ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เพจรวมเรื่องสยองขวัญ

เริ่มโดย อินดี้, 13:41 น. 30 มิ.ย 62

อินดี้

25 สถานที่ดำน้ำทั่วโลกทั่วโลก
1.มายา ธิลา มัลดีฟส์ (Maaya Thila, Maldives)



มัลดีฟส์เป็นสถานที่ดำน้ำที่นิยมมาก มีพืชใต้น้ำที่แปลกใหม่และสัตว์ทะเลหลากหลาย และแนวปะการังที่สวยงาม เพราะมันเป็นเกาะที่แยกตัวออกมจากทวีปขนาดใหญ่ อุดมไปด้วยหินปะการังที่เป็นแหล่งกำเนิดระบบนิเวศทางทะเล คุณจะพบปลาหลายชนิดที่น่าสนใจ เช่น ปลาวาฮู หรือ ปลาอินทรีน้ำลึก ปลาทูน่าแจ็ค ปลาทูน่าด็อกทูธ (Dogtooth tuna)  ปลาผีเสื้อ ปลาสำลีและปลาพันธุ์หายากอื่น ๆ เช่น ปลานโปเลียนยักษ์ หรือ ปลานกขุนทองหัวโหนกยักษ์ (Giant Napoleon Wrasse) นอกจากนี้ยังมีฉลามวาฬ ดอกไม้ทะเล ปลาไหล ปลากระเบนราหูและเต่า

2. เปอร์โต กาเลรา ฟิลิปปินส์ (Puerto Galera, Philippines)



ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีเกาะมากกว่า 7,000 เกาะ เปอร์โต กาเลราถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่จะไปดำน้ำ เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งที่จะดูชีวิตทางทะเลและอุดมไปด้วยแนวปะการังที่สวยงาม ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของนักถ่ายภาพใต้น้ำ

3. เดอะบลูโฮล ประเทศเบลีซ  (The Blue Hole, Belize)



ประเทศเบลีซตั้งอยู่ในฝั่งตะวันออกของอเมริกากลาง ริมทะเลคาริบเบียน มีชื่อเสียงในเรื่องของเดอะบลูโฮล มันเป็นหลุมขนาดใหญ่ใต้น้ำ และเป็นสถานที่ๆดีที่สุดแห่งหนึ่งในการรักษาไว้วึ่งระบบนิเวศน์ทางทะเล

4. เกาะเต่า ประเทศไทย (Koh Tao Island, Thailand)



เป็นสถานที่ๆเหมาะแก่การดำน้ำมาก มันถูกล้อมรอบทุกด้านด้วยแนวปะการังที่มีสีสัน เหล่าสิ่งมีชีวิตใต้น้ำที่หลากหลาย เช่น ปลาฉลามจ้าวมันหรือปลาฉลามสีเทา ฉลามวาฬ

5. ไคลัวร์ โคน่า ฮาวาย (Kailua Kona, Hawaii)



เป็นสถานที่ๆ เต็มไปด้วยสัตว์ทะเลหลากหลาย เช่น ปลาเขตร้อนที่มีสีสัน เต่าทะเลยักษ์ ฉลาม ปลากระเบน ปลาวาฬ และอื่น ๆ อีกมากมาย

6. อูทิล่า ฮอนดูรัส (Utila, Honduras)



ทะเลแคริบเบียนเป็นบ้านจำนวนมากของจุดดำน้ำ เกาะอูทิล่าก็เป็นสถานที่หนึ่งที่เรียกได้ว่าสวยมากที่สุดในแคริบเบียน

7. สิปาดัน มาเลเซีย (Sipadan, Malaysia)



เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดที่จะไปดำน้ำ เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตทางทะเล ปะการังแข็งและอ่อน ปลาฉลามหัวค้อน ฉลามครีบขาว ปลาฉลามเสือดาว และเต่าทะเล

8. โบแนร์ เนเธอร์แลนด์ แอนทิลลิส (Bonaire, Netherlands Antilles)



โบแนร์ เป็นเขตปกครองพิเศษของประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อรวมเกาะนี้กับเกาะอารูบาและคูราเซา เรียกว่าหมู่เกาะเอบีซี แห่งหมู่เกาะลีเวิร์ดแอนทิลลีส โบแนร์เคยเป็นส่วนหนึ่งของเนเธอร์แลนด์แอนทิลลีส จนแยกออกมาเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 2010 โดยแยกออกมาเป็นเขตปกครองพิเศษของเนเธอร์แลนด์

9. เกาะกีลี อินโดนีเซีย (Gili Islands, Indonesia)



ถือได้ว่าเป็นเมืองหลวงแห่งเต่าทะเลเลยทีเดียวสำหรับเกาะกีลี มีภาพใต้น้ำที่น่าตื่นตาตื่นใจกับความอุดมสมบูรณ์ของพืชและสัตว์ทางทะเล เช่น ปลานกแก้วหัวโหนก กระเบนราหู ปลาฉลามครีบขาวและครีบดำ เต่ากระ ปะการังแข็งและอ่อนหลากหลายชนิด นอกจากนี้ยังใกล้บาหลีอีกด้วย

10. เกาะแย็พ ไมโครนีเซีย (Yap, Micronesia)



มีไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้จักเกาะแย็พ มันอยู่ห่างจากลอสแอนเจลิสเพียง 6,000 ไมล์ หรือห่างจากเกาะกวมด้วยการเดินทางโดยเครื่องบิน 1 ชั่วโมง เหล่านักดำน้ำหลงรักมัน มีสิ่งมีชีวิตทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังเป็นที่นิยมในหมู่นักสำรวจ นักนิเวศน์วิทยาและผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับธรรมชาติ

อ่านต่อที่นี่ 25 สถานดำน้ำทั่วโลก

อินดี้

Box jellyfish may destroy our oceans

These greedy predators could ruin delicate marine ecosystems if water levels become too acidic

To discover the future consequences of carbon dioxide dissolving in our oceans, scientists at the Utah State University studied copepods — tiny crustaceans that sustain large and important food webs.

Samples of these organisms were captured and half were placed in ambient seawater, while the other half were placed in water that had been acidified to levels predicted for 2100. When a natural predator, the box jellyfish, was added, they were observed to be particularly ravenous in the acidified water, where the copepods were feasted upon significantly more.

มฤตยูในสายน้ำ แมงกะพรุนกล่อง
10 อันดับสัตว์มีพิษ
เห็ดมีพิษ
5 อันดับเพชรฆาตใต้ทะเลลึก
9 วิธีป้องกันตัวจากฟ้าผ่า



อินดี้

ไสยศาสตร์อัศจรรย์วิชาเสือสมิงศาสตร์แห่งไสย
สามเณรครูบาธรรมชัยลำดับความมุ่งมั่นตัดสินใจออกธุดงค์ครั้งนี้นั้นเนื่องจากประสงค์จะดั้นด้นเข้ามาในป่าในเขาก็หวังจะขัดเกลากิเลสให้หมดสิ้นไปเพื่อจะได้ล่วงพ้นกองทุกข์ใหญ่ในกายสังขารนี้เป็นสำคัญ โดยตั้งใจจะสิ้นภพสิ้นชาติไปในชาตินี้ไม่เวียนว่ายตายเกิดมารับทุกข์อีกต่อไปแต่พอมาเจอรอยเท้าเสือเท่านั้นกลับเกิดความรักตัวกลัวตายอย่างไร้สติ

เมื่อคิดได้เช่นนี้สติก็สามารถควบคุมจิตได้ความกลัวเสือ กลัวความตายพันหายไป จิตเกิดความองอาจกล้าหาญสลายความหวาดหวั่นพรั่นพรึงไปจนหมดสิ้นจึงได้นั่งลงพิจารณาความเป็นจริงกลับไปกลับมาเท่าที่ความรู้ในทางธรรมซึ่งครูอาจารย์อบรมสั่งสอนมากำหนดพิจารณาเพียงเป้าหมายเดียวจิตก็รวมตัวเข้าสู่ความสงบดิ่งลงเป็นสมาธิไม่รับรู้อารมณ์อื่นใดทั้งสิ้น

สามเณรครูบาธรรมชัยอยู่ในสมาธินั่นนานจูบจนเวลาเลื่อนไหลไปสู่ช่วงเย็น แดดอ่อนๆสัตว์จากยอดไม้เดนจึงคายออกจากสมาธิจิตมีความปลอดโปร่งปราศจากความวิตกกังวลใดๆมากล้องติดเมื่อเห็นว่าเป็นเวลาอันเหมาะสมจึงเตรียมตัวจะไปส่งน้ำที่ลำห้วยเพื่อชำระร่างกาย

สามเณรเดินจากร่มไม้ตรงไปยังลำห้วยแหล่งน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลนักพอพ้นพุ่มไม้ดกหนาออกไปเต็มตัวก็ประสบเข้ากับภาพที่ไม่คาดฝันว่าจะพบเห็น

ที่นั่นริมห้วยน้ำใส เสือโคร่งตัวมหึมากำลังก้มกินน้ำอยู่ ทันทีที่สามเณรปรากฏตัวเสื้อตัวนั้นก็หันขวับกลับมา เณรตกตะลึงนะจังงังและเสือก็คงตกตะลึงเช่นกันเสือใหญ่เจ้าป่าหมุนตัวย่อขาลงเตียงจู่โจมเข้ากับคุกพลางส่งเสียงคำรามกระหึ่ม ตบะบารมีของเสือสมิงกินคนบีบคั้นกดดันจนสติสามเณรไม่อาจควบคุมได้ ความรักตัวกลัวตายที่สูญหายไปหวนกลับมาในพริบตานั้น เสือใหญ่แผดเสียงสนั่นแล้วกระโจนเข้าตะปบ  ด้วยความตกใจ เณรผงะถอยหลังบังเอิญมีรักไม้ขวางอยู่ข้างหลังจึงสะดุดรักไม้ล้มหงายหลังร่างเสือลอยละลิ่วผ่านไปอย่างฉิวเฉียดพอถึงพื้นก็กระโจมแถวเข้าป่าหายไป

ส่วนสามเณรครูบาธรรมชัยยังนอนหงายตัวสั่นเทาด้วยความตกใจกลัวสุดขีดคิดว่าตัวเองคงเป็นเหยื่อให้เสือกินแน่แต่เสือไม่ได้หวนมาขย้ำกลับหายเงียบไป แน่นอนท่าเดิมอยู่พักใหญ่จึงได้สติลุกขึ้นมานั่งพิจารณาจิตของตัวเองด้วยความละอายใจเพราะแท้จริงแล้วจิตของตนก็ยังถูกความหวาดกลัวครอบงำไม่เลิกการที่จิตอ่อนไว้ให้อารมณ์มีอำนาจเหนือกว่าเพราะขาดสติมั่นคงเมื่อขาดสติปัญญาก็พลอยมืดบอดอย่างน่าสังเวช เมื่อพิจารณาได้เช่นนี้สามเณรก็ตัดสินใจจะตามไปหาเสือตัวนั้นอีกครั้งเมื่อจิตมันยังหวั่นไหวกับกิเลสความกลัวก็จะยอมให้[urlhttps://www.anyapedia.com/2017/03/blog-post_15.html]เสือฉีกกินเนื้อ[/url]ให้รู้แล้วรู้รอดไปเสีย การที่เณรตัดสินใจมอบกายถวายชีวิตแก่เสือเพราะคิดว่าแค่อารมณ์ความกลัวเพียงเท่านี้ยังตัดไม่ขาดแล้วจะตัดกิเลสอันใหญ่หลวงที่ครอบงำชีวิตได้อย่างไรดังนั้นแทนที่จะส่งน้ำชำระร่างกายสามเณรกับเดินตามรอยเสือซึ่งกระทำไว้บนพื้นดินไปเรื่อยๆหวังเอาไว้ว่าจะเผชิญกับเสืออีกครั้งเพื่อดูว่าจิตมันจะขาดกลัวเหมือนเดิมหรือไม่หากยังไม่สามารถควบคุมสติได้ก็จะให้เสือมันขบกัดจนตายไปเสียเถอะ

คิดเช่นนี้สามเณรก็เดินดุ่มเป็นฝ่ายตามหาเสือเสียเองไม่รอให้เสือมาตามล่าเอาชีวิตเช่นที่ผ่านมาร่องรอยของเสือพอจะเห็นได้ชัดเจนเป็นระยะร้อยนั้นมุ่งตรงไปยังต้นไม้ใหญ่ที่เณรยึดเป็นที่พักภาวนาปฏิบัติธรรมคล้ายกับว่าเสือจะย้อนไปดักรอคอยเพื่อหาโอกาสสังหารเณร เวลานั้นสามเณรครูบาธรรมชัยจิตใจมั่นคงองอาจไม่กลัวตายแม้จะเห็นรอยเท้าเสือบ่ายหน้าไปยังที่พักของตนแต่ความหวั่นไหวสะดุ้งกลัวก็ไม่เคยขึ้นคงเดินแน่วแน่ๆไปยังต้นไม้ใหญ่ซึ่งมีบริการวางอยู่

เมื่อเข้าไปใกล้มองไปข้างหน้าแทนที่จะเห็นเสือใหญ่กลับเห็นเป็นพระธุดงค์รูปหนึ่งนั่งสงบตรงโคนต้นไม้ใหญ่คลังเดินเข้าไปใกล้ก็สังเกตเห็นว่าพระธุดงค์รูปนั้นมีผิวกายคล้ำเกรียมแต่มีสง่าราศีเปล่งปลั่งน่าเลื่อมใสเณรเดินเข้าไปใกล้พอสมควรแล้วทรุดกายลงนอนนมัสการ

"กำลังเดินตามหาเสือ จะให้เสือมันกินหรือเณร"

คำพูดที่พระธุดงค์ทักทายทำเอาเณรนั้นสะดุ้งเพราะประหนึ่งท่านรู้วาระจิตโดยตลอด เณรไม่ตอบคำพูดถึงคำถามนั้นหากย้อนถามท่านไปว่า

"พระคุณเจ้าเคยพบเห็นเสือตัวหนึ่งบ้างไหมขอรับ"

เห็นหรือไม่เห็นก็ไม่ได้มีความหมายสำคัญอะไร พระธุดงค์ตอบ
ใจของเรานั้นสำคัญกว่าสิ่งอื่นภายนอก หากใจ สะอาดบริสุทธิ์มีศีลมีสมาธิมีปัญญาเต็มภูมิแล้ว เสือสมิงหรือสัตว์ใดๆก็จะไม่เข้ามาข้องแวะและประสงค์ร้าย

เณรกราบเรียนถามท่านว่ามีชื่อเสียงเรียงนามว่ากระไรและจำพรรษาอยู่วัดไหน ทว่าพระธุดงค์รูปนั้นก็ไม่ตอบคำถามท่านบอกเพียงแต่ว่าเป็นพระธุดงค์ซึ่งจาริกไปเรื่อยๆเพื่อปฏิบัติธรรม จากนั้น ท่านก็ได้กล่าวแนะนำเข้าทำให้แก่สามเณรครูบาธรรมชัยอีกหลายข้อ รวมทั้งแนวทางการภาวนาและการเดินจงกรมที่ถูกวิธีเพิ่มเติม ข้อสำคัญที่สุดที่พระธุดงค์ลึกลับเมตตาแนะนำก็คือการปฏิบัติธรรมกระทำความเพียรนั้นควรมีครูบาอาจารย์แนะนำสั่งสอนเมื่อใดที่ขัดข้องในข้อธรรมใดใดครูอาจารย์จะได้ช่วยแนะนำให้เข้าใจจนชัดเจนท่านยังชี้แนะอีกว่า

"เณรควรไปนอบน้อมกราบไหว้ฝากตัวเป็นศิษย์ท่านครูบาศรีวิชัย มหาเถรผู้ยิ่งใหญ่แห่งล้านนาเถิด"

เณรก็ก้มกราบรับเอาคำแนะนำทั้งหลายไว้ด้วยความเคารพ เมื่อสนทนาเพียงแค่นี้ พระธุดงค์ลึกลับก็จะไปอย่างเงียบๆโดยไม่รู้ว่าท่านจะไปที่ใดอีก พระธุดงค์รูปนี้จะเป็นผู้สำเร็จวิชาเสือสมิง หรือเสือเย็นใช่หรือไม่ เป็นเรื่องที่ ยากที่จะระบุลงไป แต่ถ้าท่านสำเร็จวิชาดังกล่าวถึงขั้นจำแลงแปลงกายได้จริงๆคงเป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะเปลี่ยนรูปไปเป็นเจ้าป่าแล้วออกอาละวาดฆ่าวัวฆ่าควายของชาวบ้านทั้งยังสังหารกินคนให้เป็นบาปกันอันหนักหนาสาหัสเข้าไปอีก

อาจเป็นไปได้ว่ามีเสือจริงบุกรุกเข้ามาคบกับวัวควายของชาวบ้านและสังหารผลาญชีวิตผู้คนบังเอิญมีผู้พบเห็นพระธุดงค์ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเลยเหมาเอาว่าเป็นพระธุดงค์ที่มีวิชาเสือสมิงจำแลงแปลงกายแล้วกลายเป็นเรื่องเล่าบอกต่อขยายความจนแพร่หลายไปทั่ว

นี่คือเกร็ดเล็กๆในอรรถประวัติของท่านครูบาธรรมชัยเจ้าอาวาสวัดทุ่งหลวงอำเภอแม่แตงจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งท่านเคยเกี่ยวข้องกับพระธุดงค์ลึกลับรูปหนึ่งที่น่าสงสัยว่าจะสำเร็จวิชาเสือสมิงหรือเสือเย็น

ได้เขียนเล่ากล่าวอ้างเรื่องเสือสมิงมาหลายเรื่องแล้วเพื่อเสนอข้อมูลหลักฐานยืนยันว่าวิชาเสือสมิงน่าจะมีจริงๆและมีผู้เรียนวิชานี้สำเร็จมาแล้วกระนั้นก็ยังมีเรื่องวิชาจำแลงแปลงร่างกายจากมนุษย์ไปเป็นสัตว์ได้ปรากฏอย่างน่าอัศจรรย์ซึ่งเป็นภาวะเหลือเชื่อเหนือโลกจนปุถุชนคนธรรมดายากจะให้เชื่อถือได้อย่างสนิทใจ

แหล่งรวมบทความจัดอันดับ สารคดีประวัติศาสตร์ บทความสารคดีจักรวาลและดาวเคราะห์ บทความสารคดีสงคราม บทความสารคดีภัยธรรมชาติ บทความสารคดีชีวิตสัตว์ บทความสารคดีอาวุธทางการทหาร บทความสารคดีการจัดอันดับ บทความสารคดีวิทยาศาสตร์ บทความสัมภาษณ์คนดัง บทสนทนาปัญหาเศรษฐกิจ บทสนทนาประเด็นข่าวร้อน เรื่องราวน่ารู้ ความรู้ทั่วไป สังคม เศรษฐกิจ การเมือง ไลฟ์สไตล์ สุขภาพ ผู้หญิง ความงาม แม่และเด็ก สัตว์เลี้ยง อาหาร ร้านอาหาร เกมส์ เทคโนโลยี มาดูกันได้ที่  จัดอันดับ

ศพล่อเสือสมิง
การทรมานสุดโหดในประวัติศาสตร์
มนุษย์กินคนในตำนาน
อาหารแปลกจากทั่วโลก
สุดยอดเรื่องเล่าสยองขวัญเดอะช็อค
จัดอันดับ
เรื่องเล่าสยองขวัญ
ประวัติศาสตร์
เมนูอาหาร
สุขภาพ


