กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

บอกว่าไม่ใช่ๆ แต่ต้องซื้อของเท่านั้น เท่านี้ ยิ่งตอนนี้มีหลายบริษัทมากขึ้น ก็ยิ่งใกล้ตัวมากขึ้น

มาเจอกันแล้วบอกว่าจะแนะนำสิ่งที่ดีๆ อย่างนั้น อย่างนี้ เบื่อมากๆเลยครับ จะหนีก็ไม่ได้เพราะเกรงใจ

เป็นรุ่นพี่คนนึง บอกว่าชวนไปฟัง แถวๆขนส่ง ไม่รู้บริษัทอะไร อีกคนให้ไปใกล้ๆไดอาน่า เบื่อมาก

แต่ไม่รู้จะทำยังไงดีครับ

ผมโดนผู้บังคับบัญชาชวนไปสมัคร ผมบอกขอคิดก่อน แล้วก็เงียบไป แกคงรู้ตัว

อ้างจาก: pond_marine49 เมื่อ 09:56 น.  22 ต.ค 54
ผมโดนผู้บังคับบัญชาชวนไปสมัคร ผมบอกขอคิดก่อน แล้วก็เงียบไป แกคงรู้ตัว

ของผมเป็นรุ่นพี่ที่ทำงานด้วยกันครับ ตอนแรกผมสงสัยว่าทำไมชวนผมไปคุยข้างนอก แปลกๆ
เลยพอรู้แล้วก็เงียบเหมือนกันครับ

เพื่ิอนผมชวนหลายคนแล้วสารพัดค่าย  แต่ผมบอกเขาก่อนว่าไปฟังได้ถ้ามีเวลา แต่ตูไม่สมัครเด็ดขาด พราะไม่ชอบระบบขายตรง

ที่ไปฟังเพราะช่วยๆกัน เพื่อนมันต้องหาคนจะได้ไม่อายเพื่อนในทีม ไปก็ไป  ที่เหลือก็ถึอว่าไปกินกาแฟฟรี ขนมฟรี แลกค่าเสียเวลา

ถ้าไม่ชอบจริงๆแนะนำว่าอย่าเกรงใจเลย บอกตรงๆดีกว่า เพราะจะโดนรบเร้า ตอแยไม่สิ้นสุด จนเราทนไม่ไหว  ตราบใดที่เรายังไม่เข้าทีมเขา  เขาจะโทรมาเรื่อยๆ  เห็นเบอร์ก็รำคาญ ทำให้เบื่อที่จะหลบหน้า หรือโกหกเรื่อยไป


เคยมีขายตรงค่ายนึงผมไปนั่งฟังบอกเขาก่อนว่าไม่สมัคร เพื่อนก็โอเค  หลังจากออกจากห้องที่เข้าพล่ามมาเป็นชั่วโมงแล้ว  ก็ออกมาข้างล่าง หลายคนก็เริ่มสัมภาษณ์หาเหยื่อให้สมัคร   แต่ผมปลีกตัวมานั่งคนเดียว  ดันมีคนจะมาชวนผมสมัคร  ผมปฏิเสธไปแล้ว  เขาบอกวันนี้ไม่เป็นไร แต่พยายามจะเสนอสินค้าให้ได้  สุดท้าย ผมหักหน้าสนค้าเขาทุกตัวจนดูออกว่าเขาพยายามเก็บอารมณ์  (คนพวกนี้ถูกล้างสมองให้คิดบวกจริงๆ)

คำถามที่ผมใช้บ่อยๆ  เวลาไม่อยากสมัครแต่โดนรบเร้า

-หากสมาชิกใหม่ยืนบนพื้นฐานด้วยความเชื่อว่าสินค้านั้นดีจริงๆ(เชื่อหมดใจว่าดี)  ทำไมต้องสมัครสมาชิกและต้องจ่ายเงินก่อน เพื่อแลกกับสินค้า เหมือนการบังคับซื้อครั้งแรก

-ทำไมลูกทีมต้องซื้อสินค้าเอง ในการนำเสนอสินค้า  หรือเทสเตอร์  เทียบกับสินค้าขายส่งในห้างยังมีตัวทดลอง ทั้งๆที่ราคาถูกกว่า

