ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

กฟผ.ร่วมกับชุมชนปลูกป่าชายเลนฟื้นฟูระบบนิเวศเกาะแลหนัง อ.เทพา จ.สงขลา

เริ่มโดย ทีมงานประชาสัมพันธ์, 12:50 น. 21 ส.ค 58

ทีมงานประชาสัมพันธ์

ศูนย์ข่าวบ้านเรา-.กฟผ.ร่วมกับชุมชน อ.เทพา จ.สงขลา ปลูกป่าชายเลน 100 ไร่ ในพื้นที่เกาะแลหนัง ฟื้นฟูระบบนิเวศ พร้อมเตรียมจัดแผนทำแผนฟื้นฟูแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ และจัดตั้งศูนย์เรียนรู้เกษตร ชีววิถีตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

[attach=1]

วานนี้(20 สิงหาคม 2558) นายปรีชา ดำเกิงเกียรติ ปลัดจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมปลูกป่าชายเลนเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศของเกาะแลหนัง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ครอบคลุมพื้นที่ 100 ไร่ โดยมีกำหนดปลูกในปี 2558 และบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องในปี 2559-2560 ทั้งนี้ คาดว่าจะช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศวิทยาของเกาะแลหนังให้อุดมสมบูรณ์เพิ่มขึ้น

นายพล คงเสือ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า 3 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า นอกเหนือจากภารกิจหลักด้านการจัดหา ผลิต และส่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าในเพียงพอต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าของประชาชนแล้ว กฟผ.ยังตระหนักถึงความสำคัญในการมีส่วนร่วมพัฒนาสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ควบคู่กันไป โดยเฉพาะเรื่องการฟื้นฟูทรัพยากรด้านป่าไม้ และระบบนิเวศที่เกี่ยวข้อง

ตลอดเวลากว่า 21 ปี กฟผ.ได้ปลูกป่าในหลายพื้นที่ อาทิ ป่าต้นน้ำ และป่าชายเลน จำนวนกว่า 84 ล้านต้น ในพื้นที่ 49 จังหวัดทั่วประเทศ คิดเป็นเนื้อที่กว่า 420,000 ไร่ และยังมีเป้าหมายในการปลูกป่าอย่างต่อเนื่องอีกปีละไม่ต่ำกว่า 20,000 ไร่ เป็นระยะเวลา 10 ปี

นายพล คงเสือ กล่าวต่อไปว่า กฟผ.มุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อำเภอเทพา โดย กฟผ.และชุมชนเกาะแลหนัง ได้ร่วมกันจัดทำแผนฟื้นฟูแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ และเพิ่มแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ โดยการทำปะการังเทียมจากลูกถ้วยฉนวนไฟฟ้านำไปวางแนวชายฝั่งทะเลเทพา

นอกจากนี้ กฟผ. ยังได้ร่วมจัดตั้งศูนย์เรียนรู้เกษตรชีววิถี ถ่ายทอดความรู้ทางการเกษตรตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ประชาชนที่สนใจสามารถนำไปประยุกต์ใช้ร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น ลดรายจ่าย เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรปลอดสารพิษ และสร้างรายได้เพิ่มให้กับครัวเรือน ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้แก่ประชาชนในพื้นที่อำเภออย่างยั่งยืน