กิมหยง - ตะลุงเว็บบอร์ด

ที่มาโดย hilight.kapook
เอกชน ชี้ขึ้นค่าแรง 300 นับถอยหลังเอสเอ็มอีปิดตัว

'300บาท'มีผลเริ่มนับถอยหลังเอสเอ็มอีปิดตัว (ไอเอ็นเอ็น)

          300 บาทมีผลแล้ว 7 จังหวัดนำร่อง ปลัดแรงงาน ชี้ผลกระทบแค่ระยะสั้น ภาคเอกชนประสานเสียงเริ่มนับถอยหลังเอสเอ็มอีล้มหายตายจาก เชื่อปี 2556 อาการหนักแน่ หลังใช้ทั้งประเทศ

          เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2555 ถือเป็นวันแรกที่การปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ใน 7 จังหวัดนำร่อง คือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสาคร และภูเก็ต มีผลแล้ว

          นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ระบุว่า จะเป็นการยกระดับรายได้ให้แก่แรงงานที่มีผลดีมากกว่าผลเสีย เพราะขณะนี้ค่าครองชีพต่างๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่ปรับขึ้นค่าแรงจะทำให้เงินหมุนเวียนในระบบขาดหาย แต่หากแรงงานมีรายได้เพิ่มขึ้น อำนาจการซื้อก็เพิ่มขึ้น การจับจ่ายซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจะซื้อง่ายขายคล่องขึ้น เม็ดเงินจะกลับมายังผู้ประกอบการในที่สุด แม้ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ผู้ประกอบการอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่เป็นเพียงระยะสั้น   

          "จังหวัดที่เหลือรัฐบาลจะให้ปรับขึ้นพร้อมกันในวันที่ 1 มกราคม 2556 และจะมีการติดตามผลการปรับค่าจ้างจาก 7 จังหวัดนำร่อง และดูภาวะผันผวนทางเศรษฐกิจอีกครั้ง" นายสมเกียรติ กล่าว

          นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวเรื่องนี้ว่า เป็นนโยบายของพรรคเพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้นให้เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่อยากให้มองเป็นการเพิ่มค่าการผลิตจะทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น แต่การปรับค่าแรงขั้นต่ำครั้งนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และพัฒนาฝีมือแรงงานตามราคาค่าแรง

          "พรรคจะตั้งคณะกรรมการของพรรคเพื่อติดตามใน 7 จังหวัดที่ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เพื่อศึกษาผลกระทบจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ รวมถึงจะได้ตรวจสอบราคาสินค้าเพื่อป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า หากมีพรรคจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด" นายพร้อมพงศ์ กล่าว

          สำหรับภาคเอกชนนั้น นายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ส.อ.ท. ยอมรับว่า เป็นกฎหมายที่เอกชนคงต้องปฏิบัติตาม และก็ต้องปรับตัวรองรับ ส่วนเอกชนที่ไม่สามารถแบกรับภาระได้จริงที่สุดคงหนีไม่พ้นการปรับขึ้นราคาสินค้า ซึ่งก็เป็นไปตามวัฏจักรหรือทฤษฎี 2 สูง คือปล่อยให้ราคาสินค้าปรับขึ้นตามกลไกควบคู่ไปกับการปรับขึ้นค่าแรงเพื่อให้สอดรับกับรายจ่าย

          "จริง ๆ เราเองไม่ได้คัดค้านการขึ้นค่าแรงเลย แต่ปัญหาคือรัฐบาลควรมีกลไกดูแลราคาสินค้าให้นิ่งก่อนแล้วทยอยปรับขึ้นค่าแรง เพราะการขึ้นครั้งนี้เกือบ 40% มันเร็วไปนิดหนึ่ง และอยากให้หามาตรการดูแลผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) เพราะเขามีอำนาจต่อรองต่ำมาก ซึ่งตอนนี้คงประเมินยาก แต่คิดว่าอีก 3 เดือนข้างหน้าจะเห็นชัดว่าผลกระทบมากน้อยเพียงใด" นายวิศิษฎ์ กล่าว

          ขณะที่ นายวัลลภ วิตนากร รองประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า เอกชนส่วนใหญ่ได้เตรียมรับภาระรายจ่ายที่ต้องเพิ่มขึ้นจากการปรับค่าแรงแล้ว แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือเอสเอ็มอี 2.3 ล้านรายทั่วประเทศอาจต้องประสบปัญหาขาดทุน โดยคาดว่า 20-30% ของเอสเอ็มอีมีโอกาสต้องปิดกิจการลง และขณะนี้ก็มีเอสเอ็มอีทยอยปิดแล้วจำนวนมาก ดังนั้น รัฐบาลควรหามาตรการดูแลอย่างเร่งด่วน

          "รายใหญ่ไม่น่าห่วง แต่รายเล็กลำบากที่จะปรับราคาสินค้าระยะแรก ๆ นี้ แถมยังมีต้นทุนรอบด้าน ทั้งน้ำมัน ค่าแรงที่เพิ่ม และบางรายยังเจอน้ำท่วมก็ยังไม่ฟื้นตัว เอสเอ็มอีคงทยอยเจ๊งและปัญหานี้คงจะชัดมากขึ้นปี 2556 เพราะค่าแรงจะปรับขึ้นทั่วประเทศ" นายวัลลภ กล่าว

          นายสมมาต ขุนเศษฐ เลขาธิการ ส.อ.ท. กล่าวเช่นกันว่า จะส่งผลให้เอสเอ็มอีต้องล้มหายไปพอสมควร ซึ่งขณะนี้กิจการที่ใช้แรงงานเข้มข้นในหลายจังหวัดเริ่มทยอยปิดแล้ว เพราะประเมินแล้วว่าไม่สามารถรับภาระค่าจ้างที่เพิ่มอีก 40% และหากไปปิดกิจการหลัง เมษายน 2555 ไปแล้ว การจ่ายชดเชยจะยึดฐานเงินเดือนใหม่ที่ปรับขึ้นจะทำให้ต้องมีภาระจ่ายค่าตอบแทนล่วงหน้าสูง

          "ภาพมันจะค่อย ๆ เห็น และจะไปรุนแรงในปี 2556 ที่ค่าจ้างขึ้นทั่วประเทศ วันนี้มาตรการช่วยเหลือทุกอย่างไม่ได้ตกกับเอสเอ็มอีเลย ซึ่งลูกจ้างเองก็เชื่อว่าถ้าเลือกได้ระหว่างขึ้นค่าจ้างกับของไม่ขึ้นราคา เขาเลือกของไม่ขึ้นราคาดีกว่าเพราะเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าที่สุดแล้วกิจการจะอยู่ได้นานแค่ไหน" นายสมมาต กล่าว

          ขณะที่ นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยได้เคยทำการสำรวจภาคแรงงานและผู้ประกอบการถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยภาคแรงงานยอมรับว่าการขึ้นค่าแรงจะทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้น ส่วนผู้ประกอบการก็ยอมรับว่าจะทำให้กระทบต่อต้นทุนที่สูงขึ้น ส่งผลให้การจ้างแรงงานใหม่เป็นไปด้วยความระมัดระวัง ส่วนการปลดแรงงานออกก็จะมีให้เห็นแต่น้อยมาก

          "ปัจจุบันไทยมีตำแหน่งงานว่างอยู่ประมาณ 3 ล้านอัตรา หากแรงงานไม่เลือกงาน ก็เชื่อว่าปัญหาการว่างงานก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น แต่หลังจากการปรับขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำแล้ว แรงงานก็ต้องทำงานให้คุ้มค่า มีความขยัน และต้องหมั่นเรียนรู้ ฝึกฝนทักษะใหม่ ๆ อยู่สม่ำเสมอ" นายธนวรรธน์ กล่าว

          ด้าน นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ กล่าวในการสัมมนาตอนหนึ่งว่า ส่งผลกระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งกรมทำได้แค่เพียงหาแนวทางในการลดต้นทุนในส่วนอื่น ๆ ให้ และหาตลาดรองรับ
..............................

ดูภาพรวมอัตราค่าจ้างทั่วประเทศได้ที่ http://www.lm-south.org/content/salary

เพิ่มค่าเเรง 300 บาท......เป็นการก้าวกระโดดที่เสี่ยงมากๆ

ผลดี  :  ลูกจ้างได้ค่าเเรงเพิ่ม  ความเป็นอยู่คงดีขึ้น

ผลเสีย : กิจการขนาดเล็กอาจปรับลดคนงาน หรือปิดตัวลง

ปล. ก็ดูกัันต่อไป   

อ้างจาก: คุณาพร. เมื่อ 12:24 น.  02 เม.ย 55
เพิ่มค่าเเรง 300 บาท......เป็นการก้าวกระโดดที่เสี่ยงมากๆ

ผลดี  :  ลูกจ้างได้ค่าเเรงเพิ่ม  ความเป็นอยู่คงดีขึ้น

ผลเสีย : กิจการขนาดเล็กอาจปรับลดคนงาน หรือปิดตัวลง

ปล. ก็ดูกัันต่อไป   

ใช่ ไม่พอดี อยู่ลำบากแน่ รับมือให้ดี

ไม่เห็นมีผลกับผมเลย ค่าแรงเท่าเดิม

อ้างจาก: puiey เมื่อ 21:41 น.  02 เม.ย 55
ไม่เห็นมีผลกับผมเลย ค่าแรงเท่าเดิม

เหมือนกันครับ ค่าแรง300บาทนี่ ภาคใต้ มีภูเก็ตจังหวัดเดียวครับ ของสงขลาเราต้องรอถึงมกรา ปี2556ครับ

ค่าแรงเพิ่มขึ้น 300 บาท จะให้ผลดีต่อแรงงานในระยะสั้นเท่านั้น  เมื่อทุกอย่างปรับตัวได้แล้ว ผลก็คือ ของแพงขึ้น คนตกงานเพิ่มขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น  ค่าเงินเท่าเดิม  เงินเฟ้อ  ต่อไปเราก็จะเหมือนประเทศลาว  เวียดนาม ที่ต้องพกเงินเป็นแสนเป็นล้านเพื่อไปซื้อของแต่ละครั้ง

อ้างจาก: เราจะรวยแล้ว เมื่อ 09:35 น.  03 เม.ย 55
ค่าแรงเพิ่มขึ้น 300 บาท จะให้ผลดีต่อแรงงานในระยะสั้นเท่านั้น  เมื่อทุกอย่างปรับตัวได้แล้ว ผลก็คือ ของแพงขึ้น คนตกงานเพิ่มขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น  ค่าเงินเท่าเดิม  เงินเฟ้อ  ต่อไปเราก็จะเหมือนประเทศลาว  เวียดนาม ที่ต้องพกเงินเป็นแสนเป็นล้านเพื่อไปซื้อของแต่ละครั้ง

  ผมว่าขึ้นค่าแรง ดีกว่าครับ เพราะ บริษัทกำไรต่อเดือนก็หลายล้านบาทแล้วทำไมให้ลูกจ้างแค่นี้ไม่ได้ หรือขึ้นแล้ว บริษัทต้องปิดตัวเองหรือ แค่กำไรลดลงนิดหน่อยแต่งานได้มากขึ้น ดูแล้วฟังไม่ขึ้นสำหรับคนที่บอกว่าอาจต้องปิดเพื่อความอยู่รอด ผมว่าเป็นการเห็นแก่ตัวมากเกินไปมากกว่า

อ้างจาก: suthep  sriwisalsilp เมื่อ 11:40 น.  03 เม.ย 55
  ผมว่าขึ้นค่าแรง ดีกว่าครับ เพราะ บริษัทกำไรต่อเดือนก็หลายล้านบาทแล้วทำไมให้ลูกจ้างแค่นี้ไม่ได้ หรือขึ้นแล้ว บริษัทต้องปิดตัวเองหรือ แค่กำไรลดลงนิดหน่อยแต่งานได้มากขึ้น ดูแล้วฟังไม่ขึ้นสำหรับคนที่บอกว่าอาจต้องปิดเพื่อความอยู่รอด ผมว่าเป็นการเห็นแก่ตัวมากเกินไปมากกว่า

 

"ขณะที่ นายวัลลภ วิตนากร รองประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า เอกชนส่วนใหญ่ได้เตรียมรับภาระรายจ่ายที่ต้องเพิ่มขึ้น

จากการปรับค่าแรงแล้ว แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือเอสเอ็มอี 2.3 ล้านรายทั่วประเทศอาจต้องประสบปัญหาขาดทุน

โดยคาดว่า 20-30% ของเอสเอ็มอีมีโอกาสต้องปิดกิจการลง และขณะนี้ก็มีเอสเอ็มอีทยอยปิดแล้วจำนวนมาก

ดังนั้น รัฐบาลควรหามาตรการดูแลอย่างเร่งด่วน"

ไม่จริงหรอก เอสเอ็มอีที่ไม่ดีไม่ขึ้นค่าแรงก็เตรียมปิดอยู่แล้ว

คุณวัลลภไม่รู้จริงๆหรือ ตอนนี้ร้านขายอาหารขาดคนล้างจาน

และทำความสะอาด  ขนาดให้วันละ 300 บาทยังหาคนยาก

แถมอาหาร 2-3 มื้อด้วยนะ แต่อาจยาวถึง 8 ชั่วโมงเต็ม

อย่าเอาค่าแรงวันละ 300 บาทมาเป็น ข้ออ้างเลยครับ


บริษัทส่วนใหญ่ตั้งเป้ากำไรไว้สูงมาก  เผื่ออะไรบ้างรู้ๆอยู่

พอกำไรน้อยลงก็จะโวยวายว่าขาดทุน  ที่จริงขาดทุนกำไรหรอก

เจ้าหน้าที่นี่แหละตัวดีที่ทำให้บริษัทต้องสำรองกำไรเผื่อไว้สูง

เจ้าของกิจการเขาต้องสำรองไว้จริงๆ

ที่แน่ ๆ ค่าจ้างผมยังไม่ขึ้นเลยครับ

เป็นอันว่าขึ้น300บาท มีทั้งดีและไม่ดี 

ต้องยอมรับความจริง

ทุกสิ่งในโลกนี้ไม่มีอะไรดีทั้งหมด

ใช่ครับ  มีดีและมีไม่ดีอยู่ในตัว

"ที่แน่ ๆ ค่าจ้างผมยังไม่ขึ้นเลยครับ"

ชนเพดาน 300 บาทหรือยัง ? หรือว่าสูงกว่า

อ้างจาก: นายไข่นุ้ย เมื่อ 10:38 น.  04 เม.ย 55
เป็นอันว่าขึ้น300บาท มีทั้งดีและไม่ดี 

ย้ำอีกครั้ง  ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้

มีทั้งดีและไม่ดีในตัว  ขอให้มองโลกในแง่ดี

ก่อนนี้ตอนเริ่มทำงานใหม่ๆ ผมได้เดือนละ 900 บาท

เอ่อ  ก็พอใช้

พอทำไปสักพักได้เพิ่มเป็น 1,500 บาท ก็พอใช้

ต่อมาได้ 2,500 บาท อื่มดี ก็พอใช้

และรายได้ก็ขึ้นมาเรื่อยๆ

วันนี้ได้เดือนละเกือบห้าหมื่นบาท โอ้โห แต่ก็พอใช้

นี่ไงที่บอกว่าเงินเดือนได้มากน้อยเท่าไหร่ก็ไม่พอใจอยู่ดี

เพราะมันก็แค่พอใช้อยู่ดี แม้จะได้มากกว่านี้

ขึ้นค่าแรง300   บาท   ธุรกิจSME   นับถอยหลัง   ปิดตัว   และ   คนตกงาน   มากกว่า   300   และ   เพิ่มโจร   มากกว่า   300   นี้และ   นโยบายรัฐบาล   

อ้างจาก: ว่าที่ร.ต. เมื่อ 14:02 น.  04 เม.ย 55
ขึ้นค่าแรง300   บาท   ธุรกิจSME   นับถอยหลัง   ปิดตัว   และ   คนตกงาน   มากกว่า   300   และ   เพิ่มโจร   มากกว่า   300   นี้และ   นโยบายรัฐบาล

บอกได้ว่า สะใจ คนที่เลือก 

  ข้อแนะนำสำหรับเจ้าของกิจการขนาดเล็ก ตอนนี้ที่ร้านไม่จ้างลูกน้องแบบให้เงินเดือนแล้ว จ้างเหมาเป็นงาน ๆ กันไปแล้ว เหมาะสำหรับกิจการที่สามารถทำได้ เพราะไม่ต้องแบกรับภาระที่หนักเกินไปเวลาขาดทุน หรือน้ำท่วม หรืองานน้อยเวลาที่มีปัญหาอย่างทุกวันนี้  ลูกจ้างประจำ เลิกจ้างหมดแล้ว อยากแนะนำเจ้าของกิจการอื่น ๆ ดูบ้าง โชคดีทุกคน

 ส.สู้ๆเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ สู้ๆนะครับ

สำหรับผมยังงัยก็ได้แต่ขอให้น้ำมันถูกเหมือนกับมาเลเซีย ข้าวปลาอาหารถูกๆๆก็พอแล้ว บอกได้คำเดียวว่าตอนนี้แพงไปทั้งแผ่นดินแล้ว

sme ลำบากขึ้น
ลูกจ้างก็..ลำบากเหมือนกันนะ เพราะราคาสินค้าก็แพงขึ้น ที่ว่าสบายขึ้นไม่น่าจะถูก