ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ปรากฏการณ์และภาพสะท้อนของ “ตุ๊กตาลูกเทพ” สิ่งศักดิ์สิทธิ์นำโชคสมัยใหม่

เริ่มโดย คุณาพร., 17:38 น. 18 ม.ค 59

คุณาพร.


(อ้างอิงภาพ "ตุ๊กตาลูกเทพ" ที่มา : ข่าวสดออนไลน์)


ปรากฏการณ์และภาพสะท้อนของ "ตุ๊กตาลูกเทพ" สิ่งศักดิ์สิทธิ์นำโชคสมัยใหม่

โอ้ววว !!! แม่สาวน้อย  เธอก็แค่...เหล้าขาวในขวดไวน์รสเลิศจากเมืองมาร์ตินโบโรว์ ประเทศนิวซีแลนด์

เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อวันก่อนนี้เอง ระหว่างที่ผมไปนั่งทานข้าวเที่ยงในร้านอาหารตามสั่งแห่งหนึ่ง จู่ๆก็มีหญิงวัยกลายคนและครอบครัว 4 คนเดินเข้ามาภายในร้าน นั่งเสร็จก็สั่งอาหารกันตามปกตินะ เพียงแต่สิ่งที่รู้สึกแปลกแยกไปจากคนทั่วไปในร้านวันนั้นก็คือ คุณพี่ผู้หญิงท่านนี้นำเอาตุ๊กตาเด็กฝรั่งเข้ามาตั้งไว้ที่เก้าอี้ด้วยอีกตัวหนึ่ง จัดแจงตักน้ำแข็งใส่น้ำแดงให้ พร้อมสั่งข้าวผัดปูโปะไข่ดาวให้ตุ๊กตาตัวนี้อีก 1 จาน ปากก็พูดประหนึ่งเจ้าตุ๊กตาน้อยมีชีวิต ด้วยความสงสัยว่าตุ๊กตาตัวดังกล่าวคืออะไรผมเลยถามเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ เพื่อนอธิบายว่าที่เห็นนั่นคือ "ตุ๊กตาลูกเทพ" นี่แหล่ะ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้รู้และได้เห็นตุ๊กตาลูกเทพตัวเป็นๆครั้งแรกกับสายตาตนเอง....

เลยไปเปิดตำราบางเล่มอ่านดู....

ว่ากันว่าในยุคสมัยเก่าก่อนตามจารึกของอารยธรรมมนุษย์ ในยุคพระเวท(กรณีศึกษาด้วยความเชื่อในแบบศาสนาพราหมณ์-ฮินดู)ซึ่งกินระยะเวลาระหว่าง 1,000-100 ปีก่อนพุทธกาล มนุษย์มีความหวาดกลัวต่อธรรมชาติเป็นยิ่ง เลยพยายามเซ่น บวงสรวงเอาใจเทพเหล่านั้นมาเป็นพวก หวังผลว่าเทพจะไม่ทำร้ายและให้ผลดีในการดำรงชีวิต โดยในยุคก่อนพระเวทหรือพันปีก่อนพุทธกาลมนุษย์ได้สร้างลัทธิบูชาวิญญาณ(ผี)ขึ้นมา เป็นดังที่ รศ.ดร.สุจิตรา อ่อนค้อม ได้ศึกษาไว้ว่า "ยุคก่อนพระเวทนั้น แนวคิดและความเชื่อถือมีลักษณะเป็นวิญญาณนิยม หรือ Animism คือถือว่ามีวิญญาณศักดิ์สิทธิ์อยู่ในสิ่งที่ตนนับถือ วิญญาณเช่นกล่าวมาข้างต้นนี้สามารถที่จะให้คุณและโทษแก่มนุษย์ได้ จึงมีพิธีเซ่นสรวงเพื่อเอาอกเอาใจไม่ให้บันดาลสิ่งที่มีโทษเป็นภัยพิบัติเกิดขึ้นแก่มนุษย์" (รศ.ดร.สุจิตรา อ่อนค้อม, ศาสนาเปรียบเทียบ)

