ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ค่า SPF คืออะไร ? ยิ่งสูงยิ่งดีจริงไหม ? ช่วยปกป้องผิวได้นานแค่ไหน ?

เริ่มโดย beautypost, 10:56 น. 11 ก.ย 67

beautypost



 
ค่า SPF คืออะไร ? ยิ่งสูงยิ่งกันแดดได้ดีจริงหรือ ? เลือกใช้อย่างไรให้เหมาะสม ?
 



 
ค่า SPF
 
ค่า SPF คือ ค่าชี้วัดความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสี UVB เนื่องจากแสงแดดที่ผิวต้องเผชิญทุกวันนั้นจะมาพร้อมกับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมา และยังสามารถทำร้ายผิวได้ในระยะยาว หนึ่งในปัจจัยที่ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากแสงแดดได้ดีที่สุดก็คือการเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF เหมาะสม 
 
บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจกับค่า SPF อย่างละเอียด ตั้งแต่ความหมายของค่า SPF การเลือกค่า SPF ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในประเทศไทย ไปจนถึงการคำนวณระยะเวลาที่ครีมกันแดดสามารถปกป้องผิวได้ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ครีมกันแดดได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการปกป้องผิวจากแสงแดด
 
รวมถึงตอบคำถามที่หลายคนสงสัยว่า ทำไมต้องเลือกใช้ค่า SPF ต่างกัน ? กันแดดที่มีค่า SPF ที่สูงขึ้นจะดีกว่าจริงหรือไม่ ? เลือกใช้เท่าไรให้เหมาะสม ? ติดตามอ่านพร้อมกันได้ในบทความครับ
 
คลิกอ่านหัวข้อ ค่า SPF
 
  • ค่า SPF มีกี่ระดับ แต่ละระดับปกป้องผิวได้แค่ไหน ?
    • SPF 15
    • SPF 30
    • SPF 40
    • SPF 50
    • SPF 100
  • ใช้ค่า SPF เท่าไหร่ดี ? จึงจะเหมาะกับอากาศประเทศไทย
  • กันแดดยิ่งมีค่า SPF สูง ยิ่งดีจริงหรือไม่ ?
  • วิธีคำนวณว่า SPF ปกป้องผิวได้นานแค่ไหน ?
  • ความแตกต่าง SPF กับ PA
  • สรุปเรื่องค่า SPF ครีมกันแดด



 
ค่า SPF มีกี่ระดับ แต่ละระดับปกป้องผิวได้แค่ไหน ?
 
ค่า SPF คือ ค่าความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสี UVB โดยสามารถแบ่งออกเป็นหลายระดับ ซึ่งแต่ละระดับมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ในเรื่องของประสิทธิภาพการปกป้องผิว ดังนี้
 


 
SPF 15
 
ค่า SPF 15 ถือเป็นค่าที่น้อยแต่ยังสามารถให้การปกป้องผิวได้ดี โดยสามารถป้องกันรังสี UVB ได้ประมาณ 93.3% เหมาะสำหรับการใช้งานในวันที่ไม่ต้องเผชิญกับแสงแดดมากนัก หรือเมื่อต้องอยู่ในที่ร่มเป็นส่วนใหญ่ 
 
หากทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 แล้วออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน อาจทำให้ผิวเกิดอาการไหม้แดดได้เล็กน้อย เนื่องจากประสิทธิภาพการปกป้องผิวจากแสงแดดไม่เพียงพอ
 


 
SPF 30
 
ค่า SPF 30 เป็นค่าระดับกลางที่แนะนำให้ใช้เป็นมาตรฐาน เนื่องจากสามารถป้องกันรังสี UVB ได้ถึง 96.7% เหมาะสำหรับการปกป้องผิวในชีวิตประจำวันทั่วไป ไม่ต้องเผชิญกับแสงแดดจัด และยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวสีขาวอมเหลือง 
 
อย่างไรก็ตามหากต้องทำกิจกรรมกลางแดดจัดมาก ค่า SPF 30 อาจไม่เพียงพอสำหรับการปกป้องผิวอย่างเต็มที่
 


 
SPF 40
 
ค่า SPF 40 ถือเป็นค่าระดับกลางสามารถป้องกันรังสี UVB ได้ประมาณ 97.5% เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง ในช่วงที่แดดไม่แรงจัด โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวขาวอมชมพู เพราะมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาผิวหมองคล้ำ หรือเสี่ยงผิวไหม้แดดได้ง่ายกว่าผู้มีสีผิวขาวอมเหลือง
 


 
SPF 50
 
ค่า SPF 50 เป็นค่าระดับสูงที่สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ถึง 98% เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องทำกิจกรรมนอกบ้านผิวต้องเผชิญกับแสงแดดจัด เช่น การไปทะเล 
 
เพราะฉะนั้นการใช้ชีวิตประจำวัน การเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 คือวิธีปกป้องผิวที่ดีที่สุด และถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม 
 


 
SPF 100
 
ค่า SPF 100 เป็นค่าระดับสูงที่สุด สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ถึง 98.5% สามารถปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เหมาะสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้งในแสงแดดจัด หรือต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน 
 
อย่างไรก็ตามครีมกันแดดที่มีค่า SPF 100 ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวสูง แต่ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้มากขึ้นตามระดับ SPF ที่สูงขึ้น
 


 
ใช้ค่า SPF เท่าไหร่ดี ? จึงจะเหมาะกับอากาศประเทศไทย
 
สำหรับประเทศไทยที่มีแสงแดดแรงและอากาศร้อนจัด การเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF คือสิ่งสำคัญอย่างมาก 
 
แนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป เนื่องจากสามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดีและครอบคลุมกว่าครีมกันแดดที่มีค่า SPF ต่ำกว่า 
 
ดังนั้นการเลือกกันแดดที่มีค่า SPF ที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงของผิวไหม้แดด และความเสียหายจากรังสี UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 


 
กันแดดยิ่งมีค่า SPF สูง ยิ่งดีจริงหรือไม่ ?
 
หลายคนอาจเข้าใจว่าค่า SPF ยิ่งสูงยิ่งดียิ่ง ช่วยปกป้องผิวได้มากขึ้น แต่ก็ไม่จำเป็นเสมอไปครับ 
 
การเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมควรพิจารณาจากการใช้งาน หากอยู่ในบ้านไม่ได้ทำออกไปข้างนอกไม่เจอแสงแดด ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป 
 
แต่ถ้าการใช้ชีวิตประจำวันต้องทำกิจกรรมนอกบ้าน ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 คือตัวเลือกที่เหมาะสมครับ แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ค่า SPF สูงถึง 100 ในชีวิตประจำวัน
 



 
วิธีคำนวณว่า SPF ปกป้องผิวได้นานแค่ไหน ?
 
วิธีคำนวณว่าค่า SPF ในครีมกันแดดสามารถปกป้องผิวได้นานแค่ไหนทำได้ง่าย ๆ ครับ 
 
โดยเริ่มจากการดูว่าผิวเริ่มไหม้แดด มีอาการแดง ผิวดูหมองคล้ำ หรือรู้สึกระคายเคืองหลังจากอยู่กลางแดดโดยไม่ทาครีมกันแดดภายในกี่นาที เช่น ถ้าผิวเริ่มมีอาการเหล่านี้จากการอยู่กลางแดดภายใน 10 นาที หมายความว่าผิวสามารถทนทานต่อแสงแดดได้เพียง 10 นาที
 
หากเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 จะสามารถปกป้องผิวได้นานถึง 500 นาที หรือประมาณ 8.3 ชั่วโมง โดยคิดจากการนำค่า SPF คูณกับระยะเวลาที่ผิวทนทานต่อแสงแดด (50x10) 
 
แต่ควรระวังว่าความสามารถในการปกป้องผิวอาจลดลง หากมีเหงื่อออกมาก โดนน้ำ หรือเช็ดครีมกันแดดออก ดังนั้นจึงควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อให้การปกป้องผิวมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องครับ
 


 
ความแตกต่าง SPF กับ PA
 
การเลือกใช้ครีมกันแดดที่ดีมีประสิทธิภาพในการช่วยปกป้องผิว จะต้องมีค่า SPF และ ค่า PA ที่เหมาะสมสำหรับการป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต โดยค่า SPF และ PA มีความแตกต่างกันดังนี้
 
ค่า SPF คือ ค่าชี้วัดประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสี UVB ที่ทำร้ายผิวหนังชั้นนอก ทำให้ผิวดูหมองคล้ำ ไหม้แดด มีอาการแสบ แดง โดยค่า SPF จะระบุเป็นตัวเลขที่บ่งบอกจำนวนเท่า ที่สามารถปกป้องผิวได้เมื่อเทียบกับผิวที่ไม่ได้ทาครีมกันแดด เช่น SPF 30, SPF 40, SPF 50
 
ค่า PA คือ ค่าชี้วัดประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสี UVA ที่ทำร้ายผิวในชั้นลึก ทำให้ผิวเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ และรอยเหี่ยวย่น โดยค่า PA จะแสดงด้วยเครื่องหมายบวก (+) เป็นจำนวนเท่า โดยปรากฏหลังจากค่า SPF เช่น
 

    • PA + : สามารถปกป้องผิวได้มากกว่าผิวปกติที่ไม่ได้ทากันแดด 2-4 เท่า
    • PA ++ : สามารถปกป้องผิวได้มากกว่าผิวปกติที่ไม่ได้ทากันแดด 4-8 เท่า
    • PA +++ : สามารถปกป้องผิวได้มากกว่าผิวปกติที่ไม่ได้ทากันแดด 8-16 เท่า
    • PA ++++ : สามารถปกป้องผิวได้มากกว่าผิวปกติที่ไม่ได้ทากันแดด มากกว่า 16 เท่า




 
สรุปเรื่องค่า SPF ครีมกันแดด
 
การเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF คือสิ่งสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVB ที่ทำร้ายผิวได้ ควรเลือกใช้กันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป สำหรับการป้องกันแสงแดดในชีวิตประจำวัน และควรคำนึงถึงค่า PA เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UVA ด้วย อย่าลืมทาครีมกันแดดในปริมาณที่เพียงพอ และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมงเพื่อประสิทธิภาพที่ดีในการป้องกันผิวที่ดีที่สุด
 
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://drvsquare.com/knowledge/what-spf/