ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เรื่องจริงใน3จว.ภาคใต้

เริ่มโดย เด็กป้อมหก, 16:13 น. 11 ต.ค 54

เด็กป้อมหก

เมื่อวันอาทิตย์ผมเดินทางไปร่วมงานศพผู้ใหญ่ที่อ.สุไหงโก-ลค(ไฟท์บังคับ) ทีแรกว่าจะนั่งรถไฟหรือรถตู้ไป พรรคพวกหลายคนบอกให้ขับรถไปเองสะดวกกว่า แต่ต้องเช็ครถให้พร้อม คิดหนักเหมือนกันครับ รถน่ะพร้อม100%ขับไปเชียงไหม่ยังสบายๆ แต่ไปทางนี้กลัวอย่างเดียวคือ"ยางรั่วกลางทาง"ถ้ายางรั่วยุ่งแน่ แต่ก็ยอมตัดสินใจขับรถไป....คนเดียว นอกจากเช็ครถให้พร้อมแล้ว ผมยังจดเบอร์โทรโรงพักของทุกอำเภอและหน่วยงานสารพัดเตรียมไว้เรียบร้อย ยังกะจะผ่านไปสมรภูมิอัฟกานิสถานก็ว่าได้
ผมไม่ได้ไปแถวนั้นเป็นเวลา20ปีมาแล้ว ได้แต่ฟังข่าวจากเพื่อนฝูงที่ยังทำงานในพื้นที่(ไปไหนไม่รอด)พอได้ไปเห็นกับตาจริงๆจึงไม่อยากให้เสียเวลาเปล่าๆ หาเวลาไปเยี่ยมเยียนคนรู้จักคนละนิดละหน่อย ถามในสิ่งที่อยากรู้อยากเห็น ใช้เวลาไปทั้งหมด2คืน3วัน ได้อะไรมาเยอะแยะ...ที่เคยคาดเดาไว้ถูกต้องหมด และยังมีเกินกว่าที่คาดคิดไว้เยอะแยะ
ขอสรุปก่อนเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังว่า...ต้องการแบ่งแยกดินแดนเป็นเรื่องหลัก ที่เหลือเป็นส่วนประกอบรายการ
เดี๋ยวจะมาทะยอยบอกกล่าวเรื่องราวทั้งหมดให้รับทราบ ขอเวลาไปทำงานส่วนตัวก่อนครับ ให้ดูรูปที่1แล้วพิจารณาเอาเองว่าบ้านเราตอนนี้กับอัฟกานิสถานใครจะน่ากลัวกว่า?

เด็กป้อมหก

ในภาพแรกจะเห็นป้อมทหารและบังเกอร์ตั้งเพื่อตรวจหรือเพื่ออะไรก็แล้วแต่ มีเป็นระยะๆเริ่มจากจะนะเรื่อยไปจนถึงสุไหงโก-ลค เท่าที่สังเกตุน้องๆทหารที่มาประจำตามป้อมเหมือนจะ"ชิน"กับหน้าที่ที่ต้องทำซ้ำๆแบบนี้ทั้งวันและหลายๆวัน ถ้าจะเทียบก็เหมือน"หุ่นยนต์"คือพอรถมาถึงจะมีทหารเดินออกมาดักหน้ารถด้านซ้าย1นาย ด้านคนขับ1นาย บางป้อมก็ให้ลดกระจกลง บางป้อมไม่ต้องลดกระจก บางป้อมนั่งดูในบังเกอร์ไม่ต้องจอดให้ตรวจ
ในภาพแรกจะเห็นมอเตอร์ไซค์นั่งซ้อนกันมา ผมขับตามหลังเดาว่าต้องถูกเรียกตรวจแน่นอน แต่เห็นขับผ่านไปเฉยเลย ผมเดาผิด แต่คันของผมถูกเรียกให้หยุดแล้วมองเข้ามาในรถแล้วก็ให้ผ่านไปได้ แต่....ถ้ามอเตอร์ไซค์คันนี้ขับตามหลังผมคงจะเสียวหัวใจหดเหลือเท่าเม็ดถั่วเขียวแน่ๆ
ตลอดระยะทางจากหาดใหญ่ถึงสุไหงโก-ลค(ประมาณ300กม.)นอกจากป้อมและบังเกอร์แล้ว ช่วงระยะทิ้งห่างชุมชนจะมีน้องๆทหารอาวุธครบมือยืนเป็นระยะๆทั้ง2ข้างทาง ยืนเดี่ยวๆก็มี ยืนเป็นกลุ่ม2-3นายก็มี
พอไปถึงตัวเมืองสุไหงโก-ลครู้สึกเหมือนคัดจมูกอย่างแรงแล้วได้ดม"วาเป๊กซ์" มันโล่งหายใจสะดวกเหลือเกิน ก่อนเข้าไปคารวะศพผมยังพอมีเวลาเดินเก็บภาพจุดที่โดนระเบิดเมือเดือนก่อน เป็นถนนแคบๆสายสั้นๆยาวประมาณ80เมตรเอง โดนไปตั้ง3ลูก บ้านที่โดนเต็มๆยังไม่ซ่อมก็มี ที่พังนิดหน่อยรีบซ่อมเพื่อทำมาหากินต่อก็มี ส่วนถนนสายอื่นๆสภาพร้านค้าเกือบทั้งหมดที่เปิดขายและผู้คนสัญจรน้อยจนจัดว่า"เงียบเหงา"ครับ ร้านอาหารที่ผมไปนั่งกินบอกว่าปรกติวันอาทิตย์ชาวมาเลย์จะเข้ามาเยอะเหมือนหาดใหญ่ ตั้งแต่โดนระเบิด3ลูกและมีคนมาเลย์ตายหลายคนเมืองนี้เงียบแม้แต่รถราก็วิ่งกันน้อยมาก นี่เป็นครั้งแรกที่ผมขับรถมาเมืองนี้ เห็นถนนที่คับแคบขนาดรถเก๋งแทบจะสวนกันไม่ได้ ขับไปไม่กี่เมตรเจอ4แยก เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาไม่กี่เมตรเจอ4แยก น่าจะเป็นเมืองที่"แยกแยะ"ที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศไทย ถ้ามองจากฟ้าลงมาคงจะเหมือน"ขนมพิมพ์"หรือ"วาฟเฟิล"ยังไงยังงั้น ผมจึงไม่กล้าขับเร็ว พอเห็นแยกข้างหน้าต้องชะลอรถกลัวจะมีรถวิ่งผ่านหน้า แต่กลับเจอไม่กี่คัน มันเงียบจริงๆด้วย ใจหนึ่งอยากใช้เวลาให้คุ้มค่าด้วยการเดินๆๆๆๆๆสำรวจเมือง แต่ใจหนึ่งยอมรับว่ากลัวครับ ผมขับผ่านหน้าสถานีรถไฟเห็นโรงแรมชื่อดัง"เกนติ้ง"หน้าโรงแรมมีคิวรถตู้จอดกันเต็มพรึด มองไปที่ประตูทางเข้าโรงแรมเห็นแต่พวกรถรับจ้างจับกลุ่มเล่นหมากฮอสบ้างก็คุยเฮฮา มองไม่เห็นแขกเดินเข้าออกเลย
ตอนไปถึงราวๆ8โมงกว่าผมพยายามถามคนท้องที่เรื่องร้านอาหารอร่อยๆ เขานึกถึงร้านนั้นร้านนี้แล้วบอกว่า"ปิด"หมดเลยต้องใช้วิธีขับวนหาเอาเอง ไปเจอร้านข้าวมันไก่ชื่อร้าน"1000%"รีบลงไปโซ้ยทันที อร่อยเข้าขั้นครับ เทียบได้กับ"มุ่ยกี่"ของหาดใหญ่เลยแหละ มารู้ทีหลังว่าร้านนี้ระดับแนวหน้าของที่นี่เชียวนะ แต่คนเข้าร้านน้อยอย่างไม่น่าเชื่อ
พิธีเคลื่อนศพจะทำกันตอนบ่ายโมง ผมชักเสียวท้องน้อยล่วงหน้าเพราะขบวนจะต้องเคลื่อนไปบนถนนสายที่โดนระเบิดเมื่อเดือนก่อน แม้จะมีทหารและตำรวจยืนคุ้มกันตลอดทาง อีกทั้งระยะทางไปวัดต้องผ่านถนนแคบๆไปอีกหลายแยก รวมแล้วเป็นกิโล เอาไงดี?ผมตัดสินใจให้ขบวนศพล่วงหน้าไปก่ิอนครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยขับรถตามไป ต้องขอชมน้ำใจผู้มาร่วมงานศพ ล้นหลามจนเกินเก้าอี้ที่นั่ง แม้เหตุการณ์ไม่ปรกติแต่น้ำใจยังปรกติกันทุกท่าน หลายๆคนต้องเดินทางผ่า่นหมู่บ้านแนวร่วมโจรใต้ เสร็จงานก็ต้องกลับทางเดิม ยกย่องในน้ำใจพวกเขาจริงๆ

เด็กป้อมหก

ระหว่างนั่งรอพิธีในงานศพ ได้เจอเพื่อนๆที่ทำงานในพื้นทีเรียงลำดับเหตุการณ์ให้ฟัง หลายๆคนยอมขายสมบัติหนีไปอยู่ที่อื่น บางคนโดนเพื่อนๆด่าว่าโง่ขายให้พวกมันทำไม? พอโดนย้อนกลับ"กูไม่ขายมันแล้วหมาที่ไหนจะมาซื้อวะ" ต่อมาคนที่เคยด่าคนอื่นก็ต้องทำแบบเดียวกัน คือขายให้พวกมันแล้วรีบหนีไปอยู่ที่อื่น ที่ยังอยู่ก็รอเวลาเออลี่บ้าง รอให้อายุงานครบตามหลักเกณฑ์ราชการบ้าง บางคนรอจนตัวตายก็มี ผมถามถึงชีวิตประจำวันตั้งแต่เช้าถึงเข้านอน พวกเขาบอกว่าบางวันกลางวันคือกลางคืน(นอน)กลางคืนคือกลางวัน(เฝ้าระวัง)กินเท่าที่หาได้ ไปไหนมาไหนต้องพยายามสลับเวลาและเส้นทาง ถึงจะมีทหารคอยคุ้มกันก็จริง บางครั้งทหารเองก็ไม่รอด แล้วเราจะรอดหรือ?เพื่อนบางคนทำเรื่องระทึกใจให้เป็นเรื่องขำขัน มันบอกว่า"อยู่ที่นี่เงินเหลือทุกเดือนเพราะแทบไม่ได้ใช้เลย"คนที่มีลูกเล็กๆกำลังกินกำลังเรียนและมีคนแก่อยู่เฝ้าบ้าน ตื่นเช้ามาต้องจัดการเรื่องในบ้านให้เรียบร้อยก่อนแล้วแยกย้ายกันไปคนละทาง ตกเย็นต้องหาซื้ออาหารเข้า้บ้าน ทำแบบนี้จนเป็นกิจวัตรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ บางคนถูกดักยิงเพราะกิจวัตรแบบนี้
เพื่อนผู้หญิงอีกคนพ่อแม่และสามีเสียชีวิตหมดแล้ว ลูกทำงานอยู่กรุงเทพตัวเองไปอยู่สงขลา แต่บ้านยังอยู่ใน3จว.ภาคใต้ อยากจะติดป้ายบอกขายก็กลัวโดนขู่ เพราะเพื่อนของเธอโดนมาแล้ว ปิดประกาศขายบ้านหลังจากนั้นไม่กี่วันมีคนโทรมาข่มขู่บีบให้ขายถูกๆ ถ้าเป็นจังหวัดอื่นต้องแจ้งความ แต่สำหรับพื้นที่นี้กฏหมายแทบจะช่วยไม่ได้เลย เธอเลยใช้วิธีบอกปากต่อปากเป็นการภายใน แม้จะรู้ว่าในที่สุดผู้ซื้อก็คือ"พวกมัน"นั่นเอง นี่คือแผนการอับแยบยลที่ถูกจัดวางมาอย่างเป็นระบบ...และได้ผล จนปัจจุบันนี้ในทุกอำเภอคนศาสนาอื่นค่อยๆขายบ้านหนีไปเรื่อยๆ บางอำเภอเหลือไม่ถึง10%ด้วยซ้ำ ยิ่งตามหมู่บ้านแทบจะหาคนของเราไม่ได้เลยแม้แต่คนเดียว แผ่นดินไทยแต่คนไทยต้องทิ้งแผ่นดิน ทีแรกพรรคพวกคิดกันว่าถ้าพวกมันจะกว้านซื้อได้ทั้งหมดจริงๆต้องใช้เวลาเป็น100ปี ซึ่งก็คือ"เป็นไปไม่ได้"เพราะลำพังคนพวกนี้วันๆไม่ทำมาหากินอะไรจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อได้ ยิ่งหวังจากรายได้ยางพาราอย่างเดียวก็ยังยาก แต่ถึงตอนนี้ยอมรับกันแล้วว่าใช้เวลาไม่เกิน10ปีหรือภายในพ.ศ.2564แผ่นดินนี้ตกเป็นของพวกมันทั้งหมดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คำถามคือพวกมันเอาเงินมาจากไหนมากมายมหาศาลและรวดเร็วเหลือเชื่อ?พอได้ยินได้ฟังแล้วจะเจ็บใจหรือจะเศร้าใจดีล่ะครับ?
เสร็จงานผมออกจากสุไหงโก-ลคทันทีโดยไม่รอให้ฟ้ามืด เพื่อนคนอื่นๆก็แยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง เรียกว่ามากันเกือบทุกอำเภอใน3จว.ภาคใต้เลยทีเดียว ด้วยความไม่ประมาทพวกเรานัดโทรหากันเป็นระยะๆ เผื่อว่าจะเจอเรื่องไม่คาดคิด แล้วก็เจอจริงๆเมื่อรถออกทางเลี่ยงเมืองนราธิวาสจะเข้าปัตตานี(เขตสายบุรี)ช่วงนั้น4โมงกว่าๆ มีกลุ่มวัยรุ่นนับร้อยคนยืนอยู่ริมทางด้านซ้ายและขวาเป็นช่วงๆ ผมคิดถึง"เรือใบ"ทันทีกลัวว่าพวกมันจะคึกคะนองเอามาโปรยเล่น เหลือบตามองทั้งที่รถก็วิ่งเร็วไม่ชะลอเลย ตอนนั้นถ้ามีใครวิ่งตัดหน้ารถ...ชนอย่างเดียว แล้วรีบหนีไปหาป้อมทหารข้างหน้า ไ่ม่จอดเด็ดขาดเป็นไรเป็นกัน คิดไว้ตั้งแต่ตอนขามาแล้ว ผมดูหน้าปัทม์เข็มชี้ไปที่140-150พอผ่านกลุ่มวัยรุ่นพวกมันส่งเสียงโห่ไล่หลังเรา แต่ไม่มีอะไรตามมาค่อยโล่งใจ หลังจากนั้นก็เจอรถป้ายกรุงเทพขับชนมอเตอร์ไซค์มีรถพยาบาลและรถทหารจอดดูแลอยู่ จนกระทั่งถึงที่หมายโดยสวัสดี
ภาพนี้ที่แยก"ปาลัส"จะเห็นรถจอดชิดเกาะกลางอย่างท้าทายทั้ง2ฝั่ง ผมเห็นตั้งแต่ขามาแล้ว ทีแรกคิดว่าเป็นตลาดนัด ที่ไหนได้เขาจอดกันแบบนี้มานานแล้ว ถามว่าถ้าขับรถมาถึงจุดนี้ต้องชะลอทุกคัน เกิดอะไรขึ้นจะป้องกันได้ไหม?กฏหมายใช้ไม่ได้ผลสำหรับพื้นที่นี้ แล้วจะมีรัฐธรรมนูญไว้ทำ....อะไร?

เด็กป้อมหก

ภาพรถที่จอดชิดเกาะกลาง ก่อนจะเดินทางมาเพื่อนที่อยู่ตัวเมืองนราธิวาสโทรบอกล่วงหน้าแล้วว่าจะเจอแบบนี้ที่ไหนบ้าง?ให้เรารู้ตัวอย่าขับเร็ว อีกที่แถวๆสายบุรีแต่เห็นเฉพาะขามา ขากลับไม่เห็นครับ

Mr.No

ผมเองก็เกือบสิบปีแล้วที่ไม่ได้มีโอกาสไปไกลกว่า เทพา เลย  ส.หัว 

เห็นภาพ ปาลัส ดูแล้วเปลี่ยนไปเหมือนกัน...ตึกรามมากขึ้น

อ่านที่คุณ เด็กป้อมหก บรรยายแล้ว... บอกได้สั้น ๆ ว่า .. "เสียดาย" และ "คิดถึงอดีต" มาก ส.แย่จัง
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

เด็กป้อมหก

ถึงแม้ผมจะไม่ได้เหยียบแผ่นดินเกิดมานานแล้ว แต่จากการติดตามข่าวมาตลอดหลายปีโดยไม่เว้นว่างเลย ประกอบกับได้ยินจากปากเพื่อนๆทุกสายงานที่อยู่ในพื้นที่ ถือว่าเป็นข้อมูลจริงเชื่อถือได้ ให้ผมสรุปแบบรอบคอบแต่รวดเร็ว
แผ่นดินส่วนนี้ตอนนี้ถือว่าเสียไปแล้วโดยสิ้นเชิง และไม่ต้องสะเออะคิดจะเอาคืน ให้ระวังส่วนต่อไปคือ"เมืองหาดใหญ่"และต่อจากนั้นดีกว่าครับ
เปรียบให้เห็นในเกมฟุตบอล เหมือนไทยแข่งกับบราซิลและโดนยิงนำไปแล้ว5:0 ยังหวังว่าจะชนะอีกหรือ? เล่นประคองตัวอย่าให้เสียประตูมากกว่านี้ นั่นคือหนทางที่เป็นไปได้ที่สุด

ล่มสลาย

"


....เมื่อไรจะมีรัฐบาลที่ทำให้เรื่องสงบเรียบร้อยได้...

..ชาติหน้าน่ะ มีใหม..?

...หรือว่า ไม่มี...เคยมีคนบอกว่า ..

...ถ้าทำไม่ได้ ก็ยกให้เขาไปเรยยยยยยยยยยยยย ส-ดีใจ ส-เหอเหอ ส.โกรธอย่างแรง

อคติ


ถนนแปลกแยก

โถคุณไปใหม่ๆก็แบบนี้แหละ กลัวไปหมดแต่ถ้าต้องไปแถวนั้นบ่อยแบบผม มะต้องคิดอะไรมากเหยีบมิดอย่างเดียว ไปให้เช้ากลับให้เร็ว เดี๋ยวนี้ชินแล้ว(รึว่าปลงก็มะรุนะ) แต่ว่าก็ว่าเดี๋ยวนี้ขับรถถึงหาดใหญ่แล้วยังคิดว่าอยู่แถวๆปัตตานีอยู่เลยด้วยความที่พี่น้อง3จังหวัดย้ายมาอยู่กันมาก

เด็กป้อมหก

หนึ่งในปัญหาคาราคาซังแก้ไม่ตกก็เพราะฝ่ายเรามองโลกในแง่ดีมาตลอด จนเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง หารู้ไม่ว่านี่คือช่องโหว่ที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามได้เปรียบทั้งวันนี้และวันหน้า ยกตัวอย่างการส่งน้องๆทหารเข้าไปประจำตามหมู่บ้านนอกเมือง เด็กพวกนี้เกือบทั้งหมดเพิ่งมาเป็นครั้งแรก เหมือนปล่อยลูกแกะเข้าฝูงหมาป่า รู้อย่างเดียวคือทฤษฏีการรบ(ไม่เคยรบจริง)วิชารักษาชีวิตให้รอดจึง"เป็นศูนย์"คือไม่รู้เลย มาใหม่ๆไร้เดียงสาชาวบ้านยิ้มแย้มต้อนรับให้ข้าวให้น้ำ เกิดความไว้วางใจไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แล้วความประมาทก็ตามมา บางคนถูกฆ่าตายอย่างทารุณ หลายๆคนเคยนั่งดูข่าวพรรคพวกถูกฆ่าตายมาก่อนหน้านี้แล้วด้วยซ้ำ แล้ววันหนึ่งก็ถึงคิวของตัวเอง...จนได้
พูดเรื่อง3จว.ภาคใต้แล้วทำให้คิดถึงจอมเผด็จการในอดีตของประเทศไทย นายพลเหล่านั้นแม้ตายไปแล้วยังถูกประณามไม่ต่างจากผู้ร้าย แต่พอบ้านเมืองวิกฤติแบบนี้ "คนแบบพวกเขาเท่านั้นที่จะช่วยชาติได้"

