ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ธรรมะจากภาพ "พวงมาลัย + เต่า"

เริ่มโดย กิมหยง, 13:05 น. 23 ก.พ 55

กิมหยง

มีญาติโยมทำบุญมากเป็นพวงมาลัย
เลยเอาไปวางไว้ใกล้ ๆ เต่า เพื่อจัดภัตตาหารก่อน

ท่านพระอาจารย์เห็นเข้า ท่านบอกว่าเป็นจังหวะพอดีเลย
ก็เลยเทศน์เรื่อง ยาก . . . ให้ฟัง

ไม่ทราบว่าท่านผู้รู้ทั้งหลาย พอจะรู้และเข้าใจเรื่อง "ยาก" กันหรือเปล่าครับ
สร้าง & ฟื้นฟู

ซุปเปอร์ฮีโร่


คุณหลวง

อ้างจาก: กิมหยง เมื่อ 13:05 น.  23 ก.พ 55
มีญาติโยมทำบุญมากเป็นพวงมาลัย
เลยเอาไปวางไว้ใกล้ ๆ เต่า เพื่อจัดภัตตาหารก่อน

ท่านพระอาจารย์เห็นเข้า ท่านบอกว่าเป็นจังหวะพอดีเลย
ก็เลยเทศน์เรื่อง ยาก . . . ให้ฟัง

ไม่ทราบว่าท่านผู้รู้ทั้งหลาย พอจะรู้และเข้าใจเรื่อง "ยาก" กันหรือเปล่าครับ

    แล้วท่านเทศน์เรื่องยากนั้น มีใจความอย่างไรครับ?
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

กิมหยง

ลืมเสียแล้ว

รอคุณหลวงอธิบายดีกว่าครับ

ท่านพระอาจารย์เทศน์ว่า พระพุทธเจ้าตรัสไว้ถึงการเกิดยาก 4 อย่างครับ

เต่า + พวงมาลัยนี้ก็เป็นหนึ่งในการเกิดยากที่สุดข้อหนึ่งครับ
สร้าง & ฟื้นฟู

คุณหลวง

ออๆๆๆ

    ว่ายากอะไร ที่แท้เรื่องนี้นี่เอง แต่จำได้แค่ ๑ ครับ คือ ท่านตรัสว่า การได้เกิดเป็นมนุษย์นั้นยากมากๆ ยากพอๆกับเต่าตาบอดตัวหนึ่งอยู่ในทะเล ๑๐๐ ปีผุดมาสักหน และในทะเลนั้นมีห่วงๆหนึ่งลอยอยู่ การที่เต่านั้นผุดมาโผล่หัวเข้าห่วงพอดีนั้นเป็ยนไปได้ยาก ยากพอๆกับการเกิดเป็นคน

    พอพูดอย่างนี้หลายท่านจะแย้งว่า เห็นคนเกิดเอาๆ มันยากอย่างไรกันหนอ...อืม น่าคิดๆ
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

wareerant

การเกิดยากจริง คอมเฟิร์ม ต้องมีร่างกายแข็งแรง วิ่งเร็ว เร็วแค่ไหน เอาเป็นว่า เร็วกว่าคน 400 ล้านคน ต้องสปีดเร็วกว่านรกจริง ๆ ต้องเข้าเป็นที่หนึ่ง อีก 399 ล้านกว่าคน ที่แพ้ ต้องสลายหายตัวไป ไปไหนก็ไม่รู้ จะได้มาวิ่งแข่งอีกหรือเปล่ายังไม่รู้

PoPoz

อ้างจาก: คุณหลวง เมื่อ 19:09 น.  03 มี.ค 55
ออๆๆๆ

    ว่ายากอะไร ที่แท้เรื่องนี้นี่เอง แต่จำได้แค่ ๑ ครับ คือ ท่านตรัสว่า การได้เกิดเป็นมนุษย์นั้นยากมากๆ ยากพอๆกับเต่าตาบอดตัวหนึ่งอยู่ในทะเล ๑๐๐ ปีผุดมาสักหน และในทะเลนั้นมีห่วงๆหนึ่งลอยอยู่ การที่เต่านั้นผุดมาโผล่หัวเข้าห่วงพอดีนั้นเป็ยนไปได้ยาก ยากพอๆกับการเกิดเป็นคน

    พอพูดอย่างนี้หลายท่านจะแย้งว่า เห็นคนเกิดเอาๆ มันยากอย่างไรกันหนอ...อืม น่าคิดๆ
การเกิดอ่ะมันง่ายแต่จะทำให้เป็นคนอ่ะมันยากมั้งครับ   เดาเอาครับ               

คุณหลวง

ไปค้นเจอมาครับ

    (พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์ (ตอน ๑๑) คัดลอกบางส่วนจาก :พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์ (ฉบับสมบูรณ์) รองศาสตราจารย์แสง จันทร์งาม คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


คนพาลเกิดเป็นมนุษย์ได้ยาก

    ปัญหา ได้ทราบว่า คนเกิดเป็นมนุษย์ไม่ใช่สิ่งที่ได้โดยง่าย ยิ่งเป็นคนพาลสันดานชั่วด้วยแล้ว ยิ่งมีโอกาสเกิดเป็นมนุษย์อีกน้อย ในเรื่องนี้พระผู้มีพระภาคตรัสไว้อย่างไร ?

    พุทธดำรัสตอบ "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษโยนทุ่นมีบ่วงตาเดียวไปในมหาสมุทร ทุ่นนั้นถูกลมตะวันออกพัดไปทางทิศตะวันตก ถูกลมตะวันตกพัดไปทางทิศตะวันออก ถูกลมเหนือพัดไปทางทิศใต้ ถูกลมใต้พัดไปทางทิศเหนือ มีเต่าตาบอดอยู่ในมหาสมุทรนั้น ล่วงไปร้อยปีจึงจะผุดขึ้นครั้งหนึ่ง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ? เต่าตาบอดตัวนั้น จะพึงเอาคอสวมเข้าที่ทุ่นบ่วงตาเดียวโน้นได้บ้างไหมหนอ ?

    "ภิกษุเหล่านั้นทูลว่า ข้อนั้นเป็นไปไม่ได้เลยพระพุทธเจ้าข้า... ถ้าจะเป็นไปได้ในบางครั้งบางคราว ก็โดยล่วงระยะกาลนานแน่นอน

    "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เต่าตาบอดตัวนั้นจะพึงเอาคอสวมเข้าที่ทุ่นมีบ่วงตาเดียวโน้นได้ ยังจะเร็วกว่าเรากล่าวความเป็นมนุษย์ที่ คนพาลผู้ไปสู่วินิบาตคราวหนึ่งแล้ว จะพึงได้ ยังยากกว่านี้ นั่นเพราะเหตุไร ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเพราะในตัวคนพาลนี้ ไม่มีความประพฤติธรรม ความประพฤติสงบ การทำกุศล การทำบุญ มีแต่การกินกันเอง การเบียดเบียนคนอ่อนแอ...

    "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนพาลนั้นนั่นแล ถ้าจะมาสู่ความเป็นมนุษย์ในบางครั้งบางคราว ไม่ว่ากาลไหนๆ โดยล่วงระยะกาลนานย่อมเกิดในสกุลต่ำ คือสกุลคนจัณฑาล หรือสกุลพรานเนื้อ หรือสกุลคนจักสาน หรือสกุลช่างรถ หรือสกุลคนเทขยะเห็นปานนั้นในบั้นปลาย..."

                                                                                                      พาลปัณฑิตสูตร

สิ่งที่เกิดมีได้ยากในโลก

    ปัญหา อะไรบ้างเป็นสิ่งที่เกิดมีได้ยากในโลก แต่ในปัจจุบันเรามีแล้วควรพยายามฉวยเอาผลประโยชน์ให้เต็มที่ ?

    พุทธดำรัสตอบ "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนมหาปฐพีนี้กลายเป็นน่านน้ำเดียวกัน บุรุษพึงโยนแอกมีช่องเดียวไปในน้ำนั้น ลมในทิศตะวันออก พึงพัดเอาแอกนั้นไปทางทิศตะวันตก ลมทิศตะวันตกพัดเอาไปทางทิศตะวันออก ลมทิศเหนือพัดเอาไปทางทิศใต้ ลมทิศใต้พัดเอาไปทางทิศเหนือ เต่าตาบอดในห้วงน้ำนั้นจะโผล่ขึ้นมาหนึ่งครั้งทุก ๆ ระยะเวลาผ่านไปหนึ่งร้อยปี เธอจะเห็นข้อนั้นอย่างไร เต่าตาบอดนั้น...จะมีโอกาสสอดคอเข้าไปในแอกที่มีช่องเดียวนั้นบ้างหรือไม่"

    ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า "การที่เต่าตาบอด จะมีโอกาสสอดคอเข้าไปในแอกที่มีช่องเดียวนั้น เป็นของยาก"

    "ดูก่อนภิกษุทั้งหลายการได้ความเป็นมนุษย์เป็นของยาก การที่พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจะอุบัติขึ้นในโลกที่เป็นของยาก การที่พระธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้วจะรุ่งเรืองในโลกก็เป็นของยาก

    "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ท่านได้ความเป็นมนุษย์แล้ว พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลกแล้ว และพระธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้วก็เจริญรุ่งเรืองอยู่ในโลก เพราะฉะนั้นเธอทั้งหลายจึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่านี้ทุกข์ นี้สมุทัย นี้นิโรธ นี้อริยมรรคมีองค์ ๘"

                                                                                                        ฉิคคฬสูตรที่ ๒

ผมก็จำผิดย้างเหมือนกันนะนี่   ส-เขิน ต้อง  ส.อ่านหลังสือ

สะบายดี..มีความสุขครับ
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

กิมหยง

ขอบคุณครับ

การได้เกิดเป็นมนุษย์นั้นเป็นเรื่องยาก
แต่การอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้านั้นแสนยากยิ่งกว่ามาก ๆ ๆ

เราได้เกิดเป็นมนุษย์ในยุคนี้ แม้จะไม่ทันพระพุทธเจ้า
แต่ก็ยังอยู่ในพระพุทธศาสนา ซึ่งมีองค์พระธรรมคำสั่งสอนเป็นศาสดา

นับว่ามีบุญมาก

สร้าง & ฟื้นฟู

คุณหลวง

    ท่านพระวักกลิ เกิดในตระกูลพราหมณ์ตระกูลหนึ่ง ในพระนครสาวัตถี ชื่อว่าวักกลิมาณพ เมื่อเจริญวัยแล้ว ได้ศึกษาเล่าเรียนศิลปวิทยาตามลัทธิของพราหมณ์จนจบไตรเพทฯ

    ครั้นเที่ยวไปในนครสาวัตถี วักกลิมาณพได้เห็นพระองค์ ก็บังเกิดความเลื่อมใสในพระรูปพระโฉมของพระองค์ ไม่อิ่ม ไม่เบื่อหน่ายในการดู อยากจะดูทุกเมื่อ จึงคิดว่าถ้าเราได้บรรพชาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา จักได้เห็นพระองค์อยู่เป็นนิตย์ ครั้นคิดอย่างนั้นจึงได้ออกบวชในพระพุทธศาสนา

    ครั้นบวชแล้ว แทนที่จะท่องบ่นสาธยายธรรมและบำเพ็ญเพียรในกรรมฐาน แต่ก็หาได้ทำเช่นนั้นไม่ มัวเมาแต่เที่ยวดูพระรูปโฉมของพระบรมศาสดาอยู่เท่านั้น พระองค์ก็มิได้ตรัสว่าอะไร ๆ กะท่าน ท่านก็เที่ยวตามชมเชยอยู่เช่นนั้น ครั้นต่อมาพระบรมศาสดาตรัสสอนว่า

    "ดูก่อนวักกลิ เธอต้องการดูกายที่เปื่อยเน่านี้เพื่อประโยชน์อะไร ดูก่อนวักกลิ ผู้ใดแลเห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่า เห็นเรา ผู้ใดเห็นเรา ผู้นั้นชื่อว่าเห็นธรรม"

    แม้พระองค์ทรงตรัสสอนอย่างนี้แล้ว ท่านพระวักกลิก็ยังไม่ละ ซึ่งอันดูพระองค์หลีกหนีไปในที่อื่นเสีย พระบรมศาสดาจึงทรงดำริว่า ภิกษุนี้ ถ้าไม่ได้ความสลดใจเสียบ้างแล้ว ก็จะไม่ได้บรรลุมรรคผลอะไร ครั้นทรงดำริในพระทัยอย่างนี้แล้ว เมื่อจวนจะถึงวันเข้าพรรษา

    พระองค์จึงเสด็จไปสู่กรุงราชคฤห์มหานครในวันเข้าพรรษาพระองค์จึงมีพระพุทธฎีกา ประณามขับไล่พระวักกลิเสียจากสำนักของพระองค์ว่า

    "อเปหิ วกฺกลิ วักกลิภิกษุ เธอจงหลีกไปให้พ้นจากสำนักของเรา" ท่านพระวักกลิเกิดความน้อยใจว่า พระบรมศาสดาจะไม่ทักทายปราศรัยกะเราอีกแล้ว เราก็ไม่อาจจะอยู่ในที่เฉพาะพระพักตร์ของพระองค์ตลอดไตรมาส มีความเสียใจที่จะไม่ได้เห็นพระองค์ จึงหลีกออกจากพุทธสำนัก

    แล้วคิดว่าเรามีชีวิตอยู่จะมีประโยชน์อะไร เราจะกระโดดภูเขาตายเสีย ครั้นคิดอย่างนั้นแล้ว จึงขึ้นไปสู่ยอดเขาคิชกูฏฯ พระบรมศาสดาทรงทราบซึ่งความลำบากของท่าน จึงแสดงพระองค์ให้ปรากฏในที่เฉพาะหน้า และตรัสสอนด้วยธรรมีกถามีประการต่าง ๆ ท่านเกิดปีติและปราโมทย์อย่างแรงกล้า พิจารณษธรรมอย่างหมดถ้วนบรรลุพระอรหันต์พร้อมด้วยปฏิสัมภิทา ลงมาถวายบังคมพระบรมศาสดาที่เฉพาะพระพักตร์ฯ

     ครั้นกาลต่อมา พระบรมศาสดาทรงตั้งท่านพระวักกลิไว้ในตำแหน่งผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ฝ่ายข้างสัทธาวิมุตติ พ้นจากกิเลสด้วยศรัทธาฯ ท่านพระวักกลินั้น ดำรงเบญจขันธ์อยู่โดยสมควรแก่กาลแล้ว ก็ดับขันธ์ปรินิพพานฯ

    ที่ผมยกเรื่องพระวักกลิมานั้นเพื่อตอบคำของท่านกิมฯที่ว่า

อ้างถึงเราได้เกิดเป็นมนุษย์ในยุคนี้ แม้จะไม่ทันพระพุทธเจ้า
แต่ก็ยังอยู่ในพระพุทธศาสนา ซึ่งมีองค์พระธรรมคำสั่งสอนเป็นศาสดา

    การเกิดทันพระศาสดาอยู่ที่ใดกัน?
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

กิมหยง

แล้วจริงหรือที่ยุคนี้ พุทธศาสนมีอายุแค่ 5,000 ปี
ถ้าเลย 5,000 ปี จะเป็นอย่างไร
จะสิ้นศาสนาพุทธเลยหรือ
ยุคนั้นผู้คนจะนับถืออะไรกัน

แล้วหลักธรรมคำสั่งสอนของพุทธองค์ไปไหนหมด

หรือพุทธศาสนายังคงอยู่
แต่ว่าจะโดนกลืน โดนบิดเบือนไปทีละนิด ๆ
จนหมดกลายเป็นลัทธิอื่นกันไปหมด
สร้าง & ฟื้นฟู

Krasoon.Int

การได้เกิดเป็นมนุษย์นับได้ว่าเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกใบนี้

คุณหลวง

อ้างจาก: กิมหยง เมื่อ 10:41 น.  09 มี.ค 55
แล้วจริงหรือที่ยุคนี้ พุทธศาสนมีอายุแค่ 5,000 ปี
ถ้าเลย 5,000 ปี จะเป็นอย่างไร
จะสิ้นศาสนาพุทธเลยหรือ
ยุคนั้นผู้คนจะนับถืออะไรกัน

แล้วหลักธรรมคำสั่งสอนของพุทธองค์ไปไหนหมด

หรือพุทธศาสนายังคงอยู่
แต่ว่าจะโดนกลืน โดนบิดเบือนไปทีละนิด ๆ
จนหมดกลายเป็นลัทธิอื่นกันไปหมด

ผมเคยพูดถึงในกระทู้ "สุดท้าย...เราจะหวังพึ่งสิ่งใดในเป้าหมายแห่งชีวิตของชาวพุทธ.."แล้วครับ
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป