กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

ตอนนี้ ที่ รพ หาดใหญ่ มีบริษัทเอกชนมาลงทุนติดตั้งเครื่องตรวจแม่เหล็กไฟฟ้า แล้วแบ่งส่วนแบ่งกับ รพ หาดใหญ่

นอกจากนั้นยัง แบ่งให้หมอตามคลินิกอีก

คือถ้าส่งไปตรวจที่นั้น จะได้เงิน เช่ย800 ถึงพันกว่าบาท ต่อการสั่งให้คนไข้ 1 คนไปทำ

จะสังเกตุได้ว่า ที่นั้นเลยมีคนไข้ถูกส่งไปทำเยอะมาก
หมอได้เงิน คนไข้ได้ตรวจ ดูเหมือนดี

แต่ถ้าบางครั้งไม่จำเป็นต้องตรวจแต่ถูส่งไปตรวจหละ

เงินที่เสียคือใครเสีย

เงินภาษีของเราด้วยไหม

หมอได้เงินนะครับ แต่ ใช้ภาษีของคนอื่นไปทำ (ในหลายรายที่ไม่จำเป็น)


ข่วยตรวจสอบด้วย ว่าเหมาะสมไหม

รพ.ค่ายเสนาณรงค์ในเครือรพ.หาดใหญ่ก็เช่นกัน ไปหาหมอแค่เป็นหวัดน้ำมูกไหล เจ็บคอนิดหน่อยก็สั่งไปเอ็กซ์เรย์
เสียเงินไป600 เสียดายเงงินไม่ทำตามหมอก็ไม่ยอม จึงต้องเอกซ์เรย์ตามหมอสั่ง เสียเงินโดยใช่เหตุ

เป็นอย่างนี้นี่เอง ผมเคยถูกหมอ รพ.เอกชนหาดใหญ่แห่งหนึ่ง ส่งไปตรวจแม่เหล็กไฟฟ้า(ทำ MRI) โดยหมอ
บอกว่า ให้ไปทำ MRI ที่ รพ.หาดใหญ่ ผมเข้าใจว่าเป็นเครื่องของ รพ.หาดใหญ่ เพราะหมอมีใบส่งตัวมาตรวจ
ด้วย เสียเงินไป 12,000 บาท และที่หัวใบเสร็จมีคำว่า ร.พ.หาดใหญ่ ก็ไม่สงสัยอะไร วันนี้กลับมาดูใบเสร็จ
อีกที อ้าว!!!!! หัวใบเสร็จจริงๆ เป็นชื่อของเอกชน แต่พอที่อยู่ เขียนเป็น โรงพยาบาลหาดใหญ่
เข้าใจผิดมาตั้งนาน ไม่ได้ติดใจอะไร แต่เจ็บใจที่มีการกินหัวคิวให้หมอด้วย เงิน 800-1000 ก็มีค่า
เอาค่าตรวจไปแล้ว เอาหัวคิวจากข้างนอกอีก หัวหมอจริงๆๆๆๆ 
ฝากถึง ผอ.รพ.หาดใหญ่ด้วยครับ  ช่วยติดป้ายตัวโตๆหน่อย ว่าตรวจแม่เหล็กไฟฟ้า(ทำ MRI)
เป็นของเอกชน  ผมเพิ่งรู้กับกระทู้นี้แหละ เวรกรรมจริงๆ ตรวจมาตั้ง 6 เดืนอนแล้ว ยังนึกว่าเป็นของ
รพ.หาดใหญ่อยู่อีก
- ร่วมด้วยช่วยกันเอารัดเอาเปรียบชาวบ้าน
1.ผอ. รพ.หาดใหญ่ ผิดที่ไม่สั่งให้เอกชนติดป้ายให้ชัดเจนว่าเป็นของใคร แบบว่าให้ชาวบ้านมึนเข้าไว้
2.ตรวจแม่เหล็กไฟฟ้าเอกชน ทำตัวแบบกลมกลืนให้เหมือนเป็นของโรงพยาบาล ดูได้จากใบเสร็จรับรับเงิน
3.หมอนะหมอ ทำไมถึงทำกับฉันได้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถ้ารู้ว่าหมอได้หัวคิวอาจจะไม่ตรวจก็ได้
4.คนไข้มันโง่เอง  ไม่ศึกษาก่อน ไม่ได้ว่าคนอื่นนะครับ เพราะเพิ่งทราบนี่แหละ
5.ว่าเพื่อนมานาน ตกลงหมอกินหัวคิวจริงเปล่าครับ ถ้าไม่มีหัวคิวขอโทษด้วยครับ แต่อย่างอื่น..ตามนั้นครับ

หัวหมอ

 

.



....ไปตรวจร่างกายที่ รพ. ทักสิน

หมอไม่แนะนำอะไรเลยเพียงแต่บอกว่ากลับบ้านได้!!!!!



.....รีบร้อนทำเงินทำเวลาจนละเลยจรรยาบรรรณ.....

ปกติ ร.พ. หาดใหญ่  ก็มีเครื่อง CT Scan และทำ MRI อยู่แล้วนี่ครับ 
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ปวดหลัง เลยปรึกษาหมอว่าจะทำ MRI ดูเส้นประสาทที่หลัง
หมอไม่อนุญาตให้ทำ เพราะเสียค่าใช้จ่ายสูง และสอบถามจากเจ้าหน้าคน
หนึ่งบอกว่า เครื่องเสีย รองบซ่อม ผมเองเลยสงสัยว่า ระดับ ร.พ.หาดใหญ่
เป็น ร.พ.ขนาดใหญ่ รองจาก ม.อ. ดูแลการรักษามีผู้เชี่ยวชาญไม่แพ้ ม.อ.
แต่ก็เพิ่งมารู้ว่า สุดท้ายต้องให้เอกชนมาลงทุนสร้างเครื่องมือแพทย์ แล้วให้
ผู้ป่วยออกตังค์เอง แถมมีเอาหัวคิวอีก ผมคิดว่าอย่างน้อย ร.พ. 1 โรง ต้อง
มีเครื่อง  CT Scan และทำ MRI ไว้คอยบริการ ปชช.นะ เพราะเครื่องพวกนี้
มีผลโดยตรงต่อการวินิจฉัยโรคได้แม่นยำมาก 

ควรจะให้รัฐลงทุน เอง แค่เงินไม่กี่สิบล้าน ดีกว่าไปลงทุนสร้างถนนเป็นแสนล้านนะ
ประเทศไทยเรา ประชากรส่วนใหญ่กำลังเข้าสู่วัยผู้สูงอายุ ผู้นำยังบริหารประเทศ
โดยเฉพาะเรื่องของระบบสาธารณสุข ยังแย่มาก ไม่ว่าจะสมัย รัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่คิดว่า
ดีสุด ยังคาดหวังไม่ได้  ขนาด พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ได้รับความเสียหายจากแพทย์ อยู่ใน
มือท่านมาร์คแท้ๆ ร่างยังตกไปเลย  ถ้ากฏหมายนี้ ผ่านใน ครม. ยิ่งลักษณ์ละก็  ผมละคน
ใต้คนนึง ไม่เอาแล้ว  ปชป. จากใจจริง  (ดูคนดูที่ผลงาน ไม่อยากดูที่คำพูด) 

ปกติเวลาไม่สบาย ไปหาหมอ ก็ต้องเสียค่าตรวจ ค่ายา ค่าอุปกรณ์อยู่แล้ว
ประเด็นที่ว่าหมอได้ค่าส่งตัวคนไข้ (หรือจะเรียกค่าหัวคิวก็แล้วแต่)  ผมก็ไม่ติดใจอะไร
ประเด็นที่ให้เอกชนมาลงทุนเครื่อง แล้วแบ่งรายได้กับโรงพยาบาล ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ มันมีมานาน
เพราะเครื่องมือแพทย์หลายอย่างมีราคาแพงมาก โรงพบาบาลไม่มีเงินลงทุนเอง เพื่อให้บริการคนไข้
ก็ต้องใช้วิธีนี้ หรือใช้วิธีเช่า (วิธีเช่านี้จะมีค่าบำรุงรักษาเพิ่ม) แต่หากจะติดใจ มี 2 ประเด็น
1. ราคาที่คิดกับคนไข้ เป็นธรรมต่อทุกฝ่ายหรือไม่ (แพงไปชาวบ้านเดือดร้อน ถูกไปไม่มีใครอยากลงทุน)
2. อันนี้สำคัญ คนไข้ที่ถุกส่งไปตรวจ มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน มีวิธีอื่นหรือไม่ หากจำเป็นต้องได้รับการ   
   วินิจฉัยด้วยวิธีการนี้ ก็ส่งไปเถอะ แต่หากเป็นการส่ง เพียงเพื่อมุ่งทำยอดให้ได้ตามเป้า(หากมีการตั้งเป้าไว้)
   หรือมุ่งหวังค่าส่งตัว ผมว่าจรรยาบรรณพทย์ มันคงจมหายไปกับสายธารแห่งเงินตราหมดแล้ว

กำ..ของคนไข้...

ตกลงถ้าเราหม้ายเบี้ยเราตายไมคับพี่น้อง

อ้างจาก: ข้าแผ่นดิน เมื่อ 10:55 น.  27 ต.ค 54
ปกติเวลาไม่สบาย ไปหาหมอ ก็ต้องเสียค่าตรวจ ค่ายา ค่าอุปกรณ์อยู่แล้ว
ประเด็นที่ว่าหมอได้ค่าส่งตัวคนไข้ (หรือจะเรียกค่าหัวคิวก็แล้วแต่)  ผมก็ไม่ติดใจอะไร
ประเด็นที่ให้เอกชนมาลงทุนเครื่อง แล้วแบ่งรายได้กับโรงพยาบาล ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ มันมีมานาน
เพราะเครื่องมือแพทย์หลายอย่างมีราคาแพงมาก โรงพบาบาลไม่มีเงินลงทุนเอง เพื่อให้บริการคนไข้
ก็ต้องใช้วิธีนี้ หรือใช้วิธีเช่า (วิธีเช่านี้จะมีค่าบำรุงรักษาเพิ่ม) แต่หากจะติดใจ มี 2 ประเด็น
1. ราคาที่คิดกับคนไข้ เป็นธรรมต่อทุกฝ่ายหรือไม่ (แพงไปชาวบ้านเดือดร้อน ถูกไปไม่มีใครอยากลงทุน)
2. อันนี้สำคัญ คนไข้ที่ถุกส่งไปตรวจ มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน มีวิธีอื่นหรือไม่ หากจำเป็นต้องได้รับการ   
   วินิจฉัยด้วยวิธีการนี้ ก็ส่งไปเถอะ แต่หากเป็นการส่ง เพียงเพื่อมุ่งทำยอดให้ได้ตามเป้า(หากมีการตั้งเป้าไว้)
   หรือมุ่งหวังค่าส่งตัว ผมว่าจรรยาบรรณพทย์ มันคงจมหายไปกับสายธารแห่งเงินตราหมดแล้ว

ส่วนตัวเห็นด้วยกับความคิดข้างบนนี้ คิดว่าประเด็นนี้น่าจะมีการหาข้อมูลให้ชัดเจนก่อนว่าเป็นเช่นไรกันแน่ ไม่ได้เป็นผอ.รพหาดใหญ่ แต่คิดว่าข้อมูลที่กล่าวมาอาจมีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงไปบ้าง ในส่วนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นเอ็กซเรย์พิเศษ ทุกอย่างมีการกำหนดราคากลางชัดเจนตามมาตรฐานของกระทรวงไม่ว่าที่ไหนก็ตาม ก็น่าจะราคาประมาณนี้ เท่าที่เห็นมาถ้าเบิกไม่ได้หรือผู้ป่วยไม่พร้อมที่จะจ่าย ข้อบ่งชี้ไม่ชัดเจนแพทย์เค้าก็ไม่สั่ง เงินอยู่ในกระเป๋าท่านถ้าท่านไม่อยากทำแล้วจะไปสนใจอะไร ยกเว้นท่านยินดีจ่ายเงินส่วนนี้ก็เท่ากับว่าเป็นการทำเพื่อความสบายใจของท่าน ก็เหมือนกับโรงพยาบาลเอกชนกับโรงพยาบาลรัฐบาล ถ้าอยากสบายไม่อยากรออยากได้บริการที่รวดเร็วก็ต้องไปรพ.เอกชน/คลินิก (แต่พึงคิดไว้เสมอว่าเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไม่ได้ใช้ตรวจได้ทุกโรคแพงก็ไม่ใช่ว่าจะบอกอะไรได้ทุกอย่าง )..... คิดว่าถ้าไม่มีข้อบ่งชีที่ชัดเจนหมอเค้าคงไม่ทำ แต่บางครั้งเดี๋ยวนี้การฟ้องร้องมันเยอะ พอไม่ทำเกิดปัญหาขึ้นมาโดนญาติฟ้องร้อง ก็เลยกลายเป็นวงจรกันอยู่แบบนี้ พูดง่ายๆว่าหมอเค้าก็ต้องป้องกันตัวเองไว้ด้วย....ก็น่าเห็นใจกันทั้งสองฝ่ายอ่ะนะ

