ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

พร้อมไหม? ตลาดเงินไทยกับการเปิด AEC ความคืบหน้า 4 โครงสร้างหลักของ ธปท. และ ก.ล.

เริ่มโดย TERRABKK, 09:48 น. 20 ต.ค 57

TERRABKK

พร้อมไหม? ตลาดเงินไทยกับการเปิด AEC ความคืบหน้า 4 โครงสร้างหลักของ ธปท. และ ก.ล.ต



อีกไม่นานก็จะถึงปี 2558 ช่วงเวลาของการเปิด ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( Asean Economic Community : AEC ) ย่อมเกิดการหมุนเวียนเคลื่อนย้ายสินค้า, การบริการ ,การลงทุน แรงงานฝีมืออย่างเสรี และเรื่องราวสำคัญที่ถือว่าเป็นถนนสายหลักของการเปิด AEC ย่อมไม่พ้นเรื่องของตลาดเงิน TerraBKK เสนอข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับตลาดเงินประเทศไทย เพื่อเตรียมตัวเข้าสู้กระแส AEC ไปพร้อมกัน ก่อนหน้านี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หน่วยงานหลักด้านการเงินของประเทศได้วาง 4 โครงสร้างหลัก TerraAds เพื่อพัฒนาระบบการเงินการธนาคารให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน พร้อมรับการเปิด AEC ดังนี้
1. ระบบชำระเงินเชื่อมต่อ
2. การเปิดเสรีเคลื่อนย้ายเงินทุน
3. การเปิดเสรีภาคธนาคาร ช่องทางให้บริการทางการเงิน
4. การเปิดเสรีของตลาดทุน

TerraBKK รวบรวมความคืบหน้า 3 โครงสร้างแรก ซึ่งอยู่ในส่วนความรับผิดชอบของ ธปท. และโครงสร้างที่ 4 ในส่วนความรับผิดชอบของ ก.ล.ต. ดังนี้

1. ระบบชำระเงินเชื่อมต่อ คือ การเชื่อมโยงระบบการชำระเงินของอาเซียนให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน สามารถรองรับกับการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศในรูปแบบต่างๆได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันมีความคืบหน้า ดังนี้

           การกดเงินในต่างประเทศผ่าน ATM คนไทยสามารถใช้บัตรเอทีเอ็มโดยทั่วไปกดเงินจาก "ตู้ที่มีสัญลักษณ์ ATM POOL" ในประเทศสมาชิกกลุ่ม Asian Payment Network (APN) ที่ธนาคารพาณิชย์ไทยมีข้อตกลง

              ปัจจุบันมี 5 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย (ธ.กรุงเทพ, ธ.กสิกรไทย,ธ.กรุงไทย,ธ. ทหารไทย,ธ. ยูโอบี และ,ธ. ธนชาต) เกาหลีใต้(,ธ.กรุงไทย ,ธ.ทหารไทย ,ธ.ยูโอบี และ,ธ. ธนชาต) เวียดนาม (,ธ.ทหารไทย และ ,ธ.ธนชาต) ฟิลิปปินส์ (,ธ.ทหารไทย) และอินโดนีเซีย (,ธ.ทหารไทย) ส่วนสิงคโปร์อยู่ระหว่างดำเนินการ ค่าธรรมเนียมการใช้บัตรคิดอัตราคงที่ต่อรายการ ซึ่งถูกกว่าการใช้บัตรที่ใช้บริการเครือข่ายต่างประเทศที่มีการคิดค่าธรรมเนียมความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไปด้วย

            การชำระเงินข้ามพรมแดน (Cross-border payments) มี 2 แนวทางหลัก ได้แก่
เรื่องมาตรฐานระบบการชำระเงินกลาง เพื่อให้การชำระเงินข้ามประเทศระหว่างประเทศสมาชิกตามเงินสกุลเงินท้องถิ่นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เรื่องการพัฒนาสกุลเงินท้องถิ่น เพื่อใช้ในธุรกรรมการค้าและการลงทุนโดยตรง

ปัจจุบันอยู่ระหว่างหารือข้อตกลง ในเรื่องมาตรฐานระบบการชำระเงินกลาง เพราะประเทศสมาชิกมีพื้นฐานค่อนข้างแตกต่างกัน สำหรับการเชื่อมโยงระบบการเงิน 5 ประเทศสมาชิกที่มีศักยภาพ (ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย) อาจดำเนินการได้ไม่ยากนัก แต่สำหรับกลุ่ม CLMV คือ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ยังคงต้องการความช่วยเหลือในเรื่องนี้ต่อไป

2. การเปิดเสรีเงินทุนเคลื่อนย้าย

คือ การผ่อนคลายกฎระเบียบมาตรการเป็นอุปสรรคของการเคลื่อนย้ายเงินทุน ทั้งด้านการลงทุนทางตรงหรือทางอ้อมผ่านหลักทรัพย์ รวมไปถึงการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน สำหรับ ธปท.ต้องการให้เงินทุนเคลื่อนย้ายเข้าและออกอย่างเป็นสมดุล และได้วางแนวทางผ่อนคลายแล้ว ดังนี้ การลงทุนโดยตรง : บุคคลธรรมดาสามารถ ทำการลงทุนได้อย่างเสรี การลงทุนผ่านหลักทรัพย์ : มีระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านการเชื่อมโยง ระบบซื้อขายหลักทรัพย์ระหว่างตลาดหลักทรัพย์ในอาเซียน ( Asean Linkage) รวมทั้งเพิ่มประเภทผู้ลงทุนสถาบันที่ 9 (บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์) โดยไม่จำกัดวงเงินผู้ลงทุนต่อราย มีการขยายขอบเขตประเภทหลักทรัพย์ที่ลงทุนได้ และลดขั้นตอนการขออนุญาตจาก ธปท. ของรายย่อย Foreign Currency Deposit (FCD) : เป็นบัญชีเงินฝากสกุลต่างประเทศสำหรับบุคคลที่มีถิ่นฐานอยู่ในประเทศไทย โดยนำเงินบาทมาซื้อเงินตราต่างประเทศฝากเข้าบัญชี ณ เวลาที่พอใจอัตราแลกเปลี่ยน แทนการซื้อเงินตราต่างประเทศในอนาคต เพื่อลดความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน กรณีมีภาระผูกพัน สามารถฝากได้อย่างเสรี การบริหารความเสี่ยงและลดต้นทุน : ผู้ประกอบการและนักลงทุนที่มีการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน สามารถ ยกเลิกการทำธุรกรรม (Unwind Hedging) ได้อย่างเสรี สำหรับธุรกรรมที่มี underlying (เอกสารหลักฐานรองรับ ไม่ใช่เพื่อการเกร็งกำไร) รวมทั้งเปิดให้มี การซื้อขาย currency futures ในตลาด TFEX เมื่อพค. 57 ที่ผ่านมา อย่างเป็นระบบมาตรฐานสากล และรองรับการซื้อขายหลายสกุลเงิน (multi-currency) และหลายตลาด (multi-market) เรื่องอื่นเพิ่มเติม : ผ่อนคลายคุณสมบัติ รวมทั้งขยายวงเงินในการประกอบธุรกิจ Money Changer (MC) และ Money Transfer Agent (MT) เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริการแลกเปลี่ยนและการโอนเงินตราต่างประเทศ

3. การเปิดเสรีภาคการธนาคาร


เป้าหมายหลัก คือ การสร้างมาตรฐานกลางของธนาคารในระดับอาเซียน เพื่อรองรับการทำธุรกรรมการเงินทุกประเทศ เบื้องต้นจัดทำกรอบ"มาตรฐานธนาคารอาเซียน" หรือ Qualified ASEAN Bank (QAB) คาดว่าจะเริ่มการพิจารณาอนุญาต QAB ในปี 2557 และเริ่มการตั้งธนาคารพาณิชย์จริงในปี 2563 ปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุป หรือข้อตกลงที่ชัดเจนในเรื่องดังกล่าว สำหรับธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยมีการตื่นตัวไม่น้อย ได้พัฒนารูปแบบการบริการ การสร้างเครือข่ายบริการในรูปแบบการเปิดสาชา, การเข้าซื้อกิจการ หรือจับมือพันธมิตรเจ้าถิ่น ยกตัวอย่างดังนี้ ธนาคารกรุงเทพ พัฒนาช่องทางการให้บริการ ตู้บัวหลวงเอทีเอ็ม 8 ภาษา ประกอบด้วย ไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น อารบิก พม่า ลาว เขมร รองรับการเปิด AEC กว่า 8,500 เครื่อง บริการ 24 ชั่วโมงทั่วประเทศ ปัจจุบัน ธนาคารกรุงเทพมีสาขาในกลุ่มอาเซียนกว่า 14 สาขา และ 1 สำนักงานตัวแทน ธนาคารกสิกรไทย เน้น จับมือพันธมิตร ในกลุ่มประเทศ AEC แทนการเข้าไปตั้งสาขาเองในประเทศนั้น เช่น ประเทศเวียดนาม, ประเทศอินโดนีเซีย ,ประเทศลาว , ประเทศกัมพูชา และประเทศสิงคโปร์ ธนาคารไทยพาณิชย์ ใช้ กลยุทธ์ผสมผสานเครือข่าย ทั้งการตั้งสาขาเองในประเทศสิงคโปร์, ประเทศลาว และประเทศกัมพูชา รวม 6 สาขา ,การจับมือเป็นพันธมิตรกับธนาคารท้องถิ่นในประเทศเวียดนาม และสำนักงานตัวแทนในประเทศพม่า

