กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

การมีเงินออมเพื่อใช้ในช่วงบั้นปลายชีวิตผ่านการลงทุน ถือเป็นหนึ่งในวิธีการยอดนิยมวางแผนการเงิน เพื่อบรรลุเป้าหมายของผู้คนในปัจจุบัน ซึ่งการลงทุนเป็นวิธีการที่ได้มาซึ่งการรับเงินปันผลในระยะยาว และมีรูปแบบหลากหลายเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการเงินของแต่ละบุคคล วันนี้เราจึงขอหยิบเอารูปแบบการลงทุนที่น่าสนใจมาฝากสำหรับผู้ที่กำลังมองหาการมีรายรับเพิ่มเติมในระยะยาว ถ้าพร้อมแล้ว เราไปติดตามรายละเอียดกันเลย


ตราสารหนี้ระยะสั้น

การลงทุนในตราสารหนี้ส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบระยะสั้น โดยมีระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี หรือมากกว่า 1 ปี เหมาะกับผู้เริ่มต้นลงทุน และต้องการบริหารการเงินแบบมีกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนตามที่ระบุไว้ในสัญญา ตัวอย่างเช่น ทุก 3 เดือน 6 เดือน หรือทุกปี และมีการจ่ายเงินต้นคืนเมื่อครบสัญญา

โดยข้อดีของการลงทุนแบบตราสารหนี้ระยะสั้น คือผู้ลงทุนได้รับกระแสเงินสด และทำให้สามารถวางแผนการเงินส่วนบุคคลได้ง่าย อีกทั้งยังมีความเสี่ยงต่ำ สำหรับข้อจำกัดของการลงทุนประเภทนี้ คือผลตอบแทนที่ได้อาจจะต่ำ ขึ้นอยู่กับภาวะของตลาดในแต่ละช่วงเวลา จึงทำให้ไม่เหมาะกับการลงทุนเพื่อการวางแผนเกษียณ


พันธบัตร

การลงทุนกับพันธบัตรจะมีอายุมากกว่า 1 ปี และส่วนใหญ่อยู่ในช่วงเวลาระหว่าง 5 - 30 ปี ข้อดีคือความเสี่ยงต่ำ เพราะมีรัฐบาลหรือรัฐวิสาหกิจเป็นลูกหนี้ ผลตอบแทนที่เราจะได้คือดอกเบี้ยแบบคงที่ และจ่ายให้กับผู้ลงทุนตลอดอายุของธนบัตร อย่างไรก็ดี กำไรหรือขาดทุนจากการขายอาจเกิดขึ้นได้ ในกรณีที่ผู้ลงทุนขายพันธบัตรก่อนครบกำหนด เพราะมาจากส่วนต่างระหว่างราคาซื้อกับราคาขาย ดังนั้น ผู้สนใจลงทุนพันธบัตรควรปรึกษาที่ปรึกษาการเงินก่อนตัดสินใจลงทุน


ลงทุนในตลาดหุ้น

การลงทุนในตลาดหุ้น คือการซื้อสิทธิความเป็นเจ้าของบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับคือ ราคาหุ้นที่สูงขึ้น เงินปันผล และอาจมีโอกาสขาดทุนจากราคาหุ้นที่ลดลงได้ ซึ่งนับว่ามีความเสี่ยงสูง ในขณะเดียวกันก็มีโอกาสรับผลตอบแทนสูงเช่นกัน ดังนั้น ผู้ลงทุนควรวางแผนการเงินสำหรับซื้อหุ้นในตลาดให้ดี เพราะอาจส่งผลต่อการวางแผนการใช้หนี้ในอนาคตได้เช่นกัน


ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

การมองหาโอกาสลงทุนทรัพย์สินที่เพิ่มมูลค่าอย่างที่ดิน บ้าน หรือคอนโด ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนวัยทำงาน ซึ่งการลงทุนแนวนี้แม้จะเป็นการสร้างภาระหนี้ก้อนใหญ่ แต่หากเลือกทำเลได้ตอบโจทย์ก็จะเกิดความคุ้มค่าอย่างแน่นอน เพราะราคาอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ดังนั้น ไม่ว่าการลงทุนเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือปล่อยเช่าก็มีโอกาสได้รับกำไรสูง

อย่างไรก็ตาม การลงทุนลักษณะนี้เมื่อครบรอบยื่นภาษีประจำปี ผู้ลงทุนอาจจะต้องกรอกรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อวางแผนภาษี บุคคลธรรมดา ซึ่งแตกต่างจากการวางแผนภาษีสำหรับผู้ที่รับเงินเดือนทางเดียว

   
สรุป

ทั้งหมดนี้เป็นรูปแบบการลงทุนเบื้องต้น ซึ่งจะช่วยให้การวางแผนการเงิน เพื่อบรรลุเป้าหมายทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดี ทุกการลงทุนควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงิน ก่อนตัดสินใจทุกครั้ง