ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

นี่หรือพนักงานเทศบาล

เริ่มโดย devildef, 21:31 น. 18 ต.ค 57

devildef

คือตัวผมอายุ 14นะครับ ก็ไม่ค่อยอยากไปทำบัตรประชาชนเท่าไหร่ครับ ไม่อยากไป เพราะในภาพลักษณ์เก่า ผมคิดว่า นาน ช้า เลยตั้งใจจะทำ ตอนอายุ15ปี

เข้าเรื่องเลยดีกว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2557 คือผมไปทำบัตรประชาชน ที่เทศบาลแถววงเวียนอ่ะครับ ก็โอเคนะครับคิวไม่ยาว พ่อกับแม่ก็ไปทำบัตรใหม่ด้วย พ่อกับแม่ของผมก็ทำไปก่อน พอถึงคิวผม ผมยื่นสูติบัตร (สำเนา ยอมรับว่าไม่รู้มาตั้งแต่ต้นว่าไม่ได้นำสูติบัตรแท้มา) พนักงานท่านนี้(แก่ๆ ผิวดำๆ ใส่แว่น) เขาพูดประมาณว่า "ถ้าไม่ได้เอาสูติบัตรแท้มา ก็ไปให้นายทะเบียนรับรองละกัน"(พูดเหมือนคนอารมณ์เสีย)  หลังจากนั้นแกก็โยนสูติบัตรผม ไปที่โต๊ะข้างๆ ผมก็พูดขึ้นว่า "แล้วโยนทำไม เป็นขี้ข้าประชาชนไม่ใช่หรอ" ผมยอมรับครับว่าตอนนั้นการพูดจาแลดูหยาบคายไม่มีหางเสียง และถ้อยคำดูหมิ่นประมาท แต่ว่าผมรู้สึกรับไม่ได้ครับ การที่พนักงานมาโยนสูติบัตรแบบนั้น

  ผมเริ่มรู้สึกว่านี้หรือคือการกระทำ ทั้งน้ำเสียงในการพูดจา ถ้อยคำที่พูด และการโยนสูติบัตร(แม่ผมก็เห็นครับ ยืนยันได้) ผมคิดว่ามันย่ำแย่มากครับ ระบบราชการไทย ดูห่วยแตกมาก ผมไม่นึกมาก่อนเลยว่าพนักงานเทศบาล จะมีนิสัยการกระทำหยาบคาบเช่นนี้

วอนหน่วยการที่เกี่ยวข้อง หรือ องค์กรใดที่เกี่ยวข้อง ดูแลด้วยครับ  /ตั้งกระทู้ครั้งแรก /ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยครับ

กิมหยง

อืม  เทศบาลแถว ๆ วงเวียนน้ำพุ่ 

น่าจะเป็นสำนักงาน ทน.หาดใหญ่ครับ

เป็นประเด็นที่น่าติดตาม . . .

เพราะส่วนตัว ไม่ค่อยชอบพฤติกรรมของผู้บริการประชาชนแบบนั้นเหมือนกันครับ

แต่เดี๋ยว ต้องสอบถามรายละเอียดก่อนนะครับ ว่าเป็นมายังไง

แล้วจะเดี๋ยวนำเรียนท่านผู้ใหญ่ใน ทน.หาดใหญ่ให้รับทราบนะครับ
สร้าง & ฟื้นฟู

แมวคราว

พอกันครับ คุณไปตอบเค้าด้วยคำว่าขี้ข้าซึ่งทำร้ายเค้าเหมือนกัน
แต่โดยรวมแล้วเค้าผิดมากกว่า เพราะวุฒิภาวะต่างกัน คุณยังเด็ก ส่วนเค้าแก่แล้วยังขาดวุฒิภาวะ

ผีดำ1

ถ้าตามที่เล่า เจ้าหน้าที่โยนสูติบัตรก่อนก็สมแล้วที่น้องด่า แต่ถ้ามีไรมาก่อนนั้นก็เล่ามา

