กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงจำนวน ๒ คน เข้ารายงานกับหน่วยเฉพาะกิจสงขลา ตามมาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๕๑

[attach=2]

(11 ม.ค. 55) ณ หน่วยเฉพาะกิจสงขลา ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา โดยศูนย์ดำเนินกรรมวิธีขั้นต้น ได้เปิดรับผู้ต้องหาคดีความมั่นคง รายงานตัวตามมาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติ การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๕๑ เพิ่มเติม จำนวน ๒ รายคือ นายรอยาลี  บือราเฮง  อายุ ๒๕ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๕๖/๑ หมู่ ๑ ตำบลท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี

ตามหมายจับศาลจังหวัดนาทวี  ที่ ๒๔๔/๒๕๕๔ ลง ๒๘ กันยายน ๒๕๕๔ สถานีตำรวจภูธรเทพา คดีร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยไตร่ตรองไว้ก่อน พฤติกรรม เมื่อ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๔ เวลา ๑๗.๔๕ น. ร่วมกับพวกเข้าโจมตีฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองหมู่บ้านเกาะแลหนัง ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา ทำให้มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต ๒ นาย คือ อาสาสมัครทหารพราน  บาราเหม แฉะ และ อาสาสมัครทหารพราน มะนาวี  อาหะมะ และผู้ได้รับบาดเจ็บ ๑ ราย คือ นายนูรดีน แม

ส่วนผู้ต้องหารายที่ ๒ คือ นายยาซะ  เจะหมะ อายุ ๒๕ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๕๒/๖ หมู่ ๖ ตำบลคูหา อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ ๖๑๑/๒๕๕๑  ลง ๙ กรกฎาคม ๑๕๕๑ สถานีตำรวจภูธรสะบ้าย้อย ร่วมกันก่อการร้าย พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน พฤติกรรม เมื่อ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๗ เวลาประมาณ ๑๙.๓๐ น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงนายสุชาติ อุดม อายุ ๔๕ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๗๕ หมู่ ๑ ต.บ้านนา อ.แกลง จ.ระยอง ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณริมถนนสายอำเภอสะบ้าย้อย-คูหา หมู่ ๑ ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
       
มาตรา ๒๑ พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๕๑ เป็นกฎหมายทางเลือกที่เปิดโอกาสให้ผู้ต้องหาสมัครใจที่จะเลือกไม่เข้ารับการพิจารณาคดีโดยศาล แต่ต้องเข้ารับการอบรมแทนการฟ้อง เป็นเวลาไม่เกิน ๖ เดือน หากผู้ต้องหาสามารถผ่านหลักสูตรการอบรมแทนการฟ้องไปได้ สิทธิในการนำผู้ต้องหานั้น มาฟ้องเป็นคดีต่อศาลก็เป็นอันระงับไป ซึ่งการอบรมแทนการฟ้องคดีนั้น ถือเป็นบทบัญญัติที่มุ่งแก้ไขเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้

โดยให้โอกาสผู้กระทำผิดที่เป็นความผิดอันมีผลกระทบต่อความมั่นคงเข้ารับการอบรมตามคำสั่งศาล แทนการดำเนินการบวนการยุติธรรมทางอาญาปกติ (การฟ้องคดี) แต่โอกาสนี้จะมีให้ก็แต่ผู้ที่ได้กระทำความผิดเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือโดยหลงผิด และต้องได้ความว่าผู้กระทำผิดเหล่านี้ต้องการกลับใจและเข้ามอบตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือกรณีที่คดีอยู่ระหว่างการสอบสวน ถ้าพนักงานสอบสวนได้เห็นว่าผู้ต้องหากระทำความความผิดเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือโดยหลงผิดแล้ว ก็อาจส่งสำนวนเพื่อเข้าสู่กระบวนการนี้ได้

โดยผู้ที่จะเข้าสู่เงื่อนไขการอบรมแทนการฟ้องตามมาตรา ๒๑ จะต้องตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งข้อกล่าวหา การกล่าวโทษ การร้องทุกข์ หรือถูกออกหมายจับ ส่วนผู้ที่ไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหาก็อาจเข้ารายงานตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ได้ แต่ไม่ได้อยู่ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมายดังกล่าว

พลตรี ธฤทธิ์  สุนทร  ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสงขลา กล่าวว่า มาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๕๑ เป็นกฎหมายทางเลือกของผู้ต้องหาอย่างแท้จริง ที่ช่วยเหลือผู้ต้องหาให้พ้นโทษ สามารถกลับมาสู่ภูมิลำเนาเดิมและอยู่ร่วมกับครอบครัวอย่างปกติ ในส่วนของกระบวนการยุติธรรมนั้นจะต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณาในขั้นตอนศาลและการต่อสู้คดี

ส่วนจะชนะคดีหรือไม่นั้นยังไม่สามารถกำหนดได้ ซึ่งอาจจะต้องแพ้คดีและถูกพิพากษาให้จำคุกได้ตามเหตุแห่งความผิดที่ได้กระทำไว้ แต่มาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๕๑ นั้น หากผู้ต้องหาผ่านการอบรมแทนการฟ้องตามคำสั่งศาล คดี ป.วิอาญา ก็เป็นอันระงับการฟ้องทันที ประโยชน์ที่ได้เป็นของผู้กระทำความผิดเกี่ยวข้องกับความมั่นคงภายในราชอาณาจักรโดยตรง
             
ทางด้านนายสุไลมาน เจะหมะ พี่ชายของผู้ต้องหารายหนึ่งกล่าวว่า การเข้ารายงานตัวกับทางการตามมาตรา ๒๑ นั้น เป็นสิ่งที่ดี ซึ่งตนเองเห็นว่าน้องชายตนจะมีโอกาสในการต่อสู้คดีและสามารถกลับมาดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างปกติ เนื่องจากน้องชายได้หนีคดีและหลบซ่อนตัวมากว่า ๖ ปีแล้ว จึงคิดว่า การเข้ามารายงานตัวตามมาตรา ๒๑ นั้น จะมีส่วนร่วมสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ได้...