ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ที่เราประกาศรับสมัครงานบ่อย ๆ ก็เพราะมีเหตุผล

เริ่มโดย ผู้ประกอบการ, 12:28 น. 28 ต.ค 54

ผู้ประกอบการ

1. เด็กส่วนใหญ่ที่เพิ่งเรียนจบมามักจะเลือกงาน
2. เด็กที่จบปริญญาตรีมักจะคิดว่าต้องเลือกงานที่สบาย ๆ เงินเดือนสูง แต่เค้าก็ลืมคิดไปว่ามีคนเรียนจบออกมาตั้งมากมาย
3. ในหลักสูตรการเรียนปัจจุบันของสถาบันการศึกษาไม่มีสอนในเรื่องของการทำงาน คุณธรรมจริยธรรม มารยาท
   ในการทำงาน ความรับผิดชอบในการทำงาน เหล่านี้ต่าง ๆ ฯลฯ
4. สมัยนี้การศึกษาระดับมหาลัยในการเรียนจบออกมาไม่ลำบากเหมือนเมื่อก่อน เช่น เรียนฟรี 15 ปี เรียนระดับ
   มหาวิทยาลัยก็สามารถกู้ยืมเงินเรียนไปจนจบได้ (สมัยก่อนไม่มีเงินให้ยืมจะจบท่ีก็ยากแสนเข็ญ จึงต้องตั้งใจ 
   เรียนอย่างมากเพื่อจะให้จบออกมา) ดังนั้นคุณภาพการศึกษาจึงด้อยกว่า
5. เมื่อเลือกงานก็ย่อมมีการเปลี่ยนงานเป็นว่าเล่นและไม่มีมารยาทในการแจ้งบอกลาออกล่วงหน้า พอได้งานใหม่ก็ออก
   ทันทีที่ได้รับเงินเดือนตอนสิ้นเดือน
6. มีความอดทนต่ำ
7. ทำแต่ตรงส่วนหน้าที่ของตัวเอง ไม่มีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน บางครั้งถ้าให้ไปช่วยงานอื่นบ้างก็ไม่ยอมทำ

เห็นด้วย

เห็นด้วยอย่างยิ่งเด็กสมัยนี้ทำงานไม่เป็น คือคิดเองไม่เป็นต้องรอแต่คำสั่งอย่างเดียวและ
ไม่ค่อยรักษาผลประโยชน์ให้กับนายจ้างและไม่มีน้ำใจช่วยเหลือไม่สนใจการทำงาน
วัน ๆ นั่งเข้าเน็ตคอยหางานที่ดีกว่าสบายกว่า

ผู้ประกอบการ

บางครั้งเราต้องสกรีนคัดคนที่มีคุณสมบัติตามที่ต้องการ (แต่หาตามคุณสมบัติยากมาก) ก็ยังไม่ได้รับพนักงาน
ยอมขาดคนดีกว่ารับคนที่ไม่มีคุณภาพ ดังนั้นจึงต้องมาลงประกาศรับสมัครงานบ่อย ๆ อีกครั้ง



ผู้ประกอบการ

- บางคนเคยผ่านการทำงานมาจากที่เก่าพอเข้ามาทำงานที่เราก็ใช้ความเก๋าเกมส์หรือความเขี้ยวมาใช้กับที่ใหม่
จึงมีทัศนคติด้านลบที่เป็นอันตรายต่อองค์กร (พนักงานแบบนี้ส่วนใหญ่นายจ้างจะไม่ต้องการ)
- พนักงานบางคนชอบเปรียบเทียบการทำงานและเงินเดือนของตัวเองกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นว่าทำไมเราไม่ได้เงินเท่า
คนอื่น แต่ลืมหันกลับมาดูตัวเองว่าทำงานแบบไหน ขยันทำงานไหม เกียจคร้านไหม อู้งานไหม ฯลฯ
- ไม่มีใจรักในด้านการบริการและการทำงาน
- ยุแหย่เพื่อนร่วมงานให้ออกตาม

kos

บางคนเข้ามาทำงานแล้วก็สำคัญตนผิดว่าตัวเองจบ ป.ตรี เรียนสูงแล้ว
แต่ว่าคิดผิดเด็กสมัยนี้เรียนจบ ป.ตรี มาตั้งมากมายจะเป็นมดอยู่แล้ว
ก็หลงตัวเองว่าต้องได้งานดี ๆ ทำ แต่งานที่ทำระดับล่างก็ไม่เอามัวแต่เลือกงาน
เปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น

