กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   26 มีนาคม 2555 16:24 น.   

ยะลา - นักการเมือง 3 จังหวัดชายแดนใต้ จับมือนั่งเสวนาถกปัญหายุติความรุนแรง มติรัฐบาลต้องเปิดสนามการพูดคุยกับกลุ่มผู้มีอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน
       
       เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (26 มี.ค.) ที่ห้องอาหารจัสมิน สวนขวัญเมืองยะลา ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา นายสุรเชษฐ์ แวอาแซ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร พรรคประชาธิปัตย์ จ.นราธิวาส เป็นแกนนำร่วมกับ อดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรในจังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคมาตุภูมิ พรรคดำรงไทย และพรรคความหวังใหม่ ประกอบด้วย นายเด่น โต๊ะมีนา นายนัจมุดิน อูมา นายมุข สุไลมาน นายไพศาล ยิ่งสมาน พรรคมาตุภูมิ
       
       นายบูราฮานูดิน อุเซ็ง พรรคเพื่อไทย นายอดิสร อาลีลาเต๊ะ พรรคดำรงไทย และนายมะแซะ บากา พรรคความหวังใหม่ จัดประชุมเสวนาแลกเปลี่ยน เพื่อหาทางออกแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา จากพรรคเพื่อไทย และอาจารย์โคทม อารียา อาจารย์สถาบันสิทธิมนุษยชน และสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมรับฟังการเสวนาด้วย
       
       ที่ประชุมมีความเห็นว่า นโยบายในข้อ 8 ของสภาความมั่นคงแห่งชาติที่หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยงานควรนำไปปฏิบัติให้เป็นผลสำเร็จต่อไป จึงมีข้อเสนอแนะ คือ รัฐบาลต้องมีกลไกเป็นรูปธรรมในเรื่องกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพ โดยให้รัฐบาลแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระ เพื่อศึกษาและพัฒนากระบวนการสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้
       
       ประกอบด้วยนักการเมือง ข้าราชการ ภาคประชาสังคม ให้มีการพูดคุยกับผู้มีส่วนได้ส่วยเสียกับปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในเรื่องของหลักการ เป้าหมาย และรูปแบบของการกระจายอำนาจที่เหมาะสมบนพื้นฐานความเป็นพหุสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่อยู่ภายใต้เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญแห่งราชอานาจักรไทย ฝ่ายความมั่นคง ประกอบด้วยทหาร ตำรวจ และพลเรือน ควรจัดการจัดแบ่งความรับผิดชอบ ที่ควรเปลี่ยนแปลงสู่ภาวะปกติตามการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์
       
       โดยการขยายพื้นที่การยกเลิกพระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 การแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา จะเน้นการใช้กำลังและอำนาจ รัฐบาลควรหันมาใช้พลังทางสังคม และองค์ความรู้ให้มากขึ้น โดยระดมความคิดเห็นจากองค์กรต่างๆ ในพื้นที่ อาทิ ชมรม สมาคมของสถาบันการศึกษาทางศาสนา และมหาวิทยาลัยทั้ง 4 แห่งในพื้นที่ รวมทั้งสถานศึกษาต่างๆ เพื่อเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหา
       
       นายสุรเชษฐ์ แวอาแซ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.นราธิวาส กล่าวว่า เป็นการรวมตัวสานเสวนาของนักการเมืองทุกพรรคใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อหาทางออกในการแก้ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งการเสวนาทุกคนได้เห็นถึงประโยชน์ร่วม ไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งทางการเมือง ความคิดเห็นว่าทำอย่างไรให้สถานการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ต้องใช้การเมืองให้เกิดประโยชน์ มาร่วมคิดนำเสนอให้กับรัฐบาลนำไปแก้ไขได้ถูกต้อง
       
       ในขณะเดียวกันตนเชื่อว่า ส.ส.ที่มีอยู่ไม่สามารถที่รอบรู้คลอบคลุมไปทั่ว 3 จังหวัดได้ ดังนั้น ต้องมานั่งร่วมแชร์ปัญหาของแต่ละพื้นที่ แล้วมาหาข้อสรุปว่าจะแก้ไขอย่างไร แนวทางใด เบื้องต้นได้มาวิพาก และวิเคราะห์ในประเด็นนโยบายที่ทาง สมช.ได้เสนอให้กับทางรัฐบาล และรัฐบาลมีมติเห็นชอบที่จะเสนอเข้าที่ประชุมสภาทราบ
       