อินดี้

อภินิหาร ณ พระแท่นดงรัง
เมื่อเอ่ยชื่อพระแท่นดงรัง คิดว่าคนไทยโดยเฉพาะพุทธศาสนิกชนคงจะเคยได้ยินชื่อและเคยไปนมัสการหรือไปเที่ยวชมสถานที่แห่งนี้มาแล้วเพราะถือว่าเป็นปูชนียสถานอันทรงคุณค่าของจังหวัดกาญจนบุรี สิ่งที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมเป็นอย่างยิ่งคือ พระแท่นดงรัง ซึ่งสันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าบรมโกศโดยพระแท่นดงรังนั้นเชื่อกันว่าเป็นพระแท่นศักดิ์สิทธิ์ที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานถือเป็นปูชนียสถานจำลองเครื่องหมายแห่งเหตุการปรินิพพานของพระพุทธเจ้าณสาลวโนทยานประเทศอินเดีย โดยลักษณะของพระแท่นบรรทมนั้นเป็นหินแท่งทึบ มีรูปลักษณ์คล้ายแท่นหรือเตียงนอน เริ่มที่มีต้นรังอยู่ริมพระแท่นข้างละต้นโน้มยอดเข้าหากันดูแปลกตา

พระแท่นดงรังตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเขาถวายพระเพลิงตำบลพระแท่นอำเภอท่ามะกาจังหวัดกาญจนบุรีห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 38 กิโลเมตรหรือถ้านับจากกรุงเทพก็เพียง 100 กิโลเมตรเศษเศษไม่ถึง 110 กิโลเมตรถือว่าอยู่ใกล้ไปมาสะดวกทีเดียวนับเป็นปูชนียสถานที่มีประชาชนนิยมนับถือกันมากแห่งหนึ่งไม่แพ้พระพุทธบาทที่จังหวัดสระบุรี เพราะผู้คนพากันชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้เสด็จมาปรินิพพานณสถานที่แห่งนี้ ทั้งนี้เพราะลักษณะภูมิประเทศที่รายล้อมพระแท่นมีลักษณะละม้ายคล้ายคลึงกับสถานที่ที่พระพุทธเจ้าเสด็จเข้าสู่พระนิพพานในประเทศอินเดียเป็นอย่างมาก กล่าวคือมีแท่นบรรทมและต้นรังคู่หน้าวิหารพระแท่นแต่ปัจจุบันนี้ต้นรังที่ว่านั้นไม่มีแล้ว

นอกจากจะมีพระแท่นดงรังประดิษฐานอยู่ในวิหารพระแท่นซึ่งตั้งอยู่เชิงเขาสูงกว่าพื้นดินประมาณ 1 เมตร ด้านในกำแพงแก้วทางมุมตะวันออกเฉียงเหนือของวิหารพระแท่นก็มีวิหารเล็กๆที่เรียกกันว่าวิหารพระอานนท์และในบริเวณใกล้เคียงกันนี้แต่เป็นด้านนอกกำแพงแก้วเป็นที่ตั้งของวิหารพระทรมานกายซึ่งเป็นที่เก็บพระพุทธรูปปางทุกขกิริยา

ด้านหลังของทรัพทย์มีหินลักษณะคล้ายบ่อน้ำกว้างประมาณ 20 cm ลึกประมาณ 75 เซนติเมตรเป็นสถานที่ที่คนทั่วไปเรียกว่าบ้วนพระโอษฐ์ ส่วนที่สูงที่สุดของภูเขาประมาณ 55 เมตรจากระดับน้ำทะเลมีบันไดก่ออิฐถือปูนเป็นขั้นขั้นลาดตั้งแต่เชิงเขาถึงยอดเขานับได้ 94 ขั้นยอดเขามีมณฑป 12 เหลี่ยม กว้างยาวประมาณ 3 วา ยอดมณฑปแหลมคล้ายพระเมรุมีประตู 2 ประตู

ภายในวิหารทางทิศตะวันออกของประเทศมีหินก้อนหนึ่งซึ่งกล่าวกันว่าเป็นที่บดยาถวายพระพุทธเจ้าชาวบ้านที่มานมัสการพระแท่นดงรังจะใช้ก้อนหินนี้เป็นที่บดยารับประทานกันเป็นจำนวนมากบางคนก็นำสมุนไพรมาบดแล้วนำกลับไปฝากญาติพี่น้องก็มี

ภายในป่าต้นรังซึ่งอยู่ห่างจากพระแท่นไปทางทิศใต้ประมาณ 200 เมตรมีบ่อลึกอยู่ 1 บ่ปากบ่อก่อด้วยอิฐโบราณเป็นคันสำหรับกั้นดินพังทับปากบ่อมีเรื่องเล่าต่อมาว่า  บ่อแห่งนี้เป็นปล่องพญานาค สำหรับพญานาคที่จะขึ้นมานมัสการเชิงตะกอนที่ถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้าบนเขาถวายพระเพลิงแต่ครั้งโบราณ ถ้าท่านได้มีโอกาสไปนมัสการพระแท่นดงรังระหว่างช่วงเทศกาลซึ่งจะจัดประมาณกลางเดือน 4 ของทุกปีคงจะนึกประหลาดใจอยู่มิใช่น้อยที่เห็นผู้คนจากทุกภาคของประเทศหลั่งไหลเข้ามากันบูชาพระแท่นจนดูประหนึ่งว่าคนเหล่านี้จะพากันมาชมงานมหกรรมครั้งมโหฬาร

เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น
หากใช้ความสังเกตให้ดีแล้วจะพบว่าโดยส่วนรวมของคนไทยเป็นจำนวนมากยังมีความเลื่อมใสศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์และของขลัง พระแท่นดงรังก็คงจะไม่พ้นกรณีนี้ไปได้ สาเหตุแห่งความเลื่อมใสศรัทธาของประชาชนน่าจะเกิดขึ้นเพราะเสียงเล่าลือความศักดิ์สิทธิ์ต่างๆดังที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงบันทึกเรื่องอภินิหารของพระแท่นไว้ว่า ชาวอินเดียคนหนึ่งที่มาเที่ยวได้ขึ้นไปนอนเล่นบนพระแท่นและได้ถึงแก่ความตายเพราะเลือดออกทางปากและจมูก

น้ำจากที่บ้วนพระโอษฐ์เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์สามารถรักษาโรคตาแดงได้

หินบดยาที่อยู่ในศาลานอกกำแพงถ้านำไปบดใบไม้ไม่ว่าจะเป็นใบไม้ชนิดใดก็ตาม ใบไม้ที่บดจะกลายเป็นยาทั้งนั้น

น้ำมันที่ตามตะเกียงในพระวิหารพระแท่นก็เป็นน้ำมันมนต์ไม่ว่าจะทาแผลที่ใดก็เป็นหายหมด

เวลาขึ้นเขาถวายพระเพลิงถ้านับขั้นบันไดได้เท่าใดผู้นั้นก็จะมีอายุเท่ากับขั้นบันไดที่นับได้

หลังมณฑปหลังเขาถวายพระเพลิงจะเป็นบริเวณเมืองลับแลถ้าเดินออกไปแล้วจะหาทางกลับมายังที่เดิมไม่ได้

ปัจจุบันความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์และของขลังของคนลดน้อยลงแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีผลพลอยให้ความศรัทธาของคนลดลงตามไปด้วยจำนวนผู้คนที่พากันไปนมัสการพระแท่นดงรังมีแต่จะเพิ่มมากขึ้นทุกปี ส่วนสาเหตุสำคัญที่ทำให้ปูชนียสถานแห่งนี้ทรงความศักดิ์สิทธิ์อยู่ได้ตลอดมาคงจะเป็นเพราะพระแท่นดงรังนี้สมมุติเป็นเสมือนสถานที่นิพพานของพระพุทธเจ้าที่สามารถน้อมจิตใจพุทธศาสนิกชนให้รำลึกถึงพระพุทธประวัติตอนปัจฉิมมกาญได้เป็นอย่างดี และในประเทศไทยก็มีสถานที่เช่นนี้เพียงแห่งเดียวเท่านั้นก็คือพระแท่นดงรัง

แหล่งรวมบทความจัดอันดับ สารคดีประวัติศาสตร์ บทความสารคดีจักรวาลและดาวเคราะห์ บทความสารคดีสงคราม บทความสารคดีภัยธรรมชาติ บทความสารคดีชีวิตสัตว์ บทความสารคดีอาวุธทางการทหาร บทความสารคดีการจัดอันดับ บทความสารคดีวิทยาศาสตร์ บทความสัมภาษณ์คนดัง บทสนทนาปัญหาเศรษฐกิจ บทสนทนาประเด็นข่าวร้อน เรื่องราวน่ารู้ ความรู้ทั่วไป สังคม เศรษฐกิจ การเมือง ไลฟ์สไตล์ สุขภาพ ผู้หญิง ความงาม แม่และเด็ก สัตว์เลี้ยง อาหาร ร้านอาหาร เกมส์ เทคโนโลยี มาดูกันได้ที่  จัดอันดับ

ศพล่อเสือสมิง
การทรมานสุดโหดในประวัติศาสตร์
มนุษย์กินคนในตำนาน
อาหารแปลกจากทั่วโลก
สุดยอดเรื่องเล่าสยองขวัญเดอะช็อค
จัดอันดับ
เรื่องเล่าสยองขวัญ
ประวัติศาสตร์
เมนูอาหาร
สุขภาพ


อินดี้

อาชีพเสี่ยงตายที่สุดในโลก
ทะเลเบริงอยู่ทางทิศตะวันออกของรัสเซียและอลาสก้าแต่พื้นที่ของทะเลดังกล่าวอยู่ไกลแสนไกลจากพื้นดินที่เป็นฝั่งอย่างมากทั้งภูมิอากาศแถบนั้นยังหนาวเย็นอย่างร้ายกาจและที่สุดโหดยิ่งกว่าอื่นใดก็คือกระแสลมรุนแรงและเกลียวคลื่นอันบ้าคลั่งที่ปั่นป่วนตลอดเวลาตามปกติแล้วความสูงของคลื่นโดยเฉลี่ยจะอยู่ประมาณราว 10 ถึง 20 ฟุตซึ่งก็ถือว่าเป็นคลื่นทะเลที่อันตรายอย่างมากแต่ถ้าเป็นห่วงเวลาระหว่างเดือนตุลาคมถึงมกราคม ความรุนแรงของคลื่นจะเข้าสู่ภาวะวิกฤตคือมีคลื่นสูงถึง 50 ฟุตขึ้นไปและบางครั้งถึงขั้นนรกแตกคือคลื่นสูงถึง 80 ฟุตสามารถกลบฝัวเรือประมงเดินทะเลให้จมหายไปได้ง่ายๆ

แม้ว่าภาวะอากาศจะเลวร้ายสุดๆด้วยความหนาวเย็นและคลื่นทะเลที่บ้าคลั่งอย่างน่าสยดสยอง แต่เรือล่าปูอลาสก้าก็ไม่พรั่นพรึงที่จะฝ่าเข้าไปในพื้นที่ทำประมงที่อันตรายที่สุดในโลก เนื่องจากในห้วงเวลานั้นเป็นช่วงที่ปูอลาสก้า 2 ประเภทคือ ปู King Crab และ Opilio Crab จะมาชุมนุมอยู่ในพื้นที่แห่งนี้เพื่อผสมพันธุ์ซึ่งเป็นวาระเดียวของปีที่มีโปรมาชุมนุมกันใต้ท้องทะเลมากที่สุดรวมทั้งทางการจะอนุญาตให้ล่าปูทั้งสองประเภทนี้ได้ในเวลาจำกัดดังกล่าวเพียงครั้งเดียวใน 1 ปีเท่านั้น กัปตันเรือทะเลล่าปูอลาสก้าต้องใช้เวลาเตรียมความพร้อมของเรือและซ่อมบำรุงอุปกรณ์ทุกอย่างบนเรือถึง 2 เดือนเต็ม ก่อนจะนำเรือออกล่าปูขนาดใหญ่ราคาแพงอย่างเสี่ยงชีวิต

ลูกเรือที่จะไปกับเรือต้องมีคุณสมบัติพิเศษจริงจึงจะผ่านการคัดเลือกจากกัปตัน ขั้นแรกสุดต้องมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์มีความทรหดอดทนสูงต่องานหนักซึ่งจะเผชิญในช่วงของการล่าปูเพราะลูกเรือทุกคนต้องทำงานทั้งกลางวันและกลางคืนไม่ต่ำกว่า 20 ชั่วโมงการพักผ่อนนอนหลับแทบจะเป็นไปไม่ได้ เรื่องจะเลือนั้นสั่นสะท้านโครงเครงอย่างหนักจากกระแสขึ้นลมบ้าคลั่งตลอดเวลาเมื่อการล่าปูอลาสก้าเริ่มขึ้นกรงดักปูซึ่งใส่เหยื่อล่อเอาไว้จะถูกเหวี่ยงลงไปในทะเลหลายสิบกรงโดยมีทุ่นลอยผูกไว้ให้เห็น เมื่อเดือวกกลับลูกเรือจะเกี่ยวเอากรงขึ้นมาบนเรือแล้วแยกย้ายกันเอาปูที่อยู่ในกรงออกมาคัดเลือกปูที่มีขนาดมาตรฐานใส่ในที่เก็บใต้ท้องเรือส่วนผู้ที่ไม่ได้ขนาดจะถูกโยนกลับทะเลไปแต่การล่าปูอลาสก้าก็เหมือนกับการวัดดวงเหมือนกันเพราะแม้แต่กัปตันซึ่งมีประสบการณ์สูงก็ยังไม่สามารถกำหนดได้ว่าพื้นที่ไหนที่มีปูอยู่มากหรือน้อยหรือไม่มีเอาสักตัวการลากกรงดักขึ้นจากทะเลอาจมีโปรจำนวนมากในกรงหรืออาจไม่มีปูเลยก็ได้

ลูกเรือทุกคนในเรือล่าปูอลาสก้าจะมีรายได้จากจำนวนปูทั้งหมดที่จับได้เพราะฉะนั้นทุกคนจะต้องทำงานหนักตามหน้าที่ที่รับผิดชอบและสิ่งอันตรายตลอดเวลาระหว่างทำงานเนื่องจากจำเป็นจะต้องทุ่มเทสมาธิและความมุ่งมั่นต่อภารกิจของตนสูงสุดหากประมาทเลินเล่อก็อาจเกิดอันตรายต่อตัวเองได้ง่ายเช่น กรงดักปูที่หนักไม่ต่ำกว่า 800 ปอนด์อาจจะวิ่งมากระแทกถึงขั้นบาดเจ็บสาหัสบางครั้งก็อาจเสียชีวิตหรืออาจถูกคลื่นกว่าตกทะเลซึ่งโอกาสรอดชีวิตแทบไม่มีเพราะน้ำทะเลนั้นเย็นมากและคลื่นที่บ้าคลั่งจะสามารถติดชีวิตได้ทันที เหตุนี้การล่าปูของบรรดาเรือประมงล่าปูอลาสก้าทุกฤดูกาลจะมีลูกเรือเสียชีวิตหรือสูญหายไม่น้อยกว่า 1 รายเสมอหรือมีเรือลากปูถูกคลื่นกว่าจนล่มจมหายไปทั้งลำทุกชีวิตบนเรือหมดโอกาสรอดชีวิตกลับมาซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว

แต่ถ้าอยู่รอดปลอดภัยกับมาโดยทำงานหนักตลอด 7 ถึง 30 วันและได้ปูที่อัดแน่นเต็มที่เก็บใต้ท้องเรือก็จะหมายความว่าทุกคนจะมีรายได้สามารถเลี้ยงชีพไปตลอดปีโดยจะมีรายได้เฉลี่ยอยู่ประมาณคนละ 1.7 ถึง 3.5 ล้านบาทในหนึ่งฤดูกาลทีเดียว เหตุนี้งานหนักและสิ่งชีวิตสูงในเรือล่าปูอลาสก้าจึงมีผลตอบแทนอย่างคุ้มค่าและท้าทายความกล้าความทรหดสำหรับนักผจญภัยทุกคน

แหล่งรวมบทความจัดอันดับ สารคดีประวัติศาสตร์ บทความสารคดีจักรวาลและดาวเคราะห์ บทความสารคดีสงคราม บทความสารคดีภัยธรรมชาติ บทความสารคดีชีวิตสัตว์ บทความสารคดีอาวุธทางการทหาร บทความสารคดีการจัดอันดับ บทความสารคดีวิทยาศาสตร์ บทความสัมภาษณ์คนดัง บทสนทนาปัญหาเศรษฐกิจ บทสนทนาประเด็นข่าวร้อน เรื่องราวน่ารู้ ความรู้ทั่วไป สังคม เศรษฐกิจ การเมือง ไลฟ์สไตล์ สุขภาพ ผู้หญิง ความงาม แม่และเด็ก สัตว์เลี้ยง อาหาร ร้านอาหาร เกมส์ เทคโนโลยี มาดูกันได้ที่  จัดอันดับ

ศพล่อเสือสมิง
การทรมานสุดโหดในประวัติศาสตร์
มนุษย์กินคนในตำนาน
อาหารแปลกจากทั่วโลก
สุดยอดเรื่องเล่าสยองขวัญเดอะช็อค
จัดอันดับ
เรื่องเล่าสยองขวัญ
ประวัติศาสตร์
เมนูอาหาร
สุขภาพ


อินดี้

ฮวงจุ้ยกับดวงคู่
ฮวงจุ้ยเป็นหลักวิชาภูมิพยากรณ์ของชาวจีนที่ทั่วโลกล้วนสนใจศึกษากันอย่างแพร่หลายและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในระยะเวลาหลายปีมานี้
ฮวง แปลว่าลม และจุ้ย หมายถึงน้ำ
ศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยจึงยึดถือพลังของจักรวาลและธรรมชาติที่สมดุลกลมกลืนกันเป็นสำคัญ
ทฤษฎีหยินหยางและธาตุทั้ง 5 ก็คือหัวใจสำคัญของศาสตร์ฮวงจุ้ย
หยินหยางเป็นพลังที่เสริมในกันและกันหญิงกับชายก็เช่นเดียวกันล้วนมีพลังเสริมต่อกันและกันทั้งสิ้น
เมื่อหญิงและชายมาใช้ชีวิตครองคู่อยู่ในบ้านหลังเดียวกันพลังของทั้งคู่ จึงมีผลต่อความสุขความเจริญในครอบครัวถ้าพลังส่งเสริมกันดี ดวงชะตาของคู่สามีภรรยาก็มีผลเกี่ยวสัมพันธ์กับหลักความสมดุลสอดคล้องกับฮวงจุ้ย

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าสามีเป็นคนที่มีดวงชะตาตามอิทธิพลของคนธาตุไฟ และภรรยาเป็นคนธาตุน้ำ น้ำกับไฟเมื่ออยู่ด้วยกันก็คงจะมีเรื่องราวต้องขัดแย้งกันตลอดเวลา จนปราศจากความสุข ดังนั้นการตกแต่งบ้านให้มีจุดที่สามารถส่งเสริมดวงของคนธาตุน้ำและธาตุไฟให้สมดุลสอดคล้องกันได้ก็ย่อมจะทำให้ความสัมพันธ์ของคู่สามีภรรยาราบรื่นและเปี่ยมสุข
ถ้าคู่สามีภรรยามีดวงชะตาที่ไม่ค่อยจะสมพงศ์กันนัก แต่คุณจัดและแต่งบ้านให้เกิดความสมดุลทางพลังจักรวาลตามหลักฮวงจุ้ย พลังที่ดีที่เกิดขึ้นในบ้านก็จะไปเสริมดวงคู่ของคุณให้มีความแข็งแรงมีความรักความอบอุ่นได้อย่างน่าชื่นใจ และถ้าดวงของคุณสมพงษ์กันดีอยู่แล้ว แต่จัดบ้านผิดหลักฮวงจุ้ย เช่นตำแหน่งและทิศทางของห้องนอนตั้งอยู่ในทิศทางที่ดึงเอาพลังงานไม่ดีเข้าบ้าน ความแตกแยกแตกร้าวก็จะค่อยค่อยเกิดขึ้นมาทำลายความรักและความสุขในบ้านให้หมดไปได้โดยที่คุณไม่รู้ตัวเลยว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อคุณก็รักกันดีๆอยู่แล้ว

