ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ลดราคาน้ำมันทุกชนิด40สต.มีผล20เม.ย.

เริ่มโดย Probass, 23:05 น. 19 เม.ย 55

นายไข่นุ้ย

อ้างจาก: คน โลก จิต เมื่อ 07:09 น.  24 เม.ย 55
ใช้พลังจิตในการต่อสู้
ถาม: ฝึกกำลังภายใน ฝึกไป...?
ตอบ: ท้ายๆ ก็เป็นเรื่องของจิตหมด ดูอย่างใน มังกรคู่สู้สิบทิศ ตอนนี้ถึงขั้นสัมพันธ์กับฟ้าดินแล้ว แต่ว่ายังมีอีกขั้นหนึ่งคือสู่อนุภาค ตอนนี้จะเหลือแต่จิตล้วนๆ
สมัยก่อนคนไทยของเรา เวลาฝึกมวยฝึกอาวุธ จะต้องหัดสมาธิภาวนาไปด้วย ระยะแรกๆ การใช้อาวุธ ท่าเท้า การเคลื่อนไหวของร่างกาย ต้องสัมพันธ์กันหมด ในเมื่อสัมพันธ์กันหมด พอเริ่มกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก็อยู่ในระดับที่เรียกว่า ม้าย่อง พอต่อไปกำลังจิตเริ่มส่งออกมากดดันคู่ต่อสู้ได้ จะอยู่ในจุดที่เรียกว่า เสือย่าง คือเดินแบบเสือ เห็นแค่การเดินคู่ต่อสู้ก็รู้แล้วว่าเราเอาตายแน่ บางคนแพ้ตั้งแต่ไม่ทันจะลงมือ เพราะระดับห่างกันมาก พอสุดท้ายเขาเรียก สีหยาตร เดินแบบพญาราชสีห์ แบบนี้มีพลังจิตออกกดดันคู่ต่อสู้รุนแรงมาก ส่วนใหญ่คู่ต่อสู้จะยอมแพ้ตั้งแต่ก่อนที่จะลงมือ ที่เราอ่านๆ ไปในหนังสือนั่นแหละ สังเกตไหมว่าพอถึงระดับสุดท้ายแล้ว ของเขาสามารถที่จะใช้กำลังของเขาควบคุมคนอื่นได้
ในการฝึกพาหุยุทธ์ (มวยไทยโบราณ) มีท่า เหินเตะ ท่านี้เขาเรียกว่า หนุมานเหินหาว เป็นการใช้กำลังใจคุมร่างกายตัวเองให้ลอยขึ้น ตามเตะคู่ต่อสู้ไปเรื่อย ถ้าไม่หมอบคาเท้าก็ไม่เลิก ปัจจุบันเท่าที่รู้มีทำได้อยู่คนเดียว ก็คือ คุณสเกน แก้วผดุง ตอนนี้เปิดค่ายมวยอยู่อังกฤษ ต้องอัดกับพวกไอ้มืดไอ้หรั่งตัวยักษ์ๆ ที่มาท้าสู้เป็นประจำ สเกนเขาให้ฝรั่งๆ ๒ คนขี่คอกัน แล้วเอาดาบเสียบลูกแอ๊ปเปิ้ลชูขึ้นไปสุดแขน สูงน่าจะเกิน ๓ เมตร คุณสเกนเตะถึง ลักษณะเหมือนกระโดดในสายตาคนอื่นเขา แต่ในสายตาของพวกเราก็คือลอยขึ้นไปเฉยๆ
หลวงพ่อวัดท่าซุง บอกว่าใช้กำลังใจไม่มาก แค่คุมอุเพ็งคาปิติให้อยู่ในระดับนั้นก็พอ กำหนดใจเมื่อไรให้ได้ตรงจุดนั้นก็ใช้ได้ แค่นั้นเอง[/color] ไม่ได้ใช้กำลังใจเยอะเลย แต่อย่าลืมว่าเป็นส่วนหนึ่งของสมาธิ เพราะฉะนั้น..ปัจจุบันของเราอย่างที่หัด ๆ กันอยู่ในเรื่องของอาวุธ อย่าง สำนักพุทไธสวรรย์ ตามปัจจุบันแย่มากแล้ว ถ้าสามารถใช้ได้แค่นี้เมืองไทยไม่รอดจากข้าศึกมาจนทุกวันนี้หรอก
เคยอ่านประวัติพระยาสีหราชเดโชหายตัวได้อึดใจหนึ่ง พอถึงเวลากลั้นใจว่าคาถา เขาเรียก คาถาวิรุฬจำบัง ข้าศึกจะมองไม่เห็นทั้งตัวทั้งเงาไปชั่วอึดใจหนึ่ง เหลือเฟือที่จะฟันหัวฝ่ายตรงข้าม ก็อาวุธยังเหมือนเดิมทุกอย่าง เพียงแต่เขามองไม่เห็น นั่นคือการใช้พลังจิตอย่างหนึ่ง
มารุ่นหลังๆ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ อยุธยา เจ้าของหนึ่งในเหรียญเบญจภาคี แพงที่สุดในประเทศไทย หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ท่านเปิดสำนักสอนกระบี่กระบองในวัด สมัยนั้นยังมีการค้าขายสำเภากับจีนอยู่ มีมือกระบี่จากเมืองจีนมา อยากทดสอบวิชาตัวเองว่าอยู่ระดับไหนแล้ว ก็ตามลุยไปทีละสำนัก เขาชนะมาตลอด พอไปถึงวัดพระญาติก็ขอลองด้วย หลวงพ่อกลั่นบอกว่าท่านเป็นพระ ท่านสอนแต่ลูกศิษย์ ถ้าคุณอยากลองก็ยอมให้ลอง แต่ว่ามีข้อแม้
หลวงพ่อกลั่นท่านบอกจะปิดให้ตีเพลงหนึ่ง เพลงหนึ่งเขาตีกลองกันลิ้นห้อยเหมือนกัน ไม่ใช่แค่พักเดียว อย่าลืมว่าเพลงหนึ่งอาจจะมีสักร้อยแปดกระบวนท่า จะปิดให้ตีเพลงหนึ่ง ถ้าคุณไม่สามารถทำอันตรายได้ คุณต้องกลับเมืองจีน แล้วอย่ามารังควานคนไทยอีก เขาก็ตกลง หลวงพ่อกลั่นถือพลองสั้น ๒ อัน ฝ่ายตรงข้ามใช้อาวุธได้ตามถนัด ลูกศิษย์บอกว่าพอหลวงพ่อกลั่นควงไม้พลอง มองไม่เห็นตัวหลวงพ่อเลย เห็นแต่เงาพลองล้อมอยู่ เจ้านั่นฟันจนลิ้นห้อยไม่ถูกสักที เข้าไปเท่าไหร่กระดอนกลับออกมาหมด ก็เลยยอม วางกระบี่กราบหลวงพ่อกลั่นแล้วก็กลับ ไม่รู้จะสู้ไปทำไม เขายังไม่ทันจะตีคืนเลย นั่นแหละ..วิชาการต่อสู้ที่บวกกับการฝึกจิตไปด้วย จึงทำได้เกินกว่าคนทั่วๆ ไป
สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกันยาน ๒๕๔๕
ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard...ead.php?t=3281
เกี่ยวกับกระทู้ไหมนี่ หือ ร่ายยาวมาก ส.โกรธ
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