บินมาลองลองมาบิน

อ้างจาก: devildef เมื่อ 21:31 น.  18 ต.ค 57
คือตัวผมอายุ 14นะครับ ก็ไม่ค่อยอยากไปทำบัตรประชาชนเท่าไหร่ครับ ไม่อยากไป เพราะในภาพลักษณ์เก่า ผมคิดว่า นาน ช้า เลยตั้งใจจะทำ ตอนอายุ15ปี

เข้าเรื่องเลยดีกว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2557 คือผมไปทำบัตรประชาชน ที่เทศบาลแถววงเวียนอ่ะครับ ก็โอเคนะครับคิวไม่ยาว พ่อกับแม่ก็ไปทำบัตรใหม่ด้วย พ่อกับแม่ของผมก็ทำไปก่อน พอถึงคิวผม ผมยื่นสูติบัตร (สำเนา ยอมรับว่าไม่รู้มาตั้งแต่ต้นว่าไม่ได้นำสูติบัตรแท้มา) พนักงานท่านนี้(แก่ๆ ผิวดำๆ ใส่แว่น) เขาพูดประมาณว่า "ถ้าไม่ได้เอาสูติบัตรแท้มา ก็ไปให้นายทะเบียนรับรองละกัน"(พูดเหมือนคนอารมณ์เสีย)  หลังจากนั้นแกก็โยนสูติบัตรผม ไปที่โต๊ะข้างๆ ผมก็พูดขึ้นว่า "แล้วโยนทำไม เป็นขี้ข้าประชาชนไม่ใช่หรอ" ผมยอมรับครับว่าตอนนั้นการพูดจาแลดูหยาบคายไม่มีหางเสียง และถ้อยคำดูหมิ่นประมาท แต่ว่าผมรู้สึกรับไม่ได้ครับ การที่พนักงานมาโยนสูติบัตรแบบนั้น

  ผมเริ่มรู้สึกว่านี้หรือคือการกระทำ ทั้งน้ำเสียงในการพูดจา ถ้อยคำที่พูด และการโยนสูติบัตร(แม่ผมก็เห็นครับ ยืนยันได้) ผมคิดว่ามันย่ำแย่มากครับ ระบบราชการไทย ดูห่วยแตกมาก ผมไม่นึกมาก่อนเลยว่าพนักงานเทศบาล จะมีนิสัยการกระทำหยาบคาบเช่นนี้

วอนหน่วยการที่เกี่ยวข้อง หรือ องค์กรใดที่เกี่ยวข้อง ดูแลด้วยครับ  /ตั้งกระทู้ครั้งแรก /ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยครับ

อืม ต้องแจ้งรมต.มหาดไทยมาจัดการเลยครับ  โดยรวมแล้วมันก็แย่ตามที่คุณน้องบอกมา แต่คุณน้องเข้าใจคำว่าหยาบคาย กับหมิ่นประมาทนี่ผิดไปหรือเปล่าครับ  เจ้าหน้าที่รัฐพูดจาไม่มีหางเสียงนี่ปกติมาก  เขาไม่จำเป็นต้องเอาอกเอาใจมาก เขาทำตามหน้าที่ตามปกติ  เขามีพูดจามึงกู ไอ้xxx กับน้องหรือเปล่า? เขาไม่ใช่พนักงานที่ต้องเอาอกเอาใจลูกค้ามากมายเหมือนกัยตามธุรกิจบริการต่างๆที่เน้นการบริการในรูปแบบต่างๆ  ในที่นี้คนมาใช้บริการมิใช่พระเจ้า  เข้าใจไว้ด้วย ไม่ใช่ธุรกิจเน้นบริการ  และหมิ่นประมาทนี่ คุณน้องคิดไปเองหรือเปล่า
อะไรคือหมิ่นประมาท ศึกษามาก่อนพูดนะครับ  ส่วนเรื่องระบบข้าราชการก็ตามที่คุณน้องบอกต้องปรับปรุง  ส.เดี๋ยวโดน