การมีชีวิตคู่ที่เปลี่ยนสุขในบ้านหลังงามของคุณนั้น ขอให้ถือหลักสมดุลกลมกลืนและสบายใจเป็นสำคัญ คุณไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อยันต์ ฮวงจุ้ยเป็นศาสตร์อันละเอียดอ่อนลึกซึ้ง แต่ก็ไม่ยากที่จะศึกษาและนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพราะวงจุ้ยเป็นเรื่องของพลังจักรวาลที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับโชคชะตาของมนุษย์เราด้วยเช่นกัน

ในคัมภีร์ฮวงจุ้ยที่สมบูรณ์จะมีการคำนวณละเอียดถึงวันเดือนปี เกิดของคนว่ามีดวงสัมพันธ์กับบ้านอย่างไรมีเรื่องของทิศดี ร้าย สำหรับแต่ละดวงชะตา แต่นั่นก็เป็นรายละเอียดที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลาในการศึกษาลงไปอีกมาก

และนี่จะเป็นแนวทางที่เสนอภาพอันชัดเจนที่คุณสามารถจะเข้าใจได้ง่ายๆและนำไปปฏิบัติได้ทันทีเพื่อผลอันเป็นศิริมงคลเสริมส่งเกื้อหนุนดวงชะตาของคุณและคู่ครองให้ก่อเกิดความอบอุ่นแน่นแฟ้นอย่างแสนสุข โดยที่คุณจะพิสูจน์พลังอันอัศจรรย์ของศาสตร์ฮวงจุ้ยได้ด้วยตัวคุณเองในเวลาอันรวดเร็วทันใจแน่นอน

1. ตรวจรูปทรงห้องนอนถ้าทะเลาะกันบ่อยๆ
ลองดูห้องนอนของคุณวาดนี้รูปทรงลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้าโดยสมบูรณ์แบบหรือไม่
ถ้าห้องนอนของคุณนั้นเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้าโดยปกติก็ถือว่าดีแต่ถ้าแบบรูปทรงของห้องนอนเป็นตัวแอล ถือว่าเป็นลักษณะห้องที่ไม่ดีจะทำให้ชีวิตรักของคุณตกต่ำย่ำแย่จนถึงพังทลายไปได้ แม้ไม่เลิกกันก็จะทะเลาะเบาะแว้งกันและหมดความรักใคร่ใยดีในกันและกัน ลักษณะบ้านรูปตัวแอลที่มีด้านยาวค่อนข้างมากยิ่งจะมีผลร้ายมากแต่ถ้าห้องนอนของคุณนั้นมีส่วนแบ่งวิ่งไปบ้างบางส่วนเพียงเล็กน้อยไม่ถึงกับมีลักษณะเป็นตัวแอลโดยสิ้นเชิงก็สามารถแก้ไขได้โดยง่ายไม่มีผลร้ายแรงถึงขั้นทำให้แตกแยกล้มเหลว

2. ห้องนอนรูปทรงประหลาด
ลักษณะของห้องนอนของคุณก็เช่นกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของบ้านหลังนั้นหรือไม่ หรือมีญาติผู้ใหญ่อื่นใดเป็นเจ้าของบ้าน แต่สำหรับแปลนห้องนอนของคุณแล้วนั้น ควรจะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่จะต้องมีด้านที่ปกติไม่ผิดรูปผิดร่าง เป็นสี่เหลี่ยมคางหมูหรือเป็นรูปห้าเหลี่ยมหกเหลี่ยมที่ผิดธรรมดาจนเกินไปนัก

แม้ว่าห้องนอนจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือสี่เหลี่ยมจัตุรัส แต่ถ้ามีมุมหนึ่งมุมใดขาดเว้าแหว่งหายไป เพราะเป็นส่วนที่เป็นระเบียงยื่นออกไปหรืออย่างไรก็ตาม สามารถแก้ไขได้เช่นเดียวกับหลักการแก้ไขส่วนที่ขาดหายไปของตัวบ้านในข้ออื่นๆ ที่ได้กล่าวไว้แล้ว แต่ถ้ารูปลักษณ์ของห้องนอนเป็นรูปหลายเหลี่ยมหลายมุมมีรอยเว้ารอยโค้งมุมแหลมมุมขาดหายที่ผิดรูปผิดร่างมากจนเกินไปนั้น ควรจะปรับปรุงแก้ไขหรือย้ายออกจากห้องนั้นเสีย เพราะจะมีผลกระทบทำให้สัมพันธภาพระหว่างคุณกับคู่สมรสเป็นไปอย่างไม่ปกติสุขนักมีเรื่องมีราวแบบแปลกๆมากระทบกระทั่งกันความสัมพันธ์ไม่ราบรื่นเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ขาดความสงบสุขอย่างแน่นอน

3. เกิดความขัดแย้งในห้องนอนรกๆ
ห้องนอนที่ค่อนข้างรกไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย เต็มไปด้วยข้าวของวางไว้ละเกะระกะ เสื้อผ้าแขวนไว้บ้างพาดไว้บ้างตามที่ต่างๆ ดูไม่สะอาดตานั้น ส่งผลให้คู่สามีภรรยาที่จะต้องพักผ่อนนอนหลับในห้องนั้นจะไม่มีความผูกพันและชื่นชมในกันและกัน ในไม่ช้าก็จะเกิดความขัดแย้งจนทำให้ต้องกระทบกระทั่งทะเลาะกันบ่อยๆ หรืออาจร้ายแรงถึงขั้นเลิกลากันไปในที่สุด

ดังนั้นการแก้ฮวงจุ้ยในห้องนอนสำหรับกรณีนี้ทำได้โดยง่ายที่สุด ซึ่งไม่เพียงแต่จะมีผลต่อการทำให้ฮวงจุ้ยให้ดีเท่านั้น แต่ก็จะมีผลต่อสุขภาพจิตของคุณเองก็คือการจัดห้องให้สะอาดสะอ้านเป็นระเบียบเรียบร้อยคุณก็จะสบายตาไปด้วยเป็นประโยชน์อันดับแรก

4. ห้องนอนอับทึบอารมณ์เสียใส่กัน
ห้องนอนที่ค่อนข้างอับทึบไม่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก อาจจะไม่มีหน้าต่างหรือมีหน้าต่าง แต่ถ้าคุณปิดอยู่ตลอดเวลาและปิดม่านนาทึไม่เปิดออกให้เห็นท้องฟ้ากระจ่าง หรือให้ลมถ่ายเทเข้าออกได้บ้างนั้น จะมีผลทำให้เกิดความอึดอัดภายในความสัมพันธ์ของคู่สามีภรรยา

สุขภาพกายและสุขภาพใจของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองคน อาจจะไม่ค่อยสดชื่นแข็งแรงนะมีผลไปถึงสภาวะของอารมณ์ ทำให้เกิดหงุดหงิดง่ายอารมณ์เสียบ่อยไม่มีอารมณ์โรแมนติกหวานชื่น หรือไม่มีอารมณ์สดชื่นเข้าหากันเลย และแน่นอนนั่นคือ เหตุให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันเล็กๆน้อยๆไปจนถึงทะเลาะวิวาทกันรุนแรงในที่สุด

5. ห้องนอนของคู่ที่เหินห่างจืดจาง
ในห้องนอนห้องหนึ่งนั้นไม่ควรจะมีบานหน้าต่างมากเกินไป แม้ว่าห้องนอนคุณจะค่อนข้างใหญ่มากก็ไม่ควรจะมีเกิน 4 บานเท่านั้น การที่มีหน้าต่างห้องนอนมากจนเกินไปเป็นลักษณะห้องนอนที่ไม่ดีนัก กระแสชี่จะไหลผ่านเข้าออกมากเกินไป

และนั่นมีผลต่อความแน่นแฟ้นระหว่างคุณกับคู่ชีวิต เพราะจะทำให้เกิดการไม่ใส่ใจในกันและกัน แม้ว่าจะไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันแต่ก็ทำให้ค่อยๆเหินห่างจืดจางร้างลากันไป และมีผลต่อเงินทองที่รั่วไหลและได้อีกด้วย

6.  ประตูห้องนอนกับความสุข
ประตูของห้องนอนนั้นไม่ควรจะตรงกันพอดีพอดีกับบ้านหน้าต่างอีกด้านหนึ่ง แต่ถ้าประตูห้องนอนของคุณตรงกันพอดีกับประตูระเบียงห้องนอน ก็ถือว่าไม่ใช่ลักษณะของห้องนอนที่ดีเช่นกัน

ลักษณะที่ประตูห้องนอนตรงกับหน้าต่างหรือตรงกับประตูอีกด้านหนึ่งซึ่งจะเปิดออกสู่ระเบียงนั้นจะทำให้คุณกับคู่ชีวิตทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่มีความเห็นไม่ตรงกัน อาจจะโต้เถียงกันเป็นประจำจนกระทั่งรู้สึกไม่มีความสุขเลยทั้งทั้งที่ไม่ได้มีเรื่องใหญ่โตมากมายมาเป็นตัวต้นเหตุให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งก็ตามที วิธีแก้ไขนั้น อาจจะหาฉากหรือผ้าม่านมาปิดบังตาไว้ไม่ให้ประตู 2 บาน เผชิญหน้ากันได้โดยตรงหรืออาจจะใช้ชั้นวางของหรือตู้เสื้อผ้า เลื่อนมาตั้งขวางบริเวณนั้นไว้ โดยจะแก้ไขอย่างไรก็ได้ แต่เมื่อคุณก้าวเข้าประตูห้องนอนมาแล้วก็จะมองไม่เห็นประตูอีกบานหนึ่งหรือหน้าต่างอีกบานหนึ่งที่ตั้งอยู่ในทิศทางตรงกันพอดี

7. ประตูห้องน้ำตรงกับประตูห้องนอน
ประตูห้องนอนของคุณนั้นเมื่อเปิดออกจากห้องนอนไปแล้ว พบกับประตูห้องน้ำอย่างเผชิญหน้ากันเลยหรือไม่ ถ้าประตูห้องนอนของคุณตรงกันกับประตูห้องน้ำพอดี ในเส้นแนวเดียวกัน คุณจะต้องรีบแก้ไขในทันทีเพราะตำแหน่งดังกล่าวนั้น ส่งผลให้ความรักความผูกพันของคุณกับคู่ชีวิตบังเกิดปัญหาใหญ่ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดี จะมีเรื่องแตกร้าวถึงขั้นแตกหักเพราะคนใดคนหนึ่งนอกใจหรือก่อเรื่องเดือดร้อนมากระทบ ทำให้ความรักมีอุปสรรค สะดุดติดขัด มีเรื่องที่จะต้องโกรธแค้นหรือเกลียดชังกัน สำหรับคุณที่พักอยู่เป็นลักษณะของหอพักและประตูห้องนอนของคุณนั้นตรงกับประตูห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันอีกด้านหนึ่งก็อาจจะหลีกเลี่ยงที่พักอาศัยอยู่ในห้องที่มีทิศทางในลักษณะนั้น แต่ถ้าเป็นประตูห้องน้ําในบ้านของคุณเองก็จะยอมเสียเงินลงทุนแก้ไขโดยด่วนไม่เปลี่ยนประตูห้องน้ำใหม่ก็อาจจะเปลี่ยนประตูห้องนอนใหม่เสียก็ได้หรือถ้าไม่มีหนทางใดแก้ไขก็ให้หาตู้หนังสือหรือฉากกั้นมาตั้งบังตาไว้ระหว่างประตูห้องนอนกับห้องน้ำนั้นเสีย

8.  เมื่อเปิดหน้าต่างห้องนอน
ถ้าห้องนอนตั้งรับกับถนนทางแพร่งคือเมื่อเปิดหน้าต่างห้องนอนแล้วก็จะพบกับถนนวิ่งตรงดิ่งเข้าหาคุณทันที ห้องนอนเช่นนี้มีลักษณะพิฆาตคู่รักคู่สมรสที่อยู่ในห้องนอนนั้นอย่างแน่นอน

ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนที่บ้านของคุณหรือห้องนอนบนแฟลต บนคอนโด หากมีลักษณะเช่นนี้ คุณควรจะหาลูกแก้วคริสตัล มาแขวนไว้ที่หน้าต่าง หรืออาจใช้กระถางดินเผาที่ปลูกต้นไม้ว่านชื่ออันเป็นมงคล หรือต้นไม้ที่มีดอกสวยๆสีสดๆ สักสองสามกระถาง มาเรียงวางไว้บนขอบหน้าต่างนั้น หรือห้องนอนที่พุ่งตรงดิ่งเข้ามาสู่หน้าต่างห้องนอนของคุณ

9. เครื่องใช้ไฟฟ้าใต้ห้องนอน
บริเวณที่คุณตั้งเตียงนอนหรือฟูกที่นอนในห้องนอนนั้น คุณจะต้องคำนึงด้วยว่า ที่ห้องชั้นล่างบริเวณที่ตรงกับจุดที่ตั้งเตียงของคุณ มีเครื่องใช้ไฟฟ้าใดใดหรือไม่ เป็นต้นว่าโทรทัศน์ ตู้เย็น คอมพิวเตอร์ เครื่องเสียง เตาแก๊ส หม้อหุงข้าว เตาไฟฟ้า หรือไมโครเวฟ

สิ่งของวัตถุใดๆก็ตามที่เป็นอุปกรณ์ที่จะต้องใช้ไฟฟ้า หากมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งตั้งอยู่ณห้องชั้นล่างนั้น โดยมีทิศทางตรงกับใต้เตียงของคุณ และชั้นบนก็ควรที่จะย้ายสิ่งของข้างล่างเรานั้นอย่าให้มีเครื่องใช้ไฟฟ้าใดๆ มาวางอยู่ใต้ห้องนอนของคุณโดยเฉพาะจุดตำแหน่งที่วางเตียงนอนของคุณ

10. ตำแหน่งห้องนอนที่สุขสันต์
ห้องนอนของคู่สามีภรรยาที่เป็นเจ้าของบ้านนั้น ถ้าจะให้เป็นมงคลจริงๆควรจะตั้งอยู่กึ่งกลางของตัวบ้าน ไม่ควรจะอยู่เยื้องมาทางหน้าบ้านมากจนเกินไปนัก และไม่ควรจะอยู่ยิ่งไปเป็นห้องสุดท้ายของตัวบ้าน

ห้องนอนที่ดีที่จะส่งผลให้คุณมีความสุขในชีวิตคู่และเรื่องให้ยิ่งเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปนั้นว่าควรจะเป็นห้องนอนที่อยู่ประมาณกึ่งกลางของตัวบ้านไม่ว่าจะเป็นชั้นบนหรือชั้นล่างก็ตาม

19 เทคนิคปรับฮวงจุ้ยห้องนอนในฝัน


อินดี้

6 สิ่งที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับ มนุษย์บ้ากามกินคน
ไม่เพียงข่มขืนแล้วฆ่า แต่เด็กผู้หญิง และสตรีทั้งหลายยังต้องเผชิญอันตรายแบบ นี้อีกมาก และคนพวกนี้มันยังทำได้มากกว่านั้น บางตัวทั้งกระทำชำเรา - ฆ่า รวม ทั้งกินเป็นอาหารด้วย และ 6 เรื่องต่อไปนี้คือสิ่งที่ใครอาจไม่รู้เกี่ยวกับมนุษย์บ้ากาม แถมยังกินเหยื่อด้วย!

1. วันที่ 19 เดือนนี้ เดล โบลิงเจอร์ บุรุษพยาบาลวัยชาวอังกฤษ จะได้รับการพิพากษาให้รับโทษ หลังจากถูกตัดสินให้มีความผิด โทษฐานล่อลวงเด็กหญิงวัย 14 ปีมาพบ เพื่อจะฆ่าแล้วกินเธอ

2. นายโบลิงเจอร์ พบ 'อีวา' หรือ เป้าหมายของเขา ในเว็บชื่อ Dark Fetish Network (DFN) ที่สมาชิกในนั้นคุยกันแต่เรื่องคนกินคน มีสมาชิกใช้ นามแฝงอย่าง 'ทรมาน 4' หรือ 'เนื้ออร่อย' และมีศัพท์แสงรู้กันภายในกลุ่มซึ่งล้วนเกี่ยวเนื่องกับการฆ่าทั้งนั้น

3. "ที่เราคิดกันคือร่วมรัก แล้วกินน้องไง อย่างนั้นแหละมันเร้าอารมณ์" คือบางข้อความที่นายโบลิงเจอร์สื่อสารกับเหยื่อของเขาในเว็บ เขาบอกกับตำรวจว่าไม่ได้คิดว่าอีวา เป็นเด็กหญิงอายุ 14 แต่อาจเป็นผู้ชายวัย 30 ที่ "มีกล่องพิซซ่าเกลื่อนอยู่รอบๆ" แต่ในวันที่เหยื่อเดิน
ทางจากเยอรมนีมาที่อังกฤษเพื่อพบกับเขา นายโบลิงเจอร์ได้ทำการซื้อขวานใหม่เอี่ยมเตรียมการเอาไว้

4. นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เว็บไซต์ชุมชนเพี้ยนๆ อย่าง DFN มีเอี่ยวกับเหตุฆาตกรรมวิปลาส กิลเบิร์ต วัลเล หรือ 'ตำรวจกินคน' ชาวนิวยอร์ก
ต้องถูกตัดสินจำคุก 21 เดือน หลังจากถูกจับได้ว่าเตรียมแผนลักพาตัวเด็กสาววัยรุ่นรายหนึ่งที่เจอกันในเว็บนี้เพื่อฆ่ากินเหมือนกัน

5. Vorarephilla คือชื่ออาการทางจิตของคนที่มีอารมณ์ทางเพศหากโดนกินหรือได้กินคนอื่น และเมื่อครั้ง อาร์มิน ไมเวส ชาวเยอรมันโพสต์โฆษณาเพื่อหาเหยื่อมากิน มีคนเข้ามาตอบถึง 200 ราย นอกจากนี้เมื่อปี 2002 เขายังได้เจอกับ นาย เบอร์นด์ แบรนเดส เลยทำการตัดอวัยวะเพศของตัวเองแล้วเอามาทำอาหารกินด้วยกัน จากนั้นเขาก็สับนายแบรนเดสเป็นชิ้นแล้วเก็บเอาไว้กินในตู้เย็น

6. อัลเบิร์ต ฟิช, เอ็ด จีน และ อิสเซอิ ซากาวะ คือบางรายชื่อของฆาตกรโหด ข่มขืน - ฆ่า ฆาตกรกินเนื้อคนแล้วกินที่เคยเดินปะปนอยู่ในสังคมบนโลกใบนี้

แหล่งรวมบทความจัดอันดับ สารคดีประวัติศาสตร์ บทความสารคดีจักรวาลและดาวเคราะห์ บทความสารคดีสงคราม บทความสารคดีภัยธรรมชาติ บทความสารคดีชีวิตสัตว์ บทความสารคดีอาวุธทางการทหาร บทความสารคดีการจัดอันดับ บทความสารคดีวิทยาศาสตร์ บทความสัมภาษณ์คนดัง บทสนทนาปัญหาเศรษฐกิจ บทสนทนาประเด็นข่าวร้อน เรื่องราวน่ารู้ ความรู้ทั่วไป สังคม เศรษฐกิจ การเมือง ไลฟ์สไตล์ สุขภาพ ผู้หญิง ความงาม แม่และเด็ก สัตว์เลี้ยง อาหาร ร้านอาหาร เกมส์ เทคโนโลยี มาดูกันได้ที่  จัดอันดับ