       ด้านนายเด่น โต๊ะมีนา อดีต ส.ส.หลายสมัยในจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ที่ผ่านมา มีรัฐบาลหลายรัฐบาลแก้ไขปัญหาไม่ได้ ปัจจุบันมีหลายองค์กรในภาคเอกชนอาสาที่จะมาช่วยกันแก้ไขปัญหา ที่ผ่านมาทางกลุ่มได้เคยนำเสนอทางออกไปแล้ว โดยเฉพาะการจัดตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อพิจารณาศึกษา และพัฒนากระบวนการสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากมีความรู้สึกว่ารัฐบาลทำอะไรล่าช้ามาก โดยเฉพาะนโยบาย ของสภาความมั่นคงที่ออกมา ซึ่งถือว่าเป็นนโยบายที่ดีมาก อย่างไรก็ดี ทางกลุ่มจะต้องมาพูดคุยเสวนากันต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

เพื่อความสงบสุขของประชาชน ผมขอสนับสนุนให้ลดความรุนแรงครับ เป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายครับ

.



....ขอเสนอให้ลงทะเบียนซิมมือถือ แล้วรับรองว่า จะไม่มีระเบิด....ha,ha..ha..

ขอให้กำลังใจเฉพาะในส่วนที่จัดกิจกรรมเสวนาเรื่องนี้ แต่คห.ส่วนตัวทุกเรื่องของทุกหน่วยงานที่กำลังคิดจะทำ หรือที่ทำไปแล้วล้วนล้มเหลว ไปคนละทางกับเหตุการณ์(หลงทาง) การก่อเหตุร้ายใน3จชต.มันเกิดมาหลายสิบปีแล้ว ถ้าแก้ได้คงสำเร็จไปตั้งแต่ปีมะโว้โน่น แต่เมื่อก่อนไม่รุนแรงเท่าครั้งนี้ ถ้าคิดจะแก้จริงๆ ขอชี้ทางสว่างปลายอุโมงค์ แต่ไม่ใช่สูตรสำเร็จ "ถ้าทำไ้ด้จริง"ปัญหาความรุนแรงจะทุเลาลงได้เยอะและทันตาเห็น หลังจากนั้นค่อยคิดอ่านในบันไดขั้นต่อไป ซึ่งน่าจะง่ายและเห็นหนทางสงบสุขอย่างยั่งยืน ทำแบบนี้ครับ...
หาวิธีทำให้เด็กนักเรียนมุสลิมพูด,เขียน,อ่านภาษาไทยให้ชัดเจนคล่องแคล่วเหมือนเด็กๆในจังหวัดอื่นๆให้ได้ก่อน เพราะนี่คือกุศโลบายง่ายๆแต่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน ส่วนมาตรการใดๆทั้งของรัฐและของทหารตำรวจไม่ได้เรื่องทั้งนั้น เป็นช่องทางหาเงินเข้ากระเป๋ามากกว่า

ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ ในการจับเข่าคุยกันในครั้งนี้ ขอให้ประสบความสำเร็วในการเจรจาเพื่อที่จะได้แก้ไขและยุติปัญหา3จังหวัดชายแดนใต้ให้ได้เสียที เป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายครับ

ทุกคนในพื้นที่รู้ดีกันหมด  แต่ใครละจะยอมรับความจริงแล้วทำให้สงบเพื่อแผ่นดินเกิด  ตายไปเอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง

.



...ตายแล้วเอาไปไม่ได้



...ตอนนี้ยังไม่ตายต้องรีบกู้ รีบโกง...รีบแจก..

อุดมการณ์ที่จะแบ่งแยกดินแดนของ 3 จชต.มีอยู่จริง และมีมาช้านานแล้ว  เราจะแก้จุดนี้ได้ยังไง ถ้าแก้จุดนี้ไม่ได้ อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง(ชาติหน้าตอนบ่ายๆ)

อาการป่วยของ3จชต.มันยิ่งกว่ามะเร็งซะแล้ว เป็นเพราะรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยปล่อยปละละเลยมาตลอดหลายสิบปี และโง่อีกต่า่งหาก
ปล่อยปละละเลย  = เห็นปัญหาตั้งแต่เริ่มไม่มีใครมีหัวคิดจะจัดการ"ตัดไฟแต่ต้นลม" ทุกเรื่องไม่เฉพาะเรื่องนี้ ตัวอย่างอื่นๆเช่นในเมืองหาดใหญ่ แม่ค้ายึดทางเท้าทำเป็นแผงขายของ หรือพวกรถรับจ้างทุกชนิดทำตัวเป็นเจ้าถนน และพวกทำผิดกฏหมายอื่นๆ ทางการเห็นตั้งแต่เริ่มแรก แต่ไม่มีใครมีหัวคิดดีๆจะเสนอให้"ตัดไฟแต่ต้นลม"ปล่อยให้คนพวกนี้ทำตามๆกันจนเกลื่อนเมือง ทีนี้จะไปจัดการก็สายเสียแล้ว
โง่อีกต่างหาก = รัฐบาลไทยทุกชุดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน(และในอนาคต)ชอบลงนามในสัญญาที่เรา"เสียเปรียบ"เป็นประจำ อย่างเช่นกรณียุติบทบาท"โจรจีนคอมมิวนิสต์"ในเขตรอยต่อชายแดนไทย-มาเลเซีย จคม.เป็นหนามยอกอกของเขา แต่เป็นกันชนอย่างดีสำหรับรัฐบาลไทย มีจคม.ไม่มีโจรใต้ เพื่อนบ้านไม่มีปัญญาจะปราบจึงขอร้องให้เราช่วย เราหลงกลเจรจาให้พวกจคม.วางอาวุธเข้ามอบตัวต่อรัฐบาลไทยจนสำเร็จ แต่ฝ่ายที่ได้ประโยชน์คือประเทศเพื่อนบ้าน พอไม่มีจคม. พวกโจรใต้ก็ก่อการร้ายแล้วหนีไปกบดานในประเทศเพื่อนบ้าน บางคนไปสร้างฐานะจนร่ำรวยและมีหน้ามีตา(ได้ไง?) ทั้งที่มันฆ่าคนของเราตายอย่างทารุณกี่ร้อยกี่พันศพจนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก เพื่อนบ้านช่วยอะไรเราบ้าง?
ใครจะจัดสัมนาหรือรวมหัวกันยังไงก็ทำไป หวังได้แค่"ได้ทำ"แต่จะหวังเรื่อง"สำเร็จ"คงเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ทำได้อย่างเดียวคือ...
หาวิธียืดอายุคนป่วยให้อยู่นานที่สุด จะอยู่ได้กี่ปีเท่านั้นเอง เรื่องจะให้หายป่วยเป็นปรกติกลับมาเหมือนเดิม
"Vaan Gu De" อ่านว่า "วาน กู เด้"

อ้างจาก: คนรือเสาะรู้ดี เมื่อ 19:58 น.  27 มี.ค 55
อาการป่วยของ3จชต.มันยิ่งกว่ามะเร็งซะแล้ว เป็นเพราะรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยปล่อยปละละเลยมาตลอดหลายสิบปี และโง่อีกต่า่งหาก
ปล่อยปละละเลย  = เห็นปัญหาตั้งแต่เริ่มไม่มีใครมีหัวคิดจะจัดการ"ตัดไฟแต่ต้นลม" ทุกเรื่องไม่เฉพาะเรื่องนี้ ตัวอย่างอื่นๆเช่นในเมืองหาดใหญ่ แม่ค้ายึดทางเท้าทำเป็นแผงขายของ หรือพวกรถรับจ้างทุกชนิดทำตัวเป็นเจ้าถนน และพวกทำผิดกฏหมายอื่นๆ ทางการเห็นตั้งแต่เริ่มแรก แต่ไม่มีใครมีหัวคิดดีๆจะเสนอให้"ตัดไฟแต่ต้นลม"ปล่อยให้คนพวกนี้ทำตามๆกันจนเกลื่อนเมือง ทีนี้จะไปจัดการก็สายเสียแล้ว
โง่อีกต่างหาก = รัฐบาลไทยทุกชุดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน(และในอนาคต)ชอบลงนามในสัญญาที่เรา"เสียเปรียบ"เป็นประจำ อย่างเช่นกรณียุติบทบาท"โจรจีนคอมมิวนิสต์"ในเขตรอยต่อชายแดนไทย-มาเลเซีย จคม.เป็นหนามยอกอกของเขา แต่เป็นกันชนอย่างดีสำหรับรัฐบาลไทย มีจคม.ไม่มีโจรใต้ เพื่อนบ้านไม่มีปัญญาจะปราบจึงขอร้องให้เราช่วย เราหลงกลเจรจาให้พวกจคม.วางอาวุธเข้ามอบตัวต่อรัฐบาลไทยจนสำเร็จ แต่ฝ่ายที่ได้ประโยชน์คือประเทศเพื่อนบ้าน พอไม่มีจคม. พวกโจรใต้ก็ก่อการร้ายแล้วหนีไปกบดานในประเทศเพื่อนบ้าน บางคนไปสร้างฐานะจนร่ำรวยและมีหน้ามีตา(ได้ไง?) ทั้งที่มันฆ่าคนของเราตายอย่างทารุณกี่ร้อยกี่พันศพจนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก เพื่อนบ้านช่วยอะไรเราบ้าง?
ใครจะจัดสัมนาหรือรวมหัวกันยังไงก็ทำไป หวังได้แค่"ได้ทำ"แต่จะหวังเรื่อง"สำเร็จ"คงเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ทำได้อย่างเดียวคือ...
หาวิธียืดอายุคนป่วยให้อยู่นานที่สุด จะอยู่ได้กี่ปีเท่านั้นเอง เรื่องจะให้หายป่วยเป็นปรกติกลับมาเหมือนเดิม
"Vaan Gu De" อ่านว่า "วาน กู เด้"

คนส่วนใหญ่ เขาไม่เข้าใจ..... แต่คุณโพสได้ตรงประเด็นมากๆๆๆ....

อ้างจาก: นายหัวมันเด็กรือเสาะ เมื่อ 21:39 น.  26 มี.ค 55
ขอให้กำลังใจเฉพาะในส่วนที่จัดกิจกรรมเสวนาเรื่องนี้ แต่คห.ส่วนตัวทุกเรื่องของทุกหน่วยงานที่กำลังคิดจะทำ หรือที่ทำไปแล้วล้วนล้มเหลว ไปคนละทางกับเหตุการณ์(หลงทาง) การก่อเหตุร้ายใน3จชต.มันเกิดมาหลายสิบปีแล้ว ถ้าแก้ได้คงสำเร็จไปตั้งแต่ปีมะโว้โน่น แต่เมื่อก่อนไม่รุนแรงเท่าครั้งนี้ ถ้าคิดจะแก้จริงๆ ขอชี้ทางสว่างปลายอุโมงค์ แต่ไม่ใช่สูตรสำเร็จ "ถ้าทำไ้ด้จริง"ปัญหาความรุนแรงจะทุเลาลงได้เยอะและทันตาเห็น หลังจากนั้นค่อยคิดอ่านในบันไดขั้นต่อไป ซึ่งน่าจะง่ายและเห็นหนทางสงบสุขอย่างยั่งยืน ทำแบบนี้ครับ...
หาวิธีทำให้เด็กนักเรียนมุสลิมพูด,เขียน,อ่านภาษาไทยให้ชัดเจนคล่องแคล่วเหมือนเด็กๆในจังหวัดอื่นๆให้ได้ก่อน เพราะนี่คือกุศโลบายง่ายๆแต่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน ส่วนมาตรการใดๆทั้งของรัฐและของทหารตำรวจไม่ได้เรื่องทั้งนั้น เป็นช่องทางหาเงินเข้ากระเป๋ามากกว่า

ร้อยละ 99 พูด,เขียน,อ่านภาษาไทย ได้ไม่มีปัญหา ร่วมถึงแนวร่วมที่ก่อเหตุทุกวันก็ พูด,เขียน,อ่านภาษาไทย ได้ปกติ  (แล้วงัยต่อ..??)