devildef

@บินมาลองลองมาบิน  ผมเข้าใจในความคิดว่า พูดไม่มีหางเสียงของเจ้าพนักงานนี้ ผมเข้าใจครับ ว่าเป็นเรื่องปกติ แต่การพูดของเขา ผมได้ยินเต็ม2หู น้ำเสียงเหมือนกับว่า " ถ้าไม่เอาสูติบัตรแท้มา ก็ไปให้นายทะเบียนรับรองละกัน " ซึ่งวิธีการพูดผมคิดว่าน่าจะดีกว่านี้ คำพูดดีๆกว่านี้ก็มี เพราะ เขาพูดกับแม่และผม ซึ่งเป็นประชาชนผู้เสียภาษีให้รัฐ เงินเดือนของเขาเป็นภาษีของเราไม่ใช่หรือครับ ? การบริการไม่ใช่จะเทียบให้ประชาชนเป็นพระเจ้า หรืออะไรหรอกนะครับ แต่การบริการแล้ว ปกติแล้ว ควรจะดีกว่านี้ แค่นี้ผมก็คิดว่า ข้าราชการนายนี้แย่มากๆแล้ว รวมทั้ง โยนสูติบัตร คือถ้าคุณหรือใครเคยไปอ่ะครับ มันจะมีโต๊ะข้างหน้าของเขา เป็น2ชั้น ถ้าเขาตั้งให้ดีๆ ไม่ต้องโยนมา ผมจะไม่ติดใจอะไรเลย แต่นี้เขาโยนเหมือนโปรยขึ้น (ผมไม่รู้จะพูดอย่างไร) เหมือนการกระทำบอกให้รู้ว่า เขารำคาญกับการมีประชาชนที่ไม่นำ ใบสูติบัตรแท้มา

เรื่องหมิ่นประมาทนี้(ยอมรับครับว่าไม่รู้ความหมายจริงๆของมัน ขอโทษด้วยครับ 555)

ผมคิดว่าผมก็พูดเกินไปนะครับ "ขี้ข้า" มันก็ดูจะแรงไป มันเกิดขึ้นจากอารมณ์ของผม ประมาณเหมือนกับว่า ร้ายมาร้ายกลับครับ
ขอบคุณครับ  ส.บ๊ายบาย

devildef

 @ผีดำ1 เป็นตามที่เล่าไปครับ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีอะไร 