-ที่เอายอดเงินเข้าทุกเดือนมา่ล่อนั้น  ถ้าไปหาลูกค้าแล้วไม่มีสมาชิกใหม่เลย และไม่มียอดซื้อ  จะยังมีเงินเข้าไหม  ถ้าต้องรักษายอด ต้องจ่ายเดือนละเท่าไหร่เทียบกับเงินที่คืนมา  และมันคุ้มไหม กับค่าใช้จ่ายที่ไปนัดลูกค้า ค่าโทร ค่าน้ำมัน ฯลฯ เทียบกับเงินที่คืนมา  กรณีลูกทีมไม่หาเพิ่มด้วย

-ทำไม สินค้าขายตรงจึงแพงกว่า สินค้าขายปลีกตามท้องตลาด ทั้งๆที่บอกว่า เป็นการตัดวงจรพ่อค้าคนกลางแล้ว  เช่นยาสีฟันค่ายหนึ่ง แพงเว่อร์  เทียบกับขายทั่วไปตามห้าง  เขาบอกว่าของเขาดีกว่า  เขาใช้อะไรเป็นตัววัด  หรือใช้ความชอบส่วนบุคคล

-การใช้ตำแหน่ง เข็ม  หรือผลตอมแทนเป็นแรงจูงใจเช่นรถ ไปเที่ยวเมืองนอก   ถามว่าต้องทำยอดเท่าไหร่ถึงจะไปจุดนั้น  ถ้าเขียนสามเหลี่ยมปิรามิด  จากฐานไปยอด มีกี่ชั้นเทียมกับจำนวนสมาชิก

คำถามแค่นี้ บางคนตอบไม่เคลียร์ ไม่ชัดเจนโดยเฉพาะเงินค่าสมัคร  ก็เข้าทางผม ในการหักหน้าคนเซ้าซี้ตอแย  และบอกไปว่า ระบบสายงานแบบนี้นทำให้มีอคติต่อระบบขายตรง เราจะเป็นผู้คุมสถานการณ์ จากนั้นรีบปิดการสนทนา และอย่าเปิดโแอกาสให้เขารุกอีก

ท่าน Probass สุดยอดครับ

-หากสมาชิกใหม่ยืนบนพื้นฐานด้วยความเชื่อว่าสินค้านั้นดีจริงๆ(เชื่อหมดใจว่าดี)  ทำไมต้องสมัครสมาชิกและต้องจ่ายเงินก่อน เพื่อแลกกับสินค้า เหมือนการบังคับซื้อครั้งแรก
เขาจะตอบว่า : เพราะสินค้าเขาใช้ต้นทุนผลิตมา หากไม่ซื้อก่อน บริษัทจะอยู่ได้อย่างไร หากเราใช้แล้วชิ่ง


-ทำไมลูกทีมต้องซื้อสินค้าเอง ในการนำเสนอสินค้า  หรือเทสเตอร์  เทียบกับสินค้าขายส่งในห้างยังมีตัวทดลอง ทั้งๆที่ราคาถูกกว่า
เขาจะตอบว่า : การทำงานคือการลงทุน ต้องลงทุนบ้างอะไรบ้าง ไม่ใช่รอรับอย่างเดียว

-ที่เอายอดเงินเข้าทุกเดือนมา่ล่อนั้น  ถ้าไปหาลูกค้าแล้วไม่มีสมาชิกใหม่เลย และไม่มียอดซื้อ  จะยังมีเงินเข้าไหม  ถ้าต้องรักษายอด ต้องจ่ายเดือนละเท่าไหร่เทียบกับเงินที่คืนมา  และมันคุ้มไหม กับค่าใช้จ่ายที่ไปนัดลูกค้า ค่าโทร ค่าน้ำมัน ฯลฯ เทียบกับเงินที่คืนมา  กรณีลูกทีมไม่หาเพิ่มด้วย
เขาจะตอบว่า : ถ้าไม่หาลูกค้า ไม่มีคนมาสมัครต่อจากเรา เงินจะเข้าไหม เขาจะบอกทันทีว่า คุณไม่ทำงาน แล้วจะมีเงินได้ยังไง

