กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

ช่วงหลังจากเกิดเหตุการณ์ ทำไมถึงมีข่าวลงว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้จากแก๊สระเบิดที่ร้านแมคโดนัลด์
ทำให้หลาย ๆ คนไม่ได้คิดถึงการก่อการร้าย หรือการวางระเบิดเลย
ซึ่งหากมีการวางระเบิดซ้อนขึ้นมาอีกลูก คงเกิดความเสียหายต่อผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือเป็นอย่างมาก
ดังนั้นผู้ให้ข่าว หากไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริง ก็น่าจะให้ข่าวที่เป็นกลาง ๆ ไปก่อน
ไม่ใช่ฟันธงไปแบบนั้น  ถือเป็นเรื่องเสียหาย
บ่งบอกถึงแหล่งข่าวหน่วยงานนั้นไม่น่าเชื่อถือ

ขนาดเกิดเหตุวางระเบิดคาร์บอมแล้ว
ก็ยังไม่รู้เลยว่าแท้จริงเกิดจากอะไร

แล้วเรื่องเตือนภัยล่วงหน้า เราจะเชื่อถือได้เหรอ

อ้างจาก: กิมหยง เมื่อ 20:52 น.  02 เม.ย 55
ช่วงหลังจากเกิดเหตุการณ์ ทำไมถึงมีข่าวลงว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้จากแก๊สระเบิดที่ร้านแมคโดนัลด์
ทำให้หลาย ๆ คนไม่ได้คิดถึงการก่อการร้าย หรือการวางระเบิดเลย
ซึ่งหากมีการวางระเบิดซ้อนขึ้นมาอีกลูก คงเกิดความเสียหายต่อผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือเป็นอย่างมาก
ดังนั้นผู้ให้ข่าว หากไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริง ก็น่าจะให้ข่าวที่เป็นกลาง ๆ ไปก่อน
ไม่ใช่ฟันธงไปแบบนั้น  ถือเป็นเรื่องเสียหาย
บ่งบอกถึงแหล่งข่าวหน่วยงานนั้นไม่น่าเชื่อถือ

ขนาดเกิดเหตุวางระเบิดคาร์บอมแล้ว
ก็ยังไม่รู้เลยว่าแท้จริงเกิดจากอะไร

แล้วเรื่องเตือนภัยล่วงหน้า เราจะเชื่อถือได้เหรอ

ปิดข่าวไง  กลัวเศรษฐกิจตกต่ำ  ใครจะตายช่างมัน

หวางอีรู้ว่าคาร์บอม โจรคงนั่งหัวเราะอยู่ที่บ้านจนน้ำตาเต็มหนวยตา

งงตรงที่แม็คใช้เตาไฟคว้า
แต่ดันบอกว่าแก๊ซระเบิด
ช่างเถอะครับ ลืมๆดีกว่า
คนเราผิดพลาดกันบ่อยๆได้ หรือบ่อยเกินไป
หรือคนไทยลืมง่ายกันเกินไป

จริงๆคนในเหตุการณ์ก็รู้ครับว่า วางระเบิดแน่นอน แต่ไม่รู้ว่า คาร์บอม

กระแสข่าวแรกออกมาจากทิศทางไหนไม่มีใครทราบว่า แก๊สระเบิด

แต่เพราะความบังเอิญที่แรงระเบิดมันทะลุขึ้นมาใกล้ MAC ที่สุด จึงมองเป็นแก๊สระเบิด

แต่ที่น่าหัวเราะที่สุดคือ MAC เขาใช้ไฟฟ้า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นมวย ในการเบียงเบนข่าว เบื้องต้น

ยิ่งนายไพร ออกมาให้ข่าว และยังยืนยันว่าจะแถลงข่าวงานมหาสงกรานต์แน่นอน ในเย็นวันเกิดเหตุ

จึงดูเป็นเรื่องที่สะท้อนให้เห็นถึงคำๆนึงที่ว่า Chipหายไม่ว่า เอาหน้าไว้ก่อน... จบความคิดเห็นครับ

เชื่อว่าหลายคน คงอยากให้เป็นแก๊สระเบิด  เพราะเป็นอุบัติเหตุ  พอลุ้นเคลมกับประกันได้

