ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

"จราจรของเรา" จิตสำนึกของ การมี "บ้านร่วมกัน"

เริ่มโดย Mr.No, 19:19 น. 05 พ.ย 57

Mr.No

[attach=1]

รู้สึกดีใจที่เห็นหลายคนในกิมหยง โดยเฉพาะในกระทู้ ปฎิรูปการใช้รถใช้ถนนฯ  ที่พยายามจะสร้างเครือข่ายและรณรงค์ให้เกิดจิตสำนึกในการเป็นเจ้าของบ้าน แทนที่จะเป็นแค่ผู้ "ขออยู่อาศัย" ไปวันๆ

เมื่อจิตคิดว่า บ้านเมืองเป็นของเราเมื่อไหร่  เมื่อนั้นเราก็จะรู้สึกผูกพัน..หวงแหน และทำสิ่งดี ไปพร้อม ๆ กับเริ่มรู้สึกไม่ดีเมื่อเห็นคนอื่นทำไม่ดีกับบ้านเมืองเรา...

การฝึกให้เป็นคนมีวินัย และ รับผิดชอบ คือก้าวแรกของการเดินทางไปสู่ความสำเร็จทุกประการ
ผู้ทำงานราชการ รุ้จักวินัย,มีความรับผิดชอบ ปลายทางคือ  ความสำเร็จในตำแหน่งหน้าที่การงานอย่างไม่ต้องกังวลว่า ขึ้นมาได้เพราะนายคนไหน?

ยิ่งเป็นคนทำงานเอกชน..พ่อค้าแม่ขาย นักเรียนนักศึกษา ถ้ามีวินัยและความรับผิดชอบเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เรื่องความล้มเหลวเป็นอันไม่ต้องพูดถึง

รัฐบาลพยายามผลักดันให้คนไทยมีวินัยมากขึ้น ด้วยการผลักดันโครงการจับปรับพวก 5 จอม มาจนบัดนี้ ผลตอบรับโดยเฉพาะในต่างจังหวัดสะท้อนให้เห็นว่า เราไม่ได้ไปถึงไหนและตอกย้ำว่าเรายังไม่ได้เข้าใจในความหมายอันยิ่งใหญ่ที่ว่าด้วยเรื่องสำคัญที่เป็นรากฐานสำคัญของประเทศ  โดยเฉพาะคนที่มีหน้าที่โดยตรงในการผลักดันโครงการนี้ให้สัมฤทธิ์ผลยิ่งห่างไกลเพราะสิ่งที่ขาดคือ "ความรับผิดชอบ"

นโยบาย 5 จอม ว่าด้วย  จอมล้ำ,จอมปาด,จอมขวาง,จอมย้อน และจอมปลอม โดยเฉพาะในหาดใหญ่ถือว่าไม่สัมฤทธิ์ผล เพราะเหตุอะไร?

ทั้งที่ 5 มาตรการไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องยากเย็นในการปฎิบัติ และถือเป็นเรื่องปกติของเจ้าพนักงานจราจรที่จะมีหน้าที่ดำเนินการตรวจตราดูแลอยู่แล้ว ดังนั้นจึงพอจะสรุปปัญหาที่มาตรการเหล่านี้ไม่ได้สนองตอบนโยบายของรัฐบาลคืออะไร?
คำตอบก็คือ  ทั้งคนใช้รถใช้ถนนและเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ ต่างยังไม่เข้าใจความหมายของคำว่า "บ้านเรา" ได้อย่างลึกซึ้ง

เพราะถ้าเราคิดว่า เมื่อ "หาดใหญ่" คือบ้านของเรา  ไม่ว่าใครจะมีหน้าที่อย่างไรก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้บ้านของตัวเองเป็นบ้านที่มี "คุณค่า"

การแก้ไขปัญหาและทำให้ 5 จอม ประสบผลสำเร็จจึงเป็นเรื่องของ "คนบ้านเรา" และที่สำคัญ "ตำรวจบ้านเรา" จะต้องทำกันเอง

คนบ้านเราประกอบด้วย  พ่อค้าแม่ขาย..ข้าราชการประจำ..นักเรียน,นักศึกษา นักธุรกิจ ฯลฯ และรวมไปถึง เจ้าพนักงานจราจรที่รู้สึกว่านี่คือ "บ้านของเรา" 