สอดคล้องกับที่เจือ สตะเวทิน และประมวญ ดิคคินสัน(Ph.D. Psychology) ได้ศึกษากรอบแนวคิด "ความเชื่อเรื่องผีสางเทวดา, ความเชื่อเรื่องเครื่องรางของขลัง และการคิดคำนึงสร้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์" เอาไว้สรุปได้ว่า "มนุษย์เป็นสัตว์โลกที่มีความสงสัยใฝ่รู้จริง ตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์มนุษย์ต้องต่อสู้กับธรรมชาติอย่างทรหด ตอนที่ยังเอาชนะธรรมชาติไม่ได้เพราะยังเข้าใจไม่ถ่องแท้ บรรพบุรุษของเราคิดและเข้าใจว่ามีอำนาจลึกลับบันดาลอยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์เหล่านั้น นั่นคือเหตุผลที่ทำให้มนุษย์เชื่อในอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผีสางเทวดา ก็คืออีกหนึ่งในความเชื่อของมนุษย์ที่ว่าถ้าบูชาดีเขาก็ให้คุณ ถ้าบูชาไม่ดีท่านก็ให้โทษ ผีดี เช่น ผีเรือน ผีบ้าน พระภูมิ เป็นต้น ส่วนผีที่ให้โทษซึ่งก็มีอยู่ไม่น้อย เราก็มีวิธีเซ่นไหว้ขอไม่ให้ทำอันตราย จนนำมาซึ่งการสร้างเครื่องลางของขลังไว้สำหรับปกป้องคุ้มครอง อาทิ เช่น นักรบของเมืองเชียงใหม่ในสมัยโบราณจะถือเครื่องรางที่ชื่อ แสนตรีเพชรกล้า ออกศึกสงครามเสมอ, คติในการสร้างเมืองใหม่ทุกครั้งคราจะต้องลงคาถาและทำการฝังเครื่องรางที่ชื่อ อิน จัน มั่น คง ซึ่งก็คือการฝังคนเป็นๆทั้ง 4 ทิศทำเป็นเจ้าที่เฝ้าหลักเมือง เมืองจะได้ปลอดภัยจากผีห่าและผีตนต่างๆ, รวมถึงเรื่องราวของขุนแผน ชายผู้ที่เล่นเครื่องรางของขลังมากที่สุด ไล่ตั้งแต่คาถาคุ้มกันภัย เลี้ยงผี ยันกุมารทอง" (เจือ สตะเวทิน, คติชาวบ้านไทย, ประมวญ ดิคคินสัน, คติชาวบ้าน การศึกษาในด้านมานุษยวิทยา)

ในกรณีศึกษานี้เอง "ตุ๊กตาลูกเทพ" อาจเป็นผลผลิตตกทอดที่กลายพันธุ์มาจาก "กุมารทอง" ของขุนแผนก็เป็นได้ ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม น่าเล่น น่าทะนุถนอมกว่ากุมารทอง(ที่คงไม่มีใครกล้าเอามาอุ้ม หรือเดินกอดพาไปเที่ยวห้างในวันหยุดสุดสัปดาห์ช่วงเสาร์-อาทิตย์เป็นแน่) อันนี้ล่ะมั๊งที่ทำให้ทุกวันนี้เราจึงมักเห็นคนดัง และ(หรือ)ใครต่อใครนิยม หันมาบูชา "ตุ๊กตาลูกเทพ" กันอย่างแพร่หลายในสถานที่ต่างๆ เรียกว่าเป็นตุ๊กตาฝรั่ง(หรือตุ๊กตาญี่ปุ่น-ตุ๊กตาอะไรก็ได้ที่ดูน่ารักๆ) เอามาเสกคาถา ปลุกให้มีชีวิตแล้วคนสมัยนี้(กลุ่มหนึ่ง)เชื่อว่าสามารถดลบันดาลให้สมหวังได้เหมือนกุมารทองก็มิปาน