เมื่อเป็นคาร์บอมก็เป็นการก่อการร้าย   ประกันจะบอกให้ไปดูกรรมธรรม์ บางค่ายปฏิเสธความคุ้มครอง

รถมูลค่าหลายล้าน เป็นเศษเหล็กในพริบตา   

เขาปิดข่าวเเบบ ไม่อายฟ้าประชาชีกันเลยทีเดียว

เพื่อการท่องเที่ยว

ไม่รู้จะปิดข่าวทำไม ?  ทั้ง ๆ ที่รู้กันอยู่เเล้ว ว่าเป็นการวางระเบิด ทำให้คนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแก๊สระเบิด
ถ้าเกิดระเบิดซ้ำ ใครละจะรับผิดชอบ


ไม่ไหวเลยจริง ๆ 

.


...ก้อเดาถูกมั่ง ผิดมั่ง..


จะเอาอะไรกันนักหนา...

ตอนนั้นผมเปิดช่องเนชั่นอยู่ นายก ทน.หาดใหญ่ให้ข่าวว่าเพราะแก๊สระเบิด ซักพักใหญ่ๆ ในเฟทบุึ๊คของ แม็คฯประเทศไทย บอกว่า ร้านเขาไม่ได้ใช้แก๊สใช้ไฟฟ้า เท่านี้ผมก็เข้าใจแล้ว การข่าวของหาดใหญ่มันแย่แค่ไหน ถ้าไม่รู้สาเหตุก็น่าจะบอกว่า กำลังสืบหาสาเหตุที่แน่ชัดอยู่ ก็ยังดี

ตกลงว่าผมเองคนหนึ่งหล่ะที่บอกว่าแก๊ซระเบิดที่ร้านแมคโดนัล แต่หลังจากประเมินข่าวจากสื่อ(ที่เชื่อถือได้จริงๆและไม่ลำเอียง) ข่าวจากนายกไพรเทศบาลหาดใหญ่ จากผู้ว่าฯสงขลา ที่ได้รับข่าวและข้อมูลยืนยันมากขึ้นเรื่อยๆว่าเป็นการวินาศกรรม ก็ทำให้เชื่อว่าเป็นวินาศกรรมจริงๆบ้านเมืองเสียหายบอบช้ำ ยังมีหน้ามาหาเรื่องทางการเมืองกันอีก ปู๊ดโธ่พ่อคุณเอ๋ย คะแนนเห็นใจสงสารเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพราะพ่อคุณนี่แหละครับ

ที่นายกไพรให้สัมภาษณ์ว่า แก๊สระเบิด อาจเพราะไม่ต้องการให้เกิดการแตกตื่น อาจเพราะต้องการรักษาภาพพจน์ของหาดใหญ่ ซึ่งหลาย ๆ คนก็ไม่อยากให้เป็นการก่อนการร้าย ผมก็เห็นใจเขานะ ถึงจะไม่ชอบเขา แต่เขาอาจหวังดีที่บอกไปแบบนั้น ซึ่งที่จริง ยังไม่ควรฟังธงก่อนว่าเกิดจากอะไร

อยากให้ดูที่เจตนามากกว่า และอยากให้ทุกคนรอดูก่อนว่าจริง ๆ แล้วมันอะไรกันแน่

ให้อภัยได้ก็ให้อภัย

ข่าวลือ มันตามแก้ยากน่ะครับ

สมมุติว่ามีคนทำประทัดยักษ์ขึ้น จุดร และ ระเบิดดังมาก คนที่ได้ยินเริ่มลือไปเรื่อย ๆ ทางโซลเชี่ยลบ้าง โทรศัทพ์บ้าง ว่าระเบิด
แต่ต้นเรื่องคือประทัด ซื่งข่าวที่ลือออกไปไกลแล้ว ตามไปแก้ว่าเป็นประทัดลำบาก ถ้าในตอนแรกบอกว่าเป็นประทัดไปเลย
ข่าวสารก็จะถูกต้องตั้งแต่เริ่มไปจนถึงคนรับสาร

จำได้ เหมือนคืนลอยกระทง  เดินเล่นอยู่ริมคลองร.1

ข่าวลือว่าจะมีคนวาางระเบิดคิวรถตู้บ้าง บางหักบ้าง มั่วไปหมด

ตกลงคืนนั้น อดปาลูกโป่งพ้น

เหตุการณ์แบบนี้ต้องชัดเจน หนักแน่น
แสดงถึงภาวะการเป็นผู้นำ หากพูดอ้ำๆอึ้งๆ ชักแม่น้ำทั้งห้า
จะนำบ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร

ถามโง่ๆๆ  เค้ารู้กันทั้งประเทศแล้ว

ไปอยู่ไหนมาบ่าว.......

ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าการที่ข่าวออกมาในช่วงแรกว่าเป็นเหตุแก๊สระเบิดนั้น หวังผลเรื่องการไม่สร้างความตะหนกให้กับคนหาดใหญ่และนักท่องเที่ยว แต่พอเหตุการณ์เริ่มจะคลี่คลายจนสามารถเข้าไปพิสูจน์หลักฐานได้ในเบื้องต้นพยานหลักฐานชี้ชัดว่าเป็นคาร์บอมจนไม่สามารถปัดเป้นอย่างอื่นได้

ถ้าติดตามข่าวมาตั้งแต่ต้นจะเห็นว่ามีการประชุมย่อยของผู้บริหารผู้ปกครองหลายๆฝ่าย ก่อนที่จะมีการประกาศในภายหลังว่าเป็นคาร์บอม มาถึงตรงนี้ด้วยส่วนตัวพอเข้าใจเรื่องเหตุผลที่จำเป็นในการปิดข่าวในตอนต้น ไม่ว่าจะด้วยเรื่องเศรษฐกิจ ขวัญกำลังใจของประชาชน รวมทั้งอื่นๆ ซึ่งไม่ว่าสาเหตุที่แท้จริงจะคืออะไร แต่การประกาศว่าหาดใหญ่ถูกโจมตีนั่นจะไม่ส่งผลดีต่อทุกคนในหาดใหญ่อย่างแน่นอน

แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังวิตกในการดำเนินการของผู้บริหารฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากวันเวลาที่เกิดเหตุนั้น คงจะไม่มีใครมีข้อมูลในเบื้องต้นที่แน่ชัดไปกว่าผู้บริหารเหล่านี้ ถึงแม้จะชลอเวลาเพื่อประกาศว่าสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร แต่ก็น่าจะมีคำสั่งดำเนินการให้เร่งรัดจัดกำลังเข้าไปดูแลในส่วนที่ล่อแหลมอื่นๆควบคู่ไปด้วย แต่ในความเป็นจริงผมคิดว่าน่าผิดหวังมากๆที่ ไม่มีใครประสานเตือนภัยหรือจัดกำลังเข้าไปตรวจสอบดูสถานที่อื่นๆ หากไม่ได้มีแค่เพียงหนึ่ง แต่เป็นสอง สาม สี่ ห้า ผลที่ตามมาจะน่ากลัวกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้มาก เราๆท่านๆจะแน่ใจได้อย่างไรว่าลูกที่สองไม่ได้อยู่ฝั่งตรงข้าม หรือแม้แต่ร้านกาแฟใต้โรงแรมที่ผู้บริหารใช้ประชุมด่วนในช่วงเย็นวันนั้น เมื่อมาถึงตรงนี้เราต้องเรียนรู้จากอดีตหรือในพื้นที่อื่นที่เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ด้วย เราจะต้องสูญเสียกันอีกเท่าไหร่เราถึงจะยอมเรียนรู้