4. การเปิดเสรีของตลาดทุน


ส่วนนี้อยู่ในความรับผิดชอบของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งได้เข้าร่วมกลุ่ม ก.ล.ต. อาเซียน หรือ ASEAN Capital Markets Forum (ACMF) โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ การยกระดับมาตรฐานบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มอาเซียนสู่ความเป็นสากล ดำเนินงานหลัก 4 ด้าน ได้แก่ การสร้างความน่าเชื่อถือตลาดทุนอาเซียน , การพัฒนาการกํากับดูแลตลาดทุนอย่างสากล ,การสร้างระบบการยอมรับ (mutual recognition : MR) ระหว่างหน่วยงานตลาดทุนในอาเซียน และการส่งเสริมช่องทางการเข้าถึงตลาดหลักทรัพย์อาเซียนให้มากขึ้น ปัจจุบันได้ดำเนินการสำเร็จมาหลายขั้นตอนแล้ว ดังนี้ ก่อตั้ง www.aseanexchanges.org เชื่อมโยงข้อมูลตลาดหุ้น 7 แห่ง (มาเลเซีย,ฮานอย,โฮจิมินห์,อินโดนีเซีย,ฟิลิปปินส์ ,สิงคโปร์ และ ไทย) มีหัวข้อน่าสนใจหลากหลาย เช่น ASEAN Stars เป็นการรวมรายชื่อหลักทรัพย์ "blue chips" ประเทศสมาชิก เพื่อช่วยให้นักลงทุนที่ไม่มีความคุ้นเคยในหุ้นประเทศนั้น จะสามารถเลือกหุ้นที่ต้องการได้ง่ายขึ้น



ประเมินหลักเกณฑ์ ASEAN CG Scorecard สำหรับประเมินและจัดอันดับบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจแก่นักลงทุน โดยคัดเลือกบริษัทจดทะเบียน 100 บริษัทแรกที่มีมูลค่าทางการตลาด (Market Capitalization) สูงสุด ณ วันที่ 30 เมษายน ของทุกปี มาพิจารณาตามเกณฑ์มาตรฐาน โดยล่าสุดในปี 2556 ตลาด SET ของประเทศไทยได้ 75.39 คะแนน (คะแนนเต็ม 100) โดย หมวดการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด ถัดลงมาเป็น หมวดสิทธิของผู้ถือหุ้น ,หมวดการเปิดเผยข้อมูลความโปร่งใส ,หมวดความรับผิดชอบของคณะกรรมการ และหมวดการคำนึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้ ตามลำดับ ท้ายนี้ TerraBKK เชื่อว่า ด้วยศักยภาพของประเทศไทยที่มีอยู่ จะสามารถนำมาซึ่งโอกาส และความเติบโตทางเศรษฐกิจยิ่งๆ ขึ้นไป จากการเปิด AEC ที่จะถึงนี้ แต่คงต้องพยายามมุ่งมั่นทำงานร่วมกันทั้ง 3 ภาคส่วน คือ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพราะการแข่งขันในระดับภูมิภาคนั้น คงไม่มีประเทศไหนยอมหยุดอยู่กับที่อย่างแน่นอน

อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : TerraBKK.com - http://terrabkk.com/?p=30683