กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

ฝ้าแดด คืออะไร ? เกิดจากอะไร ? รักษาและป้องกันด้วยวิธีไหนได้บ้าง ? ก่อนสายเกินไป!
 

ฝ้าแดด
 
ฝ้าแดด เป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยในผู้ที่ต้องเจอแสงแดดเป็นประจำ ทำให้ผิวหน้ามีรอยดำคล้ำหรือจุดสีน้ำตาล ซึ่งสร้างความกังวลและอาจทำให้ขาดความมั่นใจ จนหลายคนต้องการหาวิธีจัดการให้หายขาด แต่ก่อนที่จะลงมือแก้ไข หลายคนอาจมีคำถามว่า ฝ้าแดดเกิดจากอะไร ? รอยคล้ำบนใบหน้าที่เป็นอยู่ใช่ฝ้าแดดหรือไม่ ? 
 
ในบทความนี้ เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุ วิธีการรักษา และการป้องกันฝ้าแดดไว้อย่างครบถ้วนเพื่อให้คุณได้เข้าใจและรับมือกับปัญหานี้ได้อย่างตรงจุด
 

---

 
ฝ้าแดด คืออะไร ? มีลักษณะเป็นแบบไหน ?
 

ฝ้าแดด (Melasma) คือ ปัญหาผิวที่เกิดจากการที่ผิวสัมผัสกับแสงแดดและรังสี UV รวมถึงแสงจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ทำให้ผิวผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไป จนเกิดเป็นจุดด่างดำบนผิว 
 
โดยจะมีลักษณะเป็นรอยปื้นสีน้ำตาล แดง เทาอมม่วง หรือดำ กระจายอยู่บนผิว ซึ่งสีของฝ้าจะเข้มขึ้นเมื่อโดนแสงแดดมากขึ้น หากไม่มีการป้องกันที่ดีพอ รอยฝ้าก็จะขยายวงกว้างและเข้มขึ้นเรื่อย ๆ
 

---

 
สาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้าแดด มาจากรังสี UV ตัวไหน ?
 
ฝ้าแดดเกิดจากรังสี "UVA" เป็นหลัก ซึ่งเป็นรังสีที่มีความยาวคลื่นมาก สามารถทะลุผ่านผิวหนังได้ลึกกว่ารังสี UVB และสามารถทะลุผ่านกระจก เมฆ หรือวัตถุต่าง ๆ ได้ด้วย 
 
นอกจากนี้ ยังมีแสงพลังงานสูงจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น หลอดไฟ หน้าจอมือถือ และคอมพิวเตอร์ ที่ทำให้เกิดฝ้าแดดได้อีกด้วย
 

เพราะเมื่อผิวของเราได้รับรังสีเหล่านี้ ร่างกายจะพยายามป้องกันตัวเองโดยการผลิตเม็ดสีเมลานินออกมามากขึ้น เพื่อช่วยกรองรังสี UV แต่การที่มีเม็ดสีมากเกินไปนี้เอง ทำให้ผิวเกิดความไม่สม่ำเสมอ และกลายเป็นฝ้าแดดในที่สุด หากเราไม่ป้องกันผิวจากรังสี UVA ให้ดี โอกาสที่จะเกิดฝ้าแดดก็จะยิ่งมากขึ้น
 
บริเวณที่พบฝ้าแดดได้บ่อย เช่น
 

• ฝ้าแดดที่หน้า
• ฝ้าแดดที่แขน
• ฝ้าแดดที่โหนกแก้ม
• ฝ้าแดดที่หน้าผาก
• ฝ้าแดดที่คาง
• ฝ้าแดดที่บริเวณเหนือริมฝีปาก

---

 
พบฝ้าแดดได้ ในช่วงเพศ และวัยไหน ?
 
ฝ้าแดดสามารถพบได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะพบมากในคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป เพราะผิวหนังจะบางลงตามอายุ ทำให้แสงแดดทำร้ายผิวได้ง่าย อย่างไรก็ตาม คนอายุน้อยที่ต้องอยู่กลางแดดเป็นประจำ หรือไม่ป้องกันแสงแดด ก็สามารถเกิดฝ้าแดดได้เช่นกัน
 

---

 
วิธีรักษาฝ้าแดด ที่ได้รับความนิยม มีอะไรบ้าง ?
 
การรักษาฝ้าแดดต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ ส่วนใหญ่เน้นการรักษาแบบเร่งด่วนและวิธีทางการแพทย์ เนื่องจากฝ้าแดดเป็นปัญหาผิวที่เกิดแล้วมักจางลงได้ยาก หากไม่ดูแลอย่างถูกวิธี มาดูกันว่าวิธีรักษาฝ้าแดดที่นิยมมีอะไรบ้าง
 
1. หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดจัด
 
การหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ในช่วงเวลา 10.00 - 16.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่มีรังสี UV เข้มข้น ช่วยป้องกันไม่ให้ฝ้าเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากการอยู่กลางแดดจัดเป็นเวลานานสามารถกระตุ้นให้ฝ้าแดดชัดเจนขึ้น ดังนั้นหากหลีกเลี่ยงได้ จะช่วยลดโอกาสในการเกิดฝ้าแดด

2. ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
 
ครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันฝ้าแดด ควรเลือกครีมกันแดดที่มี SPF และ PA เหมาะกับกิจกรรมประจำวัน เช่น SPF 30 ขึ้นไป และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่กลางแจ้งนาน ๆ เพื่อช่วยลดเลือนฝ้าแดดที่มีอยู่และป้องกันไม่ให้เกิดฝ้าใหม่

3. ใช้ยาทาหรือครีมรักษาฝ้าแดด
 
การทาครีมที่มีส่วนผสมของ AHA, อาร์บูติน และกรดโคจิก ช่วยลดจุดด่างดำและผลัดเซลล์ผิวเก่า ทำให้ฝ้าดูจางลงและผิวหน้าสม่ำเสมอขึ้น แต่ต้องใช้อย่างสม่ำเสมอและอาจต้องใช้เวลาพอสมควร 
 
ส่วนยารักษาฝ้าที่มีไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) จะช่วยยับยั้งการสร้างเมลานิน ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น เพราะหากใช้เกิน 2% อาจทำให้เกิดรอยด่างขาวได้ 

4. ทำเลเซอร์ลดฝ้าแดด
 

การทำเลเซอร์ลดฝ้า เช่น ND-Yag, Fractional, Q-Switch, Picosecond และ Copper Bromide laser เป็นวิธีที่ช่วยให้ฝ้าแดดจางลงได้เร็วขึ้น โดยการยิงแสงเลเซอร์ช่วยกำจัดเม็ดสีฝ้าใต้ผิว อย่างไรก็ตาม เลเซอร์ทำให้ผิวบางลงและไวต่อแสง รวมถึงควรทำอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด

5. กรอผิวพ่นผงคริสตัลรักษาฝ้าแดด
 
การกรอผิวด้วยผงคริสตัล หรือ MD เป็นการพ่นผงคริสตัลขนาดเล็กลงบนผิว เพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยให้หน้ากระจ่างใส ลดฝ้าแดด กระ และจุดด่างดำให้จางลง แต่ต้องระวังการใช้พลังงานที่แรงเกินไป เพราะอาจระคายเคืองผิวได้

6. ทำไอออนโตรักษาฝ้าแดด
 
การทำไอออนโตรักษาฝ้าแดด (Iontophoresis) เป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้กระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ ช่วยให้ยาหรือวิตามินที่ทาบนผิวหน้าซึมลงไปในผิวได้ดีขึ้น เหมือนเป็นตัวช่วยดันสารบำรุงให้เข้าถึงชั้นผิวที่มีปัญหาฝ้า เป็นวิธีที่ปลอดภัย มีผลข้างเคียงน้อย แต่อาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ในบางราย

7. ฉีดเมโสรักษาฝ้าแดด
 

การรักษาฝ้าแดดด้วยเมโส (Mesotherapy) เป็นการฉีดสารบำรุง เช่น วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ เข้าสู่ชั้นผิวที่มีปัญหาฝ้าแดดโดยตรง วิธีนี้ช่วยลดเม็ดสีเมลานินที่ทำให้เกิดฝ้า ทำให้ฝ้าจางลงประมาณ 20-50% และชะลอการกระจายของฝ้า มีผลข้างเคียงน้อย แต่ต้องทำต่อเนื่องจึงจะเห็นผล 
 

---

 
แนวทางการป้องกันไม่ให้หน้าเป็นฝ้าแดด
 

• ทาครีมกันแดดที่มี SPF 30+ ทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพราะแสงแดดเป็นสาเหตุหลักของการเกิดฝ้า
• หลีกเลี่ยงออกแดดช่วงแดดแรง โดยเฉพาะช่วง 10.00 - 16.00 น.
• หลีกเลี่ยงความร้อนจากเตา รังสีจากหน้าจอโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์
• ระวังการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจทำให้เกิดฝ้า เช่น ยาคุมกำเนิด เครื่องสำอางที่มีน้ำหอม ครีมที่มีไฮโดรควิโนน
• ล้างหน้าให้สะอาดตามแนวโพรงขน เพื่อขจัดสิ่งสกปรก สารเคมี และช่วยการไหลเวียนเลือด
• สวมหมวก ร่ม หรือแว่นกันแดดเมื่อต้องออกแดด
• ทานอาหารที่มีวิตามินซีและอาหารต้านอนุมูลอิสระ

---

 
ฝ้าแดด รักษาให้หายขาดได้ไหม ?
 
ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีไหนที่ทำให้ฝ้าแดดหายขาดได้ แต่สามารถรักษาฝ้าแดดให้จางลงได้ เนื่องจากฝ้าเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งแสงแดด ฮอร์โมน และสภาพผิว 
 
การรักษาดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทาครีมกันแดดหรือการบำรุงผิวเป็นประจำ จะช่วยให้ฝ้าดูจางลงได้มาก แต่ถ้าไม่ป้องกันอย่างต่อเนื่อง ฝ้าอาจกลับมาได้เมื่อต้องออกแดดบ่อย ๆ
 

---

 
สรุปเรื่องฝ้าแดด ปัญหาผิวที่ไม่ควรมองข้าม
 
ฝ้าแดด ถือเป็นปัญหาผิวที่ไม่ควรมองข้าม เพราะทำให้ผิวดูหมองคล้ำและไม่สดใส อีกทั้งยังเป็นปัญหาที่รักษาให้หายขาดได้ยาก การดูแลและป้องกันฝ้าแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก การทาครีมกันแดดเป็นประจำและหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดจัดจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดฝ้า รวมถึงการรักษาและดูแลผิวอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้ฝ้าดูจางลงและผิวกลับมาดูกระจ่างใสขึ้น 
 
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://drvsquare.com/knowledge/melasma-sun-spot/