แล้วตุ๊กตาลูกเทพมีกำเนิดมาจากไหนกันแน่นะ ( ? )
ผู้เขียนเลยลองไปสืบค้นข้อมูลดู ปรากฏว่าที่เว็บไซต์ผู้จัดการ (http://www.manager.co.th/) ได้กล่าวอ้างความเชื่อของหมอแม็ค ขั้นเทพ ว่า "ไปสะดุดกับตุ๊กตาตัวหนึ่ง และได้ยินเสียงในความคิดว่าอยากขอไปอยู่ด้วย และหลังจากนำมาอยู่ด้วยก็มอบสิ่งดีๆ ให้หลายอย่าง จึงได้นำไปให้พระอาจารย์ที่นับถือช่วยปลุกเสกให้ ซึ่งแตกต่างจากกุมารทอง หรือลูกกรอกที่จะใช้วัสดุอาถรรพ์ของคนที่ตายไปแล้ว เช่น ดินเจ็ดป่าช้า ผ้าห่อศพ ผม เล็บ เป็นต้น"

ในเว็บไซต์ (http://krungthep.coconuts.co/2015/06/10/lookthep)  ได้กล่าวอ้างที่มาของลูกเทพจากคำพูดของ "อาจารย์หนิง-มนัญญา บุญมี" ว่า "ย้อนกลับไปเมื่อ 13 ปีก่อน ขณะที่แม่หนิงยังเป็นแม่ค้าเครื่องหนังในตลาดกระทรวงสาธารณสุข เธอได้ใช้พลังที่เชื่อว่าได้มาจากการเป็นร่างทรงพระแม่อุมาเทวีสร้างลูกเทพตัวแรกขึ้น โดยการนั่งสมาธิอธิษฐานจนเกิดดวงจิตแล้วฝังลงไปในตุ๊กตาเด็กผู้หญิงชื่อว่า พลอย เธอเลี้ยงดูพลอยเหมือนลูกเล็กๆ ของตัวเอง และเชื่อว่าพลอยได้ทำให้นิสัยลูกชายวัย 17 ปีของเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากเด็กเกเรกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ เชื่อฟัง และกตัญญู"

อนึ่ง แต่ก็มีผู้รู้บางทางว่า กรณีการสร้าง-เช่าบูชา-ซื้อขาย "ตุ๊กตาลูกเทพ" นี้อาจเป็นเทคนิคทางการตลาดที่แสนแยบยลยิ่งนัก ที่สามารถนำพาตุ๊กตาฝรั่งราคาเพียงหลัก 1,000-5,000 บาท นำมาปลุกเสกเพิ่มคุณค่า ปรับให้มีราคาค่าเช่าบูชาตั้งแต่หลักไม่กี่พันไปจนถึง 30,000 บาทขึ้น(+)อย่างน่าอัศจรรย์ใจ (คนขายจะได้กำไรจากการขายตุ๊กตาตัวดังกล่าวนี้...หลายเท่าตัวนักเชียว / นับเป็นนวัตกรรมที่ยอดเยี่ยมมากๆในด้านการค้าขาย) และด้วยตัวเลขกำไรมหาศาลดังกล่าวนี้เองทำให้ในยุคปัจจุบันมีพ่อค้าแม่ค้าหัวใสเปิดร้านค้าออนไลน์ ขาย-เช่าบูชาตุ๊กตาลูกเทพกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน (ได้ยินมาว่าบางร้านรับตัดแต่งทรงผม, อบตัว, แลกเปลี่ยนตุ๊กตาลูกเทพกันด้วย)

