กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

        การขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ไม่เหมือนการขอสินเชื่อบัตรเครดิต เพราะวงเงินสินเชื่อมีความแตกต่างกันอย่างมาก หลายคนมักจะประสบปัญหา กู้ไม่ผ่าน ทำให้เสียทั้งอารมณ์ เสียทั้งเวลามานักต่อนักแล้ว ดังนั้นวันนี้เลยจะมาบอกเคล็ดลับขอสินเชื่อกู้บ้าน อย่างไรให้ผ่านพร้อมแนะนำธนาคารไหนดี

1.   แบบบ้านหรือแปลนบ้าน
        หากเป็นการปลูกบ้านเองโดยมิใช่ซื้อจากโครงการบ้านจัดสรร ผู้ขอกู้ปลูกบ้านจะต้องเตรียมแบบบ้านหรือแปลนบ้านเอาไว้ให้พร้อม เพราะทางธนาคารไม่สามารถประเมินราคาบ้านจากการดูเพียงแค่ที่ดินเปล่าเพียงอย่างเดียว ดังนั้นทางธนาคารจะต้องมีการประเมินราคาจากแบบบ้านโดยผู้ชำนาญเฉพาะทางเสียก่อน

2.   สัญญาว่าจ้างและผู้รับเหมา
   สัญญาว่าจ้างเป็นส่วนหนึ่งที่ธนาคารใช้ในการพิจารณาสินเชื่อที่อยู่อาศัยและวิธีคํานวณดอกเบี้ยบ้าน เนื่องจากบ้านจะต้องมีผู้รับเหมาซึ่งจะต้องมีการทำสัญญาเพื่อจ่ายเงินค่าสร้างบ้าน ทางธนาคารถือเป็นส่วนหนึ่งของสินเชื่อในการกู้เงินสร้างบ้าน ดังนั้นทางธนาคารจึงต้องตรวจสอบหนังสือสัญญาและผู้รับเหมาก่อนพิจารณาในการปล่อยสินเชื่อ เพื่อมั่นใจว่าเงินที่ได้นั้นนำไปสร้างบ้านจริง เพราะทางธนาคารจะปล่อยเงินตามสัญญาที่ทำไว้เพื่อให้ผู้กู้นำเงินไปจ่ายค่าสร้างบ้านแก่ผู้รับเหมานั่นเอง

3.   บัญชีเงินฝากกับธนาคารที่จะกู้
   ถือเป็นข้อมูลพื้นฐานข้อหนึ่งที่ผู้ขอกู้จะต้องนำมาใส่ใจเกี่ยวกับบัญชีเงินฝากและการไปขอกู้เงินกับธนาคารต่าง ๆ โดยเฉพาะบัญชีเงินฝากเงินเดือนหรือบัญชีเงินฝากออมทรัพย์และที่สำคัญที่สุดการขอกู้เงินกับธนาคารที่คุณมีบัญชีเงินฝากด้วย ก็จะทำให้การกู้เงินเป็นไปได้ง่ายขึ้น เพราะธนาคารมีข้อมูลส่วนตัวของคุณอยู่แล้วนั่นเอง จึงทำให้การใช้เอกสารในการข้อกู้ลดน้อยลง ตลอดจนการพิจารณาก็จะรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าเป็นสินเชื่อบ้านข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจยิ่งง่ายเข้าไปอีก เพราะจะมีธนาคารบางแห่งที่มีโปรโมชันเงินฝากบัญชีให้อยู่แล้ว

4.   งบก้อนแรกสำคัญไฉน
   เชื่อได้เลยว่าหลายคนมักเข้าใจผิดว่าการกู้เงินสร้างบ้าน ธนาคารจะให้เงินมาตั้งแต่ยังไม่เริ่มก่อสร้าง เพราะแท้จริงแล้วธนาคารจะปล่อยกู้เงินมาให้หลังจากที่มีการเริ่มก่อสร้างไปแล้วเสมอ เพื่อมั่นใจว่าผู้กู้นำเงินไปใช้ตรงตามวัตถุประสงค์ ดังนั้นควรมีงบประมาณก้อนแรกไว้จ่ายค่าจ้างผู้รับเหมาตามสัญญาจ้างในการสร้างบ้านและอีกประการหนึ่งทางธนาคารจะจ่ายเงินเป็นงวด ๆ มิใช้ให้มาก้อนเดียวเต็มจำนวน ในขณะเดียวกันธนาคารบางแห่งอาจเรียกเก็บเงินค่าผ่อนชำระงวดแรก ภายหลังจากรับเงินกู้งวดแรกไปแล้ว 1 เดือนในทันที ผู้กู้ต้องสอบถามและทำความเข้าใจกับทางธนาคารให้ดี

5.   กู้ธนาคารไหนดี
   ในลำดับแรกที่กล่าวไว้ในเบื้องต้นแนะนำให้ผู้กู้ติดต่อธนาคารที่มีบัญชีเงินฝากก่อนเป็นลำดับแรก จากนั้นให้นำข้อมูลมาร่วมพิจารณากับธนาคารอื่น ๆ โดยอาศัยข้อมูลต่อไปนี้
-   อัตราดอกเบี้ย แนะนำให้เลือกธนาคารที่มีวิธีคิดดอกเบี้ยบ้าน (เพิ่มเติม: https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/147) ให้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี ต่ำที่สุด เพราะสามารถที่จะรีไฟแนนซ์ได้
-   การบริการ การบริการเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะความรวดเร็วในการให้บริการ เมื่อเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ได้รับข้อมูล เอกสารครบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ควรจะต้องดำเนินงานให้เร็วที่สุด เพราะผู้กู้จะสามารถดำเนินการได้ตามแผนได้ เพราะถ้ามัวแต่รอคำตอบว่ากู้ได้หรือไม่ อาจทำให้การก่อสร้างล่าช้าและเสียหายได้
-   วงเงินกู้ ควรเลือกธนาคารที่ให้วงเงินกู้พอ ๆ กับค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างบ้านหรือสูงกว่ายิ่งดี

   ส่วนที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของผู้กู้แล้วว่าจะเตรียมตัว สินเชื่อบ้านแลกเงิน ได้ตามที่คาดหวังไว้หรือไม่ ยิ่งเตรียมตัวมาดียิ่งมีโอกาสขอ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ได้ง่ายและไวที่สุด อย่าลืมพิจารณาบ้านพักมือสองไว้ด้วยล่ะ


ที่มาข้อมูล
-   https://www.ghbank.co.th/loan/infomation-advices/calculator
-   https://www.moneybuffalo.in.th/debt/%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%93-%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2-%E0%B8%A3%E0%B8%96-%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99