กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

ที่มา คมชัดลึก http://www.komchadluek.net/index.php

'เมื่อ K bank เริ่มขยับแฟนบอลไทยลีก ก็สนุก' : คอลัมน์ หนังโรงเล็ก โดย... นันทขว้าง สิรสุนทร

          การชายตามอง...ของบริษัทประกันฯ แบรนด์ใหญ่จากญี่ปุ่น ที่มีต่อตลาดไทยลีก(TPL) ก็ดี หรือจำนวนตัวเลขล่าสุดจากการสำรวจ(ในบ้านเรา) ที่ยอดคนดู "ไทยลีก" เทียบเท่า "พรีเมียร์ลีก" รวมไปถึงการเข้ามาเป็นกองทัพของนายทุน นักการเมือง นักธุรกิจที่อยากจะมีส่วนในการเป็นเจ้าของทีมฟุตบอลไทยสักทีมนั้น... ภาพเหล่านี้สะท้อนอะไรกับเราบ้าง ?

          อาจจะมีหลายๆ ภาพ แต่มุมหนึ่งที่บอกกับเราชัดเจนก็คือ sport marketing อย่างฟุตบอลไทยนั้น ไม่ใช่ "แรงกระเพื่อมเบาๆ" อีกต่อไป แต่เป็นพายุที่โถมตัวรุนแรงใส่ตลาดของบ้านเรา และเกิดสีสันหลายสี ที่เข้ามา "แต้ม" บรรยากาศของการแข่งขัน TPL ให้สนุกสนานมากขึ้น หนึ่งในสีที่น่าสนใจก็คือ ก็คือสีเขียวของเคแบงก์ (ซึ่งในอดีต เป็นทีมเดียวที่ก้าวขึ้นไปได้แชมป์เอเชียนคัพถึงสองครั้งในยุคของ ชาญวิทย์ ผลชีวิน)
 
          หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากกับกิจกรรมทางด้าน "ไลฟ์สไตล์" ต่างๆ ต้นเดือนเมษายนนี้ เคแบงก์จะเปิดตัวบัตรเดบิต ไทยลีก ที่มีลวดลายของทีมต่างๆ เกือบ 50 ทีม  และเป็นครั้งแรกที่บ้านเรามีการทำอะไรแบบนี้ เพราะเท่าที่ผ่านมา วัฒนธรรมป๊อปอย่าง football ticket จะวนเวียนอยู่กับ season tickets คือถือการ์ดเมมเบอร์เข้าสนาม และลดราคาบ้างในการซื้อสินค้าของสโมสร แต่เมื่อแบงก์สีเขียวใกล้จะเปิดตัวบัตรเดบิตไทยลีกเกือบ 50 ทีมนั้น แฟนบอลน่าจะสนุกสนาน ในการแสดงตัวตน (individual) ของตัวเองกับทีม ผ่านบัตรที่ว่านี้ด้วย
 
          เท่าที่จะได้เห็นตัวอย่างของบางทีมนั้น บัตรเดบิตจะมีลวดลายและสีสันของทีม กล่าวคือ ตัวบัตรก็ทำงานไปในแง่ของ function แต่สีสัน รูปเงา และสัญลักษณ์ ก็นำพาด้าน emotion ของแฟนบอล รักชัยนาทก็ถือนกใหญ่พิฆาต ชอบอาร์มี่ที่โลดแล่นจ่าฝูงอยู่หลายเวลา ก็ต้องมีบัตรเขียวๆ แบบสีทหาร หรือปลื้ม 3 ทีมแบบผมคือ ฉลามชล สุพรรณฯ และ บุรีรัมย์ฯ ก็ต้องมี ฉลามชล ปราสาทสายฟ้า และการ์ดที่เป็นทีมในดวงใจของ "ตูน บอดี้สแลม"
 
          ถ้าผมจำไม่ผิด งานแถลงข่าวน่าจะจัดขึ้นในวันที่ 9 เมษายน และคาดว่าวันนั้น คงมีการโชว์บัตรต่างๆ ของทุกทีมในงาน พร้อมกับรับสมัครเดบิต การ์ดไปในตัว... บางคนสงสัยว่า บัตรเดบิตใช้ได้เหมือนเครดิตการ์ด ผมจะบอกว่าอย่าไปสับสนมาก คิดแต่ว่ามันใช้ได้เหมือนกันถ้าเรามีสตางค์
 
          แง่มุมที่น่ามองและคุ้ยแคะแกะลึก ลงไปมากกว่าก็คือ ไทยลีกนั้น มีหลายวัฒนธรรมป๊อปเร้นซ่อนอยู่ เช่น "ความเชื่อ" ทีมบ้านคุณบรรหาร ศิลปอาชาอย่าง สุพรรณบุรี อาจจะเคยมีงวงงาหัวช้างหันหน้าเข้าอก ในทางความเชื่อ มองว่าอาจจะไปทิ่มแทงหัวใจนักบอล พอมาปีนี้ เสื้อที่สวยสุดของปี เลย "ปรับ" การหันหน้าของหัวช้าง ไปด้านข้าง เพื่อไม่ให้ทิ่มแทง....หรือทีมแบงค็อก ยูไนเต็ด ที่เคยใส่เสื้อสีอะไรแล้ว ไม่ค่อยชนะ พอเปลี่ยนเป็นสีแดงน้ำเงิน แล้วเตะชนะรวดในช่วงหนึ่ง สีนี้จึงกลายมาเป็นสีประจำของทีม
 
          เรื่องความรู้ที่ซ่อนและเร้นอยู่ในเสื้อไทยลีกนั้น สนุกเหมือนความรู้ที่ซ่อนอยุ่ในบัตรเดบิตการ์ดของเคแบงก์นี่แหละ ถ้าสังเกตให้ดี จะเห็นว่าสัญลักษณ์ของทีมต่างๆ ที่อยู่ในเดบิตการ์ดนั้น มักจะแสดงภาพของ power มากกว่า gender และมุ่งที่ individual มากกว่า winner ทำให้แง่มุมของการเป็นแชมป์มากๆ ไม่ใช่ประเด็น แต่โฟกัสไปที่การ enjoy the games ในไทยลีกมากกว่า
 
          ผมเคยไปบรรยายเรื่องวัฒนธรรมป๊อปและแฟชั่นที่ธรรมศาสตร์ นักศึกษาบางคนถามว่า อะไรที่แสดงว่าทีมบอลไทยลีกสร้างกระแสได้ อย่างหนึ่งที่ชัดเจนก็คือ กลุ่มวังขนายได้พยายามจะทำให้ทีมเป็น branding ด้วยการจ้างทีมดีไซเนอร์ของเกรย์ฮาว์ด เข้ามาออกแบบรถโค้ช เสื้อบอล ถ้วยแก้วจานอาหาร ฯลฯ เหมือนที่บุรีรัมย์กลายเป็นโมเดลของความสำเร็จที่ทำให้บุรีรัมย์ กลายเป็นจังหวัดฟุตบอลและเกิดโรงแรมฟุตบอล ร้านอาหารฟุตบอล ถนนฟุตบอล
 
          บางทีและบางครั้ง บัตรไทยลีกเคแบงก์ อาจจะเกิด collector ก็ได้ ใครจะรู้... 

.......................................
(หมายเหตุ 'เมื่อ K bank เริ่มขยับแฟนบอลไทยลีก ก็สนุก' : คอลัมน์ หนังโรงเล็ก โดย... นันทขว้าง สิรสุนทร)