ปัจจุบัน...     เราอาจมอง "ตุ๊กตาลูกเทพ" เป็นเพียงปรากฏการณ์-ภาพสะท้อนบริบทผู้คน-สังคม-และค่านิยมในยุคสมัยบริโภคนิยม-ฉาบฉวยในรสนิยมของผู้คนที่ "ต้องการ" และ "อยากได้" ในบางสิ่งบางอย่างแบบชนิดรวดเร็วติดจรวด-ทันใจประหนึ่งกดเงินอยู่หน้าตู้ ATM   แน่นอนบางคนขาดที่ซึ่งสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจไปหมดสิ้น "ตุ๊กตาลูกเทพ" อาจเป็นส่วนช่วยเติมเต็มสิ่งที่เขา(หรือเธอ)อาจขาดหายไปก็เป็นได้  คือตุ๊กตาดังกล่าวอาจเป็นทั้งที่พึ่งทางใจ ช่วยลด เยียวยา และคลายทุกข์แผลในใจที่เคยบังเกิด ช่วยคลายเหงา สร้างความหวังในการประกอบวิชาชีพ เหมือนกับที่หลายคนเคยเล่นกุมารทอง-นางกวัก-แมวกวัก พระเครื่องบูชา เทพเจ้าองค์ต่างๆ และฯลฯ เพื่อเสริมศิริมงคลในหน้าที่การงานมาแล้วในอดีต  เพราะทั้งหมดที่เราเห็นนี่ก็คือปรากฏการณ์ "เหล้าขาวในขวดไวน์รสเลิศจากเมืองมาร์ตินโบโรว์ ประเทศนิวซีแลนด์" นั่นเอง งานนี้นานาจิตตัง(เน๊อะ) เเม้นบางคนจะมองว่างมงายแต่ถ้าไม่ทำให้ใครเขาเดือดร้อน ทำเเล้วเรามีความสุขก็ทำไปเหอะ แต่..ถ้าเสียตังค์บูชา "ตุ๊กตาลูกเทพ" แล้วไม่ได้สรรพคุณดังที่เจ้าสำนักปลุกเสกให้  แนะนำครับ..ฟ้องสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้เลย ขอหา "เข้าข่ายหลอกลวง ฉ้อโกงประชาชน กระทำการขัดต่อกฎหมายตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ และอาจจะเข้าข่ายความผิดฐานโฆษณาเป็นเท็จหรือเกินความจริง" งานนี้นานาจิตตัง(อีกครั้งครับ อิอิอิ)  ^___^



คุณาพร / 18 / 1 / 2559

ส.อ่านหลังสือ















****** บทความพิเศษ : เปิดกรุหนังต้องห้าม (Prohibited Films) *******
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=19768.0

เว็บบอร์ดส่วนตัว  :  ห้องคุยกับคุณาพร
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?board=11.0

กิมหยง

สร้าง & ฟื้นฟู

คุณาพร.


****** บทความพิเศษ : เปิดกรุหนังต้องห้าม (Prohibited Films) *******
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=19768.0

เว็บบอร์ดส่วนตัว  :  ห้องคุยกับคุณาพร
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?board=11.0

ทีมงานบ้านเรา

เรามาถึงจุดนี้ได้ไง "ลูกเทพมโน" เมื่อการตลาดถูกนำมาปลุกเสกเทพสายแบ๊ว

แรกๆ เห็นข่าวลูกเทพผมไม่ได้สนใจอะไรเลย แต่ตอนนี้ผมยอมรับว่าเขาทำการตลาดดีมาก ลูกเทพกับการตลาดขั้นเทพสามารถยึดพื้นที่ข่าวได้ทุกสื่อ ตื่นมาก็เจอข่าวนี้ทางทีวี เปิดโซเชียลก็มีแต่ข่าวนี้ นสพ.ก็เล่นกันหน้า1 แทบทุกฉบับ นี่คือการตลาดชั้นเทพของจริง

สังคมยุคปัจจุบันผมขอตั้งชื่อให้ว่า "สังคมยุคมโน" มโนโซเชียลเจออะไรก็แชร์ชม ชอบ ด่า กูแชร์ไว้ก่อนที่มาที่ไปยังไงไม่รู้ วันนี้ทะเลาะกับแฟนเถียงกันยังไม่ทันจบโพสลงโซเชียลเรียบร้อยแล้ว โอ้แม่เจ้าไวขั้นเทพ เราโพส เราแชร์กันจนแทบขาดสติ ขาดการยั้งคิด หลายคนเลยเจอคดี เจอการประณาม เสียผุ้เสียคนไปเลยก็มี

