กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

สถานการณ์การสูบบุหรี่ในชายแดนภาคใต้พุ่งสูง เครือข่ายภาคใต้เติมเต็มความรู้สร้างอาสาสมัครควบคุมยาสูบ อบรม 35 เยาวชนชายแดนหวังลดนักสูบหน้าใหม่และเป็นกำลังปรับพฤติกรรมลดนักสูบในพื้นที่

[attach=1]

ผู้ช่วยศาสตราจารย์สะสือรี วาลี อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์มหาวิทยาลัยฟาฏอนีและหัวหน้าโครงการอบรมหลักสูตรระยะสั้นเพื่อการเสริมสร้างสมรรถนะสำหรับอาสาสมัครควบคุมยาสูบในห้าจังหวัดชายแดนใต้ รุ่นที่ 2 ให้ข้อมูลว่า สืบเนื่องจากภาคใต้ของประเทศไทย มีอัตราการสูบบุหรี่สูงกว่าภาคอื่นๆ ในทุกรอบการสำรวจ โดยเฉพาะ 5 จังหวัดชายแดนใต้ที่มีความชุกของการสูบสูงที่สุดในประเทศ อีกทั้งแนวโน้มของนักสูบรายใหม่มีอายุค่าเฉลี่ยต่ำลงเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันบริษัทบุหรี่ก็มุ่งเป้าสู่เยาวชนเป็นหลัก

ดังนั้นยุทธศาสตร์การดำเนินงานควบคุมยาสูบในระดับชาติ ได้ให้ทุกภาคส่วนดำเนินการแบบมุ่งเป้า คือ การลดอัตราการสูบ โดยช่วยผู้เสพให้เลิกใช้ยาสูบ ลดนักสูบรายใหม่ ลดอัตราการสัมผัสควันบุหรี่มือสอง และเพิ่มสิ่งแวดล้อมปลอดบุหรี่ ด้วยเหตุนี้สถาบันวิจัยและพัฒนาสุขภาพภาคใต้ (วพส.) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยฟาฏอนีได้ตระหนักถึงบทบาทเยาวชนและแกนนำนักเรียนผู้มีจิตอาสาที่มีศักยภาพสูงในการควบคุมการบริโภคยาสูบในโรงเรียนและชุมชนจึงจัดให้มีการอบรมหลักสูตรระยะสั้นเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะสำหรับอาสาสมัครควบคุมยาสูบต่อการสร้างและใช้มาตรการทางสังคมในการสร้างสิ่งแวดล้อมปลอดควันบุหรี่ใน 5 จังหวัดชายแดนใต้ การจัดอบรมรุ่นที่ 2 ในวันที่ 28-30 มีนาคม 2559 ณ โรงแรมปาร์ควิว รีสอร์ท อ.เมือง จ.ปัตตานี

"การอบรมในครั้งนี้มีเยาวชนจาก 5 จังหวัดชายแดน ราว 35 คน เข้ารับการอมรม โดยคาดหวังว่าต่อไปเด็กเหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญที่กลับไปบอกเล่าหรือรณรงค์ในโรงเรียนหรือพื้นที่ของตนเองได้ และเยาวชนบางส่วนอาจได้ขับเคลื่อนร่วมกับอาสาสมัครซึ่งเป็นผู้ใหญ่ ที่ได้รับการอบรมไปแล้วในรุ่นที่ 1 เมื่อเดือนที่ผ่านมา" 

สำหรับเนื้อหาการอบรมดังกล่าว ครอบคลุมตั้งแต่สถานการณ์การบริโภคยาสูบทั้งในและต่างประเทศ พิษภัยของยาสูบ ยา/สมุนไพรช่วยเลิกบุหรี่ แนวทางการสื่อสารหรือรณรงค์ในพื้นที่ ที่สำคัญ ยังได้ร่วมแลกเปลี่ยนกับสมาชิกชมรมผู้ไร้กล่องเสียง ม.อ. ซึ่เงป็นกรณีตัวอย่างที่ดีให้เห็นโทษของบุหรี่ นอกจากนี้ ในวันสุดท้ายของการอบรม เยาวชนจะได้แสดงพลังคนรุ่นใหม่ด้วยการร่วมกันรณรงค์ในพื้นที่อำเภอยะรังอีกด้วย

หัวหน้าโครงการอธิบายเพิ่มเติมอีกว่า ทางโครงการฯ จะยังเดินหน้าพัฒนาอาสาสมัครควบคุมยาสูบไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับผู้ใหญ่และเยาวชน ให้ครอบคลุมและกระจายมากที่สุด โดยหวังว่าอาสาสมัครที่ได้รับการพัฒนาแล้วเหล่านี้จะเป็นศูนย์กลางในการประสานความร่วมมือเพื่อการดำเนินกิจกรรมในการควบคุมยาสูบในโรงเรียนและชุมชน โดยสามารถให้คำแนะนำ วิธีการเลิกบุหรี่แก่ผู้สูบบุหรี่ รวมทั้งมีมาตรการในการป้องกันผู้สูบบุหรี่รายใหม่ในโรงเรียนและชุมชนได้ เช่น มาตรการลดการเข้าถึงบุหรี่ของเยาวชนในชุมชนโดยสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับร้านค้าปลีกยาสูบ  นอกจากนี้ สามารถผลักดันให้มีการสร้างและใช้มาตรการทางสังคมในการสร้างสิ่งแวดล้อมปลอดควันบุหรี่ เพื่อการป้องกันผู้สัมผัสควันบุหรี่มือสองในชุมชนได้โดยการกำหนดมาตรการ/รูปแบบ/กฎ/กติกา เพื่อการสร้างสิ่งแวดปลอดควันบุหรี่ที่มาจากชุมชน