่ต้องบินสูงอย่างใครเขา จงบินเอาเท่าที่เราจะบินไหว ท่าที่บินไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร แต่บินไปให้ถึงฝันเท่านั้นพอ

คุณหลวง

อ้างจาก: คนค้าแก้ว เมื่อ 23:10 น.  25 ก.ย 54
ขอบคุณคุณหลวงครับอ่านแล้วสว่างขึ้นเยอะ ต่อไปจะทำตามคำแนะนำที่ว่า ไม่ไหว้ ไม่ใส่บาตร ไม่สุงสิง และคว่ำบาตร แต่ก็นั่นแหละครับผมก็ต้องใช้วิจารณญานเองในการพิจารณาถึงพฤติกรรมของพระแต่ละรูป เริ่มที่พระยืนรอรับบาตรโดยไม่เดินบิณฑบาตร พระที่มาบิณฑบาตรเอาตอน 9-10 โมง คงไม่บาปนะครับ

     สะบายดี

     คำว่า คว่ำบาตร มาจากเรื่องราวพุทธประวัติครับ มีพระบางกลุ่มทำตัวไม่เหมาะสม ชาวบ้านจึงไปร้องเรียนต่อพระพุทธองค์ พระองค์จึงทรงอนุญาตให้คว่ำบาตรพระกลุ่มนั้น ด้วยการเลิกไหว้ เลิกต้อนรับ เลิกใส่บาตร จนพระเหล่านั้นสำนึกตัวได้จริง ชาวบ้านจึงประกาศหงายบาตร

    แต่ใช่ว่าชาวบ้านเท่านั้นที่ทำได้ หากมีชาวบ้านที่ให้ร้ายพระโดยไม่เป็นจริง ท่านก็อนุญาตให้คว่ำบาตรชาวบ้านคนนั้นๆได้ครับ

    สมัยนั้นเป็นเรื่องใหญ่ครับ ใครที่ถูกคว่ำบาตรจะอับอายมากทีเดียว แต่ยุคสมัยนี้ต่างไปมากพอสมควร เพราะว่าเรามายกย่องพระจนมากเกินไป เราแทบไม่สนใจว่าพระดีหรือไม่ ห่มเหลืองก็พอ ตามใจพระจนเลยเถิด พอพระทำตัวน่าติฉินก็กลัวบาปเกรงใจจนมีคำว่า ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์ ซึ่งเป็นคำพูดที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคมที่ตนอยู่หรือเปล่า?

    หากจะกระทำอย่างนั้น ก็สมควรครับกับพระที่ไม่ได้ความเหล่านั้น

    ส่วนจะเริ่มจากไหนก็แล้วแต่ครับ ว่าเจอที่ไม่ดีตรงไหน ไม่น่าเลื่อมใสตรงไหนก็เริ่มจากตรงนั้นเลย เพียงแต่อย่าค้นหาพระที่ดีเลิศครับ

    เพราะการหาพระที่ดีเลิศนั้นคงหาได้ยากเต็มที เอาแบบที่ท่านดีอย่างผู้ใหญ่ที่ควรค่าแก่การเคารพก็พอครับ ท่านมีดีมีเสียตามธรรมดาของคนนั้นมองข้ามบ้างก็ไม่แปลกครับ เมื่อก่อนผมเป็นอย่างนั้นคือ ยิงอ่านมากรู้มากก็ยิ่งถือตัว เห็นข้อเสียคนอื่นมาก แม้แต่หลวงตาเจ้าอาวาสผมยังตำหนิท่านทุกวัน เพราะท่านเป็นพระบ้านๆธรรมดาๆ

    การค้นหาพระที่ดีเลิศจึงเริ่มขึ้น ลาจากหลวงตาเที่ยวค้นหาพระที่ดี พบเจอที่ๆเคร่งวินัย มีระเบียบเรียบร้อย พระป่าวิปัสสนาก็ตั้งใจอยู่ด้วย ศึกษาด้วย

    อย่างที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสครับ ศีลพึงรู้ได้ด้วยการอยู่ร่วมกันนานๆ อยู่ไปๆ อ้าว...พระที่อวดตัวว่าเคร่ง ๒๒๗ กางพระไตรปิฎกจับได้เลยนั้น กลับมีความมักง่าย และตระหนี่กว่าหลวงตาที่วัดบ้านๆนั้นเสียอีก ยิ่งท่านดูถูกหลวงตามากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งเห็นความแตกต่าง จนต้องทบทวนตัวเอง

