กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

"ฟอร์ด"เผยเรื่อง"อาร์เอส"ฟ้องเจ้าภาพงานแต่งงานที่เอาเพลง"หยุดตรงนี้ที่เธอ"ไปร้องได้ไปเป็นพยานในคดีเรียบร้อยเสียใจร้องเพลงตัวเองไม่ได้รับสภาพกฎหมายลิขสิทธิ์
   
          เรียกว่าหลังจากเกิดกรณีที่นักร้องชื่อดัง "ฟอร์ด-สบชัย ไกรยูนเสน" ถูกบริษัท "อาร์เอส" ออกหมายเรียกให้ไปเป็นพยานฟ้องร้องเจ้าภาพจัดงานแต่งงาน กรณีที่นักร้องชื่อดังนำเพลง "หยุดตรงนี้ที่เธอ" ไปร้อง โดยฟอร์ดได้ไปให้ปากคำกับตำรวจ ณ กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ) เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา เป็นที่เรียบร้อย มีโอกาสเจอตัวในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต "Sadao Watanabe group 2015 In Bangkok" สอบถามได้ความดังนี้
   
          "ผมไปให้ปากคำกับตำรวจเรียบร้อย สิ่งที่เราให้การกับตำรวจก็เก็บเป็นหลักฐาน แต่สิ่งที่จะรอต่อไปคือรอทางอาร์เอสว่าจะเอายังไง เขาจะฟ้องหรือไม่ เพราะการฟ้องก็ยังไม่รู้ว่าจะฟ้องเจ้าภาพหรือฟ้องผม (เห็นทางอาร์เอสบอกจะฟ้องเจ้าภาพ) ก็อาจจะใช่ แต่ผมยังไม่ทราบว่าโดนลายลักษณ์อักษรหรือสรุปตอนท้ายจะเป็นยังไง เพราะตอนที่ผมไปให้ปากคำ ผมไปในฐานะพยาน ไปเล่าให้ฟังว่าวันนั้นเหตุการณ์เป็นยังไง ถามว่าเพลงผมเตรียมไปเอง หรือเจ้าภาพให้ร้อง คือความจริงเป็นงานของเพื่อนที่สนิทกันมาก เขาเคยจ้างผมไปร้องเพลง และพอเขามีงานแต่งงานของเพื่อนของเขาอีกที เขาก็บอกให้ผมไปช่วยงานหน่อย ผมก็ยินดีไป และไม่ได้มีค่าใช้จ่าย

       ถามว่าผมได้คุยกับผู้ใหญ่ทางอาร์เอสมั้ย ยังเลย เราคงต้องเป็นฝ่ายรอมากกว่าว่าทางนั้นจะเอายังไง แต่ในส่วนของผมเรื่องน่าจะจบแล้ว หลังจากนี้ผมต้องอ่านกฎหมายหัวฟูเลย (หัวเราะ) เพื่อความเข้าใจ ความจริงผมเข้าใจทางค่าย เพราะลิขสิทธิ์เพลงเป็นของเขาอยู่แล้ว ผมหมดสัญญากับค่ายไป 10 ปีแล้ว ถึงผมจะเป็นคนแต่งเพลงและโปรดิวซ์เอง แต่ในการเซ็นสัญญาเพลงเป็นของค่ายไปโดยปริยาย ฉะนั้นหลังจากนี้ เราจะไม่แตะต้องเพลงที่อาร์เอสถือสิขสิทธิ์อยู่ ซึ่งในหนึ่งคอนเสิร์ตของผมจะใช้อย่างมาก 2 เพลง ในการโชว์คงไม่กระเทือนเพราะผมยังมีเพลงอื่นๆ อีก แต่อาจจะเป็นในเรื่องของความรู้สึกว่าเพลงของเรา แต่เราต้องหยุดร้องไป" ฟอร์ดกล่าว
   
          ถามต่อว่า ในฐานะที่เป็นนักร้อง รู้สึกอย่างไรกับตัวกฎหมายลิขสิทธิ์ตรงนี้ นักร้องชื่อดังกล่าวว่า ส่วนตัวต้องเคารพกฎหมาย แต่ยอมรับว่ารู้สึกเจ็บปวด ที่ร้องเพลงตัวเองไม่ได้
   
          "ในตัวกฎหมายเราต้องเคารพคนที่ออกแต่พอออกมาแล้วเป็นอย่างไร เราคงต้องให้เป็นเรื่องของรูปคดี หรือขึ้นอยู่กับอนาคตว่า อาจจะต้องมีการปรับแก้ไขให้มันอะลุ่มอล่วยมากกว่านี้หรือไม่ (เสียความรู้สึก) เหมือนแฟนเราโดนสั่งห้ามคบกับเรา มันเจ็บนะ แต่เราโอเค เราเข้าใจกฎกติกา ถ้าจะเอาเพลงไปร้องต้องติดต่อค่าย และจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้ แต่เราจะเอาตังค์ที่ไหนมาจ่ายตลอดเวลา จำนวนเงินผมขอไม่เปิดเผยตัวเลข แต่ค่อนข้างสูงมาก สิ่งที่เรากลัวคือเราเกรงใจคนที่จ้างานเรา เพราะเขาต้องไปนั่งเสียเงิน ความจริงเวลาที่คุยกับรุ่นน้องคนอื่นๆ จะบอกว่าเจอปัญหานี้เหมือนกัน วิธีแก้ที่ดีที่สุดคือหยุดร้องเพลงนั้นไป เราจำเป็นต้องตัดใจ" ฟอร์ดกล่าวทิ้งท้าย

[attach=1]
ที่มา คมชัดลึก http://www.komchadluek.net/detail/20150206/200848.html