[attach=2]

ผมเชื่อว่าการบังคับใช้กฎหมายโดยเฉพาะเรื่องวินัยจราจรในเมืองขนาดกลางถึงเล็กนั้น..สู้การชี้โทษและตักเตือนด้วยเมตตาไม่ได้

เจ้านายบางท่าน ..อาจคิดว่า ตัวเองไม่ใช่คนบ้านนี้...วันดีคืนดี ก็ถูกสั่งย้ายไปโน่นนี่  จะทำดีไปเพื่ออะไร  ..อยู่แบบชั่วไม่มี ..ดีไม่ปรากฏก็ ..โอแล้ว

เมื่อหัวมีแนวคิดเช่นนี้....ลูกน้องอย่าไปหวัง เพราะลำพังแค่ดูนาฬิกาออกเวรก็เครียดจะแย่ ..ดังนั้น จะมานั่งไล่จับ..ไล่แก้ปัญหาจราจร แบบ "เอาโล่ห์" คงไม่ใช่

[attach=3]

ถ้าสติและวิถีชีวิตนำพาให้ท่าน ๆ เกิดมีแนวคิดแบบนี้... ผมขอวิงวอนว่า  นี่ยังไม่ช้าเกินไป

จะดีมั้ย...ถ้าจะเกิดมิติใหม่...และสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นในหาดใหญ่ เมื่อจราจรหาดใหญ่ท่านใดที่สำนึกในใจว่า "เฮ้ย..หาดใหญ่เป็นบ้านของเรานี่หว่า....."

บางทีเราจะเห็น  พลตำรวจ..จ่า...ดาบตำรวจ ..หรือแม้กระทั่ง ร้อยตำรวจตรีที่ได้รับเกียรติติดดาวในวัยใกล้เกษียณ กล้าหาญท้าแดดร้อนเดินออกมาจากป้อมแอร์เย็นฉ่ำ ....ไปชี้  ไปนำ ไปสอนสั่งลูกหลานหาดใหญ่ ด้วยเมตตาว่า   น้องคะ..พี่ครับ ตรงนี้อย่าล้ำนะ...คันนั้นเลยเส้นหยุด..ถอยไปอีกนิด  ...คนนี้ดีมาก....เออ ไอหนุทำตัวอย่างดีนะ  ..ป้า  ๆ อย่าย้อนศร อันตรายไม่ดี เที่ยวนี้ให้..เที่ยวหน้าหมดอภัย ฯลฯ 


[attach=4]

สารัตถะเรื่องดี ที่ พี่ๆ  หรือ ลุงน้าจราจรหาดใหญ่จะทำให้แก่ลูกหลานตัวเอง ด้วยเมตตา...

ไม่ต้องขู่...ไม่มีกร่าง...ใบสั่งไม่ต้องใช้ แต่ใช้เมตตาเป็นตัวเชื่อม และทำให้ลูกหลานเห็น..ให้มันรัก..รู้สึกสงสารและเข้าใจ ...ร้อนหน่อย..ตัวดำนิด เดินตรวจยิก ๆ ไล่ตามเส้นจอด..เส้นหยุด โบกซ้ายขวา  เอ็งล้ำมานิด...เฮ้ย ..อย่าปาดขึ้นสะพานลอยแบบนั้นมันไม่ดี...เฮียอย่าจอดรถกางหลางแบบนี้ เด็กเห็นมันจะเป็นตัวอย่างไม่สวย ฯลฯ หลากหลายศิลปะที่ไม่ได้ค่าปรับแต่คุ้มกว่าเพราะได้คำขอบคุณ,รอยยิ้มและพุ่มมือไหว้อย่างสำนึกและจดจำ....