เล่าเรื่องสยองขวัญ นั่งซากหวาดผวา ศพล่อเสือ
เล่าเรื่องสยองขวัญ สยองกลางทุ่ง
10 อันดับฆาตกรต่อเนื่องที่อำมหิตที่สุดในโลก
8 อันดับฆาตกรสุดโหดแห่งสยามเมืองยิ้ม
อลิซาเบธ บาโธรี่ เคานท์เตสกระหายเลือด
จัดอันดับ
เรื่องเล่าสยองขวัญ
ประวัติศาสตร์
เมนูอาหาร
สุขภาพ


อินดี้

10 อันดับงูที่มีพิษมากที่สุดของโลก
หากคุณเป็นผู้อ่านเป็นเวลานานของ Listverse คุณจะจำว่าเราได้ก่อนหน้านี้มีสองรายการงู: 10 ที่รู้จักกันน้อยงูพิษและ 10 อันดับงูที่ผิดปกติและน่าตื่นตาตื่นใจ น่าแปลกที่เรายังไม่ได้รับการตีพิมพ์รายชื่อของงูพิษมากที่สุด - และดังนั้นในวันนี้เราเติมช่องว่างที่มีรายการต่อไปนี้ นี้น่าจะยังเป็นเวลาที่ดีที่จะชี้ให้เห็น (ซึ่งเราได้ทำในรายการก่อนหน้า) ว่าสิ่งที่เป็นพิษเมื่อมันอัดฉีดคุณมีพิษและสิ่งสัตว์ที่เป็นพิษเมื่อมันเป็นอันตรายต่อคุณผ่านการสัมผัสหรือการรับประทานอาหาร

10 งูหางกระดิ่ง
แค่งูจากอเมริกาในรายการ , งูหางกระดิ่งจะระบุได้อย่างง่ายดายโดยสั่นตรงปลายหางของมัน พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวงู และมีความสามารถที่โดดเด่นถึง 2 / 3 ของลำตัว . ตะวันออกหนอนใยผักในการพิจารณาชนิดสัตว์มีพิษมากที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ จู่ ๆ เยาวชนถือว่าเป็นอันตรายมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากเด็กไม่สามารถที่จะควบคุมปริมาณพิษที่ฉีดเข้าไป ชนิดส่วนใหญ่ของ hemotoxic พิษงูหางกระดิ่งมีการทำลายเนื้อเยื่อ อวัยวะที่เสื่อมลงและก่อให้เกิดภาวะแข็งตัวของเลือดผิดปกติ ( ทำให้เลือดแข็งตัว ) บางส่วนของการเกิดแผลเป็นถาวรมากในกรณีที่กัดพิษ , การรักษาที่มีประสิทธิภาพแม้กับพร้อมท์ และสามารถนำไปสู่การสูญเสียแขนขา หรือตายได้ หายใจลำบาก , อัมพาต , น้ำลายไหลและมีอาการเลือดออก ก็เป็นอาการสามัญ ดังนั้น , งูกะปะกัดอยู่เสมอ อาการอาจร้ายแรง . งูกะปะกัดดิบ โดยเฉพาะชนิดที่มีขนาดใหญ่ มักจะร้ายแรง อย่างไรก็ตาม antivenin เมื่อใช้ในเวลา ลดอัตราการเสียชีวิตน้อยกว่า 4 %

9. Death Adder
ที่มีชื่ออย่างเหมาะสม Adder ตายที่พบในออสเตรเลียและนิวกินี พวกเขาล่าและฆ่างูอื่น ๆรวมถึงบางส่วนในรายการนี้มักจะผ่านการซุ่มโจมตี เพิ่มเติมตาย ดูคล้ายกับงู ที่พวกเขามีรูปสามเหลี่ยมหัวสั้นและหมอบร่าง พวกเขามักจะฉีดรอบ 40-100mg พิษกับ LD ของ 0.4mg-0.5mg/kg . กัดตาย และนี้เป็นหนึ่งในที่อันตรายที่สุดของโลก พิษเป็นยาพิษ กัดทำให้เกิดอัมพาตและสามารถทำให้เกิดการตายภายใน 6 ชั่วโมง เนื่องจากระบบหายใจล้มเหลว อาการโดยทั่วไปสูงสุดภายใน 24-48 ชั่วโมง antivenin ประสบความสำเร็จมากในการรักษากัดจากความตายงูพิษ , โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากความก้าวหน้าค่อนข้างช้า อาการ แต่ก่อนการพัฒนา , งูเห่ากัดตายเป็นตายเท่ากัน 50% กับตีเร็วที่สุดในโลก ความตายนี้สามารถไปจากตีตำแหน่งโดดเด่นและการกลับมาอีกครั้งของภายใน 0.13 วินาที

8 Vipers
งูพิษที่พบทั่วมากที่สุดของโลก แต่เนื้อหาที่มีพิษมากที่สุดคือเลื่อยสเกลงูและงูเชนที่พบส่วนใหญ่ในตะวันออกกลางและเอเชียกลางโดยเฉพาะอย่างยิ่งอินเดียจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ งูพิษที่มีความรวดเร็วและอารมณ์ออกหากินเวลากลางคืนโดยทั่วไปมักจะใช้งานหลังจากที่ฝน พวกเขายังเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก ส่วนใหญ่ของสายพันธุ์เหล่านี้มีพิษที่ก่อให้เกิดอาการที่เริ่มต้นด้วยความเจ็บปวดที่เว็บไซต์ของกัดทันทีตามด้วยอาการบวมของขาได้รับผลกระทบ เลือดออกเป็นอาการที่พบบ่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเหงือก มีการลดลงของความดันโลหิตและอัตราการเต้นหัวใจอยู่เป็น พองเกิดขึ้นที่เว็บไซต์ของกัดการพัฒนาไปตามแขนขาได้รับผลกระทบในกรณีที่รุนแรง เนื้อร้ายมักจะตื้นและ จำกัด ไปยังกล้ามเนื้อใกล้กัด แต่อาจรุนแรงในกรณีที่รุนแรง อาเจียนและหน้าบวมเกิดขึ้นในประมาณหนึ่งในสามของทุกกรณี อาการปวดอย่างรุนแรงอาจมีอายุการใช้ 2-4 สัปดาห์ บ่อยครั้งที่ยอดท้องถิ่นบวมภายใน 48-72 ชั่วโมงที่เกี่ยวข้องกับแขนรับ การเปลี่ยนสีอาจเกิดขึ้นทั่วพื้นที่บวมเป็นเซลล์เม็ดเลือดแดงและการรั่วไหลของพลาสม่าเข้าไปในเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อ เสียชีวิตจากการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจหรือหัวใจล้มเหลวอาจเกิดขึ้น 1-14 วันหลังการกัดหรือแม้กระทั่งในภายหลัง

7 Philippine Cobra
งูเห่าพันธุ์ส่วนใหญ่จะทำให้รายการนี้ แต่ งูเห่าฟิลิปปินส์เป็นข้อยกเว้น ฝากสำหรับเลื่อน พิษของมันเป็นร้ายแรงทุกสายพันธุ์คอบร้า และสามารถคายถึง 3 เมตร พิษเป็น neurotoxin ซึ่งมีผลต่อหัวใจ และระบบทางเดินหายใจ และอาจทำให้เกิดพิษต่อระบบประสาท ระบบทางเดินหายใจเป็นอัมพาต และตายใน 30 นาที กัดทำให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อน้อยที่สุดเท่านั้น Neurotoxins ขัดขวางการส่งสัญญาณประสาทโดยผูกกับทางแยกใกล้กล้ามเนื้อระบบประสาทกล้ามเนื้อ อาการอาจมีอาการปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย มึน ยุบ และชัก

6 Tiger Snake
พบในออสเตรเลีย งูเสือมีพิษต่อประสาทมีศักยภาพมาก ตายจากการกัดสามารถเกิดขึ้นได้ภายใน 30 นาที แต่มักจะใช้เวลา 6-24 ชั่วโมง ก่อนที่จะพัฒนาเฉพาะ อัตราการตายจากงูเสือเป็น 60-70% อาการอาจรวมถึงแปลความเจ็บปวดในคอและเท้าภูมิภาค มึนงง รู้สึกเสียวซ่า และเหงื่อ ออก ตาม ด้วยการโจมตีอย่างรวดเร็วเป็นธรรมของการหายใจลำบากและอัมพาต โดยทั่วไปจะหนีถ้าพบงูเสือ แต่จะกลายเป็นก้าวร้าวเมื่อจนมุม มันนัดแม่นยำ unerring

5 Black Mamba
กลัวดำ Mamba พบตลอดหลายส่วนของทวีปแอฟริกา พวกเขาเป็นที่รู้จักกันที่จะก้าวร้าวมากและตีด้วยความแม่นยำร้ายแรง พวกเขายังมีงูที่ดินเร็วที่สุดในโลก, ความสามารถของความเร็วถึงได้ถึง 20 กม / ชม เหล่านี้น่ากลัวงูสามารถตีได้ถึง 12 ครั้งในแถว กัดเดียวที่มีความสามารถในการฆ่าที่ใดก็ได้จากผู้ใหญ่ 10-25 พิษเป็น neurotoxin ทำหน้าที่ได้อย่างรวดเร็ว กัดมันให้ประมาณ 100-120 มิลลิกรัมของพิษโดยเฉลี่ย; แต่ก็สามารถส่งได้ถึง 400 มิลลิกรัม หากพิษถึงหลอดเลือดดำ, 0.25 mg / kg จะเพียงพอที่จะฆ่ามนุษย์ใน 50% ของกรณี อาการเริ่มต้นของการกัดจะมีอาการปวดในพื้นที่กัดถึงแม้จะไม่รุนแรงเท่างูกับ hemotoxins เหยื่อแล้วประสบความรู้สึกเสียวซ่าในปากและขาคู่วิสัยทัศน์วิสัยทัศน์อุโมงค์ความสับสนอย่างรุนแรงมีไข้ น้ำลายไหลมากเกินไป (รวมถึงการเกิดฟองของปากและจมูก) และ ataxia ออกเสียง (ขาดการควบคุมกล้ามเนื้อ) หากเหยื่อไม่ได้รับการรักษาพยาบาลอาการอย่างรวดเร็วมีความคืบหน้าไปสู่อาการปวดท้องรุนแรงคลื่นไส้และอาเจียนซีดช็อกไตพิษหัวใจและอัมพาต ในที่สุดเหยื่อประสบการณ์ชัก, หยุดหายใจโคม่าแล้วตาย โดยไม่ต้อง antivenin อัตราการตายเกือบ 100% ในที่สูงที่สุดของงูพิษทั้งหมด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของการกัดตายจะส่งผลให้ในช่วงเวลาระหว่างวันที่ 15 นาทีและ 3 ชั่วโมงใด ๆ ในที่สุดเหยื่อประสบการณ์ชัก, หยุดหายใจโคม่าแล้วตาย โดยไม่ต้อง antivenin อัตราการตายเกือบ 100% ในที่สูงที่สุดของงูพิษทั้งหมด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของการกัดตายจะส่งผลให้ในช่วงเวลาระหว่างวันที่ 15 นาทีและ 3 ชั่วโมงใด ๆ ในที่สุดเหยื่อประสบการณ์ชัก, หยุดหายใจโคม่าแล้วตาย โดยไม่ต้อง antivenin อัตราการตายเกือบ 100% ในที่สูงที่สุดของงูพิษทั้งหมด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของการกัดตายจะส่งผลให้ในช่วงเวลาระหว่างวันที่ 15 นาทีและ 3 ชั่วโมงใด ๆ

4 Taipan
รายการอื่นจากออสเตรเลีย พิษของงูไทปันจะแข็งแรงพอที่จะฆ่าหนูตะเภาถึง 12,000 พิษ clots เลือดของเหยื่อ ปิดกั้นหลอดเลือดแดงหรือเส้นเลือด ประสาทสูงได้ ก่อนที่จะมีเฉพาะ มีผู้รอดชีวิตไม่รู้จักของกัดงูไทปัน และความตายมักเกิดขึ้นภายในหนึ่งชั่วโมง แม้จะ มีการบริหารงานที่ประสบความสำเร็จของเฉพาะ เหยื่อส่วนใหญ่จะมีการเข้าพักที่กว้างขวางในหออภิบาล มันได้ถูกกับงูแมมบาดำแอฟริกันในสัณฐานวิทยา นิเวศวิทยา และพฤติกรรม

3 Blue Krait
ภาษามลายูหรืองูสามเหลี่ยมสีฟ้าคือโดยไกลที่ร้ายแรงที่สุดของสายพันธุ์นี้ พบได้ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินโดนีเซีย 50% ของกัดจากมฤตยูสีน้ำเงินงูสามเหลี่ยมเป็นอันตรายถึงชีวิตถึงแม้จะมีการบริหารงานของ antivenin kraits ล่าและฆ่างูอื่น ๆ แม้ cannibalizing kraits อื่น ๆ พวกเขาเป็นสายพันธุ์งูที่ออกหากินเวลากลางคืนและมีความก้าวร้าวมากขึ้นภายใต้ความมืดปกคลุม แต่โดยรวมพวกเขาจะขี้อายมากและมักจะพยายามที่จะซ่อนมากกว่าการต่อสู้ พิษเป็น neurotoxin 16 ครั้งที่มีศักยภาพมากขึ้นกว่าที่ของงูเห่า มันได้อย่างรวดเร็วก่อให้เกิดอัมพาตของกล้ามเนื้อโดยการป้องกันความสามารถของปลายประสาทที่จะต้องปล่อยสารเคมีที่ส่งข้อความไปยังเส้นประสาทต่อไป นี่คือตามระยะเวลาที่ยิ่งใหญ่กว่าการกระตุ้น (ปวดสั่นกระตุก) ซึ่งในที่สุดหางออกไปเป็นอัมพาต โชคดีที่ กัดจาก kraits เป็นของหายากเพราะธรรมชาติของพวกเขาออกหากินเวลากลางคืน ก่อนที่จะพัฒนา antivenin, อัตราการตายเป็นมหันต์ 85% แม้ว่า antivenin เป็นยาในเวลาที่คุณอยู่ห่างไกลจากการอยู่รอดมั่นใจ ความตายมักจะเกิดขึ้นภายใน 6-12 ชั่วโมงของการกัดงูสามเหลี่ยม แม้ว่าผู้ป่วยจะให้มันไปโรงพยาบาลอาการโคม่าถาวรและสมองตายจากการขาดออกซิเจนแม้กระทั่งอาจเกิดขึ้นได้รับการขนส่งครั้งนานอาจจะได้รับการดูแลทางการแพทย์

2 Eastern Brown Snake
อย่าปล่อยให้ชื่อของงูไม่มีพิษมีภัยนี้หลอกคุณ 1 / 14,000 ออนซ์พิษของมันก็เพียงพอที่จะฆ่ามนุษย์ที่เป็นผู้ใหญ่ มาในความหลากหลายของสายพันธุ์งูตะวันออกสีน้ำตาลเป็นพิษมากที่สุด แต่น่าเสียดายที่ต้องการที่อยู่อาศัยของมันยังเป็นไปตามศูนย์ประชากรที่สำคัญของออสเตรเลีย งูสีน้ำตาลเป็นที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว, สามารถก้าวร้าวภายใต้สถานการณ์บางอย่างและได้รับทราบเพื่อไล่ผู้รุกรานซ้ำแล้วซ้ำอีกนัดหยุดงานที่พวกเขา แม้หนุ่มสาวสามารถฆ่ามนุษย์ พิษมีทั้งระบบประสาทและ coagulants เลือด โชคดีสำหรับมนุษย์น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของกัดมีพิษและพวกเขาไม่ต้องการที่จะกัดถ้าเป็นไปได้ พวกเขาตอบสนองกับความเคลื่อนไหวเพื่อให้ยืนนิ่งมากถ้าคุณเคยพบหนึ่งในป่า

1 Fierce Snake or Inland Taipan
ในขณะที่ฉันบอกว่าฉันจะไม่รวมถึงหลายสายพันธุ์ย่อยในรายการนี้อย่างไม่น่าเชื่อ Inland Taipan สมควรได้รับจุดของตัวเอง มันมีพิษมีงูพิษร้ายแรงที่สุดของงูดินแดนใด ๆ ในโลก อัตราผลตอบแทนสูงสุดที่บันทึกไว้สำหรับหนึ่งกัดเป็น 110mg, พอที่จะฆ่าประมาณ 100 คนหรือ 250,000 หนู! ด้วย LD / 50 ของ 0.03mg / กก. มันเป็น 10 เท่าเป็นพิษเป็นซ้อมงูกะปะและ 50 ครั้งกว่างูเห่าที่พบบ่อย โชคดีที่งูไทปันโพ้นทะเลไม่ก้าวร้าวโดยเฉพาะอย่างยิ่งและไม่ค่อยจะพบโดยมนุษย์ในป่า ไม่มีผู้เสียชีวิตได้รับการที่เคยบันทึกไว้ถึงแม้ว่ามันอาจจะฆ่ามนุษย์ผู้ใหญ่ภายใน 45 นาที

Belcher's Sea Snake
งูพิษที่รู้จักมากที่สุดในโลกเป็นมิลลิกรัมไม่กี่ที่มีความแข็งแรงพอที่จะฆ่า 1,000 คน! น้อยกว่า 1/4 ของกัดจะมีพิษและพวกเขาจะค่อนข้างเชื่อง ชาวประมงมักจะตกเป็นเหยื่อของการกัดเหล่านี้ขณะที่พวกเขาพบสายพันธุ์ที่เมื่อพวกเขาดึงมุ้งจากมหาสมุทร พบได้ทั่วน่านน้ำนอกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภาคเหนือของออสเตรเลีย

10 สายพันธุ์งูที่น่าทึ่ง
10 อันดับสัตว์มีพิษ
อนาคอนด้า งูยักษ์แห่งอเมซอน
10 อันดับการคิดค้นของสัตว์
10 อันดับสัตว์สถาปนิก
10 อันดับสัตว์ยอดแหยะ
10 อันดับสัตว์สุดยอดคุณพ่อ
10 อันดับสัตว์ผีดูดเลือด


อินดี้

10 สุดยอดไม้มงคลที่คนไทยนิยมปลูก

ที่มาข้อมูลจาก รายการ 5 มหานิยม ตอน สุดยอดไม้มงคลที่คนไทยนิยมปลูก
ฤกษ์มงคล เลขมงคล วัตถุมงคล อาหารมงคล ขนมมงคล คงปฏิเสธไม่ได้ว่า คำว่ามงคล ที่พ่วงท้ายทุกคำที่กล่าวมานั้น มีอิทธิพลในชีวิตประจำวันของคนไทยมานานนับร้อยปี เช่นเดียวกับ "ไม้มงคล" อีกหนึ่งความเชื่อที่ผูกพันมากับคนไทยมายาวนานไม่แพ้กัน แต่เดิมคำว่าไม้มงคลนั้น คนโบราณหมายถึงไม้ยืนต้นเก้าชนิด อันได้แก่ ไผ่สีสุก ทรงบาดาล สัก กันเกรา พะยูง ทองหลาง ชัยพฤกษ์ ราชพฤกษ์ ขนุน โดยใช้ในการปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนตามทิศทางต่างๆ โดยเชื่อว่าจะเกิดสิริมงคลแก่ผู้ที่อยู่อาศัย ด้วยวิถีชีวิตที่ผูกพันกับธรรมชาติ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คนไทยจึงมีความเชื่อว่าการปลูกไม้มงคลจะเป็นสิ่งดีต่อบ้านและผู้อยู่อาศัย โดยพันธุ์ไม้มงคลแต่ละชนิดก็จะมีความหมายมงคลในเรื่องที่ต่างกันออกไป แล้วแต่ประเพณีและวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น ซึ่งทางสมาคมไม้ประดับแห่งประเทศไทยได้ทำการสำรวจจากเกษตรกร นักเรียน นักศึกษา แม่บ้าน และประชาชนทั่วไปกว่าหนึ่งพันคนทั่วประเทศ เราจะได้ทราบกันว่า ไม้มงคลที่ฮ็อตฮิตของคนไทยมีอะไรบ้าง ปลูกอย่างไรให้เสริมสิริมงคล แล้วสายพันธุ์ไหนเสริมดวงเรื่องอะไรบ้าง มาดูกันเลยจ้า

อันดับที่ 10 ชวนชม (4.5%)



คนไทยมีความเชื่อว่าหากปลูกไม้มงคลนี้ไว้ประจำบ้านจะช่วยดึงดูดสิ่งดีงามเข้าสู่บ้านเรือน เสริมความเมตตา ชวนให้มีคนรักใคร่นิยมชมชอบ แม้แต่คนจีนยังขนานนาม "ชวนชม" ว่าเป็นดอกไม้แห่งความร่ำรวยอีกด้วย ควรปลูกต้นชวนชมในวันพุธ ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้

อันดับที่ 9 บัว (5.4%)



ราชินีแห่งไม้น้ำ คือสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ผุดผ่องในพุทธศาสนา ซึ่งการปลูกบัวไว้ในบ้านเชื่อกันว่าจะช่วยให้คนในครอบครัวมีจิตใจบริสุทธิ์ สะอาด ส่วนสายใยของบัวก็เปรียบกับสายสัมพันธ์ ความผูกพันที่แนบแน่นของครอบครัว โดยบัวที่นิยมปลูกเพื่อความเป็นสิริมงคลก็ได้แก่ บัวหลวง บัวผัน บัวฝรั่ง บัวสาย และบัวกระด้ง บัวควรปลูกทางทิศตะวันตก และปลูกในวันพุธ

อันดับที่ 8 โกสน (6.3%)



อีกหนึ่งพันธุ์ไม้มงคลที่นิยมปลูกในเขตพระราชวังและวัดมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งคำว่า "โกสน" นั้นพ้องกับคำว่า "กุศล" คือการสร้างคุณงามความดี จึงเชื่อกันว่าการปลูกโกสน ก็จะช่วยเพิ่มบุญบารมีให้กับคนในบ้านได้อยู่เย็นเป็นสุข โดยควรปลูกต้นโกสนในวันอังคารทางทิศตะวันออก

อันดับที่ 7 พุทธรักษา (6.8%)



ด้วยชื่อที่เป็นสิริมงคลทำให้ไม้ล้มลุกชนิดนี้เป็นที่นิยมมาตั้งแต่โบราณจากความเชื่อที่ว่าการปลูกพุทธรักษาก็เหมือนมีพระพุทธคอยปกปักรักษาให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข ควรปลูกต้นพุทธรักษาในวันพุธ ทางทิศตะวันตก เพื่อให้แคล้วคลาดจากเรื่องเลวร้ายนั่นเอง

อันดับที่ 6 บานไม่รู้โรย (8.8%)



ไม้ดอกที่แสนจะธรรมดาแต่มากไปด้วยคุณค่าและคุณประโยชน์นี้เป็นไม้มงคลที่เสริมดวงในเรื่องของความรัก ความผูกพันของคู่สามีภรรยา โดยคนโบราณนิยมให้คู่รักปลูกบานไม่รู้โรยไว้ในบ้านหรือตามแนวรั้ว เพื่อความเป็นมงคลในความรักที่ยั่งยืนไม่แปรผันโรยราเหมือนกับชื่อ "บานไม่รู้โรย" นั่นเอง

อันดับที่ 5 เข็ม (9.5%)



"เข็ม" เป็นพันธุ์ไม้มงคลที่คนไทยรู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะดอกเข็มนิยมใช้ในพิธีไหว้ครู รวมทั้งเป็นเครื่องสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพิธีกรรมทางศาสนา นอกจากนี้ "เข็ม" ยังสามารถนำมาทำเป็นอาหาร ไม่ว่าจะนำไปชุบแป้งทอด ทานเป็นเครื่องเคียงคู่กับน้ำพริก หรือนำไปยำก็ทำได้ทั้งนั้น ซึ่งดอกเข็มสามารถนำไปทานได้เกือบทุกสียกเว้น "ดอกเข็มสีขาว" เพราะมีสารคล้ายไซยาไนด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย ส่วนความเชื่อโบราณนั้นกล่าวไว้ว่า การปลูกเข็มไว้ในบ้านจะช่วยเสริมสติปัญญาให้ผู้อาศัยมีความฉลาดหลักแหลม รวมทั้งรู้จักเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขัน วันที่เหมาะกับการปลูกดอกเข็มคือ วันพุธ ทางทิศตะวันออก และผู้ปลูกควรเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาก็จะช่วยเสริมสิริมงคลให้มากยิ่งขึ้น

อันดับที่ 4 โป๊ยเซียน (9.9%)



อีกหนึ่งไม้มงคลโชคลาภที่คนไทยนิยมปลูกกันมาอย่างช้านาน เนื่องจากความหมายที่ดีของคำว่า "โป๊ยเซียน" ที่หมายถึง เทพยดา 8 องค์ ผู้ปลูกเลี้ยงโป๊ยเซียนส่วนใหญ่มักปลูกเพื่อความเป็นสิริมงคลและเพื่อใช้เป็นไม้เสี่ยงทายคือถ้าผู้ใดสามารถปลูกโป๊ยเซียนให้ออกดอกแปดดอกขึ้นไป ผู้นั้นจะมีโชคลาภ ร่ำรวย หรืออาจจะได้เลื่อนตำแหน่ง การปลูกโป๊ยเซียนเพื่อเสริมสิริมงคลนั้น ควรปลูกในสันพุธทางทิศตะวันออกเฉียงใต้โดยผู้ที่ลงมือปลูกควรเป็นหัวหน้าครอบครัวหรือญาติอาวุโส ญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ เพราะจะนำโชคลาภมาให้สมาชิกและมีแต่ความสุข เจริญรุ่งเรือง

อันดับที่ 3 มะลิ (10.5%)



ถ้าพูดถึงมะลิ ภาพในใจของทุกคนคงหนีไม่พ้นภาพของดอกไม้สีขาว กลิ่นหอมอ่อนๆ ใช้เป็นสัญลักษณ์ของวันแม่ ทำให้มะลิเป็นไม้ดอกที่คนทุกเพศทุกวัยรู้จักเป็นอย่างดี นอกจากเสน่ห์ที่กล่าวมาแล้ว มะลิยังเป็นไม้ที่ให้มงคลในทางความรัก ความเสน่หาอีกด้วย โดยมีความเชื่อกันว่าบ้านที่ปลูกมะลิจะมีแต่ความสงบสุขและเป็นที่ประทับใจของคนรอบข้าง รวมทั้งยังเกื้อหนุนให้เกิดความกตัญญูของลูกที่มีต่อแม่อีกด้วย เคล็ดของการปลูกมะลิในบ้านนั้นควรให้คุณแม่หรือผู้อาวุโสที่สุดในบ้านที่เป็นเพศหญิงเป็นคนลงมือปลูก ทิศมงคลคือทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และควรปลูกในวันพุธ

อันดับที่ 2 วาสนา (12.8%)



ตามความเชื่อของคนไทยแต่โบราณ การปลูกต้นวาสนานั้นจะทำให้มีวาสนาดี หากผู้ที่ปลูกดูแลอย่างดีจนต้นวาสนาสามารถออกดอกได้ก็จะนำโชคลาภมาให้ ไม่ว่าจะเป็นเงินทองหรือการได้เลื่อนยศเลื่อนขั้น เพิ่มบุญบารมีให้เจ้าของยิ่งขึ้น การปลูกต้นวาสนาควรปลูกในวันอังคาร ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ โดยที่ผู้ปลูกควรเป็นผู้หญิง

อันดับที่ 1 ดาวเรือง (13.7%)



ด้วยชื่อที่เป็นมงคลและสีเหลืองดั่งทอง ทำให้ดาวเรืองเป็นไม้มงคลที่นิยมปลูกไว้ในบ้านหรือริมรั้ว เพื่อเสริมชะตาชีวิตให้รุ่งเรือง เจริญก้าวหน้า โดยสีเหลืองนั้นเป็นมงคลหนุนให้มีเงินทองเต็มบ้าน และในประเทศอินเดียยังนิยมใช้ดาวเรืองในการบูชา บวงสรวงเทพเจ้าต่างๆ อีกด้วย "ดาวเรือง" นอกจากจะเป็นไม้มงคลที่คนไทยนิยมปลูกแล้วยังเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทยอีกด้วย

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

ไม้มงคล
พันธุ์ไม้มงคล
ดอกไม้มงคล
ไม้มงคลเสริมวาสนา
อันดับไม้มงคล
ไม้มงคลต้นวาสนา
ไม้มงคลเสริมดวงชะตา
ไม้มงคลเสริมชะตาชีวิต

อินดี้

10 อันดับสัตว์ที่สามารถเอาตัวรอดได้เก่งที่สุด

คุณเอาตัวรอดเก่งไหม แล้วคุณแกร่งพอๆกับสัตว์ ที่อยู่ในสภาพแวดล้อม อันเลวร้ายที่สุดบนโลกหรือเปล่า เราจะมานับถอยหลังสู่ 10 อันดับสัตว์ ที่สามารถเอาตัวรอด ได้เก่งที่สุดในอาณาจักรสัตว์ แล้วมาดูกันว่า ความทรหดของพวกมันจะทำให้คนอึ้งและทึ่งมากแค่ไหน เราจะมาสำรวจ เส้นทางแห่งความแข็งแกร่ง ของสัตว์ใน 10 อันดับนี้กัน โลกคือดาวเคราะห์ ที่เต็มไปด้วยความสุดยอด สถานที่สุดยอด และสัตว์ที่สุดยอด แต่สัตว์บางชนิด สุดยอดยิ่งกว่าชนิดไหน ติดตามการนับถอยหลัง เพื่อค้นหาสัตว์ที่ไม่เหมือนใคร ไม่ธรรมดาที่สุดใน 10 อันดับ

อันดับที่ 10 อูฐ
สุดยอดสัตว์จอมทรหด อันดับแรกของเรามาเริ่มต้น ในดินแดนแห่งความสุดขั้ว อากาศร้อนสุดขั้ว และขั้วด้วย คุณต้องแกร่งพอตัว จึงจะอยู่รอดในทะเลทรายได้ และด้วยเหตุนี้ จึงทำให้อุดอยู่ในอันดับที่ 10 ของสัตว์ที่ได้ชื่อว่า เป็นจอมทรหดที่สุดในโลก เป็นเวลาหลายพันปี ที่ผู้คนต้องเดินทางข้ามดินแดน อันแห้งแล้งอย่างอาระเบีย โดยใช้สัตว์เป็นพาหนะ ที่มีฉายาว่า สำเภาทะเลทราย แต่บางคนไม่ได้เปรียบเทียบ พวกมันไว้ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น บางคนเรียกมันว่า หมาตามใจคณะเดินทาง แต่คณะเดินทางย่อมรู้หน้าที่ของมัน แม้อูฐมีรูปร่างที่อัปลักษณ์ แต่มันก็อยู่รอดในสภาพแวดล้อม ที่แม้แต่ม้าก็อยู่ไม่ได้ กิล ริคเลอร์ ผู้เลี้ยงอูฐ ได้เปิดเผยว่า กูจะปรับตัวเข้ากับสภาพของทะเลทรายได้เก่งมาก ในที่ที่แห้งแล้งและร้อน อาหารไม่เพียงพอ แต่สัตว์ตัวใหญ่พวกนี้ยังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง พวกมันแบกน้ำหนักได้ 600 ปอนด์ เป็นเวลา 10 ชั่วโมงต่อวัน โดยที่ไม่ต้องกินน้ำหรือกินอาหารเลย

ความเก่งกาจของพวกมันก็คือ การปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมรอบรอบตัว ถ้าสังเกตที่รูจมูกของมันจะมีรอยตัดเล็กๆเป็นทางยาว ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อพิเศษที่ช่วยปิดจมูกไว้ เวลาเจอพายุทราย ขนจมูกในนั้น จะช่วยปัดเม็ดทราย ออกไปให้พวกมันหายใจคล่อง ถ้าสังเกตที่ตาของมัน คนตาของมันจะช่วยปกป้องลูกตา ผลจากเม็ดทราย และพวกมันยังมีเปลือกตาสองชั้น ที่ช่วยในการมองเห็น ทำให้พวกมันสามารถเดินข้ามทะเลทราย ได้โดยที่ยังหลับตาอยู่ ดังนั้นอูฐจึงกลายเป็นพระเอกอันโด่งดัง ที่ขาดไม่ได้ในการข้ามทะเลทราย แต่ที่ผิดไปจากความเข้าใจส่วนใหญ่ก็คือ โหนกของมันไม่ได้ใช้เก็บน้ำ แต่ที่จริงเต็มไปด้วยไขมัน ที่ใช้เป็นพลังงานสำรอง ในยามที่ต้องเผชิญกับ ความตรากตรำ คุณสมบัติทุกอย่างหล่อหลอมให้มันเป็นนักเอาตัวรอด แต่อูฐแข็งแกร่งมากแค่ไหน ลองคิดดูว่าถ้าคุณถูกทิ้งไว้กลางทะเลทราย ที่ไม่มีน้ำไม่มีร่ม อุณหภูมิร้อนฉ่ากว่า 120 องศาฟาเรนไฮต์ เป็นความร้อนที่ทำให้คุณเหงื่อแตก เหงื่อกาฬเปียกโชกไปทั้งร่างกาย น้ำหนักในตัวคุณ รถหายไป 12% และต้องเผชิญปัญหาครั้งใหญ่ เมื่อไม่มีน้ำดื่ม ภายในเวลาไม่ถึง 36 ชั่วโมง คุณก็ต้องตาย

ทีนี้ลองจินตนาการว่า ถ้าหากคุณมีความสามารถพิเศษเหมือนกับ อูฐ คุณก็จะสามารถ ทนทานกับความร้อนระอุได้มาก และยาวนาน กว่าคนธรรมดาทั่วไป ไม่เพียงแค่อูฐจะสามารถ สงวนน้ำในตัวไว้ได้ดี กว่าเราเท่านั้น แต่มันยังมีชีวิตรอดอยู่ได้ แม้จะสูญเสียน้ำหนัก ในร่างกายไปมากกว่า 25% และยังอยู่รอดโดยที่ไม่ต้องกินน้ำได้นานถึง 8 วันเลยทีเดียว จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมอูฐถึงกระหายน้ำมาก และสามารถดื่มน้ำ ได้ถึง 21 แกลลอน ภายในแค่ 10 นาที อูฐมีวิธีการดื่มที่ต่างออกไป ซึ่งช่วยให้อูฐ สามารถข้ามพ้นทะเลทราย และกลับมาบ้านได้ นมอูฐช่วยบำรุงสุขภาพมาก ลองคิดถึงภาพทะเลทรายที่ไม่มีอะไรให้ดื่ม โดยเฉพาะเมื่อคุณคิดถึง พืชผักหรือผลไม้ ที่ช่วยเสริมสร้างวิตามินซี ในร่างกายของลูกอูฐ นมอูฐ อุดมไปด้วยวิตามินซี ที่มากกว่านมวัวถึง 3 เท่า และยังมีสารอินซูลิน ซึ่งนักวิจัยให้ความสนใจมาก ในการค้นคว้าว่า อินซูลินในนมอูฐ รักษาโรคเบาหวานได้มากแค่ไหน

อันดับที่ 9 หนู
ขอต้อนรับท่านสู่เมืองดรายโบนส์ เท็กซัส และถึงเวลาออกโรงของ นักควบคุมและกำจัดสัตว์ ไมเคิล โบดาน หนูถูกยกให้เป็นสัตว์จอมทรหดอันดับที่ 9 และเป็นศัตรูอันดับ 1 ของมหาชนด้วย หนูดำรงอยู่บนโลกใบนี้ มากกว่าหลายล้านปีแล้ว ซึ่งพวกมันก็มีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์อยู่ตลอด ซึ่งผลก็คือพวกมันปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตได้ แถมยังขยายพันธุ์ได้มาก พวกมันใช้เวลาตั้งท้องไม่นานเลย หลังจากมันคลอดแล้ว ใน 30 หรือ 45 วันต่อมา พวกมันก็โตพอ ที่จะหากินเองได้แล้ว ในปัจจุบันหนูเพียงคู่เดียว สามารถแพร่พันธุ์ลูกหลานของมัน ได้มากกว่า 15000 ตัวต่อปี ถ้าเผื่อว่าพวกมันรอดทุกตัว และการเอาตัวรอดคือสุดยอดทักษะของหนู หนูจึงถูกจัดให้เป็นสัตว์จอมทรหดอันดับที่ 9 เพราะพวกมันทนทายาด เพราะต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ในการกำจัดมัน ไหนจะโรคที่พวกมันคอยแพร่เชื้อ แต่ไม่นานหนูฝูงใหม่ก็จะย้อนกลับคืนมาอีก

ลองดูตามเมืองใหญ่ๆดู ทุกคนจะได้เห็นหนูอย่างน้อย 1 ตัว วิ่งไปมาอย่างไม่เกรงใจใคร ราวกับเป็นบ้านของพวกมัน และเพราะอะไรหนูจรจัดเหล่านี้ ถึงสามารถกระโดดข้ามหัวเราไปอย่างง่ายดาย เหตุผลแรกคือ หนูเป็นนักกายกรรมที่เก่งกาจมาก พลังเหนือมนุษย์ของมัน ทำให้สามารถ เข้ามาในถิ่นที่อาศัยของเราได้ และเล็ดลอดเข้ามา แม้แต่ช่องทางที่แคบที่สุด หนูอาจเป็นฝันร้ายที่สุดของคุณ แต่คุณเคยคิดบ้างหรือไม่ว่า จะเป็นอย่างไร หากคุณมีพลังอันสุดยอดของหนูอยู่ในตัว หากคุณเป็นหนู คุณจะสามารถหดตัวเข้าสู่รู หรือหลุมที่เล็กกว่าตัวคุณได้ เป็นผลจากกระดูกของคุณ ที่ยืดหยุ่นได้ และคุณจะสามารถ เล็ดลอด ผ่านรูใดๆก็ตาม ที่มีความกว้างกว่าศีรษะของคุณนิดเดียว และคุณจะไม่มีทางติดอยู่ในท่อ เพราะฟันของหนู มีความแข็งแกร่งมากกว่าฟันของคนเราถึง 120 เท่าเลยทีเดียว นั่นแปลว่าคุณสามารถกัดท่อเหล็กให้เป็นรูได้อย่างง่ายดาย แม้แต่ถังขยะหรืออิฐถ่านหินก็ยังแพ้คุณ และหากว่าไม่มีท่อระบายน้ำ ให้ปีนลงข้างล่าง อย่าตกใจเพราะหนูนั้น มีรูปร่างที่เล็กและเรียวบางกว่าคนมาก ต่อให้ต้องตกจากที่สูง ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด และด้วยพลังอันสุดยอดของหนู ทำให้คุณรอดพ้นจากการตกตึก 5 ชั้นได้ เพราะเหตุนี้ เราจึงต้องนัดทุกกรณีออกมาจากตำรา