    ว่าเราจะเคารพพระแบบไหน? เราต้องการคนที่ดีขนาดไหน?
    มีหลวงน้ารูปหนึ่ง ถามว่า อยากได้ดีขนาดนั้น ทำไมไม่ทำตัวเองให้ได้ล่ะ? ไอ้เราก็เออ..จริงสินะ ทำไมเราอยากได้พระดีจนเกินขนาดปานนั้นหนอ พระพุทธเจ้าตรัสว่า ให้คบคนที่ดีกว่าตนเพื่อพัฒนาตนขึ้นไปด้วย หากหาคนที่ดีกว่าไม่ได้ก็ให้คบคนเสมอตน หากหาคนที่ดีกว่าหรือเสมอตนไม่ได้ก็อยู่คนเดียวเสียดีกว่า

    ตกลงผมจึงวางใจลงที่เลือกเคารพพระที่ดีกว่าผมหรือเสมอกัน(โดยประมาณ) ยิ่งอยู่ด้วยกันนานก็ยิ่งรู้ ทุกวันนี้ หลวงตาที่ผมเคยตำหนิอยู่ทุกวันกลายเป็นพระที่ผมเคารพและห่วงใยมากที่สุด เพราะท่านมีความจริงใจต่อทุกๆคนและสัตว์ทั้งหลาย ยิ่งเราไม่คิดว่าเราดีกว่าใคร เรายังมีข้อเสียมากมาย เห็นเสียของเขาแล้วมองตัวเองก็เออ..กูก็เลว มันก็ยิ่งสบายใจ

    ส่วนพระที่ไปรอรับบาตรตอน ๙-๑๐ โมง แล้วยิ่งเลือกเอาที่เขาใส่เงินเยอะๆ อย่างใกล้แหล่งกามาสูตรา เพราะหญิงเหล่านั้นตื่นช้า แต่นิยมใส่บาตร และหาของไม่ทันก็ใส่เงิน น่าเคารพ? ตรงไหนครับ เพราะไม่ใช่พ่อแม่ ไม่ใช่ลูกของหญิงเหล่านั้น แล้วคนที่ไปขอเงินคนเหล่านั้นกิน เป็นใคร? ท่านคิดว่าบาปไหมครับ

    พระบางรูปยืนรับบาตรที่เดียว มีแม่ค้าข้าวแกงถุงอยู่ใกล้ๆ คนซื้อตรงนั้น ใส่บาตรตรงนั้น แปลกไหม บาตรไม่เคยเต็ม?

    ต้องเลือกครับ พระที่ทำตัวเลวๆนั้น พระพุทธเจ้าตรัสว่า รับบาตรมาแม้เขาให้เต็มใจ แต่พระที่ทำตัวเลวนั้นก็เป็นมหาโจรที่ปล้นเขากิน เพราะไม่มีคุณธรรมควรแก่การรับการดูแลจากชาวบ้าน ส่วนพระที่ดีก็รับอย่างเป็นเจ้าของเพราะคู่ควรแก่การให้

    แต่ทั้งหมดก็เป็นประสบการณ์และวิจารณญาณของผมครับ ท่านอ่านแล้วก็ต้องตริตรองตามสมควรอีกทีครับ อย่าเชื่อผมเสียทีเดียว ผมก็มีทิฏฐิอยู่พอสมควรเหมือนกัน

    สุดท้าย ฝากกลอนท่านพุทธทาสบทหนึ่งครับ ผมอ่านแล้ว ยิ่งคำนึงหลายๆรอบยิ่งปีติใจครับ

    เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา     จงเลือกเอาส่วนดีเขามีอยู่
เป็นประโยชน์โลกบ้างยังน่าดู        ส่วนที่ชั่วอย่าไปรู้ของเขาเลย
จะหาคนมีดีโดยส่วนเดียว            อย่ามัวเที่ยวค้นหาสหายเอ๋ย
เหมือนค้นหาหนวดเต่าตายเปล่าเลย   ฝึกให้เคยมองแต่ดีมีคุณจริง
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป