ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

10 สถาปัตยกรรม ที่ยอดเยี่ยมและน่าไปเยี่ยมเยือน

เริ่มโดย hs8jai, 14:41 น. 24 มี.ค 65

hs8jai



โลกนี้เต็มไปด้วยผลงานชิ้นยอดเยี่ยมทางสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่งซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับเรา แต่ว่าสำหรับหลายคน ตึกที่น่าประทับใจพวกนี้มีอยู่ในจินตนาการเท่านั้น โชคดีที่พวกเราได้รวบรวมรายชื่อ 10 สิ่งปลูกสร้างที่น่าระทึกใจ ประหลาดตา รวมทั้งสร้างสรรค์ที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา ไม่ว่าคุณจะชอบ สถาปัตยกรรม ยุคใหม่หรือร่วมยุค คุณจะหลงใหลรายการ 10 สิ่งมหัศจรรย์ทาง สถาปัตยกรรม ที่เหมาะสมที่สุดจากทั่วโลก

ตั้งแต่อาคารสูงไปจนถึงสวนสาธารณะ โลกเป็นสถานที่ที่น่าดึงดูด และก็ในเวลาที่การออกแบบ สถาปัตยกรรม แล้วก็ภูมิทัศน์ดำเนินไป ก็เป็นสถานที่ที่เยี่ยมยอดเหมือนกัน นี่คือสถานที่ที่ดีเยี่ยมที่สุด 10 แห่งที่จะเห็น

1. Sydney Opera House



Sydney Opera House เป็นเลิศใน สถาปัตยกรรม ที่ยิ่งใหญ่และก็ตึกที่งดงามที่สุดในโลก และตั้งอยู่ในเมืองซิดนีย์ ออสเตรเลีย วางแบบโดยคนเขียนแบบชาวเดนมาร์ก Jørn Utzon ผู้ชนะการแข่งขันในปี 2500 ให้เป็นองค์ประกอบที่ทันสมัยแล้วก็มีพลัง ซึ่งจะเป็นผู้แทนของอนาคตและก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซิดนีย์ โครงงานนี้ใช้เวลากว่าแปดปีจึงแล้วเสร็จ แล้วก็เปิดทำงานในปี 2516

Sydney Opera House ถูกใช้เป็นห้องแสดงการแสดงดนตรี โรงละคร และก็พื้นที่นำเสนอนิทรรศการ มันถูกสร้างขึ้นโดยเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับช่วยในด้านสำหรับอำนวยความสะดวกทางด้านวัฒนธรรมแล้วก็การพักผ่อนหย่อนใจของ Sydney Harbour Foreshore Authority ในอ่าวซิดนีย์ การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากสะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์ แล้วก็คุณสมบัติหลักเป็นต้นแบบคานเท้าแขนและผิวเหล็กซึ่งหุ้มด้วยทองแดง

ลักษณะทาง สถาปัตยกรรม หลักของ Sydney Opera House อาทิเช่น การใช้วัสดุจากธรรมชาติแล้วก็การจัดการกับปัญหาทางเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ หลังคามุงด้วยทองแดงซึ่งสะท้อนแสงอาทิตย์แล้วก็ช่วยทำให้อาคารเย็นสบาย หลังคายังได้รับการออกแบบเพื่อใช้เป็นเมมเบรนกันเสียง

Sydney Opera House ตั้งอยู่ที่ Bennelong Point ทางด้านตะวันตกของอ่าวซิดนีย์ เปิดให้พลเมืองทั่วๆไปเข้าชมทุกวี่วัน เวลา 11.30 – 19.00 น. แต่ในฤดูร้อนจะเปิดจนกระทั่ง 21.00 น.

2. หอไอเฟล



หอไอเฟล เป็นหนึ่งใน สถาปัตยกรรม ที่สุดยอดและส่วนประกอบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก แม้ว่าคุณจะไม่ได้กล่าวภาษาประเทศฝรั่งเศสก็ตาม ความโด่งดังมาจากการออกแบบซึ่งประกอบด้วยสององค์ประกอบหลัก: งานเหล็กขัดแตะแล้วก็ส่วนประกอบเหล็ก เป็น สถาปัตยกรรม ของหอพักไอเฟลที่ทำให้นักออกแบบสามารถบรรลุเสถียรภาพทางองค์ประกอบที่ต้องการได้

ถัดจากนี้ หอไอเฟลเป็นหนึ่งในอาคารที่โดดเด่นรวมทั้งมีชื่อเสียงเยอะที่สุดในโลก นอกเหนือจากนี้ยังเป็นอาคารที่สูงที่สุดในกรุงปารีส เป็นส่วนประกอบยืนอิสระที่สูงเป็นชั้นสามของโลก หอคอยนี้ดีไซน์โดยกุสตาฟ ไอเฟล วิศวกรโยธารวมทั้งคนเขียนแบบชาวฝรั่งเศส เขาปรารถนาสร้างหอสังเกตการณ์ที่สวยแล้วก็มีสาระใช้สอย

หอไอเฟลตั้งอยู่ที่ Champ de Mars ในเขตที่ 7 สามารถเข้าถึงได้โดยรถไฟใต้ดินสาย 1 รวมทั้งเมโทร ในการไปถึงหอไอเฟล คุณจะต้องขึ้นรถไฟ RER (รถไฟด่วนภูมิภาค) ไปยังชาเตเลต์ – เลอาล ซึ่งอยู่ห่างจากหอพักไอเฟลเพียงแต่ไม่กี่นาที คุณสามารถเดินทางได้ง่ายๆโดยรถเมล์หรือแท็กซี่ ถ้าเกิดคุณพึงพอใจ พวกเราขอแนะนำให้ท่านมองหอพักไอเฟลและทำความรู้จักกับมันให้ดีขึ้น คุณจะรักมันอย่างไม่ต้องสงสัย


3. กำแพงเมืองจีน



กำแพงเมืองจีนเป็นเยี่ยมใน สถาปัตยกรรม ที่ยิ่งใหญ่และแผนการก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ เริ่มขึ้นใน 220 ปีก่อนคริสตกาลแล้วก็ใช้เวลาประมาณสิบห้าปีกว่าจะแล้วเสร็จในรัชสมัยของพระราชาธิราช Qin Shi Huang ผู้ซึ่งปรารถนาปกป้องรักษาชายแดนของจีนจากอาณาจักรเ.้ยมโหดตอนเหนือ นับแต่นั้นมาได้กลายเป็นเครื่องหมายแห่งความภาคภูมิใจของชาติจีน การออกแบบเริ่มแรกได้รับแรงผลักดันจากกำแพงอดีตที่สร้างโดยราชวงศ์ฉิน แต่ว่าระหว่างการก่อสร้างกำแพง คนของจักรพรรดิ์พบว่าพวกเขาปรารถนากำแพงที่แข็งแรงกว่าที่เคยสร้างมาก่อน พวกเขาศึกษาค้นพบว่าการใช้หินรวมทั้งอิฐแทนก้อนอิฐโคลน กำแพงจะแข็งแรงพอที่จะยับยั้งกองทัพฝ่ายตรงข้ามได้

กำแพงเมืองจีนเป็นเลิศในโครงการก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยกำแพงหินยาวกว่า 6,000 กม. กำแพงเมืองจีนจึงถูกสร้างขึ้นเพื่อคุ้มครองจีนจากพวกมองโกล โครงงานนี้เริ่มขึ้นในศตวรรษที่ 13 เมื่อจักรวรรดิมองโกลรุกรานดินแดนของจีน นี่เป็นช่วงเวลาที่ความปั่นป่วนของจีน มันปรารถนาระบบคุ้มครองป้องกันเป็นอย่างมาก ภายหลังช่วงเวลา 10 ปี โครงงานก็เสร็จในปี 1271 โครงการใช้เวลาโดยประมาณ 60 ปีจึงจะเสร็จ

คุณอาจรู้จักดีกับเรื่องราวของการที่คนจีนสร้างกำแพงเมืองจีน แม้กระนั้นคุณอาจไม่เคยทราบอะไรเกี่ยวกับกรรมวิธีการจริงๆมากสักเท่าไรนัก นี่คือแนวความคิดทั่วไปเบื้องหลังการออกแบบและการก่อสร้าง: คนจีนต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหาของพวกเขากับผู้บุกรุกที่ข้ามพรมแดนจากทวีปเอเชียกลาง แนวทางที่ง่ายที่สุดสำหรับในการระงับผู้บุกรุกเหล่านี้เป็นการผลิตกำแพงกันระหว่างพวกเขากับคนจีน เพื่อเป็นการป้องกันและไม่ให้ผู้บุกรุกรุกล้ำเข้ามา เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บุกรุกข้ามกำแพง ชาวจีนจำเป็นที่จะต้องสร้างกำแพงให้สูงอย่างน้อย 8 ฟุต พวกเขาต้องทำสิ่งนี้โดยการขุดคลองน้ำกว้างอย่างต่ำ 30 ฟุต แล้วหลังจากนั้นสร้างกำแพงตามคลองน้ำแล้วต่อเติมในคลอง กำแพงคงจะยาวโดยประมาณ 7,000 ไมล์ หากคุณต้องเดินทางไปทั้งประเทศจีน

4. ทัชมาฮาล



ทัชมาฮาลอาจเป็นเลิศในส่วนประกอบที่มีชื่อที่สุดในโลกแล้วก็มักถูกอ้างถึงว่าสำเร็จงานชิ้นโบแดง ตึกนี้เป็นอนุสาวรีย์ของผู้ปกครองโมกุลของจักรวรรดิอินเดีย ซึ่งทำขึ้นในศตวรรษที่ 16 ในขณะนั้นเป็นป่าช้าที่ใหญ่ที่สุดรวมทั้งมีราคาแพงที่สุดในโลก ทุกๆวันนี้ โครงสร้างยังคงเป็นที่ระลึกนึกถึงแห่งความรุ่งเรืองของอาณาจักรโมกุล แม้ว่าสุสานจะไม่เคยสร้างเสร็จ

ทัชมาฮาลเป็นตัวอย่างที่ดีที่ทำให้เห็นว่าผลงานชิ้นโบแดงของ สถาปัตยกรรม สามารถอยู่บนพื้นฐานของรูปแบบการทำงานได้อย่างไร จริงๆแล้ว ตัวตึกได้รับการออกแบบมาอย่างยอดเยี่ยมกระทั่งสามารถทนต่อภัยธรรมชาติได้โดยไม่มีความเสียหายร้ายแรง ดีไซน์เนอร์ของทัชมาฮาล พระราชาธิราชโมกุล ชาห์ จาฮัน และก็เมีย มุมตาซ มาฮาล เคารพธรรมชาติและข้อบังคับอย่างดีเยี่ยม ด้วยเหตุนั้นทัชมาฮาลจึงมีฐานที่แข็งแรงพร้อมฐานเสาขนาดใหญ่ มีหิน 2 ชั้น และก็หินก่ออิฐรวมทั้งเศษหินหรือก้อนอิฐ ที่ชั้นล่างเพื่อสร้างส่วนประกอบที่มั่นคงจะ

ตัวอาคารมีสิ่งของต่างๆที่คัดสรรมาอย่างดีเพื่อกับสภาพอากาศในเขตแดน ดังเช่น ทัชมาฮาลใช้หินอ่อนจากเทือกเขาอาบู ซึ่งร้อนและก็แห้งมากมาย ในขณะที่โครงสร้างรองรับผลิตจากหินในเขตแดนเพื่อให้มีความยั่งยืนมั่นคงในลักษณะอากาศที่ชื้นแฉะของอัครา ตัวอาคารยังคงใช้หินอ่อนสีขาวเพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์ ในระหว่างที่ปากทางเข้าหลักใช้หินอ่อนสีแดง อาคารยังคงใช้ก้อนอิฐสำหรับผนังภายนอกเพื่อปกป้องอาคารจากฝนแล้วก็หิมะ ตัวอาคารยังโอบล้อมด้วยคลองน้ำเพื่อกันไม่ให้น้ำเข้าจากตัวตึก เว้นเสียแต่วัสดุแล้ว ตัวตึกยังได้รับการออกแบบให้มีฐานที่แข็งแรง ทัชมาฮาลใช้เสาค้ำจนถึงองค์ประกอบ ซึ่งช่วยรักษาเสถียรภาพ สำเร็จให้ทัชมาฮาลสามารถทนต่อภัยจากธรรมชาติยกตัวอย่างเช่นแผ่นดินไหวและน้ำหลาก ตามความเป็นจริง, อาคารนี้สร้างขึ้นในช่วงที่จักรวรรดิโมกุลกำลังขยายตัวในหลายส่วนของโลก ทัชมาฮาลถูกทำขึ้นมาเป็นเวลาหลายศตวรรษและก็เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความเจริญก้าวหน้าของอาณาจักรโมกุล ทัชมาฮาลไม่ได้เป็นเพียงสถาปัตยกรรม ที่สวยเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นยังเป็นอาคารที่ใช้งานได้จริงอีกด้วย มันปฏิบัติหน้าที่เป็นตัวอย่างว่าผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรม สามารถอยู่บนเบื้องต้นของลักษณะการทำงานได้อย่างไร


5. โคลอสเซียม



โคลอสเซียมถูกทำขึ้นเพื่อเป็นสถานที่สำหรับความบันเทิงรวมทั้งสถานที่สักการะ แต่เป้าประสงค์หลักเป็นเพื่อให้สามัญชนได้เห็นความเถื่อนของจักรวรรดิโรมันและก็วิธีที่มันควบคุมพลเมือง จักรวรรดิโรมันมีชื่อเสียงสำหรับวิธีการลงโทษที่ทารุณและร้ายแรง พวกเขายังสนุกสนานกับการสู้รบแบบกลาดิเอเตอร์ กลาดิเอเตอร์เป็นนักโทษที่ต่อสู้กันเองจนตายเพื่อความเพลิดเพลินและก็กำไร เกมกลาดิเอเตอร์บางเกมมีไว้สำหรับผู้ชมทั่วไป ส่วนเกมอื่นๆสำหรับกิจกรรมพิเศษ ดังเช่นว่า วันเกิดหรือวันหยุด

โคลอสเซียมได้รับการออกแบบแล้วก็ผลิตขึ้นภายในช่วงระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปี คนเขียนแบบ Vespasiano ลูกศิษย์ของ Vitruvius จำเป็นต้องวางแบบตึกเพื่อสร้างความประทับใจรวมทั้งข่มขู่พลเมือง เขามีความคล่องตัวเยอะมาก แม้กระนั้นเขาก็ต้องการแผนที่แข็งแกร่งเช่นกัน แผนการได้ทำงานในสามขั้นตอน: ระยะแรกของการก่อสร้าง ระยะลำดับที่สองของการก่อสร้าง แล้วก็ระยะสุดท้ายของการก่อสร้าง

6. มหาพีระมิดแห่งกิซ่า



ที่ศูนย์กลางมหาพีระมิดที่กิซ่า อียิปต์เป็นห้องลับที่ฟาโรห์ฝังรวมทั้งฝังไว้ ชาวอียิปต์โบราณมั่นใจว่าฟาโรห์เป็นวิญญาณที่แผ่นดินซึ่งแสดงออกผ่านทางร่างกายของฟาโรห์ ห้องนี้ตั้งอยู่ที่จุดสุดยอดของปิรามิด พีระมิดได้รับการออกแบบเพื่อให้สามารถสร้างด้วยชุดของปิรามิดขนาดเล็กที่ซ้อนกัน ปิรามิดแต่ละอันถูกสร้างขึ้นครั้งละหนึ่งระดับ ห้องที่อยู่ตรงกลางปิรามิดเป็นห้องฝังศพของฟาโรห์

เพื่อรู้เรื่อง สถาปัตยกรรม ที่จริงจริงของปิรามิดที่ยิ่งใหญ่ในเมืองกิซ่า เราต้องรู้เรื่องความเกี่ยวพันระหว่างชั้นต่างๆของปิรามิด ความเชื่อมโยงระหว่างปิรามิดกับแผ่นดินที่ถูกผลิตขึ้น แล้วก็หน้าที่ของแต่ละชั้น ชั้นแรกเป็นหลักหินปูนที่ปิรามิดผลิตขึ้น มันให้การสนับสนุนที่ต้องสำหรับเพื่อการยึดส่วนประกอบทั้งหมดทั้งปวง ชั้นที่สองคือศูนย์กลางของปิรามิด ให้ความแข็งแรงขององค์ประกอบและก็ความแข็งแกร่งของปิรามิด แกนกลางเป็นบล็อกหินสี่เหลี่ยม และเป็นหินชนิดเดียวที่ไม่ได้ทำจากหินปูน ชั้นที่สามคือปลอกของปิรามิด เป็นปลอกหินปูนที่หุ้มห่อแกนกลางรวมทั้งยึดแกนและก็หินอื่นๆไว้ด้วยกัน ชั้นที่สี่เป็นเปลือกนอกของปิรามิด ยิ่งไปกว่านี้ยังเป็นปลอกหินปูนและใช้เพื่อคุ้มครองปิรามิดจากการกัดเซาะ นอกจากนี้ยังชูปิรามิดขึ้นและก็คุ้มครองไม่ให้น้ำฝนเข้าไปภายในแล้วก็ทำความเสียหายให้กับปิรามิด ชั้นที่ห้าคือส่วนบนของปิรามิด เป็นยอดของปิรามิด มันทำจากหินแกรนิต ชั้นที่หกเป็นหินผาหลัก มันถูกวางเอาไว้ที่ด้านบนยอดปิรามิด เป็นชั้นท้ายที่สุดที่ให้ชื่อปิรามิด

มหาพีระมิดที่กิซ่าเป็นงาน สถาปัตยกรรม และก็วิศวกรรมอย่างแท้จริง ฟาโรห์เป็นสถาปนิกและก็วิศวกรของหลุมฝังศพของตน พวกเขาสร้างโดยใช้กฎแรงโน้มถ่วงตามธรรมชาติและก็น้ำหนักของหินเพื่อสร้างโครงสร้าง พวกเขาใช้หลักการเดียวกันของฟิสิกส์แล้วก็กฎของเรขาคณิตสำหรับการดีไซน์แล้วก็สร้างปิรามิด

มหาพีระมิดถูกผลิตขึ้นในสองขั้นตอน ขั้นแรกเสร็จสิ้นโดยคูฟูซึ่งครองบัลลังก์ตั้งแต่ 2589-2566 ปีกลายคริสตกาล ขั้นตอนที่สองเสร็จสิ้นโดยลูกชายของเขา Khafre ซึ่งเสวยราชสมบัติตั้งแต่ 2566-2558 ปีกลายคริสตกาล


7. วิหารอาร์เทมิส



วิหารอาร์เทมิสทำขึ้นในศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตศักราช รวมทั้งตั้งอยู่เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกสมัยโบราณ เดิมวัดนี้ทำขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นางฟ้าอาร์เทมิส และได้รับการออกแบบโดยแคสซานเดอร์แห่งมาซิโดเนีย อย่างไรก็ตาม ในศตวรรษที่ 2 CE มันถูกใช้เป็นป้อม ท้ายที่สุดวัดก็ย่ำแย่ แล้วในศตวรรษที่ 15 ก็ถูกทำลายโดยพวกเติร์กออตโตมัน ตอนนี้ สามารถพบวิหารอาร์เทมิสในอะโครโพลิสแห่งเอเธนส์ ประเทศกรีซ

การก่อสร้าง วิหารอาร์เทมิสทำขึ้นในตอนศตวรรษที่ 5 ก่อนช่วงคริสตศักราชในเมืองเอเฟซัส ประเทศตุรกี จุดหมายดั้งเดิมของวัดคือเพื่อเป็นเกียรติแก่นางฟ้าอาร์เทมิส วัดนี้ยอดเยี่ยมในเจ็ดสิ่งอัศจรรย์ของโลกโบราณ ในรัชสมัยของคาสซานเดอร์แห่งมาซิโดเนีย วัดที่นี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นางฟ้าอาร์เทมิส อย่างไรก็ดี ในศตวรรษที่ 2 CE มันถูกใช้เป็นป้อมปราการ ในที่สุดวัดก็ทรุดโทรม แล้วในศตวรรษที่ 15 ก็ถูกทำลายโดยพวกเติร์กออตโตมัน ตามคำกล่าวของเพาซาเนียส รากฐานของวัดถูกวางขึ้นในช่วงกึ่งกลางศตวรรษที่ 5 ก่อนช่วงคริสตศักราช เมื่อถึงเวลานั้น รอบๆนี้มีผู้คนอาศัยอยู่อย่างน้อย 4,000 ปี ในศตวรรษที่ 1 ก่อนช่วงคริสตศักราช เมืองเอเฟซัสเป็นที่รู้จักในนาม "ราชินีที่เมือง" ความมั่งคั่งมาจากการส่งออกเงิน ตะกั่ว รวมทั้งขนสัตว์ วิหารอาร์เทมิสผลิตขึ้นบนเนินเขา ซึ่งถูกล้อมด้วยกำแพง เนินเขามีรูปร่างราวกับเรือ โดยมีวัดอยู่ที่ศีรษะเรือ ตัวอาคารทำด้วยหินอ่อนแล้วก็ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดทั้งปวงโดยประมาณ


8. มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์



มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี วางแบบโดยไมเคิลแองเจโล ในฐานะที่เป็นเลิศในสามของเจ็ดมหาวิหารที่ยิ่งใหญ่ของกรุงโรม เสร็จสมบูรณ์ในปี 1626 มหาวิหารมีสามส่วน: โบสถ์ พื้นที่หลัก; ทางเท้าซึ่งทอดยาวไปตามด้านข้างของฟุตบาทกึ่งกลาง รวมทั้งปีกนก ซึ่งเป็นส่วนที่เล็กกว่าตรงข้ามโบสถ์ที่ล้อมด้วยทางเดิน วิหารเป็นพื้นที่หลักของมหาวิหาร เสาที่ยาวลงมาสร้างด้วยก้อนอิฐสีแดง ส่วนเสาที่เรียงตามทางเดินเป็นหินอ่อนสีขาว

เมื่อมองแวบแรก การออกแบบมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ดูราวกับว่าเป็นตึกที่ตรงไปตรงมามาก มหาวิหารเป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ ผลิตขึ้นเป็นเวลานับเป็นเวลาหลายปีบนที่ดินผืนใหญ่ ข้างหน้าตึกมีทางเข้าออก 3 ทาง อย่างไรก็แล้วแต่ ประตูหลักตั้งอยู่ที่ด้านหลังของตึก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของทางเดินกึ่งกลางของโบสถ์ ที่นี่เป็นที่ที่คุณเข้าไปในโบสถ์

มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี วางแบบโดยไมเคิลแองเจโล ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสามของเจ็ดมหาวิหารที่ยิ่งใหญ่ของกรุงโรม เสร็จสมบูรณ์ในปี 1626 มหาวิหารมีสามส่วน: โบสถ์ พื้นที่หลัก; ทางเดินซึ่งทอดยาวไปตามด้านข้างของฟุตบาทกลาง และปีกนก ซึ่งเป็นส่วนที่เล็กกว่าตรงข้ามโบสถ์ที่โอบล้อมด้วยฟุตบาท วิหารเป็นพื้นที่หลักของมหาวิหาร เสาที่ยาวลงมาสร้างด้วยก้อนอิฐสีแดง ส่วนเสาที่เรียงตามทางเดินเป็นหินอ่อนสีขาว

9. นครวาติกัน



นครวาติกันตั้งอยู่ระหว่างกรุงโรมรวมทั้งเทือกเขาแอลป์สวิสเซอร์แลนด์ ยอดเยี่ยมในประเทศที่เล็กที่สุดในโลกโดยมีมวลชนไม่ถึง 400,000 คน มันถูกสร้างขึ้นในพื้นที่แอ่งน้ำที่มีแนวโน้มว่าจะถูกน้ำหลาก โป๊ปฟรานซิสตัดสินใจสร้างเมืองใหม่บนแผ่นดินนี้ ตัวเลือกของเขาคือ Castel Sant'Angelo ซึ่งเคยเป็นคุก ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Tiber แล้วก็เป็นสถานที่สำหรับท่องเที่ยวหลักของนครวาติกัน

สถาปัตยกรรม ของนครวาติกันเกิดขึ้นโดย Gian Lorenzo Bernini ในปี 1644 เขาปรารถนาสถานที่สำหรับสวดมนต์ แผนเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากเย็น ตึกนี้แบ่งได้เป็นสามส่วน ได้แก่ พระราชสำนักวาติกัน มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ และวังลาเตรัน โครงสร้างนี้มีพื้นฐานมาจากแนวความคิดโรมันโบราณเกี่ยวกับจัตุรัส จตุรัสเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดใหญ่ที่โอบล้อมด้วยอาคารต่างๆโดยมีโบสถ์อยู่กึ่งกลาง มีไว้เพื่อเป็นสถานที่สักการะบูชา

วังวาติกันเดิมสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของพระราชาธิราชสำหรับพระสันตะปาปา ความจริงมันถูกทำขึ้นในศตวรรษที่ 1 และถูกใช้จนกระทั่งยุคกลาง มันถูกใช้เป็นที่พำนักพักพิงของสมเด็จพระสันตะปาปาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา วังตั้งอยู่ด้านเหนือของ Castel Sant'Angelo ด้านหน้าวังหันไปทางแม่น้ำไทเบอร์ มีลานเจ็ดที่และลานกลางใหญ่ที่สุด หลังจากนี้ สวนวาติกันจะตั้งอยู่ข้างหลังราชสำนัก วางแบบโดย Michelangelo และก็มีสระว่ายน้ำ 2 ที่ในสวนนี้ ยกตัวอย่างเช่น Piazza del Giardino และก็ Ponte Sant' Angelo 

10. สุเหร่าโซเฟีย



สถาปัตยกรรม ของสุเหร่าโซเฟียมีอายุย้อนกลับไปราวๆ500 AD เมื่อสร้างขึ้นบนที่ตั้งโรงอาบน้ำโรมัน สถาปนิกเป็นชาวภาษากรีกชื่อ Anthemius ผู้ออกแบบตึกและก็เป็นผู้ดูแลกรุงคอนสแตนว่ากล่าวโนเปิลในช่วงเวลานั้น Anthemius ปรารถนาอวดผลงานของเขาให้สหายๆแล้วก็เพื่อนบ้านของเขาสร้างโครงสร้างที่ใหญ่มโหฬารจนผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมายกย่อง ตามที่เป็นอยู่ในตอนนี้ Hagia Sophia เป็นโดมที่ใหญ่ที่สุดในโลกและสามารถรองรับผู้คนได้มากถึง 6,000 คน

สุเหร่าโซเฟียเป็นตัวอย่างที่สะดุดตาของวิธีการใช้ สถาปัตยกรรม เพื่อสื่อสารข่าวทางศาสนาและวัฒนธรรม ด้วยการใช้ สถาปัตยกรรม และส่วนประกอบการออกแบบ มันสามารถให้วิธีการทำความเข้าใจความหมายเบื้องหลังมัน กล่าวคือ สถาปัตยกรรม สามารถใช้เป็นรูปแบบหนึ่งของการติดต่อสื่อสารได้ Hagia Sophia เป็นตัวอย่างที่ดีว่าตึกสามารถถ่ายทอดใจความเฉพาะได้ยังไง อาคารมีความเรียบง่ายแล้วก็ตรงไปตรงมาสำหรับเพื่อการวางแบบโดยรวม เอกลักษณ์ของมันเป็นทรงกลม

สถาปัตยกรรม ของสุเหร่าโซเฟียมีเอกลักษณ์ส่วนตัว โดมครอบคลุมโครงสร้างทั้งหมดทั้งปวงแล้วก็ตั้งอยู่ด้านบนของพื้นที่ศูนย์กลาง ด้านกลางล้อมรอบด้วยแนวเสาขนาดใหญ่ ทุ่งนาร์เทกซ์กึ่งกลางและเสาของโคโลเนดถูกปกคลุมด้วยโดม โดมใส่มงกุฎด้วยกลองทรงกลมที่มีรูกึ่งกลาง

มัสยิดโซเฟีย โบสถ์อาสนวิหารแห่งพระสติปัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นอาสนวิหารที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดของจักรวรรดิไบแซนไทน์ และก็เป็นเยี่ยมในการบรรลุเป้าหมายทาง สถาปัตยกรรม ที่ยิ่งใหญ่ของโลกสมัยโบราณ โบสถ์ที่นี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 4 ได้รับการออกแบบให้เป็นศูนย์กลางของเมืองใหญ่ มีเป้าหมายเพื่อเป็นมหาวิหาร "วงศ์สกุล" ที่อุทิศให้กับความทรงจำของจักรพรรดิคอนสแตนตำหนินมหาราชซึ่งเสียชีวิตขณะเยี่ยมชมเมืองในปี 337 อาคารที่มีขนาดดังกล่าวข้างต้นจำเป็นที่จะต้องมีการวางแบบที่กว้างและสลับซับซ้อนซึ่งเป็นไปตามแผน ของโบสถ์คริสต์ที่แรกที่ทำขึ้นโดยคอนสแตนติเตียนน โบสถ์แห่งอัครสาวกศักดิ์สิทธิ์

โดยสรุป สถาปัตยกรรม อีกทั้ง 10 กลุ่มนี้มาจากทวีปต่างๆและก็ทั้งผองมีความสะดุดตาเนื่องจากรูปแบบ การออกแบบ แล้วก็การก่อสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ สิ่งที่คนเขียนแบบกลุ่มนี้มีเหมือนกันเป็นพวกเขาทั้งหมดมีความคลั่งไคล้ในสิ่งที่พวกเขาทำ พวกเขาใช้ความคลั่งไคล้นี้เพื่อสร้างสไตล์ที่ไม่มีใครเหมือนซึ่งไม่ยุ่งยากต่อการเจาะจง

hs8jai


hs8jai


hs8jai


hs8jai


hs8jai


hs8jai


hs8jai


hs8jai


hs8jai


hs8jai


hs8jai


hs8jai


hs8jai


hs8jai