กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

วันที่ 29 ก.ค. 58 ครอบครัวของ น.ส.จิราวรรณ ทาประจง อายุ 23 ปี และ นาย สมปอง เบนหมัน 29 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 41/19 ม.7 ซ.รอเหมิน ถ.หลังมัสยิด ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ได้ขอความช่วยเหลือผ่านสื่อมวลชนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ใจบุญ ช่วยเหลือลูกชาย คือ ด.ช.อานัส เบนหมัน อายุ 8 เดือน ซึ่งมีหัวโตผิดปกติ โดยเส้นรอบศีรษะยาว 57 เซนติเมตร เนื่องจากป่วยเป็นโรคน้ำคั่งในโพรงสมอง หรือ โรคหัวบาตร ตั้งแต่แรกเกิด

ซึ่งทางครอบครัวพยายามหาทางรักษา โดยแพทย์ได้เจาะเอาน้ำที่ศีรษะออกแล้ว 2 ครั้ง แต่อาการยังไม่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีอาการผิวหนังตกสะเก็ดเกือบทั้งตัว ตั้งแต่ใบหน้า ลำคอ หน้าอก หน้าท้อง  มือ และ ขา นอกจากนั้นตายังลอยไม่กระพริบ และตามองไม่เห็น แต่ยังคงมีความหวังที่จะหาทางรักษา เพื่อให้ลูกมีชีวิตต่อไปให้นานที่สุด

น.ส.จิราวรรณ เปิดเผยว่า ขณะนี้ครอบครัวค่อนข้างลำบาก มีลูก 2 คน โดยลูกสาวคนโตอายุ 5 ขวบ ปกติดีทุกอย่าง และสามีมีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง มีรายได้วันละ 100-200 บาท และตัวเองขายน้ำมันขวด รายได้ไม่พอค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ทั้งการกินอยู่ ค่านมผง และ ผ้าอ้อม ตกเดือนละกว่า 5,000 บาท จึงอยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลลูก เพื่อต่อชีวิตให้อยู่ได้นานที่สุด โดยผู้ใจบุญสามารถติดต่อได้ที่หมายเลข 061-251-6221 ของ นางจิราวรรณ

น.ส.จิราวรรณ เล่าว่า ขณะตั้งครรภ์เดือนที่ 5 ได้ฝากครรภ์ไว้กับโรงพยาบาลสะเดา โดยมีการตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือด และ อัลต้าซาวน์ ตามกระบวนการฝากครรภ์ทุกอย่าง ซึ่งหมอบอกว่าปกติ จนเมื่อครบ 9 เดือน กำหนดคลอดวันที่ 10 พ.ย. 57 แต่ยังไม่คลอด วันรุ่งขึ้น11 พ.ย. 57 จึงเดินทางไปโรงพยาบาลสะเดา และแพทย์พบว่ามีอาการท้องโตมาก จึงส่งต่อไปยังโรงพยาบาลหาดใหญ่ เพื่ออัลตร้าซาวน์ และเจาะน้ำคล่ำ โดยพบว่าเด็กในครรภ์มีศีรษะโตกว่าปกติ ซึ่งแพทย์ระบุว่าเป็นโรคน้ำคั่งในโพรงสมอง และแพทย์ถามตนกับสามีว่าจะเก็บไว้หรือเอาออก แต่ด้วยความรัก ตนจึงขอเก็บไว้ และทำการผ่าคลอดเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 57 โดยน้ำหนักแรกเกิด 5,400 กรัม

ทั้งนี้หลังจากคลอดลูกชายมีอาการศีรษะบวมคล้ายลูกโป่งนิ่มๆ หมอจึงเจาะเอาน้ำที่ศีรษะออกมาถึง 2 ครั้ง หลังจากผ่านมาได้ 8 วัน ก็ก็ยังบวมอยู่ โดยวัดรอบศีรษะได้ 57 เซนติเมตร และผิวหนังตกสะเก็ดเกือบทั้งตัว แต่ยังได้ยิน เนื่องจากตนชอบเอามือถือเปิดเพลงให้ฟัง และมีการตอบสนองยิ้มบ้าง ซึ่งตนและสามีจะพยายามรักษาลูกให้อยู่ได้นานที่สุด แต่ขณะนี้ยังมีภาระเรื่องค่าใช้จ่าย และค่ารักษา จึงอยากขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ที่ใจบุญทุกคน
/////