โกฉอง

ผมเป็นคนใน 3จชต.โดยกำเนิด ปัญหาเหล่านี้จะแก้ไขได้ต้องถามคนที่อยู่ในพิ้นที่ จึงจะรู้ปัญหาที่แท้จริง และรู้ว่าควรแก้อย่างไร รู้นิสัยสันดานพวกนี้ดี ต้องทำยังไง ถามเถอะกับคนพื้นที่นั้นๆ แต่ต้องแอบๆถาม แอบๆบอกนะครับ ถ้าให้ออกทีวี ออกสื่อ จะไม่มีวันได้รับความจริง ใครๆก็กลัวตายทั้งนั้น จะหาเรื่องไปทำไม รัฐมนตรีฯ หรือผบ.ทบ หรือผู้มีอำนาจ ที่เดินทางมารับข้อมูล มาตรวจตรา มาเยี่ยมเยียนเยี่ยวยาอะไรต่อมิอะไรนั้น คิดจะแก้ไขปัญหาแต่ได้รับข้อมูลที่ไม่แท้จริงนั้น หลายปีมานี้ไม่เคยแก้ได้ก็เพราะอย่างนี้แหละ ไม่ว่ากี่รัฐบาลก็เหมือนเดิม ดังนั้นแล้ว แอบๆมา แอบๆถามชาวบ้าน อย่าให้ใครรู้ว่ากูคือ รมต.หรือ ผบ. หรือ ใครใหญ่แค่ใหน เดี๋ยวก็รู้เรื่องจริงเองแหละครับ...เท่านี้แหละ

Joke_EJ7

The man who never mistakes is the man who never do anythings.

''คนที่ไม่เคยทำอะไรผิด คือ คนที่ไม่เคยทำอะไรเลย''

อคติ

ข้อมูลไม่ถูกต้อง มีแต่จะเพิ่มความเกลียดชังและแตกแยก

คนหน้าวัด13

 ส-ดีใจ ส-ดีใจท่านวิ่งถนน สี่เลน ไม่ค่อยเสียวเท่าไหร่  ลองเข้า สองเลน จาก จังหวัดยะลา เข้าอำเภอรามัน

เข้าอำเภอรือเสาะ เข้าอำเภอระแงะ เข้าอำเภอสุไหงปาดี ช่วงนี้ผ่านเขตอำเภอเจาะไอร้อง และเขาอำเภอสุไหงโก ลก

ถนนสองเลน ได้ความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง ธรรมชาติดีมาก  ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้
วิญญาณ ปู่ ย่า ตา ยาย จะ ร่ำไห้ เพราะ ลูก หลานจัญไร