  จบออกมาไม่ถึงปีเปลี่ยนงานมาหลายแห่งแล้ว นั่นเป็นเพราะคิดว่าทำไปก่อน
แล้วค่อยหางานที่ใหม่ทำ เป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนขาดคุณธรรมและ
มารยาทการทำงานกับนายจ้าง และไร้น้ำใจกับนายจ้างไปเลย

ขอเสริม

ที่คุณผู้ประกอบการกล่าวมานั้นถูกต้องทั้งหมดยืนยัน ขอเสริมอีกข้อเด็กจบใหม่ต้องการเงนเดือนสูง ๆ เท่าคนเก่าทั้งที่ตัวเองทำอะไรไม่เป็นเลย ได้แต่เปิดเครื่องคอมเป็นอย่างเดียวแต่เงินเดือนต้องการสูง ๆ

คนดี(มั้ง)

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เด็กรุ่นใหม่ไม่มีความอดทน และไม่ค่อยมีสัมมาคาระวะ และอีกปัญหาที่ทำให้หาคนทำงานยากคือนโยบายใหม่ของรัฐบาล 15,000 บาท แต่ขอบอกว่าขอให้เลิกฝันกันเถอะ ต่อไปนี้คนจบป.ตรีจะตกงานกันอีกเยอะเพราะจะไม่มีคนจ้างทำงาน หันมารับ ปวช/ปวส แทนดีกว่า งานทุกอย่างมาฝึกกันได้

ซูโก้ย!

เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ผ่านมาครับ ขอเสริมหน่อย บางคนนัดสัมภาษณ์งาน 10.00น. มาเอาตอน 11.00น.
บางรายนัดสัมภาษณ์งาน 13.00น. มาเอาตอน 14.00น. ไม่เหมือนสมัยก่อน ตอนผมไปสมัครงาน ต้องไปก่อน เวลา 10 นาทีด้วยซ้ำ เพื่อให้นายจ้างหรือผู้สัมภาษณ์งานได้เห็นถึงความกระตือรือร้น ในการอยากทำงานในองค์กร หรือหน่วยงานที่ได้ไปสมัครงาน พูดจาหางเสียงบางคนไม่มีเลย มีบางข้อที่สัมภาษณ์ไปว่า "คุณอยากทำงานอยากร่วมงานกับหน่วยงานของเราไหม" เวงกำตอบมาได้ "ขอคิดดูก่อน" ไปหน้าเลยน้อง ส.หลกจริง

บริษัท

 ส.ยกน้ิวให้  ถูกต้องเลยครับ เหตุผลที่ต้องรับบ่อย คุณภาพงานไม่มี จริงๆ

• แฟนเยอะ
• แชต BB
• อัพเฟส
• เม้าส์ละคร
• อาบน้ำหอมปลอม (ฉุนทั้งออฟฟิศ)

คุณแม่ม่ามี้

อ้างจาก: บริษัท เมื่อ 07:46 น.  29 ต.ค 54
ส.ยกน้ิวให้  ถูกต้องเลยครับ เหตุผลที่ต้องรับบ่อย คุณภาพงานไม่มี จริงๆ

• แฟนเยอะ
• แชต BB
• อัพเฟส
• เม้าส์ละคร
• อาบน้ำหอมปลอม (ฉุนทั้งออฟฟิศ)
ถูกใจมาก ๆ กด like ล้านครั้งค่ะ

คุณแม่ม่ามี้

บางคนเห็นคนอื่นเงินเดือนเยอะกว่าเรียกร้องจะเอาเงินเดือนเท่าคนอื่น แต่ลืมดูตัวเอง
ว่าตัวเองมีความสามารถแค่ไหน  แก้ปัญหาก้อไม่ได้ คิดเองก้อไม่เป็น  ทำงานแบบผ่านไปที
ว่างปุ๊บนั่งแชทปั๊บ  เฮ้อ คิดแล้วกลุ้ม

บริษัท

ไอ้เราก็นึกว่าจะมีบริษัทของเราที่ประกาศรับสมัครพนักงานบ่อย ๆ แต่ที่ไหนได้มีกันมากมายเลย
เคยสัมภาษณ์พนักงานบางคนพูดว่าเห็นบางบริษัทรับสมัครพนักงานบ่อย ๆ ก็ให้คิดว่าบริษัทนั้นไม่ดีพนักงานจึง
อยู่ไม่ได้  แต่พอมาได้ฟังนานาทัศนะของแต่ละบริษัทที่มาโพสก็รู้ถึงเหตุผลทันที

กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่อยากให้คนที่กำลังหางานหรือนักศึกษาเพิ่งจบใหม่ได้พึงสังวรณ์และคิดว่าการทำงานเป็นอย่างไร
ควรเข้ามาอ่านกันมาก ๆ นำไปคิดและเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองใหม่

   บางคนพอเริ่มเข้ามาทำงานได้ไม่กี่วันมีความอดทนต่ำและก็คิดว่าไม่ชอบงานนี้ ก็ออกไปเลยเฉย ๆ

molap

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ๆ ๆ ๆ...เด็กที่จบใหม่พึงตระหนักไว้ว่าที่จบ ป.ตรี มานั้นไม่ใช่ว่าเรียนสูงแล้ว แต่คิดผิดเพราะสมัยนี้
ใคร ๆ ก็บินได้ เอ๊ย ! ใคร ๆ ก็สามารถเรียนจบ ป.ตรี ได้อย่างง่ายดาย
ทุกคนก็จบ ป.ตรี กันมาทั้งนั้น
แต่คุณภาพของคนด้อยลงด้วยการศึกษาของหลักสูตรที่ไม่เข้มข้น
อย่างที่ผู้เขียนกระทู้ว่าในหลักสูตรสมัยนี้ไม่มีการสอนและอบรมในเรื่องการเข้าทำงาน
ทำงานอย่างไรจึงจะให้เด็กจบใหม่มีคุณภาพ
การศึกษาเปรียบเทียบได้คือจบ ป.ตรี สมัยนี้เทียบได้เท่ากับ
จบ ปวส. สมัยก่อนเท่านั้นเอง แต่คุณภาพของเด็กจบใหม่
สู้เด็กสมัยก่อนไม่ได้  แถมช่างเลือกงานกันอีกอยากได้งานสบาย ๆ ในห้องแอร์เย็น ๆ
งานต้องไม่หนัก ไม่สู้งานเอาเสียเลย

บริษัทในหาดใหญ่

เด็กจบใหม่เค้าก็คงหลงคิดว่าชั้นจบปริญญาตรีนะเฟ้ย ดังนั้นวุฒิมันจึงค้ำคออยู่จึงหลงทรนงตัวและซึมเข้า
ไปในสมองให้คิดว่าต้องเลือกงาน ถึงแม้ว่าได้งานทำไปก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยหางานใหม่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ

พอออกไปเฉย ๆ โดยไม่บอกลาล่วงหน้าจึงทำให้ขาดคนโดยกระทันหัน ไอ้การออกไปโดย
ไม่แจ้งล่วงหน้านี่่มันเหมือนเป็นแฟชั่นเลียนแบบเหมือนกันหมดแทบทุกคนเลย 
ออกไปแบบไม่บอกก่อนเป็นใครก็เตรียมตัวไม่ทัน จึงต้องมาประกาศรับสมัครงานอยู่บ่อยครั้ง

บางคนในหาดใหญ่

พวกประกอบการก็พึงจำใส่หัวให้ดีด้วยน่ะครับ ว่าเอาพวกคุณปฏิบัติกับลูกน้องยังไง พวกคุณเคยใส่ใจลูกน้องหรือเปล่า สังคมพนักงานลับหลังก็นินทาหัวหน้ากันทั้งนั้นแหล่ะ พอได้เป็นเจ้าคนนายคนก็ทำหยิ่งยโส ไม่พอใจลูกน้องก็ด่า ไม่คำนึงถึงพวกพนักงาน แถมที่ทำงานบางที่อยู่ไปก็ไม่มีอนาคต ทำงานแทบตายไม่ได้ขึ้นตำแหน่งไม่ได้ขึ้นเิงินเดือน เค้าก็เลยชิงออกกันทั้งนั้นแหล่ะ พนักงานบางคนก็มีความอดทนสูงน่ะครับ อย่าเหมารวม แต่เ้ค้าก็มีฟางเส้นสุดท้ายเหมือนกัน

