กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   1 มกราคม 2555 17:16 น.   

[attach=1]

เป็นอีกหนึ่งปีที่มีอะไรน่าสนใจไม่แพ้กับปีก่อนๆ ที่ผ่านมาสำหรับวงการภาพยนตร์ของบ้านเราในปี 2554
       
          เริ่มกันตั้งแต่ 5 อันดับหนังไทยที่ทำรายได้สูงสุดในรอบปี* อันดับที่ 1 ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ ยุทธนาวี 203 ล้านบาท อันดับ 2 ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๔ ศึกนันทบุเรง 134 ล้านบาท อันดับ 3 และ 4 เป็นหนังจากค่าย จีทีเอช อย่าง ลัดดาแลนด์ 117 ล้านบาท และ Suck Seed ห่วยขั้นเทพ 80 ล้านบาท ส่วนอันดับที่ 5 ตกเป็นของภาพยนตร์เรื่อง 30 กำลังแจ๋ว ได้มา 73 ล้านบาท
       
          ค่ายหนังที่ส่งหนังออกมามากที่สุดก็คือสหมงคลฟิล์มฯ จำนวน14 เรื่อง รองลงมาได้แก่ พระนครฟิล์ม 6 เรื่อง แต่ถ้าคิดเป็นรายได้ถัวเฉลี่ยแล้ว ค่ายที่ทำเงินสูงสุดก็ยังคงเป็น จีทีเอช ที่ปีนี้แม้จะมีหนังเพียง 3 เรื่อง คือ Suck Seed ห่วยขั้นเทพ, ลัดดาแลดน์ และ ท็อป ซีเคร็ต วัยรุ่นพันล้าน แต่ก็สามารถทำรายได้ไปถึง 233 ล้านบาทเลยทีเดียว
       
          หนังไทยที่กลายเป็นกระแสถูกพูดถึงมากที่สุดคงจะต้องยกให้กับ Suck Seed ห่วยขั้นเทพ และ คนโขน เรื่องแรกนั้นเป็นกระแสขึ้นมาเพราะความสำเร็จทั้งจากคุณภาพของตัวหนังและในเรื่องของรายได้ ขณะที่เรื่องหลังถูกพูดถึงเพราะ "ความน่าสนใจ" เนื่องจากนี่คือครั้งแรกที่มีการจับเอานาฎศิลป์ชั้นสูงอย่างโขนมานำเสนอ แต่ถึงแม้จะถูกพูดถึงและตัวของผู้กำกับอย่าง ตั้ว ศรัณยู จะได้รับคำชื่นชมอย่างมากทว่าหนังกลับทำรายได้ที่ไม่ค่อยจะสูงสักเท่าไหร่
       
          ดาราที่แจ้งเกิดสุดๆ คงจะต้องยกให้กับสาว เปาวลี พรพิมล นางเอกจากภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง ที่สวยทั้งหน้าตาและเสียงร้อง ส่วนที่ตามมาตีคู่สูสีกันก็คงจะเป็นใครไม่ได้นอกจากน้อง น้ำขิง สุธิดา หงษา สาวน้อยจากภาพยนตร์เรื่อง ปัญญา เรณู ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหนังไทยที่ได้รับการชื่นชมอย่างมากในรอบปี
       
          มีเกิดก็ต้องมีไม่เกิด...
       
          ผ่านงานละครมาหลายต่อหลายเรื่อง ปีนี้ต้องถือว่าเป็นโอกาสดีของสาว โม อมีนา พินิจ หลังเจ้าตัวได้ก้าวขึ้นมาเป็นนางเอกภาพยนตร์เต็มตัวในหนัง เท่ง โหน่ง จีวรบิน อย่างไรก็ตาม แม้หนังจะทำรายได้ในระดับหนึ่งทว่ากลับมีคนพูดถึงเธอคนนี้น้อยมาก โดยส่วนหนึ่งก็คงจะเป็นเพราะตัวหนังไม่ได้ต้องการความสามารถอะไรมากมายนอกจากความสวยของเธอเนื่องจากหนังเน้นขายความตลกซึ่งมี 3 ตลกอย่าง เท่ง, โหน่ง, ตุ๊กกี้ เป็นตัวหลักอยู่แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง
       
          อีกคนหนึ่งที่ต้องบอกว่าน่าผิดหวังทีเดียวก็คงจะเป็นสาวมากฝีมืออย่าง ใหม่ เจริญปุระ ที่อุตส่าห์เปลี่ยนคาแรกเตอร์ของตนเองในภาพยนตร์เรื่อง ใหม่กะหม่ำ โดนกะโดน ซึ่งก็คงจะเป็นเพราะหนังนั้นค่อนข้างจะเงียบๆ พลอยให้เธอเองไม่ค่อยเป็นที่พูดถึงสักเท่าไหร่
       
          เป็นประจำทุกปีที่จะต้องมีหนังที่มีรายได้ "ต่ำกว่า" ที่ควรจะเป็นหากเปรียบเทียบกับคำชื่นชมตลอดจนเสียงวิจารณ์ที่ออกมาในเชิงบวก ซึ่งปีนี้ในบรรดาหนังที่เข้าข่ายที่ว่ามีหลายเรื่องทีเดียว ไล่ไปตั้งแต่ ปัญญา เรณู, ศพไม่เงียบ , ขอบคุณที่รักกัน, คนโขน, อุโมงค์ผาเมือง, หมาแก่อันตราย ของ ต้อม ยุทธเลิศ ที่คว้าเอารางวัลขวัญใจกรรมการ (Jury Award) และรางวัลกำกับภาพยอดเยี่ยม (Best Cinematography Award) จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเซี่ยงไฮ้ รวมไปถึง ฝนตกขึ้นฟ้า หนังร่วมทุนไทยฝรั่งเศสอีกหนึ่งผลงานคุณภาพจาก เป็นเอก รัตนเรือง
       
          กระนั้นสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียวก็คือ...
       
          แม้ในปีนี้แนวทางของหนังไทยยังคงเป็นหนังตลก ทั้งตลกรัก-ตลกผี และหนังผีเสียเป็นส่วนใหญ่แต่ก็ใช่ว่าทุกเรื่องจะประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะหนังในแนวนี้ อย่าง บางคนแคร์ แคร์บางคน, ชิปหาย, ศพเด็ก 2002, Love Summer, เหลือแหล่, มิดไมล์ฯ, อีนางเอ้ย, บ้านผีปอบ, แวมไพร์ สตรอเบอรี่ ฯ ต่างก็ทำรายได้ต่ำมากๆ ซึ่งอย่างน้อยๆ ตรงนี้ก็คงจะทำให้คนทำหนังต้องคิดแล้วล่ะว่าการทำหนังประเภทตีหัวเข้าบ้าน, ขายฉากหวิว,ขายข่าวฉาว, เอาตลกมาพูดคำหยาบๆ เหล่านี้ นอกจากจะไม่ได้มาซึ่งรายได้แล้ว ยังจะโดนด่าอีกต่างหาก
          ...
          หมายเหตุ * เป็นตัวเลขรายได้โดยประมาณ และไม่นับรวมภาพยนตร์เรื่อง "ส.ค.ส. สวีทตี้" ที่เข้าฉายในวันที่ 29 ธันวาคม