ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

4 แนวทางการตรวจสอบค่าต่างๆด้วย เครื่องมือวัด fluke สำหรับช่างไฟฟ้าทั่วไป

เริ่มโดย lnwneverdie2015, 14:04 น. 02 พ.ค 58

lnwneverdie2015

เครื่องมือช่างไฟฟ้าเป็นสิ่งที่มือใหม่ หรือพ่อบ้านทั่วไป จำเป็นต้องฝึกฝนวิธีการใช้ให้คล่องแคล่ว มากกว่าการรู้แต่จากหนังสือเท่านั้น และเครื่องมือวัดไฟ เป็นอีกเครื่องมือสำหรับช่างไฟอีกตัวที่สำคัญอย่างมากช่างสมัครเล่น เพราะเป็นเครื่องมือชิ้นต้นๆ ที่ช่วยให้เรารู้เรื่องเรื่องพื้นฐานไฟฟ้า แต่ก่อนอื่นคุณต้องเลือกซื้อหา เครื่องมือวัดไฟ สักตัวก่อน ซึ่งมีอยู่มากมายหลายยี่ห้อในตลาด ทั้งที่ราคาที่ไม่แพง และราคาสูงแตกต่างกัน บางรุ่นจะมีฟังค์ชั่นพิเศษ เช่น วัดอุณหภูมิองศาฟาเรนไฮน์ได้  แต่ส่วนใหญ่แล้วมัลติมิเตอร์ จีนแดงจะอ่านค่าได้ไม่เที่ยงตรงนัก เราขอแนะนำเครื่องมือวัดไฟยี่ห้อ fluke ซึ่งแม้จะมีราคาค่างวดที่สูงสักนิด แต่ใช้งานทนทาน ได้มาตรฐาน และตรวจจับวัดค่าได้เที่ยงตรง ซึ่งเรียกว่าซื้อทีเดียวใช้คุ้ม โดยเพื่อนๆสามารถสั่งออนไลน์ผ่าน ตัวแทนจำหน่าย fluke ได้ สำหรับงานไฟฟ้าเบื้องต้น แนะนำรุ่น FLUKE 117 ซึ่งมีคุณสมบัติการวัดพื้นฐานครบถ้วนเหมาะกับมือใหม่มากครับ
ดิจิตอลมัลติมิเตอร์ คืออะไร
ดิจิตอลมัลติมิเตอร์ เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่ช่วยให้ท่านสามารถวัดค่าไฟฟ้าต่างๆ เช่น โวลต์, กระแส,  R และวัดค่าไดโอด เครื่องมือวัด fluke 117 มีฟังชันก์ เหล่านี้ทั้งหมดนี้ หน้าจอ fluke 117 บอกผลตัวเลข 4 หลัก ซึ่งเพียงพอแล้วสำหรับมือใหม่ ดิจิตอลมัลติมิเตอร์จะมีโหมดย่านต่างๆ ให้เลือก โดยการปรับหน้าปัดไปที่โหมดย่านเหล่านั้น ตามสัญลักษณ์ ดังนี้
V สำหรับตรวจสอบแรงดันไฟ ทั้งแบบกระแสตรง และไฟฟ้ากระแสสลับ
mV วัดแรงดันไฟฟ้า มิลลิแอมป์ แบบDC และไฟฟ้ากระแสสลับ
Ω วัดค่าโอห์ม
A วัดปริมาณไฟ แบบกระแสไฟตรง และไฟฟ้ากระแสสลับ
และโหมดตรวจสอบความต่อเนื่องสำหรับ ตรวจสอบสายไฟขาด
สำหรับขั้นตอนการวัดไฟโหมดพื้นฐานต่างๆ เราได้รวบรวมวิธีการไว้ดังต่อไปนี้
การวัดค่าโวลต์
การวัดโวลต์ หรือการวัดแรงดันไฟฟ้า ก่อนอื่นคุณต้องหาแบตเตอรี่ 9v ที่ใช้งานมาทำการทดลองต่อจากนั้น
1.เสียบขั้วลบสีดำเข้ากับช่อง COM (common) ที่ตัวเครื่องมือวัด fluke
2.ต่อสายแดงเข้าช่อง V
3.บิดลูกบิดไปยังย่านโหมด V แรงดันไฟฟ้า แรงดันกระแสตรงสูง หรือกระแสไฟตรงต่ำ mV จอจะขึ้นโหมด DC
4.นำสายไฟสีแดงสัมผัสที่ขั้วบวก แท่งสายสีดำแตะขั้วลบ ของถ่าน AA
5.ค่าของค่าโวลต์ ของแบตเตอรี่จะขึ้นตัวเลขที่หน้าจอบนมัลติมิเตอร์
6.ในกรณีวัดไฟบ้าน ให้ปรับลูกบิดไปที่โหมด V แรงดันกระแสสลับ สูง Hz เท่านั้น ซึ่งที่หน้าจอดิจิตอลจะแสดงเครื่องหมาย AC
7.เสียบสายดำแดงที่ปลั๊กไฟบ้าน แต่ควรระวังอย่าให้ทั้งแท่งสายขั้วบวกลบสัมผัสกัน หรือนิ้วไปถูกบริเวณแท่งเหล็ก ซึ่งไฟกระแสตรงเมืองไทยจะแสดงค่าแรงดันประมาณ 220V
การแอมป์มิเตอร์
1.เสียบสายดำเข้ากับช่อง COM (common)
2.เสียบสายแดงที่ช่อง A ซึ่งเครื่องมือวัด fluke 117 สามารถตรวจสอบปริมาณไฟได้สูงสุด 10A
3.ปรับหน้าปัดไปยังย่านสัญลักษณ์ A ไฟกระแสตรง
4.ทำการต่อสายสีดำ-แดงเชื่อม เข้าโหลดแหล่งจ่ายไฟฟ้าแบบอนุกรม ค่าปริมาณไฟฟ้าที่ผ่านดิจิตอลมัลติมิเตอร์จะขึ้นค่าตัวเลขที่หน้าจอ
5.หากคุณต้องการวัดไฟกระแสสลับ ให้บิดลูกบิดไปที่ ย่านวัดกระแสสูง หรือสัญลักษณ์ A Hz ทำการต่อสายสีดำ-แดงเชื่อม เข้าโหลดกับวงจรแบบอนุกรม ค่ากระแสไฟฟ้าจะแสดงที่จอดิจิตอลมัลติมิเตอร์ กระนั้นควรระมัดระวังเสมอว่าเครื่องวัดสามารถตรวจสอบปริมาณไฟมีลิมิตไม่เกิน 10A เท่านั้น ถ้าวัดกระแสที่ปริมาณมากกว่านั้น ฟิวส์ภายในเครื่องจะระเบิด ทำให้มัลติมิเตอร์เสียหายได้
การวัดค่าโอห์ม
การวัดค่าโอห์ม หรือ R คือ ตัวต้านทาน กระแสไฟฟ้า เพื่อปรับลดปริมาณไฟให้พอดีกับเครื่องมือหรือวงจรต่างๆ
1.เสียบสายดำแดง เหมือนการวัดค่าแรงดันไฟฟ้า สายสีแดงเสียบเข้ากับสัญลักษณ์ Ω โอเมก้า เครื่องหมายกรีกโบราณ ที่ตัวเครื่องมือวัด fluke
2. บิดลูกบิดไปยังย่าน Ω ความต้านทาน และหากเอาขั้วสายทั้งสองเส้นมาแตะกันจะไม่มีค่าโอห์ม มาตรวัดจะแสดงผลที่ 0 โอห์ม คือความต้านทานไม่มี
3.นำขั้วสายทั้งสองเส้น ไปแตะยังด้านปลายของสายไฟที่จะวัดค่า R
4.จากนั้นหน้าจอเครื่องมือวัดไฟจะแสดงตัวเลขค่าโอห์มของอุปกรณ์นั้นๆ ซึ่งถ้าไม่มีโอห์มแล้ว ค่าโอห์มจะเท่ากับ 0
การตรวจวัดความต่อเนื่อง หรือวิธีเช็คสาย
ตรวจสอบความต่อเนื่อง เป็นการตรวจสอบตัวนำไฟฟ้าของเครื่องมือ หรือเช็คอุปกรณ์นำไฟฟ้าว่าเชื่อมต่อกันหรือไม่ วัสดุนำไฟฟ้าขาดจากกันหรือไม่ ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
1.ต่อสายสีดำ เข้าช่อง COM (common)
2.ต่อสายสีแดงเข้า ช่องโอห์ม ที่ตัวเครื่องมือวัด fluke
3.บิดลูกบิดไปที่โหมดย่านความต่อเนื่อง ลักษณะคล้ายสัญญาณมือถือ
4.ทดสอบโดยการนำปลายสายดำแดงมาสัมผัสกัน ซึ่งเครื่องจะส่งเสียงเตือน ปี๊บ แสดงว่ามีความต่อเนื่องกัน
5.จากนั้นเอานำขั้วสายทั้งสองเส้น แตะที่ปลายวัสดุที่เราจะทดสอบสองข้าง ถ้าหากได้ยินเสียงดังบี๊บๆ แสดงว่าสายเชื่อมต่อกัน นั่นเอง แต่ถ้าไม่มีเสียงดัง แสดงว่าไม่มีความต่อเนื่องกัน
ง่ายมากเลยใช่ไหมครับ ทั้งนี้เพื่อนๆต้องทำการทดลองฝึกหัดให้เข้าใจ ให้ถ่องแท้ และต้องพึงระวังเสมอเวลาจะวัดไฟบ้าน ซึ่งเป็นไฟฟ้าที่มีกระแสสูง อันตรายอย่างมาก และหากท่านมีงบเพียงพอ การซื้อหาเครื่องเครื่องมือวัดไฟยี่ห้อ fluke จากตัวแทนจำหน่าย fluke ในเว็บออนไลน์ จะช่วยให้ท่านทำงานได้ไม่ยากเลย เพราะยี่ห้ออื่นแล้วจะมีช่วงย่านที่สับสนกว่านี้ แต่กับของ fluke มีดีไซน์ระบบทำให้มือใหม่ตรวจวัดไฟได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญเรื่องความทนทาน fluke ถือเป็นอันดับหนึ่งอย่างแท้จริง

ที่มา : http://www.meterdd.com

Tags : fluke,เครื่องมือวัด fluke