เพื่อกำจัดจอมทรหดตัวนี้ ยาเบื่อหนูคืออาวุธที่เราโปรดปราน แต่หนูก็ยังพบหนทางเอาตัวรอดจากสงครามเคมีไปได้ ดูเหมือนหนูจะกัดกินอาหารใหม่ที่มันพึ่งเจอได้เพียงนิดเดียวเท่านั้น รวมไปถึงยาเบื่อหนู ซึ่งทำให้มันมีเวลาสร้างภูมิต้านทาน หนู 1 คู่มีอัตราการแพร่พันธุ์ที่เร็วมาก นี่อาจเป็นวิวัฒนาการขั้นสูงของหนู นักวิทยาศาสตร์ยังพูดถึงมันว่า เจ้าถุงยาพิษตัวจิ๋วที่มี 4 ขาและมี 1 หาง แต่มีมนุษย์อีกคนที่ทนทานรับความทรมานจากยาเบื่อหนูได้ เขาคนนั้นคือนักบวชจอมโฉด รัสปูติน ปี 1916 ยุคพระเจ้าซาร์แห่งรัสเซีย รัสปูตินต้องดาวดิ้นสิ้นชื่อของตนจากแผนลอบสังหารด้วยการวางยาพิษเขาในอาหาร และเหล้าที่ผสมไซยาไนด์ แต่เขากลับไม่ตาย ยาพิษไม่อาจทำร้ายเขาได้ เพราะรัสปูตินเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง ไซยาไนด์จึงไม่อาจกระจายพิษไปทั่วร่างเขาได้ เช่นเดียวกับหนูรัสปูตินแกล้งทำเป็นตาย จนเมื่อเหล่าผู้ลอบสังหารได้ตัดสินใจยิงเขาอีกหลายนัด แต่เขาก็ยังไม่ตายอีก จนกระทั่งเหล่าผู้ลอบสังหารรุมทุบตีที่ศีรษะเขา และจับเขาโยนลงแม่น้ำ รัสปูตินจึงสิ้นชื่อในที่สุด เขาไม่ได้ตายเพราะพิษหรือเพราะกระสุนปืน แต่ตายเพราะจมน้ำ และเพราะหนูกำจัดได้ยากยิ่งกว่าฆ่ารัสปูติน มันจึงถูกจัดในอันดับที่ 9 ของ 10 สุดยอดสัตว์จอมทรหดของเรา

อันดับที่ 8 นกแกนเน็ต
ทะเลคือสถานที่ที่อันตรายสุดขั้ว โดยเฉพาะถ้าคุณคือนกแกนเน็ต นกแกนเน็ตออสเตรเลเชี่ยน เป็นนักล่าปลาตัวฉกาจ แต่มีปัญหาอยู่อย่างคือมันจะจับปลากินยังไง ในเมื่อมันส่งเสียงร้องหรือทะเลอยู่ร้อยฟุต วิธีแก้ปัญหานั้นแสนง่าย แม้มันต้องเสี่ยงตาย นกแกนเน็ต จึงได้เป็นสัตว์จอมทรหดอันดับ 8 เพราะไม่มีสัตว์ตัวไหนในโลก ที่จะรอดชีวิตจากการดิ่งพสุธาลงทะเล ด้วยความเร็ว 90 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ การพุ่งชนทุกอย่างด้วยความเร็วระดับนั้นอาจถึงขั้นตายได้ ถ้าคุณดิ่งลงทะเลด้วยความเร็วระดับนี้ ร่างกายคุณจะเละเป็นโจ๊ก แต่นกแกนเน็ต เป็นสุดยอดสัตว์จอมทรหดได้ ด้วยรูปลักษณ์อันแสนพิสดาร ที่รับประกันได้ว่ามันจะไม่จมน้ำ เพราะนกแกเน็ตไม่มีรูจมูก ซึ่งช่วยป้องกันจงอยปากของมันจากแรงกระแทกได้ดี ส่วนร่างกายของมันก็เต็มไปด้วยถุงลมที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนัง ก่อนที่จะพุ่งลงน้ำ นกแกนเน็ตจะขยายถุงลมเหล่านั้นให้พอง เพื่อดูดซับความเจ็บจากแรงกระแทก

จะเป็นยังไงถ้ามีระบบนี้ติดในรถยนต์ เราต่างจากนกแกนเน็ต ตรงที่ร่างกายของคนเราไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อรองรับแรงกระแทก แล้วถ้าจะมีคนบางกลุ่มที่ต้องการดิ่งพสุธาลงน้ำ ด้วยความเร็วกว่า 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงละ ขอต้อนรับสู่กีฬาอันสุดขั้วอย่างกีฬากระโดดหน้าผามืออาชีพ พวกเขากระโดดจากความสูงที่มากกว่ากีฬากระโดดน้ำโอลิมปิกถึง 2 เท่า และต้องกระแทกกับผิวน้ำแรงกว่าถึง 9 เท่า ถึงจะดูสนุก แต่กีฬากระโดดหน้าผาก็มีความอันตรายสูงมาก แม้แต่ก้าวแรกที่กระโดดลงไป ด้วยเหตุนี้นกแกนเน็ตจึงทำได้ดีเยี่ยม เพราะมันมีระบบรักษาความปลอดภัยอยู่ในร่างกาย และทนทานได้กับความเร็วระดับสูง

อันดับที่ 7 กัวนาโค่
จอมทรหดตัวต่อไปอยู่ในเทือกเขาแอนดิสแถบอเมริกาใต้ เจ้าตัวนี้เป็นญาติกับอูฐ ซึ่งไม่ได้อยู่รอดจากความร้อน แต่จากความสูง เชิญพบกับ กัวนาโค่ พวกมันจะอาศัยอยู่บนที่สูงเหนือระดับน้ำทะเลมากกว่า 5 กิโลเมตร บนที่ที่อากาศเบาบางจนแทบขาดใจ มีออกซิเจนแค่ 1 ใน 3 เมื่อเทียบกับความสูงระดับน้ำทะเล และด้วยเหตุนี้กัวนาโค่ จึงเป็นสัตว์จอมทรหดอันดับที่ 7 เพราะพวกมันสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ที่ทำให้มนุษย์อย่างเราอาจขาดใจตายได้

ลองคิดดูว่าถ้าหากคนถูกทิ้งให้อยู่บนภูเขาที่สูงกว่า 3000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ในชั้นบรรยากาศที่แสนจะเบา ในชั้นบรรยากาศที่แสนจะเบาบาง อาจจะทำให้คุณเจ็บป่วยหรือหมดแรง เพราะอวัยวะทุกส่วนในร่างกายของคุณต้องการออกซิเจนที่เพียงพอ ในออกซิเจนนั้น อุดมไปด้วยเซลล์เม็ดเลือดแดง เลือดปริมาณ 1 ช้อนชาจะมีเซลล์เม็ดเลือดแดงอยู่ 19000 เซลล์ ฟังดูเหมือนเยอะแต่กลับอากาศเบาบางมันยังไม่มากพอ ด้วยเหตุนี้กีฬาปีนเขาจึงเป็นกีฬาที่อันตรายอย่างมาก บนความสูงกว่า 5000 เมตรจะทำให้คุณหายใจเร็วกว่าปกติถึง 4 เท่า แต่กระนั้นก็ยังไม่ได้รับออกซิเจนที่เพียงพอ จุดที่ทำให้คุณอาจถึงตายคือความสูงที่ 75000 ฟุต ระบบย่อยอาหารของคุณจะหยุด ออกซิเจนในตัวคุณจะค่อยๆหมดลง และเริ่มกลืนกินตัวเอง หากยังฝืนต่อไปคงแย่แน่ ลองคิดดูว่าถ้าเราเป็นเหมือนกัวนาโค่

มนุษย์ที่มีเลือดแบบกัวนาโค่นั้น จะมีเซลล์เม็ดเลือดแดงมากกว่าคนทั่วไปถึง 4 เท่า และเซลล์เม็ดเลือดแดงทุกเซลล์ก็ยาวกว่าเป็น 2 เท่า เซลล์เม็ดเลือดยิ่งมากก็ยิ่งสะสมออกซิเจนในที่ที่อากาศเบาบาง ดังนั้นกัวนาโค่จึงเหมาะจะอยู่อาศัยในพื้นที่ที่สูงกว่ามนุษย์เรา กัวนาโค่ เคยได้รับการพรรณนาว่า เป็นสัตว์รูปร่างพิลึกที่เกือบถูกจัดให้เป็นสัตว์ป่า แต่ความสามารถของมันยังต่ำกว่าเกณฑ์ แต่ก็เช่นเดียวกับสัตว์จอมทรหดอื่นๆ เมื่อถึงคราวต้องเอาตัวรอดอย่างถึงที่สุด สัตว์รูปร่างพิลึกนี้กับสอนบางอย่างให้เราได้

อันดับที่ 6 แมลงสาบ
หากหนูคือฝันร้ายที่สุดของคนเรา ฉะนั้นแมลงสาบก็เปรียบเสมือนกับฝันร้ายอันน่ากลัวของหนูอีกต่อหนึ่ง แมลงผู้เป็นทรราชนี้ ถูกจัดให้เป็นสัตว์จอมทรหดอันดับที่ 6 เพราะไม่ว่าเราจะจู่โจมมันด้วยอะไรมันก็รอดได้ทุกอย่าง ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะมันมีหนวดที่ไวต่อประสาทสัมผัสอย่างมาก และมันมีสมองอยู่ที่กลางแผ่นหลัง แมลงสาบจึงหลบพ้นทุกอย่างที่พุ่งมาได้ นั่นเป็นเพราะพวกมันเรียนรู้มาอย่างโชกโชน ความจริงคือยาวนานกว่า 400 ล้านปี แมลงสาบกัดกินไดโนเสาร์มานานกว่าที่มันซุกอยู่ในห้องครัวของคุณเสียอีก

แต่มีห้องครัวแห่งหนึ่งในแถบชานเมืองของเนติค เมสซาซูเสตส์ ที่มีเรื่องเกี่ยวกับวีรกรรมการเอาตัวรอดของแมลงสาบ เมื่อ 30 ปีก่อน นักวิทยาศาสตร์ในฐานทัพภาคท้องถิ่น ได้ค้นคว้าศึกษา และทำการทดลองกับเหล่าแมลงสาบมาดากัสการ์ขนาดยักจำนวนหนึ่ง โดยการดมสารกัมมันตรังสีให้แมลงสาบเหล่านั้น แมลงสาบสามารถทนทานต่อสารกัมมันตรังสีได้มากกว่ามนุษย์ถึง 200 เท่า แต่ในตอนท้ายของการทดลอง นักวิทยาศาสตร์ถูกทิ้งให้อยู่กับกลุ่มแมลงสาบที่โดนสารกัมมันตรังสี พวกเขาจึงตัดสินใจ วางยาพิษแมลงสาบเหล่านั้น แล้วจัดการขังพวกมันไว้ในกระเป๋าพลาสติก เพื่อนำไปฝังกลบภายหลัง แต่ไม่ทราบว่าแมลงสาบเหล่านั้นได้หลุดออกมาเมื่อไหร่ พวกมันรอดพ้นจากยาพิษได้ และกัดกระเป๋าจนขาด ก่อนที่จะวิ่งพล่านไปมาอย่างบ้าคลั่ง มีบ้านหลังหนึ่งที่ในครอบครัวต้องกินแมลงสาบที่ถูกพิษเป็นอาหารเช้า ด้วยเหตุนี้กองทัพจึงมีการพิพากษาว่า วิธีเดียวที่จะฆ่าพวกมันได้ก็คือเอาค้อนทุบให้มันตาย แต่แม้กระนั้นคุณก็ต้องเล็งเป้าทุกมันให้ดีๆ เพราะแมลงสาบสามารถอยู่ได้ถึง 1 เดือนโดยที่ไม่มีหัว ก่อนจะตายลงด้วยความโหยหิว จุดเด่นของแมลงสาบคือพวกมันแกร่งเกินพิกัด เพราะการจะกำจัดมันให้พ้นนั้นทำได้ยากมาก คนส่วนใหญ่คิดว่าแมลงสาบเป็นสัตว์ที่น่ารังเกียจ

อ่านต่อ 10 อันดับสัตว์ที่สามารถเอาตัวรอดได้เก่งที่สุด

5 อันดับเพชรฆาตใต้ทะเลลึก
รักติดหนึบของปลาแองเกลอร์
เสียงประหลาดของสัตว์ปริศนา
10 อันดับการคิดค้นของสัตว์
ตัวอ่อนปลาฉลามสุดโหด
10 อันดับสัตว์ยอดแหยะ
10 อันดับสัตว์สุดยอดคุณพ่อ
10 อันดับสัตว์ผีดูดเลือด
10 อันดับสัตว์มีพิษ
10 อันดับสัตว์สถาปนิก
10 สายพันธุ์งูที่น่าทึ่ง
15 สายพันธุ์สัตว์โลกสวยงามที่ใกล้สูญพันธุ์
25 สัตว์น้ำรูปร่างหน้าตาประหลาด
อนาคอนด้า งูยักษ์แห่งอเมซอน


อินดี้

24 สิ่งอันตรายทำให้ตายได้บนโลกใบนี้
1. เต้ามรณะ
เมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา แถวลานจอดรถเทรลเลอร์ ที่ วอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ดอนนา แลนจ์ หญิงใหญ่อเมริกันวัย 51 ปี ทำให้คู่รักของเธอต้องตายเพราะหายใจไม่ออก ขณะซัดกันตอนเมา ด้วยเต้าขนาด 38 DD ของเธอ!

2. ตดอันตราย
มาร์ค ฮิกกินส์ ไอ้หนุ่มอเมริกัน ตดพร่ำเพรื่อมากไปหน่อยในงานปาร์ตี้ และเมื่อใครบางคนทักเข้าผลคือโดนนายฮิกกินส์จ้วงแทงไปซะ 4 ราย และหนึ่งในนั้นถึงขั้นตายเพราะตดเลยทีเดียว!

3. ถนนสายมรณะ
เมื่อปี 2533 มีรถชนกันแหลกลาญบนถนนหลวง 75 ในเทนเนสซี ถึง 99 คัน มีคนม้วยมรณาไปทั้งสิ้น 12 ราย และอีก 42 รายอาการร่อแร่

4. ยาอันตราย
ไม่ใช่โคเคน ยาอี ยาเค ยาบ้า หรือเฮโรอีนที่เป็นยาอันตรายสุดๆ สามารถฆ่าใครได้ แต่มันคือยานอนหลับอ็อกซีคอนติน กับ วิโคดิน ต่างหาก!

5. ด.ญ.โคตรอันตราย
ตอนที่ แมรี เบล อายุ 10 ขวด เธอเคยก่ออาชญากรรมร้ายแรง ด้วยการฆ่าน้อง มาร์ติน บราวน์ วัย 4 ขวบ และอีกหนึ่งปีต่อมา เธอก็ฆ่าน้อง ไบรอัน โฮว์ วัย 3 ขวบไปอีกราย แม้เด็กทำอะไรไม่ผิดเพราะเป็นผู้เยาว์ แต่ผลของการฆ่าเพื่อนตัวน้อยๆ ของเธอคือโทษจำคุก 12 ปี

ุ6. ไซโคลนมรณะ
เมื่อปี 2513 พายุไซโคลนนามโบลา เข้าถล่มอีสต์ปากีสถาน (หรือบังกลาเทศในปัจจุบัน) ฆ่าคนไปทั้งสิ้น 300,000 - 500,000 คน

7. ตัวตลกมรณะ
ตัวตลกนาม โพโก เดอะคลาวน์ หรือนาย เวย์น เกซี ฆ่าเด็กๆ และผู้ใหญ่ไปทั้งหมด 24 ราย โดยส่วนใหญ่หลังจากฆ่าแล้ว เขาจะเอาไปฝังไว้ใต้บ้านตัวเอง และที่โดนจับได้ เพราะกลิ่นของศพหึ่งมากจนไปเตะจมูกม๋าต๋า!

8. อาหารโคตรเป็นพิษ
เมื่อไม่นานมานี้ที่อินเดีย เด็กนักเรียนถึง 23 รายในแพตนา ต้องตายหมู่ภายหลังทานอาหารเที่ยงที่มียาฆ่าแมลงปนเปื้อนมาด้วย

9. เมล็ดพันธุ์อันตราย
เมล็ดละหุ่งเล็กๆ แค่ 4 เม็ด มีอันตรายมากพอจะฆ่าใครสักคน เพราะในเมล็ดละหุ่งมีสารไรซินซึ่งมีพิษทำให้เราถึงฆาตได้

10. ภาพยนตร์อันตราย
'The Conqueror' เมื่อปี 2499 นำแสดงโดย จอห์น เวย์น คือหนังที่มีทีมงานตายเพราะมะเร็งเฮงซวย มากกว่า 90 คน เนื่องจากมีการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ห่างจากกองถ่ายไป 220 กม.!

11. คนแคระโคตรอันตราย
บอนนี พาร์คเกอร์ หรือที่รู้จักกันในนาม 'บอนนี กับไคลด์' คู่รักนักปล้นโคตรคลาสสิก คือมนุษย์ตัวเล็กที่อันตรายสุดๆ ในโลก ตลอดชีวิตด้วยความสูงไม่ถึง 147 ซม. บอนนีฆ่าคนไปไม่ต่ำกว่า 13 ศพ

12. ทอมโหด
ระหว่างปี 2532-2533 ไอลีน 'มอนส์เตอร์' วอร์นอส เป็นโสเภณี และสาวเลสเบี้ยนที่ฆ่าคนไปทั้งหมด 7 ศพ แต่จากความโหด อีก 13 ปีต่อมาชีวิตของเธอก็กลายมาเป็นหนังออสการ์ชื่อ 'Monster'!

13. รถไฟเหาะมรณะ
บิก ดิปเปอร์ รถไฟเหาะที่ แบตเทอร์ซีพาร์คฟันแฟร์ ในลอนดอน เสียวสุดๆ กว่าทุกรอบที่เคยวิ่ง เมื่อมันเกิดอุบัติเหตุในปี 2513 คร่าชีวิตเด็กๆ ไป 5 คน เจ็บอีก 13 ราย

14. หมานำทางอันตรายสุดๆ
'ลักกี้' หมานำทางแสนรู้ พาเจ้าของของมันเดินไปเจอสถานการณ์อันตรายถึง 4 ครั้ง ครั้งแรกคือพาไปตัดหน้ารถบัส ครั้งต่อมาพาเดินตกท่าน้ำ ครั้งที่ 3 พาไปขวางรถไฟและครั้งที่ 4 ลงไปเดินในทางด่วน!

15. ลิงมรณะ
บาบูน คือสายพันธุ์จ๋อที่โหดสุดๆ ในโลก แต่ละปีมีคนโดนพวกมันทำร้ายจนตายกว่า 100 คน และเมื่อปี 2553 แก๊งบาบูนยังเคยเข้าถล่มเมืองเคปทาวน์เพื่อเมากันเละ ก่อนจะออกไปคร่าชีวิตหมาเกรดเดนผู้น่าสงสารไป 1 ตัว

16. นางเอกหนังโป๊โคตรอันตราย
ระหว่างรับจ๊อบปาร์ตี้เซ็กซ์ แช็กเกอร์ อมานดานางเอกหนังโป๊กับ เจสัน แอนดรูว์ส คู่รักของเธอร่วมกันฆ่าคนไป 1 ศพ แล้วขโมยเงินไป 1 แสนเหรียญ

17. เซ็กซ์ทอยมรณะ
เมื่อปี 2554 แซม แมซโซลา ตายคาที่ขณะมีเซ็กซ์โดยสวมใส่หน้ากากหนัง และ ในสภาพถูกล่ามโซ่ติดไว้กับเตียง

18. โคตรสงคราม
ระหว่างปี 2394-2407 กองกำลังไทปิง ในเมืองจีน ฆ่าคนไปถึง 100 ล้านศพ หรือ 1 ใน 8 ของประชากรโลกในช่วงเวลานั้น!