เด็กป้อมหก

(ไม่รู้ข้อมูลนี้ถูกต้องไหม?ถ้าผิดพลาดผมรับเอง...เต็มๆ)
ใครที่มีหน้าที่มาแก้ปัญหา3จว.ภาคใต้ ต้องศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ของมุสลิมแถวนี้ให้เข้าใจถี่ถ้วนก่อน ไม่ใช่อวดเก่งทะเร่อทะร่ามา พอทำแล้วล้มเหลว เสียเวลาเสียโอกาสเสียงบประมาณเสียชีวิตบุคคลากรและเสียค่าโง่ แต่บางคนกลับได้ดิบได้ดีได้เลือนยศเลือนตำแหน่ง ทั้งที่ทำงานไม่ได้ผล
อันมุสลิมใน3จว.ภาคใต้ จะไม่เหมือนกับมุสลิมในจังหวัดอื่นๆ(ตรงนี้ต้องจำให้ขึ้นใจ) ที่นี่เขาจะทำตามความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ทุกอย่างที่เขาปฏิบัติคือความถูกต้องทั้งหมด ยกตัวอย่างนิดๆหน่อยๆเช่นห้ามคุมกำเนิด ห้ามเล่นดนตรีห้้ามฟังเพลง ห้ามดูละคอน ห้ามย้อมผมฯลฯ บางอย่างเราก็พอจะรู้ว่าเป็นหลักศาสนา แต่บางอย่างเป็น"ค่านิยม"คือคิดเองเออเอง แล้วบอกต่อให้คนรุ่นหลังทำตาม จึงไม่น่าแปลกใจที่เราเคยเห็นในทีวี นิกายเดียวกันบางประเทศห้ามผู้หญิงทำโน่นนี่สารพัด แต่บางประเทศทำได้ มันอะไรกัน?
การนิยมส่งเสริมให้ลูกๆเรียนศาสนามากกว่าให้เรีียนวิชาการเช่นเด็กอื่นๆนี่ก็เป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหา คนเหล่านี้จบมาแล้วกระทรวงไม่รับรองวิทยะฐานะจึงไม่มีงานรองรับ นอกจากเป็นครูสอนศาสนาตามเส้นทางที่เรียนมา กลายเป็นคนล้นงาน เมือ่ไม่มีงานให้ทำคนพวกนี้จะเอาอะไรมาใส่ท้อง? วิธีคิดวิธีดำรงชีวิตจะเคร่งครัดอยู่ในกรอบที่พวกเขาคิดกันเองว่า"ดีที่สุดแล้ว"ไม่ยอมรับวัฒนธรรมภายนอกไม่ยอมเชื่อใจใครทั้งนั้น นอกจากมุสลิมด้วยกัน กำแพงนี้แหละครับที่ต้องเจาะผ่านให้ทะลุุก่อนที่จะคิดอ่านทำอย่างอื่นต่อ ถ้าเจาะกำแพงนี้ไม่ได้ อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง ผู้มีหน้าที่บางคนจึงทะนงตัวว่าสามารถเข้าได้กับคนมุสลิมแถวนี้ พวกเขาเป็นมิตร พวกเขาให้ความร่วมมือดี เหตุการณ์์น่าจะสงบลงได้ในไม่ช้า พูดไม่ทันขาดคำ มีเสียงปืนเสียงระเบิดและความสูญเสียตามหลังมา...ทุกที คนที่ร่วมมือกับทางการมีแน่นอน มีเยอะด้วย แต่เมืื่อเทียบสัดส่วนกับคนที่"แอนตี้ตลอดกาล"แบบว่า"ต่อหน้ามะพลับ ลับหลังตะโก"กลับมีมากมายมหาศาลกว่า จนถึงทุกวันนี้ก็ยังมีคนฝังใจเชื่อว่าสามารถซื้อใจพวกเขาได้