Pinyo

ถูกต้องเลยครับจบ ป.ตรี สมัยนี้นั้นมันง่ายมากขอฉายภาพให้ดูชัด ๆ นะครับ

1. นโยบายของรัฐให้เรียนฟรี 15 ปี (เรียนถึง ม. 6) ค่าเทอมค่าเสื้อผ้า ฟรี หนังสือตำราเรียน ฟรี
ไม่ต้องจ่ายให้เป็นภาระผู้ปกครอง
2. หลังจากจบ ม. 6 แล้วเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยก็มีเงินให้กู้ยืมเรียนไปจนจบปริญญาตรี
เป็นไงล่ะท่านผู้อ่าน ... จบ ป.ตรี ง่ายดังปอกกล้วยเข้าปากคนเรียนจบออกมาจึงมีมากมายมหาศาล

สมัยนี้ใครไม่จบ ป.ตรี สมควรเรียกกระบือได้แล้ว

ทีนี้มาเปรียบเทียบการเรียนสมัยก่อน
1. ตั้งแต่เตรียมอนุบาลยัน ม. 6 ต้องเสียค่าเทอมตลอด เสื้อผ้าไม่มีฟรี หนังสือไม่มีฟรี จ่ายเอง
2. เรียนระดับ ป.ตรี ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเองหมดทุกอย่างค่าหน่วยกิจ ค่าตำราเรียน ฯลฯ ไม่มีเงินให้กู้ยืมเรียนเลย
3. ถ้าใครมีฐานะยากจนจึงไม่สามารถเรียนต่อได้  ดังนั้นคนที่สามารถเรียนจบ ป.ตรี มาได้จึงมีน้อย
4. เด็กสมัยก่อนที่เรียนจบ ป.ตรี มาได้จึงนับว่ามีความขยันและตั้งใจเรียนเป็นอย่างยิ่งเพราะทุกอย่างต้องใช้เงิน
5. เด็กรุ่นก่อนจึงเรียนจบออกมาอย่างคนมีคุณภาพและสามัญสำนึกในด้านดี

เหมือนกันหมด


คนค้าแก้ว

เห็นด้วยนะครับกับมาตรฐานของเด็กนักเรียนนักศึกษาในปัจจุบันที่ต่ำมาก ไม่เพียงแต่เด็กป.ตรีเท่านั้นนะครับผมว่าเป็นทั้งระบบเลยไม่ว่าจะปวช. ปวส. ปริญญา คือเราคาดหวังกับวุฒิการศึกษาของเขาในระดับหนี่งแต่พอทำงานแล้วมันต่ำกว่าที่เราคาดเอาไว้ แล้วนี่มีคนตกงานจากโรงงานต่างๆที่ถูกน้ำท่วมมาพวกจบการศึกษาใหม่จะมีสักกี่คนที่จะได้งานทำละครับ
ไม่ต้องบินสูงอย่างใครเขา จงบินเอาเท่าที่เราจะบินไหว ท่าที่บินไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร แต่บินไปให้ถึงฝันเท่านั้นพอ

Bush

อ้างจาก: บางคนในหาดใหญ่ เมื่อ 11:40 น.  29 ต.ค 54
พวกประกอบการก็พึงจำใส่หัวให้ดีด้วยน่ะครับ ว่าเอาพวกคุณปฏิบัติกับลูกน้องยังไง พวกคุณเคยใส่ใจลูกน้องหรือเปล่า สังคมพนักงานลับหลังก็นินทาหัวหน้ากันทั้งนั้นแหล่ะ พอได้เป็นเจ้าคนนายคนก็ทำหยิ่งยโส ไม่พอใจลูกน้องก็ด่า ไม่คำนึงถึงพวกพนักงาน แถมที่ทำงานบางที่อยู่ไปก็ไม่มีอนาคต ทำงานแทบตายไม่ได้ขึ้นตำแหน่งไม่ได้ขึ้นเิงินเดือน เค้าก็เลยชิงออกกันทั้งนั้นแหล่ะ พนักงานบางคนก็มีความอดทนสูงน่ะครับ อย่าเหมารวม แต่เ้ค้าก็มีฟางเส้นสุดท้ายเหมือนกัน


