กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์รัชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี  ทรงพระกรุณาโปรดให้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นผู้แทนพระองค์ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลหาดใหญ่

วันนี้ (4 เม.ย. 55) ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์รัชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี  ทรงพระกรุณาโปรดให้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นผู้แทนพระองค์ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ จากเหตุระเบิดที่โรงแรม ลี การ์เดนส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมี นพ.กุลเดช เตชะนภารักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหาดใหญ่ พร้อมด้วยผู้บริหาร พยาบาล และ เจ้าหน้าที่ โดย คุณหญิงสุดารัตน์ ได้มอบถุงพระราชทานและเงินช่วยเหลือในเบื้องต้นให้กับผู้บาดเจ็บที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่อีก 9 คน

อาการเด็กน้อย 2 เดือนและพ่อพ้นขีดอันตราย

สำหรับอาการของ ด.ช.กันต์ณภัทร์  อินทรสุวรรณ อายุ 2 เดือน แพทย์เผยว่า อาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งอาการปอดติดเชื้อ เสมหะ และ หลอดลมบวม หากไม่มีอาการปอดติดเชื้อซ้ำซ้อนน่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ภายใน 5-6 วันนี้ ส่วนอาการของ นายไพศิฐ อินทรสุวรรณ ซึ่งเป็นพ่อ ยังอยู่ในห้องไอซียู แต่อาการดีขึ้นเช่นกัน สำหรับยอดรวมผู้บาดเจ็บที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลต่างๆทั้ง5 แห่ง ขณะนี้เหลือเพียง 42 คน และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม

คุณหญิงสุดารัตน์ดูจุดเกิดเหตุระเบิด

จากนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ได้เดินทางไปยังบริเวณหน้าโรงแรม ลี การ์เดนส์ พลาซ่า เพื่อมาดูที่เกิดเหตุ พร้อมพูดคุยกับ นายวันชัย ลีละศิธร เจ้าของโรงแรม ลี การ์เดนส์ พลาซ่า และครอบครัว นอกจากนี้ยังได้พบปะพูดคุยให้กำลังใจผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆที่มารอเข้าไปเก็บของและตรวจสอบร้านค้าของตนเองภายในบริเวณส่วนต่างๆของห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่ภายในตัวอาคารโรงแรม หลังจากนั้นจึงได้เป็นตัวแทนพระองค์ไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิดคาร์บอมที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.)

ตำรวจร่วมประชุมหารือกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยเมืองหาดใหญ่ เร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวก่อนเทศกาลสงกรานต์

วันนี้ (4 เม.ย. 55) ที่ห้องประชุมหอการค้า จ.สงขลา พล.ต.อ.ฉัตรชัย โปตระนันท์ ที่ปรึกษา สัญญาบัตร 10 ด้านป้องกันและปราบปราม 5 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 และ ภาค 9 พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุวัฒน์  จันทร์อินธิกุล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ประชุมร่วมกับ นายสุรชัย  จิตภักดีบดินทร์ ประธานหอการค้า จ.สงขลา และตัวแทนภาคธุรกิจใน อ.หาดใหญ่ ทั้งโรงแรม ศูนย์การค้า ธุรกิจส่งออก และ ธุรกิจนำเที่ยว รวมทั้งฝ่ายปกครอง จ.สงขลา เพื่อกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ร่วมกัน และฟื้นฟูบรรยากาศการท่องเที่ยว รวมทั้งเร่งสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งมาเลเซียและสิงคโปร์ โดยเฉพาะในระยะสั้น ก่อนถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์

วางจุดตรวจเส้นทางหลักเส้นทางย่อยทั้ง 4 มุมเมืองหาดใหญ่กว่า 44 เส้นทาง ตลอด 24 ชั่วโมง

ภายหลังการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโม พล.ต.อ.ฉัตรชัย โปตระนันท์ ที่ปรึกษา สัญญาบัตร 10 เปิดเผยว่า มาตรการที่ทางเจ้าหน้าที่และภาคธุรกิจจะเริ่มดำเนินการ คือ จะมีการตั้งด่านตรวจบนถนนสายหลักทั้ง 4 สาย รวมทั้งสายรอง และเส้นทางลัดอีกอย่างน้อย 40 เส้นทาง ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเน้นการตรวจค้นรถยนต์ และบุคคลต้องสงสัย ป้องกันการเข้ามาก่อเหตุ โดยใช้กำลังทั้งฝ่ายตำรวจ ทหาร และ ฝ่ายปกครอง เข้ามาร่วมกัน