อีกตัวอย่างที่ผมเห็นแล้วเอือมระอาเหลือเกิน นั่นคือ"ห้ามพูดความจริงที่จะทำให้มุสลิมขุ่นเคือง" เช่นห้ามวิจารณ์ใดๆทั้งสิ้น(ถึงแม้ไม่ใช่เรื่องศาสนาก็ห้าม)สรุปว่าเขาจะอยู่อย่างไรก็ปล่อยเขาไป เห็นอะไรไม่ชอบมาพากลก็เงียบไว้ แล้วปัญหาจะแก้ได้หรือครับ?ต้องพูดความจริงเท่านั้นปัญหาจึงจะคลี่คลาย ไม่ใช่มัีวแต่เกรงใจจะแสดงความเห็นตรงๆก็เกรงว่าจะทำให้แตกแยกมากขึ้น ก็เพราะคิดแบบนี้ไง3จว.ภาคใต้ถึงเป็นแบบนี้ บางนโยบาย"ตลกสิ้นดี"พอมอบตัว"เป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย" ยกโทษให้ยกที่ดินทำกินให้และมีเงินให้อีกก้อนใหญ่ ทำแบบนี้เป็นการลดความรุนแรงหรือให้มันมีเพิ่มขึ้นกันแน่?ทำผิดแล้วไม่ผิดแถมเงินให้อีกต่างหาก ใครไม่อยากเป็นโจรก็โง่บรม?
คนที่ขายบ้านขายกิจการเพื่อไปตายดาบหน้า ส่วนใหญ่เป็นไทยพุทธและคนจีน ส่วนคนซื้อเป็นคนมุสลิมแถวๆนั้น ถามว่าผิดไหม?ไม่ผิดหรอกครับ เพียงแต่มันแปลก..ที่มีคนมุสลิมจากจังหวัดอื่นมาซื้อด้วยและบางคนมาไกลจากต่างประเทศก็มี
ตามความคิดของผม พวกที่เป็นโจรสารเลวมีแค่หยิบมือเดียว แต่พวกคอยรับประโยชน์จากเหตุการณ์..มีเป็นพันเป็นหมื่นคน ใครฆ่าใคร?ใครมีแผนไล่คนพุทธออกจากพื้นที่?ฉันไม่เกี่ยวด้้วย แต่ถ้าขายบ้านขายที่ดินฉันรับซื้อทันที เมื่อทรัพย์สินเปลี่ยนเจ้าของจนหมดสิ้น แผ่นดินตรงนั้นก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย โดยปริยาย 
มีเงินซื้อบ้านซื้อกิจการ อย่าลืมช่วยบริจาคช่วยพี่น้องที่โดนน้ำท่วมด้วยนะครับ ยามเราลำบากพวกเขาเคยส่งเงินส่งของมาช่วยโดยไม่เกี่ยงเชื้อชาติศาสนา ยามนี้ถึงเวลาแสดงน้ำใจตอบแทนบ้างแล้ว ไม่ใช่คอยแต่รับของคนอื่นตลอด ของตัวเองไม่ยอมออก แบบนี้บาปหนักนะครับ?
ปล.ผมจะเล่าของผมไปเรื่อยๆ ตามประสบการณ์ที่เคยอยู่แถวนั้นตั้งแต่เกิด และจากปากของพรรคพวกที่เจอของจริงทุกวัน ใครเห็นต่างเชิญเข้ามาโต้แย้งได้ครับ ด้วยเหตุด้วยผลช่วยๆกันเพื่อบ้านเมืองของเรา