                              เสียงสะท้อนกลับ   เป็นความรู้สึกของคนทำงาน  อย่างน้อยก็ 1 ล่ะ

                                             
                              จะไปในแนวว่า ถ้าเขาตั้งใจทำ ท่านมีความมั่นคงให้เขาไม๊ มีความก้าวหน้า

                              หรือฝากอนาคตกับท่านได้หรือไม่ คือเขาจะฝากชีวิตกับท่านได้หรือไม่ ในเชิง

                              ถ้าถลำเข้าไปแล้ว  จะกลับมาใหม่มันก็ไม่ง่าย อะไรทำนองนั้น

                                               หยุดซักก้าว   ฟังเขาบ้างก็ดี

ร่วมด้วย

เด็กบางคน ไม่มีโอกาสเรียน ยังขยันกว่าเด็กจบ ป.ตรี อาจเป็นเพราะสถานะการณ์ในชีวิตเป็นได้

ไม่แปลกที่ แรงงานไทยตกงาน แต่แรงงานต่างชาติเข้ามาแทน เพราะ นายจ้างเห็นว่าทำงานไม่คุ้มเงินเดือน ลูกจ้างส่วนใหญ่อยากสบายแต่ได้เงินเยอะๆมีที่ไหน ยิ่งเด็กรุ่นใหม่สู้งานมีไม่กี่คน ที่สู้งานส่วนใหญ่มักไปเปิดร้านหรือรับบริการงานต่างๆด้วยตัวเอง

ร่วมด้วย

อ้างจาก: บางคนในหาดใหญ่ เมื่อ 11:40 น.  29 ต.ค 54
พวกประกอบการก็พึงจำใส่หัวให้ดีด้วยน่ะครับ ว่าเอาพวกคุณปฏิบัติกับลูกน้องยังไง พวกคุณเคยใส่ใจลูกน้องหรือเปล่า สังคมพนักงานลับหลังก็นินทาหัวหน้ากันทั้งนั้นแหล่ะ พอได้เป็นเจ้าคนนายคนก็ทำหยิ่งยโส ไม่พอใจลูกน้องก็ด่า ไม่คำนึงถึงพวกพนักงาน แถมที่ทำงานบางที่อยู่ไปก็ไม่มีอนาคต ทำงานแทบตายไม่ได้ขึ้นตำแหน่งไม่ได้ขึ้นเิงินเดือน เค้าก็เลยชิงออกกันทั้งนั้นแหล่ะ พนักงานบางคนก็มีความอดทนสูงน่ะครับ อย่าเหมารวม แต่เ้ค้าก็มีฟางเส้นสุดท้ายเหมือนกัน

เพราะ คุณมีอคติไปหรือเปล่า ที่อาจทำให้คุณอยู่กับที่
นิยามคำว่า "ลำบาก" ของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน บางคนทำงานเล็กน้อยก็บ่นว่าลำบากได้เช่นกัน

ผมไม่เคยเห็น ผู้ประสบความสำเร็จคนไหนจะไม่ลำบากแล้วประสบความสำเร็จ ต่างคนต่างลำบากทั้งนั้น แต่ความลำบากยากเข็น ไม่เคยบั่นทอนสภาพจิตใจคนเหล่านี้ได้เลย ยิ่งลำบากยิ่งเรียนรู้ ยิ่งเร่งเดินหน้า

ทำไมคนเป็นหัวหน้าต้องว่าคุณ?  คุณเคยคิดหรือไม่ว่ามาตรฐานในความคิดคุณกับงานที่คุณทำ พึ่งพอใจคนเป็นหัวหน้าซึ่งเป็นปราการด่านแรกก่อนถึงมือลูกค้าได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้อย่าคิดว่าลูกค้าจะพึ่งพอใจงานในส่วนของคุณเลย

ถ้าทำงานไม่ดี กิจการมีลูกน้องไม่เก่งเรียนรู้ ลูกน้องไม่ขยัน แล้วลูกน้องจะถามหาอนาคต จะถามหาความสำเร็จได้อย่างไร ในเมื่อพวกลูกน้องเหล่านี้ไม่ได้ร่วมนำพากิจการมุ่งหน้าไปหาความสำเร็จเลย

ถ้าคุณคิดว่าการทำงานแบบทีมเวิร์ค ทำแล้วแย่ คุณลองออกมาทำอะไรด้วยตัวเองบ้างสิ เอาง่ายๆก็พวกธุรกิจเครื่อข่าย พวกนี้มันสร้างแรงบันดาลใจให้ได้ดี เป็นตัวเริ่มต้นเปลี่ยนความคิดคุณบ้างเล็กน้อย

ตู้ ปณ.หาดใหญ่

ขอนิดส์นึง...คน(ส่วนใหญ่)สมัยนี้  หลงตัวเองว่าข้าเก่ง หวังสูง ไม่รับผิดชอบ อดทนไม่เป็น ไม่พยายาม ไร้สำนึก ไม่เคารพองค์กร ใช้จ่ายไม่เจียมฐานะ ไม่พัฒนาตัวเอง จับผิดที่ทำงาน แล้วก้มีประเภทชอบโชว์ภูมิว่าประสบการณ์สูง ระบบเราทำอย่างนี้ ไม่..กรูเก่ง กรูรู้ ไม่ต้องมาสอนกรู สุดท้ายก้ผิด พอกรูติเข้าหน่อย ดันบอกว่า ทำไมทำแบบนี้ ไม่เหมือนที่นู่น(ที่ทำงานเก่า)เลย งั้นคุณมึงก้กลับไปทำทีเก่าสิ เสียเวลากรูเช่นกัน   ส.โกรธอย่างแรง ส.โกรธอย่างแรง

ไม่ใช่แค่ ป.ตรี หรอก....ขนาด งานแม่บ้านทำง่ายๆ สมัยนี้ คนไม่รู้หนังสือ ยังเลือกงานเลย!!!

เราก้เคยสงสัยว่าทำไม ?????
คนว่างงานในประเทศ ก้เยอะ
อ้อ เพราะเลือกงานสบาย ตำแหน่งไม่อายเพื่อน เงินเดือนเหลือกิน เหลือใช้
รับสมัครงานในประเทศ ก้เยอะ
อ้อ เพราะเลือก คนอยากทำงาน เงินเดือนสูงๆหรอ แล้วทำได้ดีแค่ไหน ยังไม่รู้เรย
สาเหตุ..ก้ตรงข้ามกัน เข้ากันไม่ได้ ระบบการศึกษาอ่อนแอ สังคมยั่วยุ(iphone, LCD, รถยนต์)
         พอเปรี่ยบเทียบกับเงินเดือนก้ไม่พอจ่าย เลยไม่มีเหตุจูงใจทำงาน


ย้อนกลับไปสมัยจบใหม่ๆ แล้วเข้าทำงาน ... ใครเคยคิดเหมือนเราบ้างว่า!
"ที่กรูเรียนมา ไม่ได้ใช้เลย ToT"
นักศึกษาขาดประสบการณ์ทำงานระหว่างศึกษาอย่างร้ายแรง !!!
ถูกเน้นแต่การรายงานหน้าชั้นและเรียนในกรอบ ไม่ได้เรียนรู้การทำงานด้วยตัวเอง
เขาถึงปรับตัวเขากับระบบบริษัทไม่ค่อยได้...

นักศึกษาที่ได้อ่านกระทู้นี้  ในฐานะทำงานฝ่ายบุคคลมา 10 กว่าปี เราขอแนะนำคุณนิดส์นึงว่า
เรียนไป ทำงานพิเศษไป จะส่งผลดีต่ออนาคตคุณ 100%
อย่าคิดว่า เรียนด้วยทำงานด้วย มันสำหรับเด็กยากจนนะจ๊ะ
ระหว่างคุณทำงาน คุณจะจับทางตัวเองได้ รู้ว่างานไหนเหมาะกับคุณจิงๆ
ประสบการณ์ไม่มี มีแต่คำว่า บัณฑิตใหม่ ไม่มีใครอยากรับคุณทำงานหรอก ปัญหาเยอะ อย่างกะเป็นคุณหนู
เสียเวลาสอนงาน ทำผิดก้อ"ขอโทษค่ะ หนู/ผมไม่รู้"อยู่นั่นแหละ แล้วถ้าไม่ใช้ไม้แข็ง คุณก้ทำผิดไปเรื่อยๆอ่ะ
เค้าทำธุรกิจนะ ไม่ใช่มุลนิธิ ทุกนาทีคือโอกาสทำเงิน จะมาให้โอกาสคุณตลอดไม่ได้หรอก

คนที่พึ่งเริ่มทำงานหลังจากที่ขอเงินพ่อแม่ทุกวัน กว่าพวกคุณจะปรับตัวได้ กว่าจะรู้ว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่
กว่าจะคิดจริงจังกับงาน คุณก้ใช้เวลาไปแล้วครึ่งชีวิต  ประสบการณ์คือสิ่งสำคัญต่อการมีชีวิตอยู่นะ

การทำงานคือการแข่งขัน คุณอย่าลืมสิ