ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

รวมของใหม่ Microsoft สเปคมาเต็ม แต่ราคาแอบแพงไปนะ

เริ่มโดย ทีมงานประชาสัมพันธ์, 11:19 น. 07 ต.ค 58

ทีมงานประชาสัมพันธ์

ไฮไลท์สำคัญในงาน Windows 10 devices ไม่เพียงแต่ Surface Pro 4 เปิดตัวเท่านั้น เพราะ Microsoft ยังได้เปิดตัว"Surface Book" โน้ตบุ๊คกึ่งแท็บเล็ต และ Lumia ออกมา 3 รุ่นดังนี้ Microsoft Lumia 950 และ 950 XL และ Lumia 550 สมาร์ทโฟน Windows 10 ราคาย่อมเยาว์

มาตามนัด !! Microsoft เปิดตัว Surface Pro 4 ที่บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา

[attach=1]

จบกันไปแล้วนะครับกับงาน Microsoft Windows 10 Device Event ซึ่งงานนี้ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ทั้งสิ้น 3 อย่างด้วยกัน ซึ่ง 1 ในนั้นคือ Surface Pro 4 รุ่นล่าสุดที่บอกได้เลยว่าการเปิดตัวครั้งนี้นั้นสามารถเรียกเสียงฮือฮาของเหล่าผู้ร่วมงานกันได้เป็นอย่างดี

โดยเจ้า Surface Pro 4 นั้นได้ถูกพัฒนาขึ้นมาในด้านของ CPU ที่นำเอา 6th-Gen Intel Core SkyLake ออกมาใช้งานเป็นรุ่นแรก โดยที่จะมีความเร็วมากกว่า MacBook Air ถึง 50% และไวขึ้นกว่ารุ่น Surface Pro 3 ถึง 30% โดยรุ่นนี้จะมีให้เลือก Rom ได้สูงสุด 1TB และ Ram ได้สูงสุดถึง 16 GB เลยทีเดียว !! (แต่ราคาก็โหดตามไปด้วย)

และอีกสิ่งหนึ่งที่ทาง Microsoft ก็ไม่ยอมน้อยหน้า iPhone เพราะเขาได้นำเอาระบบ Fingerprint Scanner มาใช้งานแล้วโดยจะอยู่ที่ Keyboard ซึ่งระบบ Fingerprint Scanner นี้จะมีเฉพาะรุ่นที่จำหน่ายในสหรัฐเท่านั้น

โดยเจ้า Surface Pro 4 นี้มีระบบ Hybrid Cooling System ที่ทำหน้าที่ในการระบายความร้อนให้กับเครื่องที่ทำออกมาได้ดีมาก ๆ จนทำให้ตัวเครื่องบางเพียงแค่ 8.4 มิลลิเมตรเท่านั้นเอง แถมมาพร้อมหน้าจอขนาด 12.3 นิ้ว PixelSense Display ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

มาดูในส่วนของกล้องกันดีกว่าครับ Surface Pro 4 ตัวนี้มีกล้องหน้าและหลังขนาด 8 ล้านพิกเซล และใช้กระจก Gorilla Glass 4 ที่มีความหนาเพียง 0.4 มิลลิเมตร

ปากกา Surface Pen ที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ 1 ปีเต็ม สามารถรับแรงกดได้แม่นยำถึง 1024 ระดับ และสามารถกดปุ่ม 1 ครั้งเพื่อเรียก Cortana ได้ และกด 2 ครั้งเพื่อเรียก OneNote ได้อีกด้วย โดยเจ้าปากกานี้มีลูกเล่นตรงที่ใช้การเก็บด้วยแม่เหล็ก สามารถแปะด้านข้างได้เลย และเจ้า Type Cover ใหม่นี้ได้ถูกอัพเกรดคีย์บอร์ดทำให้ปุ่มเหมือน Laptop มากขึ้นกว่าเดิม พิมพ์ได้ดีและเงียบขึ้น มาพร้อม Trackpad มีขนาดที่ใหญ่กว่ารุ่นเดิมถึง 40 % รองรับการสัมผัสพร้อมกันถึง 5 จุดด้วยกัน