19. แมงมุมโคตรอันตราย
ฟันเนลเว็บ คือแมงมุมสายพันธุ์โคตรอันตราย ใครโดนมันกัดสามารถไปเยี่ยมนรกได้ภายในเวลาไม่ถึง 30 นาที

20. ทำเสียวอันตราย
การช่วยตัวเองแบบ Autoerotic Asphyxiation หรือการบีบ-รัดคอไปด้วยทำให้มีคนตายไปแล้วกว่า 1,000 ราย เดวิด คาราดีน หรือ
'บิล' จาก 'Kill Bill' ก็มาตายเสียวๆ แบบนี้ในโรงแรมบ้านเรา

21. โคตรแผ่นดินไหว
โคตรแผ่นดินสะเทือนครั้งเลวร้ายสุดๆ ของมวลมนุษยชาติ คือเมื่อปี 2099 แผ่นดินไหวที่เมืองชานสี เมืองจีน คร่าประชาชนไปถึง 830,000 ราย

22. ปืนโคตรอันตราย
นับตั้งแต่มันถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2490 ปืนเอเค-47 คืออาวุธที่ใช้ยิงคนดับราว 250,000 คนอยู่ทุกปี!

23. วิดีโอเกมมรณะ
ในปี 2548 ศาลอเมริการะบุถึงเหตุที่นาย เดวิน มัวร์ ฆ่าตำรวจตายไป 3 ราย เพราะเขาแยกไม่ออกระหว่างชีวิตจริงกับเกม GTA ที่ชอบเล่น

24. ส้วมอันตรายสุดๆ
เมื่อปี 2488 ลูกเรือดำน้ำเยอรมันต้องตายไป 4 ศพขณะปฏิบัติหน้าที่ เนื่องเพราะสุขาในเรืออูดันพลิกคว่ำแล้วปล่อยแก๊สคลอรีนออกมาคลุ้งภายในเรือเต็มไปหมด!

แหล่งรวมบทความจัดอันดับ สารคดีประวัติศาสตร์ บทความสารคดีจักรวาลและดาวเคราะห์ บทความสารคดีสงคราม บทความสารคดีภัยธรรมชาติ บทความสารคดีชีวิตสัตว์ บทความสารคดีอาวุธทางการทหาร บทความสารคดีการจัดอันดับ บทความสารคดีวิทยาศาสตร์ บทความสัมภาษณ์คนดัง บทสนทนาปัญหาเศรษฐกิจ บทสนทนาประเด็นข่าวร้อน เรื่องราวน่ารู้ ความรู้ทั่วไป สังคม เศรษฐกิจ การเมือง ไลฟ์สไตล์ สุขภาพ ผู้หญิง ความงาม แม่และเด็ก สัตว์เลี้ยง อาหาร ร้านอาหาร เกมส์ เทคโนโลยี มาดูกันได้ที่  จัดอันดับ

เล่าเรื่องสยองขวัญ นั่งซากหวาดผวา ศพล่อเสือ
25 การทรมานสุดโหดในประวัติศาสตร์
มนุษย์กินคนในตำนาน ซอว์นี่ บีน (Sawney Bean)
25 อาหารแปลกจากทั่วโลก
10 อันดับสุดยอดเรื่องเล่าสยองขวัญเดอะช็อค
จัดอันดับ
เรื่องเล่าสยองขวัญ
ประวัติศาสตร์
เมนูอาหาร
สุขภาพ

อินดี้

กว่าจะมีวันนี้ของผู้ทรงอิทธิพลโลก
ที่มา FHM
กว่าจะมีวันนี้ของผู้ทรงอิทธิพลโลก

การก้าวสู่ความสำเร็จในชีวิต เป็นสิ่งที่มนุษย์ที่มีลมหายใจทุกคนล้วนโหยหาแต่กว่าจะไปให้ถึงยังจุดนั้น หลายคนล้มเหลว หลายคนผิดหวัง และหลายคนต้องเลิกราในสิ่งที่ทำไป แต่ในเมื่อยังมีลมหายใจใครบางคนก็ยังอาจหาญที่จะสู้ต่อ...สู้ต่อไปเพื่อจุดหมายในความสำเร็จ แม้มันจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินที่จะพยายาม FHM จัดสกู๊ปปลุกไฟให้ลุกโชนในตัวคุณด้วยเรื่องราว 'จุดเริ่มต้นความสำเร็จของ 20 คนดังระดับโลก' ไปดูกันว่า กว่าจะก้าวขึ้นมายังบัลลังก์แห่งความสำเร็จพวกเขาต้องลุยกับอะไรมาบ้าง...

1. บารัก โอบามา : อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกากว่าที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำแห่งประเทศมหาอำนาจเช่นในวันนี้ ในวัยเด็ก โอบามา
เป็นเด็กลูกครึ่งผิวสีที่มีคุณพ่อเป็นชาวเคนย่า ส่วนคุณแม่เป็นชาวอเมริกัน คุณพ่อคุณแม่ของโอบามาเลิกรากัน และเป็นคุณแม่ที่พาเขาไปเติบโตที่อินโดนีเซีย ซึ่งที่นั่นเป็นบ้านของพ่อเลี้ยงคนใหม่ ในช่วงชีวิตวัยรุ่น โอบามาเคยหันไปพึ่งยาเสพติด แต่จุดเปลี่ยนของชีวิตที่ทำให้เขากลับมาได้คือการเข้าไปเป็นสมาชิกของโบสถ์ Trinity รวมทั้งได้มาเป็นผู้อำนวยการโครงการพัฒนาชุมชน และเป็นวิทยากรตามมูลนิธิต่างๆ ซึ่งจากพื้นฐานการพูดต่อหน้าผู้คนนี้เอง จึงส่งให้เขากลายเป็นคนที่มีวาทศิลป์นำพาให้ก้าวสู่เส้นทางการเมือง และกลายมาเป็นประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐฯ
เช่นทุกวันนี้

2. สตีฟ จ็อบส์ : อดีต CEO แห่ง Apple
เส้นทางชีวิตของสตีฟ จ็อบส์ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาโตขึ้นมากับพ่อแม่บุญธรรมในชนชั้นแรงงาน จ็อบส์ตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยหลังเข้าเรียนไปได้เพียง 6 เดือน เขาต้องอาศัยนอนตามห้องเพื่อน เก็บกระป๋องแลกเงินเพื่อนำไปซื้ออาหาร แม้ชีวิตจะดู
ดราม่าสุดๆ แต่จ็อบส์กลับเป็นคนที่มีความศรัทธาในสิ่งที่ทำอย่างแรงกล้า และจากการที่เคยไปลงเรียนวิชาศิลปะการประดิษฐ์และการ
ออกแบบตัวอักษร (Calligraphy) ตอนที่ยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยก็ทำให้เขาคิดค้นพัฒนาเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มีชื่อว่า
Macintosh ขึ้นมา โดยมันมีฟร้อนให้เลือกใช้งานหลากหลายแถมยังปฏิวัติรูปร่างหน้าตาคอมพิวเตอร์แบบเดิมๆ จนหมดสิ้นทั้งหมดยังเป็นการปฏิวัติวงการแบบเบาๆ เพราะอีกหลายปีต่อมาจ็อบส์ก็ได้กลายเป็นเจ้าพ่อแห่งนวัตกรรมมือถือตระกูล I (ไอ) สตีฟ จ็อบส์ ที่เข้ามาพลิกโฉมไลฟ์สไตล์ของผู้คนไปทั่วโลก

3. โอปรา วินฟรีย์ : พิธีกรรายการโทรทัศน์
หากจะหาว่าใครคือสุภาพสตรีผิวสีที่ทรงอิทธิพลของโลก ชื่อพิธีกรคนดังโอปรา วินฟรีย์ ต้องติดอยู่ในลิสต์อย่างไม่ต้องสงสัย แต่กว่าจะผ่านมาถึงความสำเร็จได้ในทุกวันนี้ โอปราต้องเจอแต่ 'โจทย์แรงๆ' กับชีวิตมากมาย เธอถูกเพื่อนชายและลุงแท้ๆ ลวนลามจนตั้งท้องตั้งแต่อายุ14 ไม่นานจากนั้น แม่ก็ส่งเธอไปอยู่สถานกักกันเด็กและเยาวชน ต่อมาก็ได้ย้ายไปอยู่กับพ่อ แต่กลับถูกน้องชายของพ่อล่วงละเมิดทางเพศจนตั้งท้องเป็นครั้งที่ 2 แต่จากงานพาร์ตไทม์ที่เธอรับอาสาเป็นผู้อ่านข่าวย่อยให้กับสถานีวิทยุชุมชนแห่งหนึ่ง ก็ได้กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นที่ส่งให้ผู้คนเห็นแววความสามารถของเธอ ในที่สุดเธอก็ได้กลายเป็นผู้ประกาศข่าวผิวสีคนแรกที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และท้ายที่สุด โอปราก็ได้กลายมาเป็นพิธีกรแถวหน้าของประเทศ ที่สามารถทำเรตติ้งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์รายการโทรทัศน์ของสหรัฐอเมริกา มากไปกว่านั้น เธอยังถูกจัดอันดับว่าเป็นหญิงชาวอัฟริกันอเมริกันที่ร่ำรวยที่สุดแห่งศตวรรษที่ 20 อีกด้วย

4. เนลสัน แมนเดลา : อดีตประธานาธิบดีอัฟริกาใต้
จุดเริ่มต้นของความเป็นนักสิทธิมนุษยชนผู้ยิ่งใหญ่ของแมนเดล่า เกิดขึ้นจากการที่เขาได้เข้าไปเป็นผู้นำในการต่อต้านการแบ่งแยกสีผิวในประเทศอัฟริกาใต้ ก่อนจะถูกจับกุมในข้อหากบฏอยู่หลายปี ไม่กี่ปีถัดมา หลังกลับมาได้รับอิสรภาพอีกครั้ง เขาก็ยังคงมุ่งมั่นเรียกร้องความเท่าเทียมนี้มาตลอด ในที่สุดก็ถูกจับอีกครั้งและถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แต่ด้วยพลังศรัทธาที่แมนเดลาได้สร้างไว้กับผู้คน ทำให้เกิดการเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวเขาด้วยวิธีการต่างๆ อาทิ การจัดคอนเสิร์ตขึ้น ณ กรุงลอนดอน โดยมีผู้คนเข้าร่วมกว่า 72,000 คน แถมยังถ่ายทอดสดไปทั่วโลกสุดท้ายแมนเดล่าจึงได้รับการปล่อยตัว และในปี 1993 เขาก็ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ก่อนที่ในปีถัดมา เขาจะได้
รับคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นจากการเลือกตั้งในอัฟริกาใต้ จนได้ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดี พร้อมทั้งเปลี่ยนแปลงแก้ไขกฎหมายการเหยียดสีผิวอย่างเป็นรูปธรรมเป็นครั้งแรกในอัฟริกาใต้

5. แจ็ค หม่า : นักธุรกิจอี-คอมเมิร์ชแห่งอาลีบาบา
จากครูสอนภาษาอังกฤษที่ได้เงินเดือน 500 บาท สู่ผู้นำอาณาจักรธุรกิจอี-คอมเมิร์ชในนาม Alibaba ที่มีมูลค่ามากกว่า 5 ล้านล้านบาท เหตุการณ์ซึ่งนำความสำเร็จมาให้แจ็ค หม่าดังเช่นทุกวันนี้เกิดเมื่อตอนที่เขาไปเยี่ยมเพื่อนที่อเมริกาด้วยความบังเอิญเขาได้ให้เพื่อนลองค้นหา
ชื่อสินค้าที่เป็นภาษาจีนในโลกออนไลน์ซึ่งปรากฏว่าไม่พบผลการค้นหาใดๆ เลยจากผลลัพธ์ที่เป็นศูนย์นั้นเอง จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้แจ็ค หม่า ได้ค้นพบช่องว่างทางธุรกิจในโลกออนไลน์ จนทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีของโลกในปัจจุบัน

แหล่งรวมบทความจัดอันดับ สารคดีประวัติศาสตร์ บทความสารคดีจักรวาลและดาวเคราะห์ บทความสารคดีสงคราม บทความสารคดีภัยธรรมชาติ บทความสารคดีชีวิตสัตว์ บทความสารคดีอาวุธทางการทหาร บทความสารคดีการจัดอันดับ บทความสารคดีวิทยาศาสตร์ บทความสัมภาษณ์คนดัง บทสนทนาปัญหาเศรษฐกิจ บทสนทนาประเด็นข่าวร้อน เรื่องราวน่ารู้ ความรู้ทั่วไป สังคม เศรษฐกิจ การเมือง ไลฟ์สไตล์ สุขภาพ ผู้หญิง ความงาม แม่และเด็ก สัตว์เลี้ยง อาหาร ร้านอาหาร เกมส์ เทคโนโลยี มาดูกันได้ที่  จัดอันดับ

ผู้หญิงสองคนในชีวิต อับราฮัม ลินคอล์น
ตำนานผีญี่ปุ่น บ้านแห่งจาน
ทำนายดวงชะตาชาวราศีเมษ ตลอดปี 2560 ดวงคู่สร้างคู่สม
ความฝันที่บอกว่าคุณจะมีความรัก
เสน่ห์ เล่ห์มนต์ คาถากล่อมหญิงของชายไทย
จัดอันดับ
เรื่องเล่าสยองขวัญ
ประวัติศาสตร์
เมนูอาหาร
สุขภาพ


อินดี้

TOP 15 MOVIE SETS BELIEVED TO BE CURSED
15. The Ghost of Goodnight Lane
Alin Bijan is a famous filmmaker whose career comes from humble paranormal origins. As such, he is probably one of the few directors that has been directly inspired by ghosts. Twenty-three years ago Alin bought two buildings and converted them into a single movie studio. An old ranch once stood on the property in the late 1800s, where no less than five people are rumored to have died.

When Alin started to hear shuffling noises around corners and in closets, he soon concluded that he wasn't working alone. Coworkers began to vouch for him, saying that they saw heavy filming equipment move on its own, as well as phantasmal visions of a strange figure. One of his colleagues said they felt an invisible hand harshly slap them in the face. Visitors started to experience the same unexplainable sightings, and a team of paranormal investigators soon verified that the studio was indeed haunted a short time later.

While a paranormal presence would be enough to send most directors packing, Alin found inspiration from the ordeal instead. He decided to write a script about a ghost haunting a movie set. He called the script "The Ghost of Goodnight Lane", and he decided to use his real haunted studio as a set. Sure enough, the stars of the film all started to experience paranormal encounters of their own.

Lights would go on and off when no one was around, and ceiling fixtures would fall from the ceiling. It wasn't uncommon for distant voices to call them by first name. Although this was all very disturbing, nothing too dangerous happened (unlike the other movies on this list). This could be because Lacey Chabert ["Sha-bear"] (from "Mean Girls") says that she made a friendly pact with the spirits early on.

14. Three Men and a Baby
Ted Danson's 1987 comedy Three Men and a Baby was supposed to be a classic feel-good movie, but people weren't laughing after a ghost made a cameo. In one scene, two characters walk into the room to look at a baby. As they pick him up and start to walk away, you can catch a glimpse of something that was clearly unscripted. In the background is what appears to be a young boy staring through a crack in the door. The figure is not smiling at all as he looks straight into the camera. Touchstone Pictures has since explained the ghost as nothing more than a cardboard cutout that was used in a deleted scene. However, not everyone is convinced. When you compare a still frame of the cardboard cutout with that of the ghost, there are enough discrepancies that the rumor continues to live on. Take a closer look. Do you think these two images look alike? Ghost, or no ghost?

13. "The Ring"
Most people will agree that this movie is creepy enough in its own right, but what if I showed you a little something extra in the background that you might not have noticed the first time around? The scary surprise happens during a scene where the father is picking his son off the kitchen floor. Pay close attention to the window in the center of the background. You should see what I'm talking about as soon as the window comes into focus. A haunting silhouette silently leans into the window sill from the left.

The shadowy figure seems to casually regard the camera for a brief moment. As the actors approach, it slowly leans out of sight. This clip, originally shown on a Japanese paranormal television show, has since become the center of much debate. While some people say that it looks like a stagehand who forgot to get out of the way, others say that the figure looks like a ghost. Could this set be cursed? If the YouTube description for this video is to be believed, then even the producers could not come up with a proper explanation.

12. "The Wizard of Oz"
This timeless classic is also timelessly cursed. There were so many accidents on set that the film has since earned itself quite a reputation in the following years. It didn't take very long for things to go wrong. Just nine days after production had started, Buddy Ebsen, the actor who played the tin man, found himself gasping in the hospital. The aluminum powder that the makeup team had coated his face with now coated the inside of his lungs instead. He had inhaled too much of it. His skin turned blue and he could barely breathe, but he survived.

An actor named Jack Haley soon replaced him, but he suffered an eye infection from the makeup. Meanwhile, the Wicked Witch was nearly killed after a special effects mistake left her covered in flames. This pushed production back for another two weeks as she slowly recovered. Even the animals weren't spared from the set's wretched curse. The flying monkeys reportedly fell from their wires quite often. At one point, somebody even stepped on Toto ["Toe-toe"] and broke the poor dog's paw. With all of this bad luck and turmoil, it should come as no surprise to learn that the production company was not exactly eager to make a sequel. Simply put, nobody was brave enough to see what would happen if they tried to film a second time.

11. "The Matrix"
For such an iconic movie as "The Matrix", the series itself surely has been riddled with bad luck. As much as the fans would like to see another installment, it seems a curse has brought the series to a halt. It all started after shortly after a sequel was in the works. The pop singer Aaliyah ["Ah-lee-yah"] agreed to play the part of Zee, but a freak plane crash suddenly ended her life in 2001. Her death was the first of many. Just two months later, Gloria Foster, who played the Oracle in the first movie, died of diabetes-related complications in the middle of filming the sequel. Around this time, Keanu ["Key-ah-new"] Reeves' sister was diagnosed with cancer, which she still struggles with to this day.

As if all of this tragedy weren't enough, Keanu Reeves' girlfriend had a stillbirth on Christmas Eve of all days. She was killed just four months later in a car accident after leaving a party in L.A. While all of this was going on, multiple special effects companies, all of whom had  worked on the first movie, suddenly went under. Their crucial contracts were now void, and now the new companies all wanted a ridiculously large amount of money.

According to one rumor, Keanu had to give a portions of his earnings just to fund production. Speaking of Keanu, when he and Carrie-Anne Moss (the actress who plays Trinity) were training for fight scenes, they both came down with painful injuries on the same day. Carrie-Anne Moss bruised her knees so badly that she had to walk on crutches for over a month. Keanu, in the meantime, hurt his ankle badly enough that it had to be X-rayed for a possible break. He was put into a cast and filming was delayed even further. A motorcycle accident also reportedly ruptured his spleen and broke his ribs.

10. "The Possession"
Steeped in Jewish folklore, this horror movie examines a haunted box that spreads evil wherever it goes. As it turns out, the very subject matter itself was evil enough to curse the entire set. The cursed box is known for destroying lights, and director Ole Bornedal ["Ol" "Bor-ned-dal"] said that a neon light exploded overhead . . . while unplugged. Actor Jeffrey Dean Morgan remembers lots of other lightbulbs exploding on the set as well. The set destruction does not appear to be limited to mere lightbulbs. Just 5 days after filming the movie, the storage house containing all of the props mysteriously burned down.

No items from the movie survived. The cause of the blaze has never been determined, but if you ask the cast and crew, they will tell you it was angry ghosts. On a related note, a good portion of the movie was filmed in the Riverview Hospital, an old psychiatric ward in British Columbia that is notoriously haunted. One YouTuber claims to have worked there as a janitor, and he says that he often heard cackling laughter and whispers coming from a long hallway on the top floor. The hospital is also connected by a large network of underground tunnels that are reportedly equally haunted as well.

9. "The Conjuring"
Based on a true story, this movie is about a supernatural presence that makes itself known after a family moves into an old farmhouse in the country. Apparently, whatever was haunting the poor family moved onto the set shortly after they began filming. This could be because because the Perron ["Pear-ron"] family often visited the set to see how things were coming along. Being the same family who was originally haunted by the ghost in the 1970s, they very well may have brought the spirit with them.