อ้างจาก: kuanlung citizen เมื่อ 15:01 น.  27 ต.ค 54
ส่วนตัวเห็นด้วยกับความคิดข้างบนนี้ คิดว่าประเด็นนี้น่าจะมีการหาข้อมูลให้ชัดเจนก่อนว่าเป็นเช่นไรกันแน่ ไม่ได้เป็นผอ.รพหาดใหญ่ แต่คิดว่าข้อมูลที่กล่าวมาอาจมีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงไปบ้าง ในส่วนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นเอ็กซเรย์พิเศษ ทุกอย่างมีการกำหนดราคากลางชัดเจนตามมาตรฐานของกระทรวงไม่ว่าที่ไหนก็ตาม ก็น่าจะราคาประมาณนี้ เท่าที่เห็นมาถ้าเบิกไม่ได้หรือผู้ป่วยไม่พร้อมที่จะจ่าย ข้อบ่งชี้ไม่ชัดเจนแพทย์เค้าก็ไม่สั่ง เงินอยู่ในกระเป๋าท่านถ้าท่านไม่อยากทำแล้วจะไปสนใจอะไร ยกเว้นท่านยินดีจ่ายเงินส่วนนี้ก็เท่ากับว่าเป็นการทำเพื่อความสบายใจของท่าน ก็เหมือนกับโรงพยาบาลเอกชนกับโรงพยาบาลรัฐบาล ถ้าอยากสบายไม่อยากรออยากได้บริการที่รวดเร็วก็ต้องไปรพ.เอกชน/คลินิก (แต่พึงคิดไว้เสมอว่าเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไม่ได้ใช้ตรวจได้ทุกโรคแพงก็ไม่ใช่ว่าจะบอกอะไรได้ทุกอย่าง )..... คิดว่าถ้าไม่มีข้อบ่งชีที่ชัดเจนหมอเค้าคงไม่ทำ แต่บางครั้งเดี๋ยวนี้การฟ้องร้องมันเยอะ พอไม่ทำเกิดปัญหาขึ้นมาโดนญาติฟ้องร้อง ก็เลยกลายเป็นวงจรกันอยู่แบบนี้ พูดง่ายๆว่าหมอเค้าก็ต้องป้องกันตัวเองไว้ด้วย....ก็น่าเห็นใจกันทั้งสองฝ่ายอ่ะนะ

ไม่มีมูลหมาไม่ขี้ ผอ คนนี้เคยอยู่โรงพยาบาลยะลา ทีทำเด็กติด hiv

ถ้าไม่มีหลักฐานแล้ว เอามาลงในเวบ
เจ้าของเวบอาจจะโดนโทษฐานหมิ่นประมาททางอินเตอเนตได้

  หมอสัมยนี้เงินเดือน+เงินอื่นๆใด้มากกว่าความเป็นจริง....บางวิชาชีพใด้น้อยกว่าเยอะ........จึงมีคำพูดที่ว่าอยากรวยเรียนหมอ...อยากจนเรียนครู

 
เรื่องที่ผมเล่าให้ฟังที่ไปทำ MRI ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่นั้น อยากเพิ่มเติมประเด็นครับ
"คำว่า ศูนย์ MRI โรงพยาบาลหาดใหญ่"   เมื่อได้ยินคำนี้คำแรกท่านคิดว่า ศูนย์นี้เป็นของใครครับ
1.ศูนย์ MRI ของโรงพยาบาลหาดใหญ่ หรือศูนย์ MRI ของเอกชนครับ !!!!!!
หกเดือนผ่านมาผมจึงได้รู้ว่าคำนี้แปลว่าศูนย์ MRI ของเอกชน
มึนจริงๆครับ  การเอาความจริงมาตีแผ่ จะเป็นประโยชน์กับประชาชนครับ

ทีพูดว่า อยากจนให้เรียนครู ผมว่า ก็ไม่จริงเสมอไป
ดูอย่างครูอุ๊ ซื้อตึกใหญ่โตมาทำโรงเรียนกวดวิชา ขนาดมี บันไดเลื่อนในโรงเรียน
เวลาสมัครเรียน ยังต้องเเข่งกันโอนเงินทางตู้เอทีเอ็ม ใครช้า ที่นั่งเต็มหมด ก็อดเรียน
ลองไปดู เเถว จุติ เด็กเดินริมถนนเต็มไปหมด ยังกะ ครูมาสอนฟรีๆ
ขนาด หมอ บางคน ยังเลิกเป็นหมอ มารับเป็นครูสอนฟิสิคส์ เลย

อย่าพูดเลย ครับว่า อยากจน ให้ มาเรียนครู
ผมว่า พูดเเบบนี้ อนาคต ประเทศชาติ มันจะตกต่ำ