เด็กป้อมหก

(ขอตอบคุณเด็กหน้าวัด13)
ตอนที่ขับถึง3แยกดอนยาง(เมื่อก่อน)แต่ตอนนี้กลายเป็น4แยกไปแล้ว พรรคพวกบอกให้ขับตรงไปทางนั้นดู เพื่อไปแวะ"รามัน"และ"รือเสาะ"แล้วออกทาง"สุไหงปาดี"เข้า"สุไหงโก-ลค"ก็ได้ ใครจะกล้าไป? ถึงเป็นถนนตัดใหม่วิ่งสบาย
แต่ไม่สบายใจเลยว่ะ

เด็กป้อมหก

ผมก็รู้มาเหมือนกันว่าเหตุการณ์ที่บานปลายเกิดจากทั้ง"พูโล"และ"พูเรา"มีคนได้ประโยชน์ทั้ง2ฝ่าย ยอมรับว่าเชื่อทุกข้อมูล แต่ที่เห็นๆตอนนี้มีเพียงฝ่ายเดียวที่กำลังตักตวงผลประโยชน์อย่างเปิดเผย คือพวกกว้านซื้อบ้านและกิจการ

Bush



                                             ส.อ่านหลังสือ

ซุปเปอร์ฮีโร่

อ้างจาก: เด็กหน้าวัด13 เมื่อ 10:31 น.  13 ต.ค 54
ส-ดีใจ ส-ดีใจท่านวิ่งถนน สี่เลน ไม่ค่อยเสียวเท่าไหร่  ลองเข้า สองเลน จาก จังหวัดยะลา เข้าอำเภอรามัน

เข้าอำเภอรือเสาะ เข้าอำเภอระแงะ เข้าอำเภอสุไหงปาดี ช่วงนี้ผ่านเขตอำเภอเจาะไอร้อง และเขาอำเภอสุไหงโก ลก

ถนนสองเลน ได้ความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง ธรรมชาติดีมาก  ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้
ส.ยกน้ิวให้

เด็กคลองแห

บางครั้งเคยคิดเล่นๆ แบบสุดขั้ว น่าจะปล่อยให้แยกไปเป็นอิสระเลย ถอนทุกอย่างออกให้หมด ไม่ต้องให้ความช่วยเหลือใดๆ น่าจะดีนะถอนทหารทั้งหมดมาตรึงกำลังเฉพาะที่เขตแดน 3 จังหวัดสักปี ปล่อยให้อยู่กันเอง ไม่ต้องเข้าไปช่วยเหลืออะไร เอาข้าราชการออกให้หมดให้ปกครองกันเอง   

หมูสนามจริง สิงห์สนามซ้อม

อ้างจาก: เด็กคลองแห เมื่อ 09:08 น.  14 ต.ค 54
บางครั้งเคยคิดเล่นๆ แบบสุดขั้ว น่าจะปล่อยให้แยกไปเป็นอิสระเลย ถอนทุกอย่างออกให้หมด ไม่ต้องให้ความช่วยเหลือใดๆ น่าจะดีนะถอนทหารทั้งหมดมาตรึงกำลังเฉพาะที่เขตแดน 3 จังหวัดสักปี ปล่อยให้อยู่กันเอง ไม่ต้องเข้าไปช่วยเหลืออะไร เอาข้าราชการออกให้หมดให้ปกครองกันเอง
อยากให้เป็นอย่างนี้เหมือนกัน แต่ติดแค่ต้องแยกขาวออกมาจากดำให้หมดก่อนนี่สิ

ถ้าเล่นแบบเผด็จการ ป่านนี้พวกมันไม่ได้มายืนโห่รถพี่ จขกท หรอก

Marines-1

-ขอบคุณจขกท.ด้วยครับ  ได้รู้ข้อมูลที่น่าสนใจมาก...ขอบคุณมากครับ