Surface Pro 4 จะเปิดให้จองวันพรุ่งนี้ (7 ตุลาคม) และวางจำหน่ายวันที่ 27 ตุลาคมนี้ในราคาดังนี้

    รุ่น CPU Core m3, Rom 128 GB, Ram 4 GB ราคา 899$ หรือประมาณ 32,000 บาท
    รุ่น CPU Core i5, Rom 128 GB, Ram 4 GB ราคา 999$ หรือประมาณ 36,000 บาท
    รุ่น CPU Core i5, Rom 256 GB, Ram 8 GB ราคา 1,299$ หรือประมาณ 47,000 บาท
    รุ่น CPU Core i7, Rom 256 GB, Ram 8 GB อยู่ที่ 1,599 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 57,000 บาท
    รุ่น CPU Core i7, Rom 256 GB, Ram 16 GB อยู่ที่ 1,799 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 65,000 บาท
    รุ่น CPU Core i7, Rom 512 GB, Ram 16 GB อยู่ที่ 2,199 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 79,500 บาท

รายละเอียดราคาของอุปกรณ์เสริมที่ยังไม่รวมภาษี

    Surface Pro Type Cover มีสีดำ, แดง, น้ำเงิน, น้ำเงินสว่าง และเขียวนกเป็ดน้ำ ราคา 129.99$ หรือประมาณ 4,600 บาท
    Surface Pen มีสีดำ Charcoal, น้ำเงิน, แดง, สีเงิน และสีทอง ราคา 59.99$ หรือประมาณ 2,100 บาท
    Surface Dock ราคา 199.99$ หรือประมาณ 7,000 บาท

ข้อมูลและที่มา
http://www.beartai.com/news/itnews/63349
http://www.aripfan.com/microsoft-surface-pro-4/

ทีมงานประชาสัมพันธ์

Microsoft Surface Book เป็นโน้ตบุ๊คกึ่งแท็บเล็ตที่มีพื้นฐานการออกแบบมาจาก Surface สามารถหมุนหน้าจอเพื่อเปลี่ยนจากโน๊ตบุ๊คให้เป็นแท็บเล็ตได้ หรือถอดหน้าจอสำหรับการพกพาก็ทำได้เช่นกัน ใช้หน้าจอขนาด 13.5 นิ้ว แนบมาด้วยเทคโนโลยี PixelSense ที่ช่วยให้การสัมผัสบนหน้าจอหรือการใช้ปากกามีความแม่นยำมากขึ้น ความละเอียดการแสดงผล 3,000 x 2,000 พิกเซล (267ppi) ตัวเครื่องหากอยู่ในรูปแบบของโน้ตบุ๊คจะมีความหนา 22.8 มิลลิเมตร และเมื่อเปลี่ยนเป็นแท็บเล็ตอย่างเดียวจะมีความหนาอยู่ที่ 7.7 มิลลิเมตร

[attach=1]

Surface Book มาพร้อม Windows 10 ใช้ชิปประมวลผล Intel Gen 6 Skylake และในสองรุ่นท็อปเลือกใช้ชิปประมวลกราฟิก NVIDIA Geforce GDDR5 memory ส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานโดยรวมที่ดีกว่า Macbook Pro ถึง 2 เท่า มีพื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุด 1TB และแรมสูงสุด 16GB

ส่วนอื่นๆ ของ Surface Book จะมีปากกา Surface Pen รุ่นเดียวกับ Surface Pro 4, คีย์บอร์ดมี Backlit ในตัว, Trackpad รองรับการใช้งานได้ถึง 5 จุด และแบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 12 ชั่วโมง

สรุปทั้งหมดของ Microsoft Surface Book

– ใช้ Windows 10 Pro

– ขนาดตัวเครื่องโดยรวม แบ่งออกเป็นดังนี้ ส่วนของโน้ตบุ๊คจะอยู่ที่ 232.1 x 312.3 x 13.0-22.8 mm หากเป็นแท็บเล็ตอย่างเดียว จะมีขนาด 220.2 x 312.3 x 7.7 mm

