กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

"ไม้แปรรูป" เป็นคำที่เจอได้บ่อยในวงการงานไม้ ไม่ว่าจะเป็นงานบิลต์อิน งานเฟอร์นิเจอร์ หรืองานก่อสร้าง แต่สำหรับเจ้าของบ้านหรือมือใหม่ที่เริ่มทำเฟอร์นิเจอร์ชิ้นแรก คำนี้อาจยังไม่ชัดเจนว่าหมายถึงอะไร ใช้ต่างจากไม้โครงหรือไม้อัดอย่างไร และควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับงานที่สุด

บทความนี้จะเป็น คู่มือฉบับอ่านง่าย ที่อธิบายทุกอย่างแบบไม่ซับซ้อน แต่ยังคงข้อมูลครบแบบที่ช่างจริงใช้กัน เพื่อให้คุณเลือกไม้ได้ถูกและงานออกมาดีที่สุด



1.ไม้แปรรูปคืออะไร?

ไม้แปรรูป (Sawn Timber / Lumber) คือ "ไม้ซุงที่ถูกเลื่อยออกมาเป็นแผ่น–เป็นท่อน เพื่อนำไปใช้งานต่อได้เลย" ไม่ได้ผ่านกระบวนการผลิตเป็นแผ่นประกอบหรือแผ่นอัดเหมือนไม้อัดหรือ HMR แต่เป็นไม้จริง 100%

2.จุดเด่นของไม้แปรรูป คือ

2.1 มี ลายไม้ธรรมชาติ สวยงาม ไม่ซ้ำกัน

2.2 แข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี

2.3 อายุการใช้งานยาว

2.4 สามารถ ไส เจาะ ขัด ทำสี ได้เต็มรูปแบบเหมือนไม้จริง


3.ไม้แปรรูปผลิตอย่างไร?

3.1 ตัดไม้จากสวนหรือป่าปลูก

3.2 เลื่อยออกเป็นแผ่นหรือเป็นท่อนขนาดต่าง ๆ

3.3 นำไปอบแห้ง (Kiln Dry) เพื่อลดความชื้น

3.4 คัดเกรดตามความสวย ความตรง และคุณภาพเนื้อไม้

3.5 ส่งเข้าสู่ร้านไม้เพื่อจำหน่ายให้ช่างและลูกค้า

ขั้นตอน "อบแห้ง" สำคัญมาก เพราะถ้าไม้ความชื้นสูง งานที่ทำออกมาอาจ บิดตัว แตกโป่ง หรือโก่ง ได้ในอนาคต


4.ประเภทไม้แปรรูปที่เจอบ่อยในไทย

ไม้แปรรูปแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ ไม้เนื้อแข็ง และ ไม้เนื้ออ่อน แต่ละชนิดมีจุดเด่นและงานที่เหมาะต่างกัน

4.1 ไม้เนื้อแข็ง (Hardwood)

แข็งแรง ลายสวย งานทน ใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์พรีเมียม เช่น

ไม้สัก – ทนชื้นดี งานพรีเมียม

ไม้เต็ง – แข็งมาก เหมาะงานโครงสร้าง

ไม้แดง – เนื้อแน่น ทน ใช้ทำประตู เฟอร์นิเจอร์

ไม้โอ๊ค – ลายหรู นิยมในงานโมเดิร์น

ไม้วอลนัท – สีเข้มพรีเมียมที่สุดในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์

4.2 ไม้เนื้ออ่อน (Softwood)

น้ำหนักเบา ทำงานง่าย เหมาะงานเฟอร์นิเจอร์ DIY หรือสไตล์มินิมอล เช่น

ไม้สนอเมริกา (Pine) – ลายชัด ทำโต๊ะ ชั้นวางสไตล์คาเฟ่

ไม้ยางพารา – น้ำหนักกลาง ทำงานง่าย ราคาคุ้มค่า


5.ข้อดีของไม้แปรรูป

5.1 สวยแบบไม้จริง ลายไม้มีเอกลักษณ์

5.2 แข็งแรงกว่าวัสดุแผ่นทั่วไป

5.3 ทำงานได้หลายรูปแบบ ไส–เจาะ–ขัดสีได้หมด

5.4 อายุการใช้งานนานเกิน 10–20 ปีขึ้นไป

5.5 ซ่อมง่าย เวลาชำรุดสามารถขัดและทำสีใหม่ได้


6.ข้อควรระวังในการเลือกไม้แปรรูปสำหรับมือใหม่

เพื่อไม่ให้เสียเงินหรือได้ไม้คุณภาพต่ำ ควรดูสิ่งเหล่านี้:

6.1 ความชื้นของไม้

6.2 ความตรงของไม้

6.3 ลายไม้และรอยตาไม้

6.4 ไม่มีรอยแตก รอยหนอน หรือเชื้อรา


7. เลือกเกรดให้เหมาะกับงาน

7.1 งานโชว์ผิว เลือก เกรด A

7.2 งานโครง เลือก เกรด B/C เพื่อประหยัดงบ


8. ไม้แปรรูปเหมาะกับงานอะไรบ้าง?

ไม้แปรรูปใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก ขึ้นอยู่กับชนิดไม้

-ภายในบ้าน

-โต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวาง

-บานประตู

-ผนังกรุไม้

-เฟอร์นิเจอร์สไตล์ลอฟต์ มินิมอล ญี่ปุ่น

ภายนอกบ้าน (เลือกไม้ทน)

-ไม้สักสำหรับงานภายนอก

-ไม้แดงสำหรับโครงสร้าง




ถ้าคุณต้องการงานไม้ที่ ดูเป็นธรรมชาติ ทนทาน และใช้งานยาวนานหลายปี ไม้แปรรูปคือคำตอบที่ดีที่สุด แม้ราคาจะสูงกว่าวัสดุแผ่นบางชนิด แต่งานที่ได้จะสวย เนี๊ยบ และคงรูปในระยะยาว เหมาะทั้งสำหรับเฟอร์นิเจอร์ ตู้ โต๊ะ และงานตกแต่งบ้านที่ต้องการความ "จริง" ของเนื้อไม้ ถ้ายังไม่แน่ใจว่าจะเลือกไม้ชนิดไหนดี หรืออยากดูแผ่นจริงก่อนทำงาน สามารถสอบถามช่างไม้ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญ