ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ข่มขู่ผู้เสียหาย! 'ยูฟัน'เหิมเกริม ไม่ให้แจ้งความ มีเด็ก12โดนตุ๋น ส่งจม.-ทวงเงิน

เริ่มโดย ทีมงานประชาสัมพันธ์, 12:21 น. 15 เม.ย 58

ทีมงานประชาสัมพันธ์

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 14 เม.ย. 2558 05:30

ไม่ให้แจ้งความ มีเด็ก12โดนตุ๋น ส่งจม.-ทวงเงิน

พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำกำลังตำรวจเข้าตรวจค้นสำนักงาน บ.ยูฟัน สโตร์ จก. ย่านบางนา-ตราดซ้ำ ได้หลักฐานเพียบทั้งในห้องผู้บริหารระดับสูงและห้องหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย มีผู้เสียหายทั้งในและต่างประเทศทยอยแจ้งความ บริษัทยังทำแสบออกลูกขู่ไม่ให้ผู้เสียหายแจ้งความ ระบุจะฟ้องกลับทันที ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สั่งดำเนินการถึงที่สุด หลังพบภาพพลโททหารนอกราชการพัวพันกับบริษัท เผยสุดสลดมีนักเรียนวัย 12 เขียนจดหมายไปถึงผู้บริหารขอเงินคืนเพื่อนำไปจ่ายค่าเทอม ส่วนการตามตัวชาวมาเลเซียหุ้นส่วนตัวการใหญ่ พบชื่อ "แจ็กกี้" กำลังหนีอยู่ต่างประเทศ

[attach=1]

กรณี พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำกำลังตำรวจ บก.ปคบ. สนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจู่โจมจับผู้บริหาร-ผู้ถือหุ้น บ.ยูฟัน สโตร์ จก. เพื่อดำเนินคดีร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พร้อมตามตัวผู้เกี่ยวข้องที่เหลือ หลังมีประชาชนร้องเรียนว่า บริษัทดังกล่าวเปิดดำเนินการ ในลักษณะแชร์ลูกโซ่ มีผู้ถูกหลอกจำนวนมาก มูลค่าเสียหายกว่าหมื่นล้าน จนถึงขณะนี้ ปปง.ยึดทรัพย์ไปแล้วกว่า 250 ล้านบาท อยู่ระหว่างขยายผลยึดทรัพย์และสกัดกั้นเส้นทางการเงินที่ผ่องถ่ายไปต่างประเทศ

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 เม.ย. พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ. และผู้เชี่ยวชาญด้านของเก่า สนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจค้นอาคารสูง 8 ชั้น ที่เป็นสำนักงานใหญ่ของ บ.ยูฟัน สโตร์ จก. เลขที่ 18 ซอยบางนา-ตราด 25 ถนนบางนา-ตราด แขวงและเขตบางนา กทม. เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมในคดี จากการเข้าตรวจสอบพบภายในอาคารถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหรา มีการแบ่งเป็นห้องประชุมขนาดใหญ่หลายห้อง นอกจากนี้ยังมีห้องผู้บริหารและห้องระบบคอมพิวเตอร์ที่เก็บข้อมูลของบริษัททั้งหมด โดยเฉพาะในชั้น 6 เป็นห้องของผู้บริหาร พบเอกสารทางการเงินจำนวนมาก ส่วนในห้องหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย ชั้น 5 พบเอกสารลายเซ็นผู้บริหาร หนังสือส่งมอบอำนาจ เอกสารซื้อขายที่ดิน รายชื่อพนักงานบริษัทในตำแหน่งต่างๆ เชื่อว่าสามารถใช้เป็นเบาะแสตามตัวผู้เกี่ยวข้องในระดับสูงได้

พล.ต.ท.สุวิระเผยเดินทางมาตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยในส่วนของการจัดเก็บข้อมูลต่างๆในคอมพิวเตอร์ ขณะนี้พบกลุ่มเครือข่ายบริษัทออกมาเคลื่อนไหว โพสต์ข้อความลักษณะข่มขู่ไม่ให้ลูกข่ายเข้าแจ้งความกับตำรวจ พร้อมระบุว่า ทางบริษัทจะฟ้องกลับทันที ยืนยันว่าขณะนี้ตำรวจดำเนินคดีกับทางบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้วและสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้อีกหลายราย เนื่อง จากพบหลักฐานการกระทำผิดจริง จึงขอให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความได้ทันที ทั้งนี้ได้ประสานตำรวจสากลช่วยตรวจสอบการกระทำความผิดในต่างประเทศด้วย เพราะถือเป็นขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ

"ขณะนี้มีประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อ เข้าแจ้งความกับตำรวจแล้วในพื้นที่หลายจังหวัด อาทิ สมุทรปราการ นนทบุรี ภูเก็ต นครราชสีมา ล่าสุดมีผู้เสียหายจากประเทศออสเตรเลียแจ้งมาทางออนไลน์ว่า โอนเงินมาสมัครสมาชิกบริษัท จำนวน 2 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่หุ้นส่วนบริษัทโดยสารเครื่องบินกลับมาที่ประเทศไทยก่อนถูกควบคุมตัวได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ" พล.ต.ท.สุวิระกล่าว

ส่วนกรณีที่มีนายทหารนอกราชการยศพลโทเข้ามาเกี่ยวพันมีชื่อเป็นที่ปรึกษาของบริษัทและนำภาพแต่งเครื่องแบบยศพลโทเผยแพร่ตามสื่อ รวมทั้งในงานสัมมนาของทางบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือนั้น พล.ต.ท.สุวิระกล่าวว่า คดีนี้ได้รายงานให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ทราบทุกระยะ ในส่วนของพลโทนายทหารนอกราชการดังกล่าว พล.อ.ประวิตรได้สั่งการมาว่า หากพบพยานหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องให้ดำเนินคดีตามกฎหมายรวมทั้งผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีนักเรียน นักศึกษาหลงเชื่อคำชักจูงของบริษัทดังกล่าวและตกเป็นเหยื่อมีมากน้อยแค่ไหน พล.ต.ท.สุวิระเผยว่า ตรวจสอบเบื้องต้นพบมีนักเรียนอายุ 12 ปี เขียนถึงผู้จัดการทั่วไปของ บ.ยูฟัน สโตร์ จก. แจ้งความประสงค์ขอรับเงินที่นำไปลงทุนคืน เนื่องจากไม่มีความรู้เรื่องหน่วยลงทุน โดยเป็นเงินที่สะสมมานานและต้องการนำมาช่วยมารดาจ่ายค่าเทอม กรณีของนักเรียนอายุ 12 ปี คนนี้ จึงเป็นเรื่องที่น่าห่วงมาก ทำให้เห็นว่าการโฆษณาชวนเชื่อของเครือข่ายบริษัทนี้แทรกซึมไปทั่วทุกภาคส่วนของสังคม หากมีนักเรียน นักศึกษาได้รับความเสียหาย ขอให้มาแจ้งความกับตำรวจเป็นหลักฐาน โดยจะมีการปกปิดรายชื่อไว้

ด้านการติดตามตัวชาวมาเลเซียหุ้นส่วนตัวการใหญ่ของบริษัท ที่สวมบัตรประจำตัวประชาชนเป็นคนไทย โดยใช้ชื่อนายอาทิตย์ ปานแก้ว ซึ่งกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการจำหน่ายชื่อออกไปแล้วนั้น ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวที่เข้าร้องเรียนว่าหุ้นส่วนตัวการใหญ่ชาวมาเลเซียคนดังกล่าวชื่อนายแจ็คกี้ (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) ขณะที่ทางตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนหาข้อเท็จจริง พบว่านายแจ็คกี้และเพื่อนชาวมาเลเซียอีก 3 คน ยังหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ

ข้อมูลและที่มา
http://www.thairath.co.th/content/492922