ถ้าลองติดตามเด็กที่เรียนเก่งๆตั้งแต่ม.4-ม.6 ส่วนหนึ่งตั้งเข็มชีวิตไปเป็นหมอ ช่วงนี้"อุดมการณ์ยังเข้มข้น"ส่วนใหญ่บอกว่าอยากเอาวิชาชีพไปช่วยเหลือสังคม จิตใจบริสุทธิ์ผุดผ่องกันทั่วหน้า
แต่หลังจากเป็นหมอไ้ด้ไม่กี่ปี (บางคน)เก็บอุดมการณ์เข้าลิ้นชัก ตั้งหน้าใช้วิชาชีพกอบโกยเงินทอง สะสมทรัพย์สินแข่งขันกันสนุกสนาน มีหลายๆคนพอร่ำรวยเป็นปึกแผ่น ลาออกไปประกอบอาชีพอื่น เยอะแยะไป
รายได้ของหมอ นอกจากเงินเดือนเงินพิเศษประจำแล้ว ยังมีรายได้นอกเหนือจากนั้นอีกเยอะแยะตาแป๊ะขายทองคำ บางคนไม่ต้องเปิดคลีนิคก็รวยได้
เขาว่าสั่งจ่ายยาเยอะๆก็ได้เปอร์เซ็นต์จากเซลล์แมนด้วย อยากให้หมอช่วยมาตอบว่าจริงไหม?   

โรงบาลนี่แหละพาหลานไปตรวจกรุ๊ปเลือด ก่อนไปโทรถามค่าใช่จ่าย เจ้าหน้าที่บอก 200 บาท ก็ OK สมเหตุแค่เจาะเลือด เจาะเสร็จเรียบร้อย จายเงินใบเสร็จ 800 บาท เคยเจอมั๊ยอ่ะ ตรวจกรุ๊ปเลือด 800 บาท ถามว่าค่าไรก่อนมาไหนบอก 200 บาท เจ้าหน้าทีตอบ อ๋อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ค่าหมอค่ะ เวงกำ ตกลงจะให้หมอดูแลตูหรือจะให้ตูดูแลหมอ ไม่น่าเลยนะเป็นอาชีพที่มีแต่คนนับหน้าถือตา เห็นคนแก่เวลาไปหาหมอ ไหว้ เหมือนจะกราบ น่าสงสาร ผมไม่ไหว้หรอก ไปรักษาต้องจ่ายเงิน หมอก็คน เราก็คน แต่อย่างว่าทุกชนชั้น ทุกอาชีพ มีคนเลว คนดี มันเป็นสัจธรรม

ดินดีเพราะหญ้าปรก  หญ้ารกเพราะดินดี
มันก็เลวกันทั้ง2ฝ่าย ทั้งคนเสนอประโยชน์และคนรับ

หมอทำเพื่อในหลวง (บนแบงค์) นะ สมัยนี้
เคยได้ยินคำว่า หมอพานิชย์ มั้ยครับ

แถมรักษาคนแล้วพลาด ตาย เอาผิดไม่ได้อีกตะหาก

เบลอเพ...

อ้างจาก: หัวหมอทั้งเพ เมื่อ 07:39 น.  30 ต.ค 54
โรงบาลนี่แหละพาหลานไปตรวจกรุ๊ปเลือด ก่อนไปโทรถามค่าใช่จ่าย เจ้าหน้าที่บอก 200 บาท ก็ OK สมเหตุแค่เจาะเลือด เจาะเสร็จเรียบร้อย จายเงินใบเสร็จ 800 บาท เคยเจอมั๊ยอ่ะ ตรวจกรุ๊ปเลือด 800 บาท ถามว่าค่าไรก่อนมาไหนบอก 200 บาท เจ้าหน้าทีตอบ อ๋อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ค่าหมอค่ะ เวงกำ ตกลงจะให้หมอดูแลตูหรือจะให้ตูดูแลหมอ ไม่น่าเลยนะเป็นอาชีพที่มีแต่คนนับหน้าถือตา เห็นคนแก่เวลาไปหาหมอ ไหว้ เหมือนจะกราบ น่าสงสาร ผมไม่ไหว้หรอก ไปรักษาต้องจ่ายเงิน หมอก็คน เราก็คน แต่อย่างว่าทุกชนชั้น ทุกอาชีพ มีคนเลว คนดี มันเป็นสัจธรรม

ขอบคุณมาก กำลังจะพาลูกไปตรวจพอดี เพราะตอนไปทำบัตรประชาชนเขาให้กรอกกรุ๊ปเลือด เลยนึกได้ ไปดูในสูติบัตรก็ไม่มี เป็นข้อมูลที่ดี เวลาไปจะได้ถามก่อนว่า รวมเบ็ดเสร็จ เท่าไหร่ มีค่าดูแลหมออีกไหม  อิอิ