– น้ำหนัก (ในรุ่นไม่มี GPU) อยู่ที่ 1,515 กรัม ส่วนน้ำหนัก (ในรุ่นมี GPU) อยู่ที่ 1,579 กรัม และน้ำหนักเมื่อเป็นแท็บเล็ตอย่างเดียวอยู่ที่ 726 กรัม

– หน้าจอขนาด 13.5 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี PixelSense ความละเอียด 3,000 x 2,000 พิกเซล (267ppi)

– ใช้ชิปประมวลผล Intel Gen6 Skylake แบ่งเป็น Core i5 และ Core i7

– ใช้ชิปประมวลกราฟิกหรือ GPU เป็น Intel HD graphics 520 และมีตัวเลือกที่ใช้เป็น NVIDIA GeForce GDDR5 high-speed memory

– SSD PCIe 3.0 แบ่งเป็น 128GB, 256GB, 512GB และสูงสุดที่ 1TB

– แรม 8GB และ 16GB

– สนับสนุนการเชื่อมต่อ USB 3.0 สองพอร์ต, SDcard reader, Stereo headphones/microphone jack, Mini DisplayPort, 802.11ac 2×2 MIMO Wi-Fi wireless networking; IEEE 802.11a/b/g/n และ Bluetooth 4.0 LE

– แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 12 ชั่วโมง

– กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล พร้อม autofocus สามารถบันทึกวีดีโอที่ความละเอียด 1080p ได้

– กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล บันทึกวีดีโอที่ความละเอียด 1080p ได้เช่นกัน แถมรองรับฟีเจอร์ Windows Hello หรือการสแกนใบหน้า
ราคาวางขายมีดังนี้ (ยังไม่รวมภาษี)

– รุ่น 128GB 6th Generation Intel Core i5 with 8 GB of RAM ราคา $1,499 หรือประมาณ 55,000 บาท

– รุ่น 256GB 6th Generation Intel Core i5 with 8 GB of RAM ราคา $1,699 หรือประมาณ 62,000 บาท

– รุ่น 256GB 6th Generation Intel Core i5 with 8 GB of RAM and NVIDIA GeForce Graphics Processor ราคา $1,899 หรือประมาณ 70,000 บาท

– รุ่น 256GB 6th Generation Intel Core i7 with 8 GB of RAM and NVIDIA GeForce Graphics Processor ราคา $2,099 หรือประมาณ 77,000 บาท

– รุ่น 512GB 6th Generation Intel Core i7 with 16 GB of RAM and NVIDIA GeForce Graphics Processor ราคา $2,699 หรือประมาณ 99,000 บาท
เริ่มเปิดจอง 7 ตุลาคม ก่อนวางขายจริง 26 ตุลาคม 2558 นี้

ข้อมูลและที่มา
http://www.aripfan.com/microsoft-surface-book/
http://www.beartai.com/news/itnews/63363

ทีมงานประชาสัมพันธ์

Microsoft Lumia 950 และ 950 XL

Lumia ทั้ง 2 รุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนตัวท็อปในสาย Windows แล้วโดย Lumia 950 XL นั้นใช้ Snapdragon 810 2 GHz พร้อมจอ AMOLED 5.7 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1440 pixel (ความหนาแน่น 518 ppi) และแบตเตอรี่ 3340 mAh ราคา $649 (~24,000 บาท)

[attach=1]

ส่วน Lumia 950 ใช้ Snapdragon 808 1.8 GHz จอ 5.2 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1440 pixel (ความหนาแน่น 564 ppi) และแบตเตอรี่ 3000 mAh ราคา $549 (~20,000 บาท)

