กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

นายกฯประชุมนบข.กำชับข้าราชการทำความเข้าใจเกษตรกรปลูกพืชเหมาะสมพื้นที่และปริมาณน้ำ สั่งทำฐานข้อมูลเกษตรกรลงในบัตรประชาชนอำนวยความสะดวกจ่ายเงินเยียวยา

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) โดยมี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมที่สหกรณ์การเกษตรพิมาย จังหวัดนครราชสีมา

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการข้าวครั้งนี้เป็นการประชุมนอกสถานที่ครั้งแรก และขอชื่นชมการดำเนินงานที่เข้มแข็งของสหกรณ์การเกษตรอำเภอพิมายซึ่งเป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ในส่วนของรัฐบาลได้ดำเนินงานตามนโยบายที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของเกษตรกรมาโดยตลอด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร โดยเฉพาะเกษตรกรผู้ปลูกข้าว แต่ต้องยอมรับว่าความเดือดร้อนของเกษตรกร เกิดจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับปัจจัยภายในประเทศทุกคนต้องช่วยกันสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจภายในประเทศเกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อสร้างโอกาสและความได้เปรียบต่อประเทศเพื่อนบ้าน ข้าราชการและเกษตรกรต้องร่วมมือกับรัฐบาล เพื่อยกระดับให้เศรษฐกิจของประเทศมีความเข้มแข็งและดีขึ้น ขอให้ร่วมกันสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชเกษตรที่เหมาะสมกับพื้นที่ โดยเฉพาะการปลูกข้าวต้องเน้นปลูกข้าวที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับปริมาณน้ำ เพื่อให้ขายได้ราคาสูง สำหรับแห่งใดปลูกข้าวแล้วไม่ได้คุณภาพก็ให้มีการส่งเสริมไปปลูกพืชชนิดอื่นแทนนายกฯ พิมาย 1

"สำหรับมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ต้องสร้างการรับรู้ว่ารัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะมาตรการการจ่ายเงินช่วยเหลือในพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับเงิน เพราะมีปัญหาเรื่องฐานข้อมูลของเกษตรกร ทำให้การจ่ายเงินล่าช้าไม่เป็นตามเป้าหมาย จึงมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับกระทรวงที่เกี่ยวข้องตั้งคณะทำงานจัดทำฐานข้อมูลประชาชน โดยให้แยกประเภทและใส่ฐานข้อมูลให้ครบถ้วน อาทิ รายได้ อาชีพ ทำการเกษตรประเภทไหน จำนวนพื้นที่ สถานะบุคคลอ้างอิงหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ติดแถบสีที่บัตรประจำตัวประชาชนให้รู้ว่าอยู่ประเภทใด เพื่อง่ายต่อการให้ความช่วยเหลือให้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย ประชาชนได้รับประโยชน์โดยตรง และให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2558 นี้" นายกรัฐมนตรี กล่าว

[attach=1]
ที่มา.-สำนักข่าวไทย http://www.tnamcot.com/