กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

           
                ความสำคัญของตัวละครรองของหนัง ในปัจจุบัน ถ้าได้บทส่งดี ๆ นอกจากจะทำให้หนังดูมีความสนุกดูน่าสนใจ ทำให้ตัวเอกดูมีความลึกขึ้นแล้ว ยังสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับหนังได้มหาศาล อย่างหนังชุด X-Men ที่ตัวละครอย่าง Wolverine แตกตัวออกมาเป็นหนังได้ถึงสองภาค หรืออย่างถ้าเป็นแนว ๆ การ์ตูน อย่าง Shrek ก็มีเจ้าแมวนัยน์ตาอ้อน Puss in Boots เป็นตัวขโมยซีนและแยกมาเป็นหนังการ์ตูนของตนเอง แม้จะไม่ดังเปรี้ยงปร้างเหมือนตอนประกบกับเจ้ายักษ์ Shrek...

                 และที่ลืมไม่ได้คือเจ้าตัวเหลือง Minion แห่งการ์ตูน Despicable me ทั้งสองภาค แทบลืมตัวเอกไปเลยว่าชื่ออะไร นึกถึงแต่เจ้ามินเนี่ยนเหลืองตลอดเมื่อพูดถึงหนังการ์ตูนเรื่องนี้ และกำลังจะมีหนังของตัวเองเข้าฉายไล่ ๆ กันกับเพนกวินในปีนี้นี่แหละ ก็ต้องมาดูกันว่าจะไปรอดเหมือนกับตอนอยู่ในหนังคนอื่นหรือเปล่า...
     
                 ถ้านับกลุ่มตัวประกอบที่สามารถขโมยซีนตัวเอกของเรื่อง ทั้ง ๆ ที่บทเป็นเรื่องของกลุ่มสัตว์หลากหลายชนิดต้องไปผจญภัยในป่ามาดากัสการ์ กลับสามารถสร้างความโดดเด่นในบุคลิก ยามก๊วนนี้ออกมาจนลืมไปว่า หนังกำลังไปทางไหน หรือดูเรื่องอะไรอยู่.....

                ทีม 4 เพนกวินนับได้ว่าเป็นกลุ่มแสบกวน.. ีน ที่สุดกลุ่มหนึ่งของประวัติศาสตร์การ์ตูน ทั้งเจ้า สคิ๊ปเปอร์ , โควาสกี้ , ริโก้ และไพรเวท จริง ๆ แล้วที่มาที่ไปของกลุ่มแสบนี้มาจาก บทกลุ่มเพนกวินที่จิ๊ดจ๊าดจาก หนังอนิเมชั่น 3 D ชุด Madagascar ของค่ายดรีมเวิร์คที่โด่งดังทำเงินถล่มทลาย ลากยาวมาจนถึงภาคที่ 3 และสามารถแตกหน่อต่อยอดให้ตัวละครรอง ๆ ในเรืองได้มีหนังของตัวเองอีก

                จริง ๆ แล้วค่ายดรีมเวิร์ค ได้ลองชิมลางกระแสของเพนกวินว่ายังมีคนสนใจหรือไม่ ด้วยการส่งทีมนี้ไปในรูปของการ์ตูนทีวี และผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจมาก สามารถสร้างและออกฉายมาได้ถึงสาม Season  ผมเคยเห็นผ่าน ๆ ตาในทีวีบ้านเราตอนเสาร์อาทิตย์เช้า ๆ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ เป็นผู้นำมาฉาย หนังดูสนุก กระชับ ตลก ไม่เยิ่นเย้อ.. อันเนื่องด้วยเวลาที่นำมาฉายทางทีวีที่เป็นข้อบังคับไปในตัวว่าไม่สามารถยาวมากได้.. ซึ่งผิดกับเมื่อออกมาในรูปของหนังใหญ่....

                เอาเข้าจริง ๆ Penguins of Madagascar ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก ถ้ามองในมุมของเด็ก หนังยังคงปัจจัยที่ช่วยให้สนุกได้ ถ้าไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายนัก สีสรรที่ฉูดฉาดของเหล่าร้าย ตัวเอกสายลับเท่ ๆ คู่แข่งทีมเพนกวิน..

               แต่คงด้วยผลงานทีผ่าน ๆ มา ทำไว้ดีมาก เลยอดที่จะคาดหวังไม่ได้ บทของทีมเพนกวิน คาดว่าน่าจะฮากว่านี้ กลับกร่อย ๆ ไปในบางมุก จุดเปลี่ยนหรือดราม่าเพื่อเรียกความน่าสงสารหรือเห็นใจก็ไปได้ไม่ถึงจุด..แอบมีสมาธิลอย ๆ ไปบ้างในบ้างช่วงของหนัง และมีลุ้นในใจว่าเมื่อไหร่จะจบ...จนกลับไปนึกเปรียบกับ ฺBig Hero 6 ที่พึ่งผ่านตาไปไม่นาน ในสภาพโรงแบบเดียวกัน กลับกระตุ้นความสนใจเราได้มากกว่า มีอะไรให้พูดถึงได้ต่อเมื่อหนังจบ...

               แต่ก็นั่นแหละอย่างที่กล่าวไปแล้วว่า ถ้ามองในสายตาของเด็ก น่าจะเป็นหนังการ์ตูนที่ดูสนุกมาก ๆ เรื่องหนึ่ง บวกกับโรง 4 DX และภาพเป็น 3D สวมแว่นอีก ภาพงามสุดยอดมาก มีความลึก มีมิติ เอ็ฟเฟ็คส์รอบตัวแพรวพราว หยอดนู่นนิด นี่หน่อยไล่เรียงไปจนจบเรื่อง หรือเราคงจะแก่ไปแล้วกับหนังแนว ๆ นี้....

              ให้คะแนนรวม ๆ  7 แล้วกัน สำหรับเนื้อเรื่องที่แม้จะไปไม่สุดทางจะบ้าก็ไม่เท่าไหร่ จะหลุดโลกก็ไม่มาก แต่ภาพ เสียง เอ็ฟเฟ็คส์ ทำได้ดีเยี่ยม ยกคะแนนให้ในส่วนนี้แล้วกัน...พาคุณหนูไปดูกันได้เลยช่วงตรุษจีนนี้


ปล.ที่ผมดูแล้วขำมากที่สุดของเรื่อง คือ ชื่อของสมุนตัวร้าย ๆ หลาย ๆ ตัว เป็นชื่อดาราฮอลลีวู้ด นำมาเล่นคำกันอย่างสนุกสนาน ไม่แน่ใจว่าในหนังฉบับพากษ์ไทยจะแปลอย่างไร...

                 

หนังการ์ตูนเรื่องนี้เปิดตัวรับตรุษจีนได้อย่างสวยหรู ลั้ลลา เริงร่า สมกับเป็นหนังครอบครัว
เพราะลูกเล็กเด็กแดง ต่างสนุกสนาน หัวเราะรับมุกฮาๆ(สำหรับเด็ก)ได้ตลอดทั้งเรื่อง(ย้ำ)
จนเราเผลอแว้บ นึกถึงวัยเยาว์ขึ้นมาจนได้
ถัดมาก็คืออารมณ์ บรรยากาศตอนที่ต้องเฝ้าดูลูกเล็กๆ กับหนังการ์ตูนเรื่องโปรด
ช่วงวัย ประมาณ2-3 ขวบ ก็ทำให้ความรู้สึกถวิลหาความทรงจำกลับมา
ว่าเราเคยยิ้มง่าย หัวเราะง่ายกว่านี้ ได้ยังไง ถ้าไม่สวมหัวใจเด็กอีกครั้ง
โรงหนังระบบ 4Dx ช่วยให้การดูหนังสนุกตื่นเต้นขึ้นมาได้จริงๆ เพราะมีทั้งลมเป่าหูให้สะดุ้งเป็นช่วงๆ ละอองน้ำประปรายสมกับความเป็นเพนกวิน ไม่รวม กลิ่น(ซึ่งแม้จะเป็นกลิ่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นตอนตัวละคร ผายลม รึ กลิ่นอื่นๆ)
ที่สำคัญ เก้าอี้โยกเยก ที่เด็กๆคงชอบ และสนุกเป็นพิเศษ ทำเอาผู้ใหญ่อย่างเราๆลืมเรื่องราวไปเลยว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร
เพราะบนโลกนี้คงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเสียงหัวเราะของเด็กๆอีกแล้ว