ในส่วนของสเปกปลีกย่อยทั้ง Lumia 950 และ 950 XL ใช้ร่วมกันดังนี้

    กล้องหลัง 20MP เซนเซอร์แบบ Backside-illuminated สัดส่วน 16:9 พร้อม OIS และแฟลช 3 สี ถ่ายวิดีโอ 4K
    กล้องหน้า 5MP ถ่ายวิดีโอได้ 1080p
    ROM เริ่มที่ 32GB พร้อมใส่ microSD ได้
    รองรับ 4G LTE
    รองรับ wireless charing รองรับ fast charging ชาร์จได้ 50% ใน 30 นาที
    ใช้พอร์ต USB-C
    รองรับ Windows Hello ด้วยการสแกนม่านตา (iris scanner) จากเซนเซอร์อินฟราเรด
    มีฟีเจอร์อัดเสียง Lumia Rich Recording ด้วยไมโครโฟน 4 ตัว ทำให้เสียงชัดเป็นพิเศษ
    ระบบปฏิบัติการ Windows 10
    เริ่มขายพฤศจิกายน

โดยการต่อเครื่องให้กลายเป็นคอมพิวเตอร์นั้นจะต้องใช้อุปกรณ์เสริมที่เรียกว่า Microsoft Display Dock โดยสามารถเสียบสาย USB-C จาก Lumia 950, 950 XL เพื่อชาร์จไฟให้มือถือและเชื่อมต่อด้วยพอร์ตต่างๆ

    HDMI และ DisPlayPort สำหรับต่อมอนิเตอร์ ให้ความละเอียดสูงสุด 1080p
    USB 2.0 จำนวน 2 พอร์ตสำหรับต่อคีย์บอร์ด, เมาส์ หรืออุปกรณ์เสริม

จากสเปกและการใช้งานทั้งหมด Lumia 950 และ 950 XL น่าใช้มากด้วยระบบปฏิบัติการใหม่ การใช้งานแบบใหม่ที่ต่อจอเป็นคอมพิวเตอร์ได้ เหลือการใช้งานจริงว่าจะมีแอปสนับสนุนที่ดีขึ้นกว่า Windows Phone 8 หรือไม่ และการต่อจอทำงานแบบคอมพิวเตอร์นั้น ใช้งานได้จริงแค่ไหน จะมีโปรแกรมอื่นๆ นอกจากชุด Office ที่รองรับได้เร็วแค่ไหน ซึ่งต้องรอดูหลังผลิตภัณฑ์ออกวางจำหน่าย



ระยะหลังเราไม่ค่อยได้เห็น Microsoft Lumia รุ่นใหม่ๆ กระหน่ำออกเหมือนแต่ก่อนแล้วนะครับ อาจเพราะ Windows Phone 8 นั้นไม่เวิร์ค คนใช้ไม่นิยม และไมโครซอฟท์ก็รู้เรื่องนี้ดีจึงรอรุ่นใหม่ให้ออกพร้อม Windows 10 Mobile ไปเลยดีกว่า

ในงานเมื่อคืนวันที่ 6 ตุลาคม นอกจาก Surface Pro 4 และ Surface Book ไมโครซอฟท์จึงเปิดตัว Lumia ออกมา 3 รุ่นดังนี้
Microsoft Lumia 950 และ 950 XL

Lumia ทั้ง 2 รุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนตัวท็อปในสาย Windows แล้วโดย Lumia 950 XL นั้นใช้ Snapdragon 810 2 GHz พร้อมจอ AMOLED 5.7 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1440 pixel (ความหนาแน่น 518 ppi) และแบตเตอรี่ 3340 mAh ราคา $649 (~24,000 บาท)

ส่วน Lumia 950 ใช้ Snapdragon 808 1.8 GHz จอ 5.2 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1440 pixel (ความหนาแน่น 564 ppi) และแบตเตอรี่ 3000 mAh ราคา $549 (~20,000 บาท)
Lumia 950

Lumia 950

ในส่วนของสเปกปลีกย่อยทั้ง Lumia 950 และ 950 XL ใช้ร่วมกันดังนี้

    กล้องหลัง 20MP เซนเซอร์แบบ Backside-illuminated สัดส่วน 16:9 พร้อม OIS และแฟลช 3 สี ถ่ายวิดีโอ 4K
    กล้องหน้า 5MP ถ่ายวิดีโอได้ 1080p
    ROM เริ่มที่ 32GB พร้อมใส่ microSD ได้
    รองรับ 4G LTE
    รองรับ wireless charing รองรับ fast charging ชาร์จได้ 50% ใน 30 นาที
    ใช้พอร์ต USB-C
    รองรับ Windows Hello ด้วยการสแกนม่านตา (iris scanner) จากเซนเซอร์อินฟราเรด
    มีฟีเจอร์อัดเสียง Lumia Rich Recording ด้วยไมโครโฟน 4 ตัว ทำให้เสียงชัดเป็นพิเศษ
    ระบบปฏิบัติการ Windows 10
    เริ่มขายพฤศจิกายน

Lumia-950-Coming-Soon-jpg

โดยการต่อเครื่องให้กลายเป็นคอมพิวเตอร์นั้นจะต้องใช้อุปกรณ์เสริมที่เรียกว่า Microsoft Display Dock โดยสามารถเสียบสาย USB-C จาก Lumia 950, 950 XL เพื่อชาร์จไฟให้มือถือและเชื่อมต่อด้วยพอร์ตต่างๆ

    HDMI และ DisPlayPort สำหรับต่อมอนิเตอร์ ให้ความละเอียดสูงสุด 1080p
    USB 2.0 จำนวน 2 พอร์ตสำหรับต่อคีย์บอร์ด, เมาส์ หรืออุปกรณ์เสริม

Lumia 950 XL

Lumia 950 XL

จากสเปกและการใช้งานทั้งหมด Lumia 950 และ 950 XL น่าใช้มากด้วยระบบปฏิบัติการใหม่ การใช้งานแบบใหม่ที่ต่อจอเป็นคอมพิวเตอร์ได้ เหลือการใช้งานจริงว่าจะมีแอปสนับสนุนที่ดีขึ้นกว่า Windows Phone 8 หรือไม่ และการต่อจอทำงานแบบคอมพิวเตอร์นั้น ใช้งานได้จริงแค่ไหน จะมีโปรแกรมอื่นๆ นอกจากชุด Office ที่รองรับได้เร็วแค่ไหน ซึ่งต้องรอดูหลังผลิตภัณฑ์ออกวางจำหน่าย

Lumia-950-gallery-3-jpg
Lumia 550 สมาร์ทโฟน Windows 10 ราคาย่อมเยาว์

นอกจากสมาร์ทโฟนตัวท็อปแล้ว ในงานนี้ไมโครซอฟท์ยังเปิดตัว Lumia 550 ที่ใช้ Windows 10 เหมือนกันแต่มีราคาที่ถูกลงออกมาด้วย โดยสเปกเป็นดังนี้

    CPU: Qualcomm Snapdragon 210 1.1GHz
    หน้าจอ: LCD 4.7″ HD 720p 315 ppi
    RAM: 1 GB
    ROM: 8 GB ใส่ microSD เพิ่มได้
    กล้องหลัง 5MP พร้อมแฟลช ถ่ายวิดีโอ 720p
    กล้องหน้า 2MP f/2.8
    แบตเตอรี่ 2100 mAh
    ใช้ Nano-Sim พร้อมรองรับ 4G LTE
    เชื่อมต่อด้วย MicroUSB ไม่ใช่ USB-C เหมือนรุ่นพี่
    ระบบปฏิบัติการ Windows 10
    ราคา $139 (~5,100 บาท) วางขายเดือนพฤศจิกายน

ดูจากสเปกและราคาแล้ว คิดว่าไมโครซอฟท์ต้องทำการบ้านหนักๆ กับ Lumia 550 เพราะ Android มีราคาถูกกว่านี้แต่สเปกดีกว่านี้ (แค่เรื่องกล้องก็แพ้ขาดแล้ว) ซึ่งชื่อชั้นของ Windows 10 ในโลกโมบายก็ไม่ได้มีอะไรที่เด่นไปกว่า Android สักเท่าใดนัก แถมบางเรื่องโดยเฉพาะแอปยังด้อยกว่าด้วย ยังไงถ้าทีมงานแบไต๋ได้ลองใช้ Windows 10 บนมือถือเมื่อไหร่ จะกลับมาเล่าให้ฟังกันอีกทีครับ

ข้อมูลและที่มา
http://www.beartai.com/news/mobilenews/63400