กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

จัดฟันบางนา: ห้าม "ดื่มแอลกอฮอล์" หลังจากฝังรากฟันเทียม !

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า หลังจากการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมอยู่แล้ว เราควรคำนึงถึงการรับประทานอาหาร รวมไปถึงใส่ใจในพฤติกรรมการรับประทานอาหารให้มากยิ่งขึ้น เพราะการรับประทานอาหารนั้น ส่งผลดดยตรงต่อสุขภาพช่องปากและฟันของเรา

เพราะฉะนั้น อาหารการกินนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากหลังจากการฝังรากฟันเทียมแล้ว ทั้งนี้ก็ต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัดด้วย หลายคนอาจจะสงสัยว่า หลังจากการรักษาทางทันตกรรม ด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมแล้ว ทำไมถึงควรงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ด้วย เพราะแอลกอฮอล์ไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อช่องปาก ไม่ได้ใช้แรงในการบดเคี้ยว เหตุใดถึงต้องงด การดื่มแอลกอฮอล์นั้น ถือเป็นเรื่องที่ต้องห้ามเลยก็ว่าได้ ในการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม

เพราะหลังจากที่ทำการฝังรากฟันเทียมลงไปบนกระดูกขากรรไกรของผู้เข้ารับการรักษาแล้วนั้น ภายหลังจากการผ่าตัด จะมีบาดแผลที่ได้จากการผ่าตัดเพื่อทำการฝังรากเทียม ดังนั้น แอลกอฮอล์จะส่งผลให้บาดแผลจากการผ่าตัดหายช้ากว่าปกติ เพราะการดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างที่บาดแผลภายในช่องปากที่ได้จากการฝังรากฟันเทียมนั้นยังไม่สมานตัวดี ตัวแอลกอฮอล์จะไปเพิ่มอัตราเสี่ยงต่อการอักเสบและติดเชื้ออย่างมาก นอกจากนี้จะทำให้บาดแผลหายช้าอีกด้วย การดูแลตัวเองหลังจากการฝังรากฟันเทียม ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะจะส่งผลต่ออัตราความสำเร็จในการรักษาด้วย หากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ก็อาจจะทำให้การรักษาเกิดการล้มเหลวได้



การฝังรากฟันเทียมด้วยระบบ "โนเบลไกด์"

การรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมนั้น ในปัจจุบันถือว่าเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แต่ผลลัพธ์ที่ได้ถือว่าคุ้มค่ามาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานที่ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ

และอายุการใช้งานที่สามารถใช้ได้อย่างยาวนาน เพราะวัสดุไทเทเนียมที่คงทนต่อแรงบดเคี้ยว จึงทำให้ถือว่า การฝังรากฟันเทียมนั้น เป็นการรักษาที่คุ้มค่า กว่าการทำฟันปลอม เพราะการทำฟันปลอมนั้นถึงจะเป็นที่นิยมในสมัยก่อน แต่วัสดุที่ทำก้ยังไม่แข็งแรงเท่าที่ควร รวมไปถึงการใช้งานที่อาจจะเกิดการระคายเคืองได้ ไม่เป็นธรรมชาติ แต่ในปัจจุบันนี้ การรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม มีเทคโนโลยี นวัตกรรมที่ทันสมัย เข้ามาช่วยในเรื่องของการวางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำ เช่นโนเบลไกด์ เป็นหนึ่งในนวัตกรรมใหม่ ที่ช่วยทันตแพทย์สามารถใช้ประโยชน์จากภาพถ่ายรังสีส่วนตัดอาศัยคอมพิวเตอร์ CT scan

ซึ่งให้ภาพของกระดูกขากรรไกรแบบ 3 มิติมาใช้ในการวางแผนการใส่ฟันแบบรากเทียมได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น ทำให้ผลการรักษามีอัตราความสำเร็จมากยิ่งขึ้น และมีการผิดพลาดน้อยมาก นอกจากนี้นวัตกรรมโนเบลไกด์ ที่มาเป็นตัวช่วยในการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมนี้ ยังสามารถช่วยประหยัดเวลาในการรักษาอีกด้วย เนื่องจากใช้นวัตกรรมดังกล่าวนี้ วางแผนในการรักษา และสามารถการถ่ายภาพรังสีของกระดูกขากรรไกร โดยทันตแพทย์ไม่ต้องเสียเวลาตรวจดูในเสียเวลา และมีความแม่นยำสูง ทำให้ทันตแพทย์สามารถทำการผ่าตัดฝังรากเทียมได้ง่ายโดยไม่ต้องเปิดเหงือก สามารถใส่ฟันถาวรบนรากเทียมให้แก่ผู้เข้ารับการรักษาได้ทันที