ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

รู้จักลูกไอ้นี้หรือเปล่าครับ

เริ่มโดย กิมหยง, 10:27 น. 27 ม.ค 58

กิมหยง

พบเห็นเยอะในป่าครับ
ที่วัดป่าแสงธรรมก็มีครับ
กำลังออกลูกแดง ๆ เลย
สร้าง & ฟื้นฟู

นายไข่นุ้ย

DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

Oganoi

ผมว่าน่าจะเป็น พิลังกาสานะ
พิลังกาสา
พิลังกาสา ชื่อวิทยาศาสตร์ Ardisia polycephala Wall.[1],[2] หรือ Ardisia polycephala Wall.ex A.D.C [4],[6] ส่วนอีกข้อมูลหนึ่งระบุว่าชื่อวิทยาศาสตร์คือ Ardisia pendulifera Pit. Var, microsepala Fletch.[3] จัดอยู่ในวงศ์ MYRSINACEAE เช่นเดียวกับข้าวสารหลวง จ้ำเครือ มะจ้ำก้อง รามใหญ่[1]

สมุนไพรพิลังกาสา ยังมีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ อีกว่า ผักจำ ผักจ้ำแดง (เชียงใหม่, เชียงราย), ตีนจำ (เลย), ลังพิสา (ตราด), ทุรังกาสา (ชมพร), ราม (สงขลา), ปือนา (มลายู-นราธิวาส), พิลังกาสา (ทั่วไป), จิงจ้ำ, จ้ำก้อง, มะจ้ำใหญ่, ตาปลาราม, ตาเป็ด, ทุกังสา, มาตาอาแย เป็นต้น[1],[2],[3],[6]

หมายเหตุ : ในพืชวงศ์เดียวกัน "พิลังกาสา" ยังเป็นชื่อพ้องของพรรณไม้อีกหลายชนิด เช่น พิลังกาสาชนิดที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ardisia elliptica Thunb ซึ่งในชนิดนี้เราจะเรียกว่า "รามใหญ่" (มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ที่คล้ายคลึงกับพิลังกาสามาก และยังมีสรรพคุณทางยาที่เหมือนกันหลายอย่าง สามารถอ่านได้ที่บทความ รามใหญ่) และ พิลังกาสาชนิดที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ardisia colorata Roxb. ชนิดนี้โดยทั่วไปแล้วจะเรียกว่า "มะจ้ำก้อง" สามารถอ่านได้ที่บทความ มะจ้ำก้อง

ลักษณะของพิลังกาสา
ต้นพิลังกาสา เป็นพันธุ์ไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบกระจายพันธุ์อยู่ทั่วไปตั้งแต่หมู่เกาะริวกิวของประเทศญี่ปุ่น และกระจายไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไปจนถึงอินเดียภาคใต้[6] โดยจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดย่อม มีความสูงของต้นประมาณ 2-3 เมตร ลำต้นแตกกิ่งก้านสาขาออกรอบต้น แต่ไม่มากนัก ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ชอบดินทรายหรือดินเหนียว แต่ไม่ชอบดินแฉะ โดยจะพบพรรณไม้ชนิดนี้ได้ตามป่าราบ และมีประปรายอยู่ทั่วไป[1] บ้างว่าพบได้ตามป่าโปร่ง ป่าดิบเขาทั่วไป ที่ราบสูง[3]
ใบพิลังกาสา ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกันเป็นคู่ๆ ตามข้อต้น ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ส่วนขอบใบเรียบไม่มีจัก แผ่นใบเป็นสีเขียวมัน มีลักษณะหนาและใหญ่ ส่วนยอดอ่อนเป็นสีแดง[1],[3]
ดอกพิลังกาสา ออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่งหรือตามส่วนของยอด ดอกเป็นสีเหลืองนวล[1] บ้างว่าเป็นสีชมพูอมขาว หรือสีขาวแกมชมพู[2] เมื่อดอกบานเต็มที่จะมี 5 แฉก คล้ายรูปดาว[3]
ผลพิลังกาสา ผลมีลักษณะกลมโต มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.5 เซนติเมตร ออกผลเป็นกระจุกมีก้านช่อยาวห้อยย้อยลง และก้านผลยาวเรียงสลับรอบก้านช่อ ผลอ่อนเป็นสีแดง เมื่อแก่หรือสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงดำ[1],[3]
สรรพคุณของพิลังกาสา
ผลสุกนำมาตากแห้งบดเป็นผงผสมกับน้ำผึ้ง แล้วปั้นเป็นลูกกลอนกิน หรือใช้ผงยา 1 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำครึ่งแก้วดื่มช่วยบำรุงโลหิต (ผล)[5]
ช่วยแก้ธาตุพิการ (ผล)[5]
ผลใช้เป็นยาแก้ไข้ แก้ไข้ในกองอติสารโรค (ผล)[1],[2]
ใบมีรสร้อน สรรพคุณช่วยแก้อาการไอ (ใบ)[2]
ใบใช้เป็นยาแก้ลม (ใบ)[2]
ช่วยแก้ปอดพิการ (ใบ)[5]
ใบและผล มีสรรพคุณช่วยแก้ท้องเสีย (ใบ,ผล)[2]
ดอกใช้เป็นยาแก้พยาธิ (ดอก)[2]
รากใช้เป็นยาแก้กามโรค หนองใน (ราก)[2],[5]
ช่วยแก้โรคระดูของสตรี ด้วยการนำผลสุกมาตากแห้งบดเป็นผงผสมกับน้ำผึ้ง แล้วปั้นเป็นลูกกลอนกิน (ผล)[5]
ใบใช้เป็นยารักษาโรคตับพิการ (ใบ)[1]
รากใช้เป็นยาพอกปิดแผล ถอนพิษงูกัด แก้พิษงู หรือใช้กากพอกแผล เอาน้ำกิน (ราก)[1],[2],[5]
เมล็ดมีสรรพคุณช่วยแก้ลมพิษ (เมล็ด[2], ผล[5])
ดอกใช้เป็นยาฆ่าเชื้อโรค (ดอก)[1],[2]
ต้นใช้เป็นยาฆ่าพยาธิผิวหนัง (ต้น)[5]
ต้นใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนัง แก้โรคเรื้อน กุฏฐัง (ต้น)[2],[5] ส่วนผลใช้แก้โรคเรื้อน (ผล)[2]
ไหนว่าไปแล้วกลับหน้าฝน  ใครเป็นคนสัญญาเอาไว้ ทิ้งให้รออีนานเท่าไร  คนแบบนี้ก็มี

กิมหยง

สั้น ๆ ง่าย ๆ กินได้หรือเปล่าครับ

กินแล้วเป็นพิษ เป็นเมาหรือเปล่าคร๊าบบบ
สร้าง & ฟื้นฟู

แมวคราว

ลูกเชอรี่ ลองกินดอกมันดูสิอร่อย

Oganoi

ลูกน้อยห้อยเต็มก้าน.. รอตั้งนานเริ่มทานได้.. สุดยอดสมุนไพร.. รสแซบได้เมื่อลิ้มลอง..รสชาติเปรี้ยวอมหวานอมฝาดนิดนิด ที่ชอบเพราะลูกเธอน่ารักดีสีสวย พิลังกาสา
ส.หัว ส.หัว ส.หัว
ไหนว่าไปแล้วกลับหน้าฝน  ใครเป็นคนสัญญาเอาไว้ ทิ้งให้รออีนานเท่าไร  คนแบบนี้ก็มี

kho

ลูกตารามม่าย...ถ้าช่ายกินได้ครับ