กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

โดย สำนักข่าวไทย http://www.tnamcot.com/

กรุงเทพฯ 6 ม.ค. – รอวัดใจ กบง.7 ม.ค.จะลดราคาแอลพีจีหรือไม่ สนพ.ยอมรับปัญหาเพิ่มพัลวันกับน้ำมันจากการขึ้นภาษีดีเซลที่กรมสรรพสามิตตีความเก็บภาษีน้ำมันย้อนหลังในสตอกอาจทำให้กองทุนน้ำมันฯ ต้องจ่ายภาษีแทนเอกชน 2,000-3,000 ล้านบาท

นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) กล่าวว่า จากราคาแอลพีจีตลาดโลกที่ร่วงลงมาเหลือประมาณ 425 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ทางผู้บริโภคคาดหวังว่ากระทรวงพลังงาน โดยเฉพาะการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันพรุ่งนี้ (7 ม.ค.) น่าจะปรับลดราคาแนะนำแอลพีจี ขายปลีก จาก 24.16 บาท/กก. ลงมาบ้าง เพื่อสะท้อนราคาต้นทุนตามน้ำมันอย่างแท้จริง

ด้านนายชวลิต พิชาลัย ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจนว่าราคาแอลพีจีขายปลีกจะลดลงหรือไม่ ต้องให้ กบง.ตัดสิน ใจ เพราะราคาต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย รวมถึงเป้าหมายที่จะให้มีวงเงิน กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหมาะสมเพียงพอในการดูแลรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันในอนาคต

นายชวลิต กล่าวว่า ปัจจุบันเงินกองทุนน้ำมันมีประมาณ 15,000 ล้านบาท แต่อาจจะต้องมีรายจ่ายเพิ่มถึง 2,000-3,000 ล้านบาท หากมีการจ่ายภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลคงค้างตามที่กรมสรรพสามิตระบุ ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับโครงสร้างราคาพลังงานเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2557 ที่ ครม.เห็นชอบตามมติ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่ให้ลดเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและเก็บภาษีสรรพสามิตเพิ่ม 2.50 บาท/ลิตร ทำให้ภาษีดีเซลขยับจาก 0.75 บาทเป็น 3.25 บาท/ลิตร

ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตตีความว่าน้ำมันคงค้างของผู้ค้าน้ำมันและโรงกลั่นน้ำมันในสตอกต่าง ๆ ถือเป็นน้ำมันเพื่อการผลิต ไม่ว่าจะเก็บไว้นานเพียงใด จะต้องเสียภาษีในอัตราใหม่ทั้งหมด ทำให้ผู้ประกอบการเดือดร้อนจากนโยบายรัฐบาลทันที เช่น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะต้องเสียภาษีถึงประมาณ 1,724 ล้านบาท หากรวมทั้งระบบทุกรายแล้วภาษีตรงนี้อาจมากถึง 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งเอกชนเสนอให้กระทรวงพลังงานพิจารณาช่วยเหลือ โดยให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปจ่ายภาษีทดแทน ซึ่งคงต้องให้ กบง.ตัดสินใจ

"ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับกรมสรรพสามิตที่จะไปเรียกเก็บภาษีน้ำมันในสตอก ถือว่าเป็นการเก็บย้อนหลัง เพราะที่ผ่านมาเอกชนเสียภาษีและปฏิบัติตามนโยบายรัฐ จึงไม่ควรจะเดือดร้อน การตีความทางกฏหมายควรสร้างความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย การโยกเงินกองทุนเป็นภาษี ก็เพื่อให้ผู้บริโภคไม่เดือดร้อนและรัฐได้รายได้เพิ่ม ไม่คิดว่าจะเกิดปัญหาตามมา หากจะคิดภาษีเพิ่มควรคิดเฉพาะวันเปลี่ยนภาษีเท่านั้นคำนวณจากยอดใช้ดีเซล 60 ล้านลิตร/วัน เป็นเงิน 150 ล้านบาทไม่ใช้ไปเก็บจากสตอกทั้งหมด" นายชวลิต กล่าว. – สำนักข่าวไทย