กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

ที่มา : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งให้พลตำรวจโทพงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ และนายตำรวจอีก 5 นายออกจากราชการไว้ก่อน

พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่ง ตร.ที่ 632/2557 ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2557 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน โดยมีรายละเอียดให้พลตำรวจโทพงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ปฏิบัติราชการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ / พลตำรวจตรีโกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ปฏิบัติราชการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ /

พลตำรวจตรีบุญสืบ ไพรเถื่อน ผู้บังคับการตำรวจน้ำ ปฏิบัติราชการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ / พันตำรวจเอกวุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค / ดาบตำรวจสุรศักดิ์ จันทร์เงา ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการคอมมานโด กองปราบปราม และดาบตำรวจฉัตรินทร์ เหล่าทอง ผู้บังคับหมู่กองกำกับการคอมมานโด กองปราบปราม ออกจากราชการไว้ก่อน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งทั้งหมดมีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ( ก.ตร.) ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ภายใน 30 วัน คาดว่าในวันพรุ่งนี้ (24 พ.ย.2557) จะมีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับนายตำรวจทั้ง 6 นายด้วย

  ไม่น่าเลย ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าทำ....

เป็นความโง่เขลาเบาปัญญาของผู้ต้องหาครับ ปรกติคนอาชีพนี้จะมีหน้าที่"สืบหาผู้ทำผิดกฏหมาย"เป็นงานหลัก ฉะนั้นย่อมมีข้อมูลผู้ทำผิดอยู่ในมือมหาศาล ตั้งแต่คดีมโนสาเร่ จนถึงคดีร้ายแรงเป็นภัยต่อชาติ ไม่ว่าจะเป็นเบื้องหน้าเบื้องหลังนักการเมือง ข้าราชการ นักธุรกิจและปชช.ทั่วไป คนอาชีพจะรู้หมดและติดตามเคลื่อนไหวเพื่อจับกุมมารับโทษ
แล้วตัวเองมาทำผิดเสียเองโดยคิดว่าไม่มีใครรู้ ไม่มีใครจับได้งั้นหรือ?ถือว่าโง่บัดซบ สมควรรับโทษหนักเป็น2เท่า
เท่านั้นยังไม่พอ ผู้ต้องหากลุ่มนี้ยังทำผิดมหันต์ด้วยความเหิมเกริมและบังอาจแอบอ้างบุคคลชั้นสูงไปเรียกรับประโยชน์จากคนทำผิดกฏหมายให้ตัวเองและพวกพ้อง ไม่น่าเชื่อว่าคนระดับนายพลจะหาญกล้าถึงเพียงนี้ โทษประหารยังน้อยไปครับ
แต่ละข้อหาที่นายพล พ.กับพวกถูกระบุในความผิด นอกจากหมิ่นเบื้องสูงอย่างร้ายแรงแล้ว ยังมีข้อหาที่หนักไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันคือ"เรียกรับประโยชน์จากผู้ค้าน้ำมันเถื่อนภาคใต้"ซึ่งในวงการย่อมรู้ดีว่าคือ"เสี่ยจ.ปัตตานี"เงินที่"เสียจ.ปัตตานี"ได้กำไรจากการค้าน้ำมันเถื่อนส่วนหนึ่งเอามาประเคนให้แก๊งนายพล พ.เดือนละหลายสิบล้าน
ส่วนหนึ่งเอาไปสนับสนุน"โจรมุสลิมก่อการร้ายภาคใต้"เพื่อให้ช่วยคุ้มครองธุรกิจค้าน้ำมันเถื่อนและธุรกิจผิดกฏหมายอื่นๆ เท่ากับ"เสียจ.ปัตตานี"เป็นผู้สนับสนุนโจรใต้โดยตรง
แก๊งนายพล พ.รับเงินจาก"เสียจ.ปัตตานี"เท่ากับสนับสนุนโจรใต้ทางอ้อม เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง กลับให้การสนันสนุนผู้ก่อการร้ายซึ่งเป็นภัยต่อชาติบ้านเมือง ข้อหานี้ แม้รับโทษประหารไปแล้ว สมควรเอาศพมาโยนให้แร้งกินอีกรอบ
ถึงแม้ยังไม่มีการตัดสินว่าผิดหรือไม่ผิด แต่ตามพยานหลักฐานที่ทางสนง.ตำรวจนำมาแถลง ประชาชนทั่วไปย่อมลงความเห็นได้โดยอัตโนมัติ
สิ่งที่น่าติดตามแบบอย่ากระพริบตาสำหรับคดีนี้ คือ ผู้ต้องหามีเพียงเท่านี้หรือ? ใหญ่กว่านี้มีอีกไหม?