-ทำไม สินค้าขายตรงจึงแพงกว่า สินค้าขายปลีกตามท้องตลาด ทั้งๆที่บอกว่า เป็นการตัดวงจรพ่อค้าคนกลางแล้ว  เช่นยาสีฟันค่ายหนึ่ง แพงเว่อร์  เทียบกับขายทั่วไปตามห้าง  เขาบอกว่าของเขาดีกว่า  เขาใช้อะไรเป็นตัววัด  หรือใช้ความชอบส่วนบุคคล
เขาจะตอบว่า : สินค้าเขาไม่ได้ผสมแป้ง เป็นประมาณว่า ของดีมาผลิตล้วนๆ ของแท้แน่นอน จึงแพงกว่า ดีกว่า ซึ่งบางสินค้าของบริษัท ต้องยอมรับว่าเห็นความแตกต่างว่าดีกว่าจริงๆ (อันไหนเห็นชัดเราก็ต้องยอมรับ)


-การใช้ตำแหน่ง เข็ม  หรือผลตอมแทนเป็นแรงจูงใจเช่นรถ ไปเที่ยวเมืองนอก   ถามว่าต้องทำยอดเท่าไหร่ถึงจะไปจุดนั้น  ถ้าเขียนสามเหลี่ยมปิรามิด  จากฐานไปยอด มีกี่ชั้นเทียมกับจำนวนสมาชิก
เขาจะตอบว่า : ทุกคนต้องอดทนกันสุดๆ และเหนื่อยๆกันมาแล้วทั้งนั้น กว่าจะถึงจุดอภิมหาอมตะโคตรเพชรเจ็ดกระรัต หากเราอดทน สักวันวันที่รอจะมาถึง ได้นั่งข้างสจ๊วตก็มีเลยนะเธอว์555


-----
ที่อยากบอกคือ ตอนนี้เราเบื่อมาก แม่เราโดนผู้หญิงคนหนึ่งแถวทุ่งเสา ทำธุรกิจซูเหลียน เทียวมาหากันเช้าสายบ่ายเย็น ไม่มีมารยาท นั่งทีเป็นหลายๆชั่วโมง แต่พักหลังๆ เจอฤทธิ์เราเข้าไปมั่ง ก็เลยไม่ค่อยนั่ง แต่ก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ปากดีด้วย คนขายพวกนี้ ปากดีอยู่แล้ว ไม่ชอบเลย ไม่รู้จักเวล่ำเวลา เห็นหน้าก็จะขายอย่างเดียว เราเคยลองใจถามว่า ซองที่เอามาโชว์นี้ ให้ไปลองฟรีใช่ไหม แหม มันดึงกลับอย่างไว มันบอกซองหลายบาท ปัดโถ่ะ เกลียดนักบอกตามตรง ไม่อยากจะเอ่ยนาม เห็นว่าเบื้องหลังออกเงินกู้กันแหละ มันบอกว่า แม่เราแก่แล้ว ต้องทานของบริษัทเขา จะดีต่อสุขภาพ ไร้โรคไร้ภัย และมีการเอาอัลบั้มรูปที่ประมาณ ลูกค้า before after หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ จะมาให้เราถ่ายเอกสารสีให้แม่ บอกว่าแม่ต้องใ้ช้ในการทำงาน ส่วนอันนี้ของเขา เขาซื้อมาหลายบาท ให้ไม่ได้ เห็นไหม พอมันชวนสมัครต่อจากมันปุ่บ สารพัดสารเพ กว่าจะไต่ระดับดาวพราวเพชรของมันอะ หมดตัวกันพอดี แต่ก็ไม่อยากพูดมาก เห็นแม่แก่แล้ว ขี้เกียจทะเลาะ แต่เกลียดมันๆๆๆๆๆ ไม่อยากให้มาเหยียบบ้านเลย แต่อย่างว่าคนมันหน้ามึน หึ