สุรวงศ์ วัฒนกูล

กราบเท้า สวัสดี และ ขอโทษล่วงหน้าเผื่อว่าจะขัดใจกัน กับ เจ้าของความคิดที่ผมนำมากล่าาวอ้าง รวมทั้ง ท่านผู้เกี่ยวข้อง และ ผู้ติดตามอ่าน ทุกท่าน ด้วยความเคารพ
ผมมีความเห็นตามด้วยความสุจริตใจว่า การที่ผู้ทรงเกียรติท่านหนึ่งมีทัศนะส่วนหนึ่งต่อเรื่องดังกล่าวว่า
"...เขาไม่ใช่พนักงานที่ต้องเอาอกเอาใจลูกค้ามากมายเหมือนกัยตามธุรกิจบริการต่างๆที่เน้นการบริการในรูปแบบต่างๆ  ในที่นี้คนมาใช้บริการมิใช่พระเจ้า  เข้าใจไว้ด้วย ไม่ใช่ธุรกิจเน้นบริการ..." เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในหลักการของงานบริการ
ความหมายตำว่า บริการ ตาม พจนานุกรมซึ่งบัญญัติให้ทุกคนทุกอาชีพได้รู้ได้เข้าใจเพื่อนำมาปรับใช้ในชีวิตจริงระบุไว้ว่า บริการ หมายถึง รับใช้, ให้ความสะดวก ตีความกันแบบบ้านๆ ไม่ต้องมาหัวหมอแบบนักกฎหมายอย่างที่ผมเรียนจบมาจากรามคำแหง การรับใช้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเอาใจกันโคตรๆเพื่อแข่งขันแย่งลูกค้ากันเฉพาะวงการค้า การให้ความสะดวกก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องตามใจกันสุดๆเพื่อประชันแย่งคะแนนเสียงกันเฉพาะแวดวงการเมือง ใครก็ตามที่มีหน้าที่ บริการ ใครต่อใคร อาทิ ครูให้บริการวิขาการแก่นักเรียน รปภ.ราขการให้บริการแก่ผู้มาใช้สิทธิ์ต่างๆ เพื่อนให้บริการแก่เพื่อนผู้ซึ่งเป็นกัลยาณมิตรต่อกัน แม้แต่ แม่ ที่ทำตัวเสียยิ่งกว่าบ๋อยคอยบริการลูกๆ เขาควรจะทำเต็มที่ให้ดีกว่าคนรุ่นก่อน จึงจะถือว่าคนผู้นั้นมีพฤติกรรมที่ ยกระดับ จาก ปุถุชน ขึ้นเป็น อริยชน
ถ้าใครไขว้เขวว่า พนักงานราชการ ไม่จำต้อง ต้อนรับดูแล อธิบายกันดีๆ ทำตามคำขออย่างเหมาะสม ต่อคนที่มาติดต่อ เพราะ ราชการ ไม่จำต้องเอาใจใครเหมือนนักธุรกิจ มันจะกลายเป็นว่า เราตีความแบบ 2 มาตรฐาน อย่างที่เราตัดพ้อกันไปต่อว่ากันมา
ที่น่าสนใจก็คือ งานในสายที่พูดถึงกันอยู่นี้ ขึ้นตรงต่อ กระทรวงมหาดไทย คนที่อยู่ในสานนี้ยิ่งต้องรู้และทำใจยอมรับด้วยซ้ำไปว่า คำว่า มหาดไทย ที่ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ คัดมาจากรากศัพท์บาลีที่ว่า มหทฺย แปลว่า เมตตายิ่ง กรุณายิ่ง คนในสายนี้จึงต้องทำตัวให้ยิ่งไปกว่าพ่อค้าแม่ค้าเสียด้วยซ้ำ
ควรจะเข้าใจและทำใจยอมรับอีกแง่มุมหนึ่งว่า นายจ้าง คือ คนที่เอาเงินที่ตนถือครองมาว่าจ้างให้คนรับงานทำตามคำขอโดยสุจริตและสุภาพเรียบร้อย ภาษากระแดะ เขานิยามว่า ให้เกียรติ พูดง่ายๆแบบชาวบ้านว่า จะทำอะไรก็เห็นหัวกันบ้าง ลูกค้า ก็คือ นายจ้าง ประชาชนผู้เสียภาษีที่มาติดต่อก็คือ นายจ้าง ไม่ได้หมายความว่า นายจ้าง สามารถจะจิกหัวข่มขวัญ ลูกจ้างอย่างไรก็ได้ นายจ้าง กับ ลูกจ้าง หรือ คนซื้อ กับ คนขาย ควรจะมีท่าทีให้เกียรติต่อกันฉันท์ มนุษย์ อยู่แล้ว
ดังนั้น การบริการ จึงเป็นการเอาใจใส่ที่เป็นไปอย่างมีน้ำใจและมีมารยาทอย่างเหมาะสม จึงเป็นเรื่องเดียวกันของทุกๆงานนะครับ ขอโทษที่เข้ามา เผือก เพื่อรักษาบรรทัดฐานของ สังคม ก่อนที่กลายพันธุ์ไปไกลกว่านี้
ด้วยจิตคารวะจากคนสงขลา
สุรวงศ์ วัฒนกูล
โทรศัพท์มือถือ 0816383402