พร้อมกันนี้ยังอยากเสนอแนวทางการให้ข่าวสำหรับเหตุการณ์แบบนี้ว่า ถ้าเป็นไปได้อยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องพิจารณาจัดห้องหรือพื้นที่แถลงข่าวให้นักข่าวแบบฉุกเฉิน เหมือนสากลประเทศที่เค้าทำกันสำหรับในกรณีเกิดภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ หรือแม้แต่ภัยที่เกิดจากการโดนโจมตี เพื่อจะได้มีความชัดเจนแก่ผู้ที่ติดตามข่าวสาร และเมื่อมีการจัดพื้นที่แถลงข่าวแล้วทางผู้บริหารก็ต้องจัดตั้งบุคคลขึ้นมาเพื่อให้ข่าวสารหรือประกาศเตือนภัยเป็นระยะ จนกว่าจะมีข้อสรุปที่แน่ชัดว่าจะประกาศอย่างไรนั่นถึงจะเป็นเวลาของผู้บริหารเป้นคนขึ้นแถลงข่าวเอง และหากมีการจัดพื้นที่แถลงข่าวแล้วในส่วนนักข่าวเองก็เช่นกันหากได้รับข้อมูลมาจากผู้ที่ไม่ได้รับมอบหมายให้แถลงข่าว ก็ควรจะระบุเหมือนมืออาชีพที่เค้าทำกัน เช่นว่า "ข่าวนี้ได้รับรายงานมาจากแหล่งข่าว ที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน" เป็นต้น เพราะถ้าต่างคนต่างไปสัมภาษณ์ต่างคนต่างนำเสนอข่าว มันก็จะมีความคลาดเคลื่อนแบบที่ผ่านมาไม่จบไม่สิ้น ซึ่งผู้ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงคือผู้เสพข่าวสารนั่นเอง

ยกตัวอย่างสมมุติว่า หากมีคนในครอบครัวออกไปซื้อของอยู่ข้างนอกพอรู้ว่าเกิดระเบิดแต่กลายเป็นว่ารายงานข่าวแจ้งในตอนต้นว่าเป็นแก๊สระเบิด ผมเชื่อว่าหลายคนยังคงวางใจที่จะไม่โทรหาคนในครอบครัวให้รีบกลับบ้าน เนื่องด้วยคิดว่าเหตุที่เกิดเป็นเพียงอุบัติเหตุเท่านั้น แต่ในทางตรงกันข้ามหากข่าวนำเสนอว่าเป้นคาร์บอมผมเชื่อเหลือเกินว่าทุกคนจะรีบติดต่อคนในครอบครัวหรือแม้แต่คนที่รักให้รีบไปอยู่ในที่ปลอดภัย

อีกข้อเท็จจริงอีกเรื่องที่ควรจะต้องพูดถึงคือการวางแผนประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกส่วนไม่ว่าตำรวจ ทหาร ปกครอง ท้องถิ่น รวมทั้งอาสาสมัครจากทุกๆภาคส่วน สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น สิ่งที่ผมได้ไปเห็นและประสบด้วยตัวเองจากการได้เข้าไปช่วยเหลือเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยคือความสับสนในการประสานงาน จึงกลายเป็นว่ามีความซ้ำซ้อนกันในบางจุดที่เข้าไปช่วยเหลือ ในทางตรงกันข้ามบางจุดกลับขาดแคลนบุคคลากรที่จะเข้าไปช่วยเหลือ ในกรณีแบบนี้ ที่เหมาะสมที่สุดในการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่ถูกต้องที่สุดคือให้จัดตั้งกองอำนวยการร่วมครับ กองอำนวยการร่วมจะมีหน้าที่ประสานหัวหน้าชุดของแต่ละชุดแต่ละหน่วยว่าให้ใครไปทำอะไร ตรงไหน เมื่อไหร่ และหากติดขัดปัญหาอะไรก็ประสานผ่านกองอำนวยการร่วมเพื่อประสานหน่วยงานอื่นเข้าช่วยสนับสนุนได้ง่ายขึ้น และเช่นกันครับเมื่อมีกองอำนวยการร่วมแล้วทุกหน่วยงานที่จะเข้าไปในพื้นที่ต้องรายงานกองอำนวยการร่วมเสียก่อน ไม่ว่าจำนวนอัตรากำลัง ขอบเขตความสามารถในการเข้าพื้นที่หรือขอบเขตความสามารถในการสนับสนุนภารกิจเป้นต้น ทั้งหมดต้องรายการให้กองอำนวยการร่วมทราบก่อนเข้าพื้นที่ด้วยเหตุผลเดียวคือประโยชน์สูงสุดในการบริหารจัดการความช่วยเหลือ