เรื่องของลูกเทพ ไม่ขอคุ้ยจุดเริ่มต้นแรกๆ นะครับ ตอนแรกว่าจะไม่เขียนเพราะยังไม่เคยเห็นใครอุ้มรนบ้านเราเลย แต่เห็นมีห้างดังบ้านเราเล่นกับเขาด้วย อุ้มลูกเทพไปเที่ยวห้างแล้วได้ตุ๊กตาอะไรก็ไม่รู้เขาบอกให้ฟรีแถมขีดราคาไว้ตั้ง 3,500 อาโตยได้มากขนาดนั้นเลย เราอุ้มลูกไปเที่ยวจะขอลูกโป่งสักลูกคงไม่ถึง 10 บาทยังไม่กล้าเลยเพราะเกรงใจเขาแต่กับลูกเทพเขาจัดเต็มอะไรปานนั้น

ในฐานะที่เป็นคนบ้านๆ ผมเคยเห็นแต่ลูกกรอก ลูกกุมารทอง อะไรประมาณนี้แต่ไม่ได้สนใจใคร่รู้เชิงลึก เห็นมีการซื้อชุดให้ ประแป้งให้ สวดมนต์เข้าทรงอะไรประมาณนี้ แต่มาลูกเทพ โน๊ต อุดม บอกว่านี่คือเทพสายแบ๊ว ตุ๊กตาราคาไม่กี่สิบกี่ร้อยบาทเมื่อผ่านการปลุกเสกสามารถเพิ่มมูลค่าได้ถึงหลักหมื่น

เหมือนโรงงานรับจ้างผลิตเสื้อบ้านเรานั่นแหละ เราผลิตขายตัวไม่กี่ร้อยแต่เขาจ้างผลิตไปติดแบรนด์ดังๆ ราคาพุ่งทันที ลูกเทพก็เช่นกันเมื่อผ่านพิธีเหมือนตีแบรนด์เลยว่านี่มาจากสำนักไหน ราคาเท่าไหร่ มีมวลสารกี่ชนิด เถ้ากระดูกวิญญาณอยู่ด้วยไหม ยิ่งเจ็บตับเข้าไปอีกเมื่อมีข่าวบางสำนักออกมาว่าพระปลุกเสกลูกเทพไม่ผิดธรรมวินัย เฮ้อ พระไทยทำได้ทุกอย่าง

การที่มีการจัดโปรโมชั่นเกี่ยวกับลูกเทพออกมาในโลกโซเชียลไม่ว่าการสอนหนังสือ เสริมดั้ง ขัดผิว ทำสปา แรกๆ ผมมองว่านี่คือการทำกระแสในโลกออนไลน์ สมมติแชร์ไปด่าไปแต่แชร์ 1 ครั้งเพิ่มร้อยคนดูแล้วถ้าแชร์หมื่นครั้งจะเพิ่มคนได้เท่าไหร่ ร้านเล็กๆ ร้านไม่ดังทำกันเพื่อสร้างกระแสเผลอๆ ได้ลูกค้าเพิ่มอีกต่างหาก เพราะคนมันเกดสนใจว่าไปดูสิร้านมันอยู่ตรงไหน มีดีอะไรถึงจะขายบริการลูกเทพในราคาสูงมหาโหด

แต่เมื่อธุรกิจใหญ่ๆ ลงมาเล่นด้วยมันคืออะไร ลูกเทพมาทานมีเรทราคาด้วย มีที่นั่งให้ด้วย แง่คนขายกำไรแน่นอนสมมตคนทั่วไปคิดหัว 300 ลูกเทพหัวละ 100 แหม่แล้วเทพมันกินได้ที่ไหนละครับ มานั่งกินนะลูกเดี๋ยวแม่ป้อนลูกกินเหลือเดี๋ยวแม่โดนปรับ โอ๊ๆๆ ไม่เป็นไรแม่ยอมเสียค่าปรับแต่อย่าลิมนำโชคให้แม่น่ะ เด็กเสิร์ฟร้านนี้คงอิ่มกันน่าดูได้ทั้งค่าปรับและกินของเหลือลูกเทพ (แต่ะระวังของไม่มีรสชาติน่ะครับเพราะเทพดูดไปหมดแล้ว)

ลูกเทพก็เป็นอีกหนึ่งสังคมยุคมโน สังคมยุคปีชง ใช้น้ำหอม ใช้สบู่ตามราศีปีเดือนเกิดมีทั้งนั้น ในมุมของคนศรัทธานี่คือสิ่งลี่ลับที่มีพลังงานบางอย่างสร้างพลังให้เขา รู้สึกว่ามีเพื่อน มีที่ระบาย มีแรงผลักดัน เมื่อมีพลังใจทำให้เกิดความมุ่งมั่นที่แรงกล้าและทำงานสำเร็จเลยเกิดการมโนไปว่าเพราะลูกเทพช่วย เลยต้องขอบคุณและดูแลลูกเทพอย่างดี

ในอีกมุมนี่คือความงมงาย แค่ตุ๊กตายางจากโรงงานโหลๆ มีหน้าตาแปลกจากตุ๊กตาทั่วไป บางทีไปในทางน่าเกลียดน่ากลัวด้วยซ้ำกลับนำมาบูชาซะงั้น ทั้งที่เทพมีชีวิตมีให้บูชาอยู่แล้ว พ่อแม่บุพการีนี่แหละที่ยิ่งใหญ่กว่าเทพไหนๆ วันนี้ได้ดูแลท่านดีแล้วหรือยัง อย่านำศรัทธมาอยู่เหนือเหตุผล อย่าทำการตลาดเพื่อมุ่งหวังแค่ลูกค้าฉาบฉวย คนรวยบางครั้งก็แค่คิดเร็วและเป็นผู้นำเพื่อหลอกเอาผลประโยชน์จากผู้ตามไม่ทันเท่านั้น

ขอทำนายเลยว่าอีกไม่นานตุ๊กตาลูกเทพก็จะกลายเป็นขยะขั้นเทพ และคงมีวิญญาณลูกเทพเร่รอ่นเต็มไปหมด ขอปิดท้ายด้วยคำคมเตือนใจ "มีเหตุผลนำศรัทธา สร้างปัญญาคู่สติ"     

   
สนับสนุนการขับเคลื่อนโดย
- ฮอนด้าพิธานพาณิชย์-อริยะมอเตอร์ www.phithan.co.th/hondaphithan
- ปาล์มสปริงส์ & ซิตี้รีสอร์ท บ้านและคอนโดคุณภาพจากเครืองศุภาลัย www.hatyainakarin.com
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ (เยื้องบิ๊กซีคลองแห) โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy
- เอนกการช่าง ผู้นำการพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร โทร 081-7382622 www.an-anek.com/contact.php
รีวิวธุรกิจ เกาะติดบ้านเมือง ร้อยเรื่องท้องถิ่น TLP 0897384215

คุณาพร.


****** บทความพิเศษ : เปิดกรุหนังต้องห้าม (Prohibited Films) *******
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=19768.0

เว็บบอร์ดส่วนตัว  :  ห้องคุยกับคุณาพร
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?board=11.0

คุณาพร.

ล่าสุด... 'ตุ๊กตาลูกเทพ' ฝังมวลสารกระดูกผีมาแล้ว อัพราคาขายตัวละแสน ส.อ่านหลังสือ

>>>>http://www.thairath.co.th/content/568786

****** บทความพิเศษ : เปิดกรุหนังต้องห้าม (Prohibited Films) *******
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=19768.0

เว็บบอร์ดส่วนตัว  :  ห้องคุยกับคุณาพร
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?board=11.0

กิมหยง

สร้าง & ฟื้นฟู