One day, a strange gust of wind passed through the set. It ruffled only the Perron family, nobody else – not even the nearby trees. Only one member of the Perron family was too afraid to visit the set, and her name was Carolyn. As the wind passed over her family, Carolyn fell to the ground hard enough to require hospitalization. Even though she was in a different state, she said that she felt a dark presence around her before the fall. Shortly after this occurrence, bad luck started plaguing cast and crew alike. A freak fire forced everyone out of their hotel, an eerie static would tie up phonelines whenever the screenwriters had to discuss something important, and the director's dog started barking and following invisible figures as they moved from room to room.

Then there were the claw marks. When actress Vera Farmiga was researching the story, she said that no less than 5 claw marks slashed across her computer screen from the inside. She quickly closed her laptop, threw a panicky fit, and then bravely turned it back on. The marks were gone. Later, when they were done filming, she said that she looked down and saw the exact same claw marks again, this time on her inner thigh. With all of these strange happenings, it's no wonder that Warner Brothers hired priests to bless people after watching the movie in theatres. Some people have even claimed to have been haunted themselves after even a single viewing, so watch at your own risk.

8. "Amityville Horror Remake"
This remake of the 1979 horror classic was released in 2005 to a lukewarm reception. In reality, what was happening behind the scenes was just as scary as anything that they put up on the big screen. Three creepy occurrences in particular come to mind. While filming at a boathouse, real police detectives entered the set and started to question people, seemingly at random. All they would say was that a dead body was discovered nearby. Some reports say the dead body washed ashore, but according to one interview with actress Melissa George, the body simply, quote, "floated to the surface", unquote. Ryan Reynolds plays the male lead, and he began to take on some strange traits soon after filming began.

For example, the ghosts in the movie would always strike at 3:15 in the morning. Sure enough, he would find himself waking up at 3:15 a.m. each and every night. You might think that this is merely the power of suggestion in effect, that he was playing a character who would wake up at a certain time every night and soon began to do it himself in real life. In one interview, Ryan admits that it wasn't just him waking up at 3:15 in the morning, but a large number of the crew, too. If you still suspect this is all merely coincidence, then here is another strange one that is hard to deny. Kathy Lutz ["Luts"] is the woman who actually lived in the haunted house that the movie is based on. She died within the first week of filming. She was only in her 50s when she passed.

7. "The Innkeepers"
Director Ti ["Tie"] West was shooting a movie called "The House of the Devil" when he and his crew crashed at a random hotel that the locals thought extremely haunted. During Ti's stay, doors would close by themselves, the television would turn off and on, lights would burn out, and the crew would have strange dreams every night. So what did Ti do? Make a movie about it, of course. "The Innkeepers" is not only about a haunted hotel, it actually uses the haunted hotel for its set.

As such, strange disturbances happened almost every night while filming. At least one actor was almost too scared to continue, but as Ti puts it, "I have enough things bothering me, so a ghost's not going to be my problem". He pushed on and completed filming despite the ghostly activity. He continues to spread the hotel's through his work to this day.

6. "Twilight Zone"
This movie adaptation of the popular television series is widely regarded as an 80s horror classic. Yet for such a popular movie, not many people are aware that the set was quite cursed, or that three actors gave their very lives. It was early morning in July of 1982, the last day of filming. For this scene, an actor named Vic Morrow and two child actors were supposed run away from an attack chopper during the Vietnam War.

The only problem was that the special effects were much more powerful than anyone had anticipated, and these fake explosions caused a very real disaster. The pilot was hovering only 25 feet above the three of them when the pyrotechnics popped off too closely and made him lose control. The helicopter spiraled towards Vic, who was clutching onto the two kids as he treaded water. It was a direct hit.

One of the boys was crushed instantly. The other child – along with Vic – were decapitated by the blades in full view of everyone. After this tragic event, the "Twilight Zone" curse latched onto John Landis ["Land-dis"] next. As the film's director, he was held personally responsible for their 3 wrongful deaths, and he was charged with involuntary manslaughter. If convicted, he could have faced 6 years in prison. It was the first time a director had ever been charged for a decision made on set.

The lawsuit was ultimately settled out of court, but not without dragging on for years and costing him millions. His career was also severely damaged as well. First, he had to reject an offer to direct Dick Tracy so that he could focus on his trial, and second, hardly anyone trusted him with directing movies anymore. Aside from directing Michael Jackson's Thriller music video the same year as "Twilight Zone", he hasn't done much worth noting since.

5. "The Crow"
You might have heard this one before, but you probably haven't heard the whole story. Allow me to fill you in on all the gory details. Problems plagued the set of "The Crow" from literally day one. As soon as production started, a carpenter was severely burned all over when the crane he was standing on struck a powerline. Shortly after, a different crew member slipped and put the sharp end of a screwdriver straight through his hand. Strange as these two mishaps may be, they are just the beginning. A sculptor who had helped design set props was upset about the way something was being handled, so they drove their car straight through the studio as revenge.

Meanwhile, a publicist managed to get themselves in a separate car accident and was  injured. Yet another car caught fire on the set for seemingly no reason. All of this occurred between heavy rains that further damaged the set. The worst tragedy happened to Brandon Lee, star of "The Crow". He was killed after a prop gun accidentally fired a small piece of bullet casing directly into his spine. The fatal wound oozed blood as on-hand emergency technicians began CPR. He died in the hospital about 12 hours later. Here's the twist. Many people already know that Brandon Lee's father was none other than martial arts master Bruce Lee himself.

However, not as many people know that Bruce Lee bought a house in Hong Kong that was legendarily haunted. Strange demons inside of the house were said to curse not only him, but also the next three generations of his family. With this in mind, it seems that the family curse followed Brandon Lee onto the set that year when production for "The Crow" began. It also apparently branched out to affect many of the crew, too.  Had he known that the curse would have caused so much damage, Bruce Lee would have almost undoubtedly chosen somewhere else to live.

TOP 15 HORROR MOVIES INSPIRED BY REAL PEOPLE

10 CURSED OBJECTS AROUND THE WORLD SCIENCE CAN'T EXPLAIN

10 MYSTERIOUS PHOTOS AROUND THE WORLD THAT CANNOT BE EXPLAINED

18 BONE CHILLING URBAN LEGENDS FROM AROUND THE WORLD

10 CREEPY URBAN LEGENDS FROM AROUND THE WORLD


อินดี้

The death of American exceptionalism
"American exceptionalism" is one of the coronavirus' many casualties, said Max Boot. Since our nation's founding, "Americans have believed that we have a mission to lead the world," but in confronting the pandemic, "the U.S. has been a laggard, not a world leader." Germany began making millions of tests in February, and South Korea—which had its first Covid-19 case the same day as the U.S.—launched a massive program of testing, contact tracing, and masking. South Korea has suffered only 225 deaths—compared with more than 26,000 in the U.S., more than any other country. "We should not be especially surprised by our failure at pandemic-fighting," because the U.S. has been losing ground to other advanced nations for decades. We have the second-highest poverty rate and the highest level of income inequality, and though we spend far more on health care than any other country, our life expectancy lags other wealthy nations'. In 2018, 28 million Americans still had no health insurance. "Why has America become so backward?" Intense political polarization, and the Republican "demonization" of government, make it "almost impossible to address our most pressing needs." America is now "exceptional mainly in the scale of our governmental failures."

















VIDEO GAMES OF ALL TIMEVIDEO GAME EASTER EGGSHORRIBLE SERIAL KILLERSBEAUTIFUL NATURAL PHENOMENA
SCARY CAUGHT ON VIDEOSCARY IN VIDEO GAMESABOUT DONALD TRUMPMONSTERS URBAN LEGENDS
POWERFUL NORTH KOREAKIM JONG UN ENJOYSEVIL PEOPLE DID GREATVIDEO GAME URBAN LEGENDS
EXPENSIVE FRUITS IN THE WORLDDEADLY UFO ATTACKSMYSTERIOUS TIME TRAVELERSMOST MYSTERIOUS SOUNDS
CREEPIEST WEBSITESMURDERS ON VIDEO GAMESMOST TOXIC GHOST TOWNSPEOPLE BEEN IDENTIFIED
TECHNO FROM VIDEO GAMESVERY BIZARRE TRENDSWHAT TO KNOW AROUND WORLDMOST MYSTERIOUS PHOTOS
MOST CURSED OBJECTSBIZARRE HOBBIESDON'T LIKE TAYLOR SWIFTCELEB PEOPLE DON'T AGE
FAKE BEHINDS CELEBWORST MOVIE ENDINGSGREEN THAI DESSERTSROADS NEVER DRIVE ON
NATURAL PHENOMENA FROMCOUNTRY NICKNAMESBONE CHILLINGVENOMOUS SPIDERS
ZOMBIES MOVIECRAZY BIZARRE HOBBIESSCARY GHOST SIGHTINGSJUNK FOOD ACTUALLY GOOD
TOP SCIENCE FACTSSCARIEST GAMING THEORIESBATTLE ROYALE GAMESDEATHS REMAIN UNSOLVED
TRUE CRIME NETFLIX SHOWSHORROR GAMES OF ALL TIMEMOST CRAZY FRUITSCREEPIEST URBAN LEGENDS
TOP 15 SCARIEST ANIMATEDSCARIEST REAL HORRORMOST NATURAL POOLSMOST BIZARRE CURSES
MYSTERIOUSLY VANISHEDPETS ATE THEIR OWNERSSTRANGE INSIDE HUMANBEST HEALING HERBS
FRUIT AROUND WORLDMOST VENOMOUS ANIMALSMOST VENOMOUS SNAKESMOST DEADLIEST SNAKES

อินดี้

Banking Explained Money and Credit
The international banking system is an enigma. There are more than 30.000 different banks world wide, and they hold unbelievable amounts of assets. The top 10 banks alone account for roughly 25 trillion US-Dollars. Today, banking can seem very complex, but originally, the idea was to make life simpler. 11th century Italy was the centre of European trading. Merchants from all over the continent met to trade their goods, but there was one problem: too many currencies in circulation.

In Pisa, merchants had to deal with seven different types of coins and had to exchange their money constantly. This exchange business, which commonly took place outdoors benches, is where we get the word "bank" from; from the word "banco", Italian for "bench". The dangers of travelling, counterfeit money and the difficulty of getting a loan got people thinking. It was time for a new business model: home brokers started to give credit to businessmen, while genevese merchants developed cashless payments.

Networks of banks spread all over Europe, handing out credit even to the church, or European kings. What about today ? In a nutshell, banks are in the risk management business. This is a simplified version of the way it works. People keep their money in banks and receive a small amout of interest. The bank takes this money, and lends it out at much higher interest rates. It's a calculated risk, because some of the lenders will default on their credit.

This process is essential for our economic system, because it provides ressources for people to buy things like houses, or for industries to expand their businesses and grow. So banks take funds that are unused by savers, and turn them into funds society can use to do stuff. Other sources of income for banks include accepting saving deposits, the credit card business, buying and selling currencies, custodian business and cash management services. The main problem with banks nowadays is, that a lot of them have abandoned their traditional role as providers of long-time financial products, in favour of short-time gains that carry much higher risks.

During the financial boom, most major banks adopted financial constructs that were barely comprehensable and did their own trading in habit to make fast money, and earn their executives and traders millions in bonuses. This was nothing short of gambling and damaged whole economies and societies. Like back in 2008, when banks like Leeman Brothers gave credit to basically anyone who wanted to buy a house, and thereby put the bank in an extremely dangerous risk position. This led to the collapse of the housing market in the US and parts of Europe, causing stock prices to plummet, which eventually led to a global banking crisis, and one of the largest financial crises in history.

Hundreds of billions of dollars just evaporated. Millions of people lost their jobs and lots of money. Most of the world's major banks had to pay billions in fines and bankers became some of the least trusted professionals. The US government and the European Union had to put together huge bailout packages to purchase bad assets and stop the banks from going bankrupt. New regulations were put into force to govern the banking business, compulsary bank emergency funds were enforced to absorb shocks in the event of another financial crisis. But other pieces of tough new legislation were successfully blocked by the banking lobby

Today, other models of providing financing are gaining ground fast. Like new investment banks, that charge a yearly fee and do not get commissions on sales, thus providing the motivation to act in the motivation in the best interests of their clients. or credit unions - cooperative initiatives that were established in the 19th century to circumvent credit sharks. In a nutshell, they provide the same financial services as banks, but focus on shared value rather than profit maximisation. The self proclaimed goal is to help members create opportunities like starting small businesses, expanding farms or building family homes while investing back into communities.

They are controlled by their members, who also elect the board of directors democratically. World wide, credit union systems vary significantly, ranging from a handfull of members to organisations with several billion US-Dollars and hundreds of thousands of members. The focus on benefits for their members impacts the risk credit unions are willing to take, which explains why credit unions, although also hurting, survived the last financial crisis way better than traditional banks. Not to forget the explosion of crowdfunding in recent years. Aside from making awesome video games possible, platforms arosed that enabled people to get loans from large groups of small investors, circumventing the bank as a middle man.

But it also works for industry - lots of new technology companies started out on kickstarter or indiegogo. The funding individual gets the satisfaction of being part of a bigger thing, and can invest in ideas they believe in. While spreading the risk so widely, that, if the project fails, the damage is limited. And last but not least, micro credits. Lots of very small loans, mostly handed out in developping countries that help people escape poverty. People who were previously unable to get access to the money they needed to start a business, because they weren't deemed worth the time.

Nowadays, the granting of micro-credits has evolved into a multi-billion dollar business. So, banking might not be up your street, but the banks' role of providing funds to people and businesses is crucial for our society and has to be done. Who will do it and how it will be done in the future is up for us to decide, though.














annuities meaningultimate assuranceproperty settlementwealthy and successful man
rich choose buy homehomeowner know insuranceask mortgage lenderscar accident settlement
low interest personal loanscredit union loanshelp to buy equity loan
best mortgage rates 5 year fixedlowest home loan ratespersonal loan eligibilityshort term loans online
loans for those with bad creditpersonal loan interestquick easy loansdirect payday lenders
instant personal loanstart up loanshousing loan interest ratehome finance
debt consolidation loan ratesfast loan advancecar finance rates15 yr mortgage rates
commercial real estate loansworking capital loanelastic line of creditmortgage application
second mortgage ratescurrent home mortgage ratesfirst bank mortgagevehicle finance
commercial loan ratestypes of mortgage loansprivate money lendersbad credit business loans

อินดี้

China threatens to kill the golden goose

A last-minute intervention by Beijing made the battle over the future of TikTok's social network even more complicated, said Zheping Huang and Colum Murphy in Bloomberg.com. Last month, Trump threatened to ban the Chinese-owned network, immensely popular with youth around the world, over concerns it could share data with China's government. Software giants Microsoft—allied with Walmart—and Oracle issued competing bids for Tik-Tok's U.S. operations. But China "threw a wrench" into the plans this week. Much as the U.S. has used export rules to limit how U.S. companies work with China, China has put the "personalized recommendation" algorithms that TikTok is built on in a list of 23 products now requiring approval before being sold overseas. China is trying to "prevent what state-run media called the 'theft' of technology." Zhang Yiming, founder of TikTok parent ByteDance, may still pursue a deal, but China's regulators could also hold up an agreement until after the U.S. elections in November.

Walmart's entry into the TikTok sweepstakes last week highlighted the app's wide- ranging appeal, said Raymond Zhong in The New York Times. The huge retailer's team-up with Microsoft raised some eyebrows. But you can look to China to see why this makes sense. "Chinese e-commerce platforms have been adding livestreaming to their apps for years, and video apps have been adding shopping functions." That could be a model for Walmart. Merchandise sold via livestreaming in China is expected to reach $140 billion this year.

To make that work, though, any U.S. buyer would need TikTok's secret sauce, said Tim Culpan in Bloomberg.com, and it's not clear China will ever let that happen. "Imagine a bidder for KFC being told the deal might not include the Colonel's 11 secret herbs and spices." That's effectively what China just told TikTok's pursuers. While data is what put TikTok in this mess, "it's really the algorithms that matter most to the company" and keep users glued to their phones. Beijing is "threatening to kill TikTok to save it," said Pete Sweeney in BreakingViews .com. Trump's strong-arming has understandably "played poorly in the People's Republic." Americans would react the same way if China's president demanded that "Apple sell its Chinese unit—and its source code—to a Chinese buyer or be kicked out of the country." Rather than allow Washington to set that kind of precedent, China may put TikTok out of its misery.

TikTok is already declining in value, said Dan Gallagher in The Wall Street Journal. In May, it hired Kevin Mayer, once considered the heir apparent to Bob Iger at Disney, as its new CEO. But all the turmoil and the prospect of a sale led Mayer to quit last week rather than "become middle management" again at another tech giant. There's another reason I'm not confident TikTok will survive this turmoil, said Casey Newton in TheVerge .com. It "was able to fend off fierce competition from Facebook and Snapchat" thanks to a "remarkably adept and focused ByteDance team" in a hypercompetitive environment. Microsoft, Walmart, and Oracle can't replicate that culture.








structured settlement annuity structured settlements annuities structured settlement buyer small business administration
homeowners insurance home insurance state farm car insurance comprehensive insurance
cheap health insurance indemnity car insurance companies progressive quote
mortgage application car accident settlement prepare investing stock shopping without debt



step buying insurance annuities meaning property settlement credit cards with no debt
ask mortgage lenders type of insurance how to request a claim need life insurance
save money in stocks howto have a home plan before retirement plan repayment carefully
national insurance health insurance quotes title insurance ambetter insurance


อินดี้

5 Tips to Prepare for Your Property Settlement


1. Insurance


Haven't organised insurance yet? Get it now! It can be a risky practice to rely on the vendor's  insurance cover (or lack thereof) if something happens to the property during the period from exchange to settlement. Having adequate insurance in place will give you peace of mind.

2. Keys, codes and passes


Make sure you organise who has the keys and when you can collect them from the agent or your legal representative. Also, make sure you have the alarm codes (if any) and instruction manuals. Some purchasers want to collect the keys that day from the agent; others have the keys delivered to their solicitor after settlement. By sorting out the logistics beforehand, you can enjoy your property sooner (without setting off any house alarms!).

3. Final inspection


This is probably the most important inspection you will undertake, so you should organise it during daylight hours as close as possible to settlement and really take your time with it. Has any debris been left behind? Do the fittings and fixtures remain? Are the contractual inclusions actually in place? Have the exclusions been disposed of?

4. Final Title Search


Just like a final inspection, a final title search will inform you if there have been any dealings with or new interests in the legal ownership of the property. After all, you can't buy something from someone if they don't own it. You'll also need to remove any caveat you've placed on the title to enable the change of ownership to take place.

5. Cheque directions


Your legal advisor and lender will organise the cheques on your behalf, but it's up to you to make sure the settlement amounts and payees are correct before property settlement. Also, make sure the cheques have correct spellings - incorrectly issued non-negotiable bank cheques can hold up and delay a settlement, and that's the last thing you want!













subprime mortgagequicken loans ratessmall personal loansmortgage application
lowest mortgage ratesbusiness line of creditmortgage broker near mebest small business loans
low interest personal loanscredit union loanshelp to buy equity loan
best mortgage rates 5 year fixedlowest home loan ratespersonal loan eligibilityshort term loans online
loans for those with bad creditpersonal loan interestquick easy loansdirect payday lenders
instant personal loanstart up loanshousing loan interest ratehome finance
debt consolidation loan ratesfast loan advancecar finance rates15 yr mortgage rates
commercial real estate loansworking capital loanelastic line of creditmortgage application
second mortgage ratescurrent home mortgage ratesfirst bank mortgagevehicle finance
commercial loan ratestypes of mortgage loansprivate money lendersbad credit business loans