แนวทางที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ล้วนไม่สามารถจะทำทันทีหากไม่มีการวางแผนล่วงหน้าไว้ก่อน จึงอยากเสนอผู้มีส่วนเกี่ยวข้องนำไปเสนอเพิ่มเติมในแผนงานเพื่อพิจารณาในวาระต่อๆไปด้วยครับ

ผมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับท่านผู้มีความรู้ ความสามารถคนนึงในการวางแผนงานเกี่ยวกับความมั่นคง ท่านแสดงความคิดเห็นในการตั้งคำถามที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จึงอยากให้ทุกคนได้ลองพิจารณาหาคำตอบเช่นเดียวกับตัวผม ใจความมีประมาณว่า "ในช่วงเวลาที่หาดใหญ่สิ้นเสียงระเบิดผ่านพ้นมาสี่ห้าปีนั้น จนมาถึงการระเบิดในครั้งนี้ ที่ผ่านมาเราเฝ้าระวังป้องกันดี หรือ แค่พวกมันยังไม่ลงมือ"

สุดท้ายนี้ ไม่ได้อยากให้ทุกคนตื่นตระหนกแต่เราต้องยอมรับความจริงว่าการที่เราเรียนรู้จากผู้ก่อการเพื่อหาแนวทางป้องกันหรือตอบโต้นั้น ผู้ก่อการเองก็เรียนรู้การปฎิบัติต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของเจ้าหน้าที่เช่นกัน จึงเป็นเรื่องที่ไม่แน่ว่าเหตุที่เกิดขึ้นล่าสุดนั้น เป็นเพียงการที่ผู้ก่อการตั้งใจก่อเหตุเพื่อจะเฝ้าดูการทำงานของเจ้าหน้าที่เรา เพื่อจะเอาช่องว่างที่เกิดจากการปฎิบัตินั้นมาทำร้ายเราต่อไปในเร็ววันนี้ ดังนั้นหากจะเป็นไปได้เราต้องอุดช่องว่างให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเมื่อเราทำได้นั่นถึงจะเรียกว่าการป้องกันครับ 

ขอสนับสนุน และชื่นชมแนวคิดของท่านขุนศึกครับ

ความคิดเห็นของท่านเยี่ยมครับ เว้นวรรคอักษรสะกดใช้คำ เหมือนเป็นคนเขียนข่าวร่างข่าวมืออาชีพอ่านแล้วได้อารมณ์คิดตามเข้าใจต่อเนื่องเห็นภาพ และประสบการณ์ความรู้ให้ความคิดเห็นขั้นเทพ สมฉายาท่านขุนศึก

   
     
   


รายงานความช่วยเหลือเพลิงไหม้ห้างลีการ์เดนส์


ตามที่ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในห้างลีการ์เดนท์พลาซ่า ถนนเสน่หานุสรณ์ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๕ เวลาประมาณ ๑๓.๐๐ น. นั้น เทศบาลนครหาดใหญ่ ในฐานะเป็นหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฝ่ายพลเรือนของเทศบาลนครหาดใหญ่ และอำเภอหาดใหญ่ ได้ระดมสรรพกำลังและร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเข้าระงับเหตุ ดังกล่าว ดังนี้




            ตามที่ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในห้างลีการ์เดนท์พลาซ่า ถนนเสน่หานุสรณ์ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๕ เวลาประมาณ ๑๓.๐๐ น. นั้น

            เทศบาลนครหาดใหญ่ ในฐานะเป็นหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฝ่ายพลเรือนของเทศบาลนครหาดใหญ่ และอำเภอหาดใหญ่ ได้ระดมสรรพกำลังและร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเข้าระงับเหตุ ดังกล่าว ดังนี้

            ๑. เทศบาลนครหาดใหญ่

                        ๑.๑ กำลังเจ้าหน้าที่

                                    ๑.๑.๑ ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย                              ๑๐๐ คน

                                    ๑.๑.๒ ฝ่ายชุดเฉพาะกิจพิทักษ์เมืองหาดใหญ่(Hatyai city cop)

                                                และพนักงานเทศกิจ                                              ๕๐ คน

                                    ๑.๑.๓ ฝ่ายช่าง สาธารณสุข และฝ่ายสวัสดิการสังคม                ๕๐ คน

                                                                                                            รวม ๒๐๐ คน

                        ๑.๒ เครื่องมืออุปกรณ์ รถยนต์

                                    ๑.๒.๑ รถน้ำ                                                                    ๒๐ คัน

                                    ๑.๒.๒ รถระบายควัน                                                         ๑ คัน

                                    ๑.๒.๓ รถบันใดกระเช้า                                                      ๒ คัน

                                    ๑.๒.๔ รถเครน                                                                ๑ คัน

                                                                                                            รวม ๒๔ คัน



            ๒. หน่วยงานช่วยเหลือและสนับสนุน                     

                        ๒.๑ กำลังเจ้าหน้าที่

                                    ๒.๑.๑ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเขต ๑๒

                                                (พร้อมรถ อุปกรณ์ เครื่องมือ)                      จำนวน ๒๐ คน

                                    ๒.๑.๒ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา

                                                (พร้อมรถ อุปกรณ์ เครื่องมือ)                      จำนวน ๑๐ คน

                                    ๒.๑.๓ กองบิน ๕๖

                                                (พร้อมรถ อุปกรณ์ เครื่องมือ)                      จำนวน ๑๐ คน

                                    ๒.๑.๔ เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิต่างๆ ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่และใกล้เคียง

                                                (พร้อมรถ อุปกรณ์ เครื่องมือ)                      จำนวน ๑๐๐ คน

                                    ๒.๑.๕ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์       

                                                (พร้อมรถ อุปกรณ์ เครื่องมือ)                      จำนวน ๑๐๐ คน

                                    ๒.๑.๖ อาสาสมัครรักษาดินแดนและที่ทำการปกครองอำเภอ

                                                (พร้อมรถ อุปกรณ์ เครื่องมือ)                      จำนวน ๑๕๐ คน

                                    ๒.๑.๗ เจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ

                                                (พร้อมรถ อุปกรณ์ เครื่องมือ)                      จำนวน ๑๕๐ คน

                                    ๒.๑.๘ เจ้าหน้าที่จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นข้างเคียง

                                                (พร้อมรถ อุปกรณ์ เครื่องมือ)                      จำนวน ๑๐๐ คน

                                                                                    รวมเจ้าหน้าที่ทั้งสิ้น ๗๔๐ คน



            ๓. การดำเนินการเข้าระงับเหตุในพื้นที่

                        ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครหาดใหญ่ สนง.ป้องกันเขต๑๒ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าพิสูจน์ทราบในที่เกิดเหตุ ได้แก่ ที่จอดรถทั้งหมด และห้องพักของโรงแรม โดยเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้ส่งเจ้าหน้าที่อออกเป็น ๒ ชุดๆ ละ ๑๐ คน เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และเปิดช่องทางลำเลียงบุคคลที่ติดอยู่ในอาคารและระบายควันออกจากอาคาร จนสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยจนได้รับความช่วยเหลืออย่างปลอดภัย เจ้าหน้าที่ได้สามารถเข้าควบคุมเพลิงในเวลา ๑๗.๐๐ น.



            ๔. การช่วยเหลือของฝ่ายราชการ

                        ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา (นายกฤษฎา บุญราช) ได้เชิญหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๕ เวลา ๒๑.๐๐ น. ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ ได้ข้อสรุปว่า จังหวัดให้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ ถนนเสน่หานุสรณ์(ทางเข้าโรงแรมเดอะรีเจนซี่) เพื่อรับคำร้องจากผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๕ เวลา ๐๗.๐๐ น. โดยให้ผู้ประสบภัยนำเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน หรือหนังสือเดินทาง มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่

                        ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยืนยันว่าจังหวัดสงขลาและทุกภาคส่วน จะดำเนินการให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด และหากประชาชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติมให้สอบถาม สายด่วนกุญชร ๑๕๕๙ ของเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง



            ๕. การเยี่ยมปลอบขวัญผู้บาดเจ็บ

                        ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา (นายกฤษฎา บุญราช) เทศบาลนครหาดใหญ่ และคณะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปเยี่ยมปลอบขวัญผู้บาดเจ็บพร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้น ตามระเบียบของทางราชการ ในวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๕ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐ น เป็นต้นไป ในทุกโรงพยาบาลที่มี่ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ ได้แก่ รพ.ศิครินทร์ รพ.หาดใหญ่ รพ.ราษฎร์ยินดี รพ.กรุงเทพหาดใหญ่ และ รพ.มอ.หาดใหญ่ ตามลำดับ



            ๖. ข้อมูลผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

                        ๑) ผู้เสียชีวิต จำนวน ๓ คน ประกอบด้วย คนไทย ๒ คน เป็นผู้หญิง ๑ คน และผู้ชาย ๑ คน

ชาวมาเลเซีย ผู้ชาย ๑ คน

                        ๒) ผู้บาดเจ็บ จำนวน ๔๑๖ คน แยกเป็น

                                    พักรักษาตัวในโรงพยาบาล(admit)

                                                รพ.หาดใหญ่       จำนวน ๓๗ คน

                                                รพ.ราษฎรยินดี    จำนวน ๒๗ คน

                                                รพ.กรุงเทพ-หาดใหญ่       จำนวน ๑๙ คน

                                                รพ.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์      จำนวน ๓๔ คน

                                                รพ.ศิครินทร์        จำนวน ๒๓ คน

                        ๒.๒ บาดเจ็บเล็กน้อย สามารถกลับบ้านได้เลย จำนวน ๒๗๖ คน



            ๗. การควบคุมการใช้อาคารของโรงแรมลีการเดนท์พลาซ่า

                        เทศบาลนครหาดใหญ่ อาศัยอำนาจตามความ พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.๒๕๒๒ ประกาศห้ามใช้อาคารโรงแรมลีการ์เดนท์ไว้ก่อนจนกว่าคณะของวิศวกรผู้เชี่ยวชาญและวิศวกรของเทศบาลนครหาดใหญ่ จะได้ตรวจสอบความมั่นคงของอาคาร ผลเป็นประการใดเทศบาลนครหาดใหญ่ จะแจ้งให้ผู้ประกอบการและประชาชนทราบโดยทั่วกันต่อไป

                        อนึ่งก่อนหน้านี้ อาคารโรงแรมดังกล่าว ผู้ประกอบการได้ส่งรายงานการตรวจสอบประจำปีตามระเบียบแล้ว ซึ่งผลการตรวจสอบปรากฏว่า อาคารดังกล่าวมีความมั่นคงและระบบต่างๆ ยังคงใช้งานได้ตามปกติ





                                                                                                จังหวัดสงขลา

                                                                                                อำเภอหาดใหญ่

                                                                                                เทศบาลนครหาดใหญ่

                                                                                                ๑ เมษายน ๒๕๕๕



เวบเทศบาลก็ยังไฟไหม้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

อ้างจาก: ลุงแกลบ เมื่อ 23:02 น.  02 เม.ย 55
ตอนนั้นผมเปิดช่องเนชั่นอยู่ นายก ทน.หาดใหญ่ให้ข่าวว่าเพราะแก๊สระเบิด ซักพักใหญ่ๆ ในเฟทบุึ๊คของ แม็คฯประเทศไทย บอกว่า ร้านเขาไม่ได้ใช้แก๊สใช้ไฟฟ้า เท่านี้ผมก็เข้าใจแล้ว การข่าวของหาดใหญ่มันแย่แค่ไหน ถ้าไม่รู้สาเหตุก็น่าจะบอกว่า กำลังสืบหาสาเหตุที่แน่ชัดอยู่ ก็ยังดี

ไม่ได้อยู่ฝ่ายใคร แต่ตอนให้สัมภาษณ์ มันเป็นหลังเกิดเหตุ คงจะรู้และมั่นใจ แต่ต้องไม่ให้แตกตื่นก่อน และ ณ ตอนนั้นยังไม่มีการพิสูจน์หลักฐาน หากบอกว่าระเบิด คาร์บอม ป่วนทั้งเมืองยิ่งกว่านี้ คุณต้องเข้าใจสภาพเมืองด้วยว่า นี้คือเมืองท่องเที่ยว ไม่อยากพูดแล้ว ถ้าคุณเป็นคนหาดใหญ่จริง คุณต้องเข้าใจ