ถ้าเราทำด้วยจิตที่มุ่งให้เมืองที่อยู่อาศัยกลายเป็น "บ้าน" สุดท้าย ปัญหา 5 จอม แค่เรื่อง "ประติ๋ว"

สัมพันธภาพระหว่างประชาชนกับจราจรที่มี "บ้าน" หลังเดียวกัน จะส่งผลให้ จราจรดีดีของหาดใหญ่ จะไม่มีวันลืมเลือนไปจากความทรงจำของคนหาดใหญ่

เรื่องราวจดจำดี ๆ  สร้างได้....ถ้าเราคิดจะทำ

ยศฐาบรรดาเกียรติ ...ตายไป  ยังไม่รุ้ว่าจะได้กลับมาเกิดอีกหรือไม่
เงินทองสั่งสมล้นห้อง....จู่ ๆ หน้ามืดหมดกรรม ทั้ง ๆที่เงินยังกำไว้ไม่ได้ใช้ ก็มีเยอะ


นายคนไหนจะย้ายมา..เค้าไม่สนว่าเมืองนี้เป็นบ้านของเค้าก็ช่าง..เราทำของเรา  เพราะความหวังอยู่ที่ประชาชนและตำรวจที่เป็นคนที่รุ้ว่าที่ไหนคือ "บ้านของตัวเอง"

ผมเชื่อว่า  ...ถ้า ท่านร้อยตำรวจ..จ่า..ดาบ..ที่ได้อ่านเรื่องนี้   ไม่แน่พรุ่งอาจมีเรื่องดี  ๆ เกิดขึ้นที่หาดใหญ่ให้เห็น
อย่าลืมว่า...............แค่ "เปลี่ยนวิธีคิด...ชีวิตก็เปลี่ยนแล้ว"   

จริง  ๆ นะครับ


..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

แมวคราว

เคยลองจับจริงดูซักครั้งบ้างรึยัง ที่ผ่านมาปล่อยปละ ละเลยมาตลอด กฏมมายไม่ได้สร้างมาเพื่อควบคุมคนที่อยู่ในกรอบ แต่เพื่อบังคับให้คนที่ออกนอกกรอบกลับเข้ามาในกรอบ ถ้าตำรวจจับจริง บ้านเราก็จะเป็นระเบียบเรียบร้อยแน่นอน แต่ที่ผ่านๆ มาตั้งแต่ก่อตั้งกรมตำรวจ ยันสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่เคยปฏิบัติจริงจังซักครั้ง
ถามว่าตำรวจจราจรหาดใหญ่กร่างมั้ย ตอบได้เลย "ไม่ หลายท่านอํธยาศัยดี" แต่ปัญหาที่สำคัญคือไม่กล้าที่จะบังคับใช้กฏหมาย ไม่งั้นคงไม่มีเด็กแว๊นซ์เต็มเมือง 555
ส่วนกระทู้ปฏิรูปการใช้ถนน บอกตรงๆ ว่าคนน้อย ซึ่งคนที่เข้าร่วมคือคนส่วนน้อย ไม่ค่อย หรือไม่เคยสร้างปัญหาด้านจราจรอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ใช่ทางออก
ทางออกคือการบังคับใช้กฏหมายอย่างเคร่งครัด และเท่าเทียม
ปล. เริ่มจากไปเคลียร์เด็กแว๊นซ์ตรงเส้นศรีภูวนารถก่อนเลย ก๊ากๆๆ มั่นใจว่าไม่กล้าแน่นวล  ส.หลกจริง

Mr.No


นี่คือตัวอย่างของการรักษาสิทธิของคนเดินเท้า...กับกรณีทางม้าลาย   คนขับรถคงเข้าใจแล้วว่า เวลาที่ตัวเองถูกละเมิดสิทธิหรือถูกคนอื่นเค้าขวาง จะรู้สึกอย่างไร...
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

ฟานดี้

..เห็นด้วนครับ..ฝึกให้มีระเบียบวินัย..ขอแค่สักครึ่ง
ของชาวญี่ปุ่นก็พอ..
  ส-เหอเหอ

กิมหยง

อ้างจาก: Mr.No เมื่อ 05:35 น.  19 พ.ย 57

นี่คือตัวอย่างของการรักษาสิทธิของคนเดินเท้า...กับกรณีทางม้าลาย   คนขับรถคงเข้าใจแล้วว่า เวลาที่ตัวเองถูกละเมิดสิทธิหรือถูกคนอื่นเค้าขวาง จะรู้สึกอย่างไร...

ดีครับ เรียกร้องสิทธิแบบนี้น่าสนับสนุนครับ
สร้าง & ฟื้นฟู