ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ขายกล้วยหักมุก 2 เครือ เสนอราคามาจ้า อยู่อ.เมืองสงขลา

เริ่มโดย yuu, 15:17 น. 27 เม.ย 58

yuu

กล้วยมีทั้งหมด 2 จ้า ลูกใหญ่ตามที่ถ่ายรูปไว้ ติดต่อ 0867499636 หรือ line : pplengpai

yuu

กล้วยหักมุกปิ้ง ........ อาหารสุขภาพ ที่หาทานยากมาก " กล้วยหักมุก " เป็นกล้วยที่ต้องปรุงให้สุกก่อน คนโบราณเรียกว่า "กล้าย" ตลาดอเมริกาบอกว่า "กล้าย" ไม่ใช่ "กล้วย" โดยเรียกกล้ายว่า Plantains ใช้กินเป็นผัก เพราะมีแป้งมากกว่า และหวานน้อยกว่า นิยมปรุงให้สุกเป็นอาหาร มากกว่ากินแบบผลไม้สด ลักษณะที่โดดเด่นของกล้าย คือ มีขนาดลูกค่อนข้างใหญ่ อ้วน มีเปลือกหนา สีเขียว เหลือง หรือดำ เป็นสีเปลือก ที่ใช้บอกสถานะของความสุกงอม ได้
ในอินเดียนิยมนำ "กล้าย " มาบดเป็นแป้งเรียก "แป้งกล้าย" ใช้ปรุงอาหารจำพวกเค้ก คุกกี้ และขนมต่างๆ บางประเทศจะติดฉลาก กล้ายว่า Platanos หรือ Plantains นิยมนำมาปรุงอาหารด้วยการย่าง หรือทอด กินกับปลาหรือไก่ คล้ายมันฝรั่ง ในหลายประเทศ นิยมทอดในเนยให้เหลืองหอม แล้วกินกับน้ำผึ้ง หรือซอสนานาชนิด บ้างก็ยัดไส้ชีส กินตอนร้อนๆ เป็นอาหารประจำฤดูหนาว
กล้วยหักมุก มีผลใหญ่กว่า ก้านผลยาว ปลายผลลีบเรียวลง และมีเหลี่ยมชัดเจน ลักษณะเปลือกหนา เมื่อสุกเปลือก จะมีสีเหลืองอมน้ำตาล เนื้อผลจะมีสีเหลืองเข้มอมส้ม นอกจากกล้วยหักมุก สายพันธุ์ดั้งเดิมแล้ว เดี๋ยวนี้ยังมี "กล้วยหักมุกทอง" จะมีขนาดผลเล็กกว่ากล้วยหักมุกทั่วไปมาก เกือบจะใกล้เคียงกับกล้วยน้ำว้า และเปลือกจะบางเนียนเรียบ ไม่แตกลายงาเมื่อตอนแก่จัด สีผลเมื่อสุกจะเป็นสีเหลืองทอง ไม่กระดำกระด่าง ขนาดเครือยาว และผลดก หัวปลีกล้วยหักมุกทอง จะมีรสฝาด แต่หัวปลีของกล้วยหักมุกธรรมดาจะฝาดขมมาก
สุดยอดของการกินกล้วยหักมุก ในบ้านเราก็คือการเอามาทำ "กล้วยปิ้ง" โดยนิยมใช้กล้วยหักมุก ที่แก่จัดสุกจนเกือบงอม มากรีดเปลือกออกด้านหนึ่ง ออกแล้วย่างไฟทั้งเปลือก จนสุกเหลืองทั่วทั้งผล กินตอนที่ยังร้อนๆ เพิ่งเอาออกจากเตาย่างใหม่ๆ จะได้รสชาติเอร็ดอร่อยเป็นพิเศษ การปิ้งกล้วยหักมุกแบบนี้ เห็นได้ทั่วไปตามตลาดสด ที่ขายกล้วยปิ้ง
บางบ้านถ้าย่างกินกันเอง อาจใช้วิธีผ่ากลางครึ่งผล ทั้งเปลือกเลย ระหว่างปิ้งก็ทาเกลือ หรือน้ำผึ้ง น้ำกะทิลงไปได้ แล้วแต่ชอบ ปิ้งไฟอ่อนถึงปานกลาง จนเปลือกนอกสีดำเกรียม นั่นแหละถึงจะสุกจริง กลิ่นไหม้ของเปลือกกล้วย จะช่วยชูรสของกล้วยหักมุกปิ้ง อย่างแรง
วิธีกินกล้วยหักมุกแบบดั้งเดิมอีก อย่างคือ "กล้วยหักมุกเผา" ซึ่งนิยมกันมาแต่ดั้งเดิม ในบ้านที่ใช้เตาถ่านทำกับข้าว โดยจะเอากล้วย ยัดใส่เตาถ่าน หมกไว้ตรงชั้นล่าง กับกองขี้เถ้า พอทำอาหารเสร็จ กล้วยเผาก็สุกได้ที่กำลังดี โดยเปลือกข้างนอก จะดำปี๋ไหม้เกรียม แต่ข้างในนั้นสุกหวานหอม แกะเปลือกออกมาควันฉุย เห็นเนื้อกล้วยสีทองอร่าม กินเปล่าๆ โดยไม่ใส่อะไรก็ได้รสชาติ ของกล้วยธรรมชาติหอมกรุ่น ถ้าชอบหวานหน่อย อาจราดน้ำผึ้งหรือนมสด บางคนบีบมะนาวลงไปด้วยกลายเป็นกล้วยสามรส
กล้วยหักมุกทอง ซึ่งเปลือกค่อนข้างบางนั้นจะย่าง แบบกล้วยหักมุกทั่วไปไม่ได้ เพราะอาจจะไหม้ก่อนสุกได้ หรือถ้าย่างไฟอ่อนนานๆ เนื้อกล้วยก็อาจจะแห้งเกินไป จนแข็งไม่น่ากิน ดังนั้น จึงนิยมนำกล้วยหักมุกทอง ไปทำกล้วยเชื่อมมากกว่า
เดี๋ยวนี้ แค่จะหากล้วยหักมุกปิ้ง กินตามตลาดสดยังยากเลย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เนื่องจากกล้วยหักมุก มีราคาแพงขึ้นมาก แพงขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่ค่อยมีใครปลูกกันแล้ว เนื่องจากปลูกยาก และใช้ระยะเวลายาวนานกว่าจะออกผล จึงทำให้ผลผลิตมีน้อยลง
การปิ้งนั้นต้องใช้ถ่านดีๆ เพื่อให้ได้ความร้อนสม่ำเสมอ ที่นิยมที่สุดคือ ถ่านจากไม้โกงกาง
ที่สำคัญบ้านสมัยใหม่ จะหาเตาถ่านที่ไหนมาปิ้งกล้วย
กล้วยหักมุกมีสรรพคุณ โดยมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย สาเหตุท้องเสีย กล้วยมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของอาการท้องเสียได้แก่ Escherichia coli ในกล้วยจะมีสาร tannin ซึ่งมีฤทธิ์ฝาดสมาน ใช้แก้อาการท้องเสียได้ โดยออกฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้
และ มีฤทธิ์ต้านการเกิดแผลในกระเพาะ สารสำคัญในการออกฤทธิ์ต้านการเกิดแผลในกระเพาะ sitoindoside IV ซึ่งช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