นอกจากนี้จะกำหนดโซนนิ่งพื้นที่ย่านเศรษฐกิจการค้ากลางเมืองหาดใหญ่ให้เป็นสัดส่วน และรถยนต์ที่ติดแก๊สห้ามลงไปจอดบริเวณชั้นใต้ดินของโรงแรมหรือศูนย์การค้าอย่างเด็ดขาด รวมทั้งตรวจเช็คสภาพความพร้อมของกล้องวงจรปิดทุกจุดในเมืองหาดใหญ่ ซึ่งมีอยู่กว่า 1 ตัว ว่า ยังอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานหรือไม่ รวมทั้งนำสุนัขดมกลิ่นเข้ามาตรวจหาวัตถุระเบิด นอกเหนือจากเครื่องมือที่อาจมีไม่เพียงพอ นอกจากนี้จะมีการจัดอบรม รปภ. ตามสถานประกอบการต่างๆ เกี่ยวกับวิธีการตรวจและสังเกตรถต้องสงสัย รวมทั้งแผ่นป้ายทะเบียนปลอม ซึ่งจะจัดอบรมในวันที่ 10 เมษายน นี้

เหตุระเบิดหาดใหญ่เสียหายกว่า 800 ล้าน

ด้าน นายสุรชัย จิตภักดีบดินทร์ ประธานหอการค้า จ.สงขลา เปิดเผยว่า ขณะนี้ความสูญเสียทางเศรษฐกิจหลังเกิดระเบิดในหาดใหญ่ประมาณ 800 ล้านบาท เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวไทยยกเลิกการเดินทางทั้งหมด ส่วนมาเลเซียยกเลิกไปบางส่วน เช่นเดียวกับนักธุรกิจชาวต่างชาติที่มีแผนจะเข้ามาดูงานในหาดใหญ่ก็ได้ยกเลิกการเดินทางทั้งหมด หรือแม้แต่ภาคการขนส่งในภาคกลางก็มีการเรียกร้องขอเพิ่มเงินค่าเสี่ยงภัยและค่าใช้จ่ายต่างๆในการขนสินค้าลงมาหาดใหญ่เพิ่มขึ้น เพราะ ไม่มีใครกล้าลงมา 

แนะทำประกันภัยนักท่องเที่ยวคนละ 10 ล้าน

โดยทางภาคธุรกิจโดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวต้องการให้ภาครัฐประกันภัยให้กับนักท่องเที่ยวคนละ 10 ล้าน กรณีเกิดเหตุวินาศกรรม เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันการรักษาความปลอดภัยจะต้องครอบคลุมสถานที่สำคัญทุกแห่ง โดยเฉพาะสนามบิน ซึ่งพบว่า ค่อนข้างหละหลวม และจะเรียกตรวจเฉพาะรถเก๋ง ส่วนรถยนต์กระบะหรือรถตู้จะปล่อยให้เข้าไปได้อย่างง่ายดาย ส่วนการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวนั้น จะมีการเชิญสื่อมวลชนมาเลเซียมาดูพื้นที่จริง และมาตรการต่างๆของเจ้าหน้าที่ เพราะ ข่าวที่ออกไปนั้นคลาดเคลื่อนและเสียหาย โดยเฉพาะยอดผู้เสียชีวิต ซึ่งสื่อมาเลเซียบอกว่า เหตุระเบิดที่หาดใหญ่มีผู้เสียชีวิตมากถึง 14 คน

ยกระดับรถที่แจ้งหายให้เป็นคดีสำคัญและทำเป็นพ็อกเก็ตบุ๊คและไวนิลแจกจ่ายให้เจ้าหน้าที่

ด้าน พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากนี้ไปไปคดีรถยนต์หายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะต้องยกให้เป็นคดีสำคัญ เนื่องจากรถยนต์ที่นำมาใช้ก่อเหตุเป็นรถที่ถูกขโมยมาทั้งสิ้น และรถที่ได้มีการแจ้งหายจะต้องมีการรวบรวมทำเป็นพ็อกเก็ตบุ๊ค เพื่อแจกจ่ายให้กับตำรวจสายตรวจและฝ่ายปราบปราม รวมทั้งต้องทำเป็นไวนิลติดไว้ตามจุดตรวจต่างๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้น และจะต้องมีการทำประวัติอู่ซ่อมรถทุกแห่งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะ รถยนต์ที่ขโมยไปบางส่วนจะนำไปเปลี่ยนสีรถ ขณะที่สินค้าบางตัว เช่น ซิมการ์ดหรือโทรศัพท์ และ แบตเตอรี่ ก็จะต้องปรับให้เป็นสินค้าที่มีการควบคุม เพราะ เหตุร้ายที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่า ผู้ประกอบการค้ามีความหละหลวมและเห็นแก่ผลประโยชน์เช่นกัน

ตำรวจเตรียมออกหมายจับ 2 มือระเบิดหาดใหญ่ในอีก 2 วัน พร้อมตั้งค่าหัวเพิ่มคนละ 1 ล้าน

ความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีลอบวางระเบิดโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ล่าสุด พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เตรียมออกหมายจับ 2 คนร้าย ที่ก่อเหตุในอีกไม่เกิน 2 วัน รอเพียงการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกบางส่วน โดย 2 คนร้าย ที่เตรียมออกหมายจับนั้น เป็น 2 คนร้าย ที่ได้จากภาพกล้องวงจรปิดของโรงแรม ลี การ์เดนส์ พลาซ่า ซึ่งบันทึกไว้ได้ขณะขับรถเก๋งคาร์บอมเข้าไปจอด และเดินออกจากโรงแรม ที่ได้มีการเปิดเผยไปแล้วก่อนหน้านี้ และเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่วางระเบิดใน จ.ยะลา เนื่องจากสารที่ประกอบระเบิดเป็นชนิดเดียวกัน และคนร้ายมาจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเชื่อว่า ขณะนี้ยังคงอยู่ในพื้นที่ นอกจากนี้ทางตำรวจยังได้ตั้งรางวัลนำจับคนร้ายทั้ง 2 คน เพิ่มอีกคนละ 1 ล้านบาท นอกเหนือจากที่ทางผู้ว่าราชการ จ.สงขลา ได้ตั้งรางวัลนำจับไปเมื่อวานนี้คนละ 5 แสนบาท

เจ้าของร้านเข้าไปตรวจสอบสินค้า

ส่วนบรรยากาศที่บริเวณหน้าโรงแรม ลี การ์เดนส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆกว่า 100 ราย มารอ เพื่อที่จะเข้าไปตรวจสอบร้านค้าของตนเอง เพื่อเก็บสิ่งของต่างๆภายในร้าน รวมทั้งถ่ายรูปความเสียหาย เพื่อยืนให้กับเจ้าหน้าที่ของทางจังหวัดที่มาตั้งโต๊ะรับยืนเอกสาร เพื่อขอความช่วยเหลือในเรื่องการเยียวยาทรัพย์สินที่เสียหาย

โดยทางเจ้าหน้าที่ได้จัดระบบในการเข้าไปตรวจสอบร้านค้าต่างๆของผู้ประกอบการ ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละรายจะมีเจ้าหน้าที่ติดตามลงไปด้วย เพื่อป้องกันการขโมยสินค้าภายในร้านอื่น เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการหลายรายได้ร้องเรียนกับทางเจ้าหน้าที่ว่า ทรัพย์สินบางอย่างภายในตัวร้านสูญหาย

สำหรับบริเวณโดยรอบของโรงแรม ลี การ์เดนส์ หาดใหญ่ ยังคงเต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ ทั้ง ตำรวจ ทหาร และ ฝ่ายปกครอง ที่เข้ามาร่วมกันดูแลกันพื้นที่ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในตัวอาคาร โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อป้องกันทรัพย์สินสูญหาย
/////

วันนี้ไปเฝ้าพ่อหน้าห้องผ่าตัดที่โรงพยาบาลหาดใหญ่
เห็นคุณหญิงสุดารัตน์มาเยี่ยมคนบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่ลี พร้อมด้วย ผู้ว่าราชการสงขลา และข้าราชการ
และนักข่าว

ขอทรงพระเจริญครับ

.


...ขอจง ทรงพระเจริญ..