ผู้เฒ่าเต่า

เรามันก็แค่คนตัวเล็ก ๆ ก็ได้แต่บ่นไปวัน ๆ แต่ทำอะไรไม่ได้

มันน่าเจ็บใจนัก นี่ขนาดรัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ยังปล่อยให้เป็น

แบบนี้ถ้าได้แปรรูปไปแล้วมันจะเป็นยังไงคิดแล้วหนาวจัง  ส.โกรธอย่างแรง ส.โกรธอย่างแรง ส.โกรธอย่างแรง
อย่าใช้ภาษาผิด ๆ สะกดผิด ๆ เดี๋ยวภาษาที่ ปู่ ย่า ตา ยาย ใช้กันมานมนานจะวิบัติไปกันหมด   
              พลังคลื่นเต่า..........ปู๊ด !!!!!!



wareerant

อ้างถึงคนแก่โลกลองอธิบายสิ่งที่รู้เกี่ยวกับน้ำมันเถื่อนเอา ให้สมกับคำที่ว่า อ่อนต่อโลกจัง เฮ้อเหนื่อยหน่อย เหมือนว่าคุณเก่งรู้ดีเรื่องน้ำมันเถื่อนทุกอย่าง ตามอ่านของคุณหลายข้อความแล้วที่โพสท์ ไม่เห็นจะแก่เลยรู้สึก รู้สึกจะไปทางปัญญาอ่อนด้วยซ้ำไม่เห็นอะไรที่สร้างสรรค์สังคมให้ดีขึ้นเลย 

ทำไมผมต้องอธิบายอะไรให้ยืดยาว ไม่จำเป็น ผมแค่บอกว่า ถ้ารัฐบาลไม่ทำให้ราคาน้ำมันลดลง ผมก็จะใช้นำมันเถื่อนต่อไปเท่านั้นเอง ทำไมล่ะ จะมาห้ามผมเหรอ

ความคิดเห็นของผมมันมีประโยชน์สิ ถ้าอ่านแล้ว นำไปคิดตาม ซึ่งคุณคงไม่ได้อะไรเพราะคุณคิดไม่เป็น เอาง่าย ๆ คุณบอกว่า น้ำมันเถื่อนที่วางชายตามข้างทาง คนขายบอกว่า เป็นน้ำมันซื้อมาจากปั๊ม โถ โถ คิดได้งัย เด็กอนุบาลยังรู้เลย ว่ามันเป็นน้ำมันเถื่อน แล้วถ้าตำรวจจะจับจริง ๆ เขาจับไม่ได้เหรอ โอย ปัญญาอ่อนสุด ๆ นี่งัยผมถึงได้บอกว่า คุณน่ะ "อ่อนต่อโลก ยิ่งกว่าเด็กอนุบาลเสียอีก" น่าสงสารจริง ๆ พูดกับคุณแล้วเหนื่อยงัย จริงมั๊ย ผมพูดผิดมั้ย