เรื่องยาสีฟัน  ผมเคยเทียบราคา ซื้อจากค่ายนึงได้ 1 หลอด ในวงเงินเดียวกันนั้น ผมซื้อตามห้างได้แพคคู่+1หลอดกลาง รวม3หลอด  (แปรงให้ปากชาเลย)

ถามว่า ถ้าผมใช้ 3 หลอด แปรงฟันได้บ่อยขึ้น ปากสะอาดกว่าใช้หลอดเดียวแน่ อะไรจะดีกว่ากัน

ยาสีฟันอีกค่ายนึงคนละค่ายกับข้างบน  บอกว่าดับกลิ่นรักแร้ได้ด้วย(ใครทำค่ายนี้คงรู้ตัว)  ผมสวนกลับไปว่า แล้วดียังไงที่ยาสีฟันมีคุณสมบัตินี้  ชื่อบอกว่ายาสีฟัน เอามาทารักแร้ โง่สิ้นดี  ด่าต้่อหน้าเขาแหล่ะครับ ถามเขาเขาก็ยิ้มแหยะๆและ ตอบว่าใช่  แล้วจะบอกเพื่ออะไร  กลิ่นปากกับกลิ่นรักแร้ มีที่มาต่างกันในปากเป็น แบคที่เรียย่อยเศษอาหาร  กลิ่นตัว มาจากต่อมเหงื่อหมักหมมอับชื้นทำให้เชื้อจุลินทรีย์เติบโตการดับกลิ่นก็คนละวิธี

เรื่องต้นทุนสินค้ากับราคาแคทตาล๊อค  มาจิ้น ต่างกันมากครับ ส่วนต่างเงินตรงนั้นไปอยู่ไหน 

ถ้าให้เห็นภาพ  ต้องยกตัวอย่างสินค้า1อย่างซื้อเยอะๆ เพื่อให้มียอดเข้ามา เขียนลงกระดาษเลย  ถามว่าลงทุนเท่าไหร่  เราได้เท่าไหร่จากมาจิ้น  เที่ยบกับซื้อตามห้าง 
..

ยาสีฟันไม่ผสมแป้งก็มี มีวันนึงมาเทสหน้าบ้านผม เอายาสีฟันปิดยี่ห้อมาเทส แป้งทำปฏิกิริยากับไอโอดีนได้สีม่วง(แต่หลอกถามคนเทสว่าเพราะอะไรจึงเปลี่ยนสี ยังไม่รู้เลย  วิทยาศาตร์ ป.6 แท้ๆ คงท่องๆจำวิธีมา) เขาให้เอายาสฟันในบ้านมาเทส ในบ้านมีหลายยี่ห้อ ถ้าผมเอาที่มีสีขาวไปคงโดนเล่นแน่  ผมเลยเอายาสีฟันเจลสีเขียวใสๆยี้ห้องนึง  มาเทส ปรากฏว่าไม่เปลี่ยนสี มุขเขาเลยอดขายของ

จุดอภิมหาอมตะโคตรเพชรฯ  ใครเริ่มก่อน ก็ได้เปรียบเสมอ  เรื่องได่ข้ามขึ้นไปเป็นแค่่วิธีจูงใจล่ะครับ เพื่อจุดไฟในตัวคุณ

อ้างจาก: ล้างสมอง เห็นแก่ตัว เมื่อ 00:11 น.  23 ต.ค 54
-หากสมาชิกใหม่ยืนบนพื้นฐานด้วยความเชื่อว่าสินค้านั้นดีจริงๆ(เชื่อหมดใจว่าดี)  ทำไมต้องสมัครสมาชิกและต้องจ่ายเงินก่อน เพื่อแลกกับสินค้า เหมือนการบังคับซื้อครั้งแรก
เขาจะตอบว่า : เพราะสินค้าเขาใช้ต้นทุนผลิตมา หากไม่ซื้อก่อน บริษัทจะอยู่ได้อย่างไร หากเราใช้แล้วชิ่ง

ถ้าเป็นสมาชิกไม่ต้องจ่ายเงินแต่ ใช้แรงกาย เวลา ค่าโทร ต้นทุนของเราเองไปแนะนำบนพื้นฐานด้วยความเชื่อว่าสินค้านั้นดีจริงๆ สมาชิกใหม่ หรือ คนที่เป็นผู้ใช้(คนที่ใช้สินค้าแต่ไม่ต้องการสร้างทีมก็ีมี) บ.ก็ได้กำไรจากคนเหล่านี้ได้ 

อาหารเสริมบางค่าย สมัครสมาชิกแล้วให้สินค้ามาเซทนึง  มีสินค้าเฉพาะผู้หญิงด้วย  ผมถามว่า ถ้าผมสมัครแล้วจะเอาไปทำอะไร  เขาบอกว่าแล้วแต่คุณ  เอาไปขายต่อก็ได้   แสดงว่ามัดมือชก บังคับซื้อสินค้าครั้งแรก

-ที่เอายอดเงินเข้าทุกเดือนมา่ล่อนั้น  ถ้าไปหาลูกค้าแล้วไม่มีสมาชิกใหม่เลย และไม่มียอดซื้อ  จะยังมีเงินเข้าไหม  ถ้าต้องรักษายอด ต้องจ่ายเดือนละเท่าไหร่เทียบกับเงินที่คืนมา  และมันคุ้มไหม กับค่าใช้จ่ายที่ไปนัดลูกค้า ค่าโทร ค่าน้ำมัน ฯลฯ เทียบกับเงินที่คืนมา  กรณีลูกทีมไม่หาเพิ่มด้วย
เขาจะตอบว่า : ถ้าไม่หาลูกค้า ไม่มีคนมาสมัครต่อจากเรา เงินจะเข้าไหม เขาจะบอกทันทีว่า คุณไม่ทำงาน แล้วจะมีเงินได้ยังไง

ผมหมายถึงในเคสที่โทรไปแล้ว  นัดแล้ว เสียเวลา เสียตัวอย่าง เสียโบรชัวร์ เสียเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ  แต่เจอคนที่ขอคิดดูก่อน เจอคนไม่อยากทำ  หากแรกๆไฟแรง ใช้สูตรพบลูกค้า 10คนได้ 1 คนงี้  แต่ดันคิดก่อนทั้งนั้นยังจะมีเงินเข้ามาไหม

สำหรับประกันชีวิตฟังมาเยอะแล้ว  พวกน่าเบื่อ ชอบเซ้าซี้เช่นกัน

ผมมีวิธีปฏิเสธคือ

บอกว่ามีกรรมธรรม์แล้ว ตัวแทนก็จะรบเร้าให้ทำเพิ่ม ได้ผลประโยชน์ 2 ทางเลยดีกว่า

ถ้าไม่อยากเสียน้ำใจ  จากนั้นให้เขาอธิบายแผนมา

ให้ตอบไปว่าผลประโยชน์น่าสนใจแต่ติดที่ เงินตึงเกินไป (รายจ่ายเยอะแล้ว)

จากนั้น เสนอกลับไปว่าหุ้นกันทำเอาไหม  ค่าคอมยกให้ตัวแทนไปเลย ส่วนเบี้ยรายปี ให้ตัวแทนออกครึ่งนึงผมออกครึ่งนึง จ่ายปีละ2ครั้งผลัดกันต้นปีกับกลางปี  ผลประโยชน์แบ่งกันคนละครึ่ง

(เท่าที่ทราบมาผลประโยชน์แบ่งกันคนละครึ่งไม่ได้  ประกันจะติดเงื่อนไขที่ว่า ผู้รับผลประโยชน์ลำดับแรก ระบุชื่่อคนเดียว)

ฉะนั้นเมื่อค่าคอมยกให้ตัวแทนแล้ว ผู้รับผลประโยชน์ ก็ใส่ชื่อผมแล้วกัน ถ้าตัวแทนโอเคคนละครึ่งก็ทำ แต่ถ้าไม่โอเค ก็ไม่ทำ

ใ้ช้มุขนี้ ส่วนใหญ่นั่งอมยิ้มทั้งนั้น เมื่อรุกเขากลับแ้ล้ว จากนั้นก็รีบปิดการสนทนา

ต้องคิดให้เยอะก่อนประกอบอาชีพนี้ เสียเพื่อน เสียญาติ หรือแม้แต่เสียคน เสียแก่ มาก็มากแล้ว

   ... ผมก็หักหน้า เสียเพื่อน เสียแก่มาหลายคนแล้ว ช่วงนี้เริ่มเหงาๆไม่มีกลุ่มนี้มาป้วนเปี้ยนเลย 

อ้างจาก: หลากำนัน เมื่อ 21:51 น.  23 ต.ค 54
  ... ผมก็หักหน้า เสียเพื่อน เสียแก่มาหลายคนแล้ว ช่วงนี้เริ่มเหงาๆไม่มีกลุ่มนี้มาป้วนเปี้ยนเลย 

อยากให้มีสาวๆน่ารักๆสักคนไปป้วนเปี้ยนบ้างไหมท่าน อิอิ ล้อเล่นครับ

อ้างจาก: sunny_pepo เมื่อ 22:20 น.  23 ต.ค 54
อยากให้มีสาวๆน่ารักๆสักคนไปป้วนเปี้ยนบ้างไหมท่าน อิอิ ล้อเล่นครับ

.. ท่านล้อเล่นถ้ามีผมก็เอาจริงนะ   

  เคยเจอกับตัว......เป็นเพื่อนกัน  มาชวนไปกินน้ำชา.....ไม่ได้เจอกันนานอยากนั่งคุยความหลังครั้งวัยรุ่นหน่อย.....
  .....เลยไปเป็นเพื่อน   สุดท้าย.......พาตรูไปนั่งฟังธุรกิจขายตรง!!! 

 
  ไอ้เรามันก็น่ะ......ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่  เเต่เกรงใจเพื่อน......เลยนั่งฟังซะครึ่งชั่วโมง  จะกลับล่ะ.......

  พอวิทยากรเห็นเราจะกลับ  เลยเชิญวิทยากรอีกท่าน(ใส่เเหวนเพชร-ทองเต็มนิ้วทั้งสองข้าง)
  อวดอ้างตัวว่าเป็นอาจารย์สอนมหาลัยชื่อดังเเห่งหนึ่งในหาดใหญ่.....ที่มาทำธุรกิจขายตรงไม่ใช่เพราะอยากได้เงิน
   เเต่อยากให้คนหาดใหญ่มีรายได้เเละได้ใช้สินค้ามีคุณภาพ 

   เเม่เจ้า......ผมฟังเเล้วก็ได้เเต่ อมยิ้ม   

   


 

อ้างจาก: ขุนศึก เมื่อ 06:12 น.  23 ต.ค 54
ต้องคิดให้เยอะก่อนประกอบอาชีพนี้ เสียเพื่อน เสียญาติ หรือแม้แต่เสียคน เสียแก่ มาก็มากแล้ว

ก็ธุรกิจแบบนี้ เขาสอนมาฝังหัวมาแบบนี้แล้ว ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จ ต้องยอม ขนาดผัวเมียทะเลาะจะเลิกกันยังมี ซึ่งผมก็ใกล้เข้าข่ายไปทุกทีแระ.

ธุรกิจขายฝัน..
เอาอะไรต่อมิอะไร มาล่อตาล่อใจ
ให้คนที่อยากรวยแบบไม่ต้องทำอะไร .. ชอบตังค์ แต่ไม่อยากทำงาน
ได้ตาลุกวาว ไปกับ คำเพ้อพก ของ วิทยากร ทรงกิตติมศักดิ์ทั้งหลายแหล่ 

เวลาเพื่อนผมมาชวนไปฟัง..
ผมก็จะบอกว่า..
"อ๋อ .. เคยทำแล้ว ละก็เลิกทำแล้วว่ะ .. เสียเวลา" 

ผมว่าตอนนี้ คนทำธุรกิจแบบนี้ คงหาดาวน์ไลน์ ลำบากหน่อยล่ะ
เพราะจะหันไปทางไหน ก็มีแต่คนที่เป็นสมาชิกอยู่แล้ว เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด