ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ผลประโยชน์ไม่ลงตัว "บัวขาว" ประกาศเลิกชก

เริ่มโดย ฅนสองเล, 16:44 น. 31 พ.ค 55

ฅนสองเล

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   31 พฤษภาคม 2555 16:04 น.   

[attach=1]
บัวขาว โบกมือลาแฟนมวยผ่านสื่อเป็นครั้งสุดท้าย

[attach=2]
กำนันแก๊ ปรึกษากับทนายของตัวเอง

ASTVผู้จัดการรายวัน - สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว ป.ประมุข ขอจบปัญหาที่ค้างคามานาน ตัดสินใจประกาศฟ้าผ่าเลิกชกมวยด้วยวัยเพียง 30 ปี หลังไม่สามารถตกลงสัญญาผลประโยชน์กับ "กำนันแก๊" ประมุข โรจนตัณฑ์ เจ้าของค่ายมวยชั้นนำของเมืองไทยได้
       
          เมื่อเวลา 13.45 น.ของวันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม 2555 ที่ห้องประชุมชั้น 7 ของอาคารเฉลิมพระเกียรติ ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) นายสกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายสิทธิประโยชน์ พร้อมด้วย "ชาติซ้าย" สมชาติ เจริญวัชรวิทย์ นายกสมาคมกีฬามวยอาชีพ นัดหมายทางฝั่ง บัวขาว ป.ประมุข และนายประมุข โรจนตัณฑ์ เข้าถกสัญญาใหม่อีกครั้ง หลังประชุมพูดคุยกันครั้งก่อนไม่ลงตัว
       
          โดย นายวิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร ทนายความทางฝั่ง "ป.ประมุข" เปิดเผยว่า "หลังจากปรึกษากันแล้ว เรายอมที่จะถอนฟ้อง นายธีรวัฒน์ ยิ้วยิ้ม นักกายภาพบำบัดที่พากันแหกค่ายหนีไปกับ บัวขาว ตามที่นักมวยขอไว้ในสัญญา อีกทั้งเรายอมรับข้อตกลงในสัญญาฉบับใหม่ที่ระบุว่า บัวขาว จะได้ค่าตอบแทน 60 เปอร์เซ็นต์ เมื่อขึ้นชก ทางค่ายขอไว้ 40 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่สิทธิประโยชน์ ค่าโชว์ตัวต่างๆ นักมวยได้ไป 75 เปอร์เซ็นต์ ฝ่าย ป.ประมุข ขอแค่ 25 เปอร์เซ็นต์ ภายใต้สัญญาที่เหลืออีก 5 ปี"
       
          อย่างไรก็ตาม ดร.เทพปกรณ์ อินทรพัฒน์ ทนายความฟาก "ดำ ดอท คอม" ขอเพิ่มเติมรายละเอียดในสัญญาใหม่ว่า "เรื่องผลประโยชน์ค่าตัวชก 60-40 และค่าภาพลักษณ์ 75-25 เปอร์เซ็นต์ ขอเป็นเพียงเรื่องของการชกมวยเท่านั้น แต่นอกเหนือจากการขึ้นสังเวียน อาทิเช่น บัวขาว ไปถ่ายภาพยนตร์หรือโฆษณา อยากให้ บัวขาว ได้ทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากนักมวยอายุ 30 ปีแล้ว ถือว่าอยู่ช่วงปลายอาชีพ อาจชกอีกไม่ได้นาน"
       
          ทั้งนี้เมื่อหาขอสรุปใหม่ไม่ลงตัว ทำให้ บัวขาว ประกาศกร้าวกลางที่ประชุมว่า "ผมขอเลิกชกมวยแล้วดีกว่า" ซึ่งทางฝั่ง ป.ประมุข ที่นำมาโดย "กำนันแก๊" และ "เสี่ยอุ" ธีระพัฒน์ ลูกชายซึ่งเป็นเจ้าของค่ายมวย พากันปรบมือยกใหญ่ พร้อมกันนี้ นายวิวรรธน์ ทนายความมีการถามกลับไปว่า บัวขาว จะเลิกชกในทุกชื่อเลยหรือไม่ จะมีการจดทะเบียนในชื่ออื่นอีกหรือไม่ ซึ่ง บัวขาว ยืนยันว่าไม่เอาแล้ว จบทุกอย่าง สัญญาถือว่าจบกันไป
       
          ด้าน นายสกล กล่าวในที่ประชุมทันทีว่า "รู้สึกเสียดายที่สุดท้ายเรื่องนี้จบไม่สวย เป็นเรื่องของผลประโยชน์แท้ๆ ที่ทำให้ บัวขาว ต้องเลิกชก แล้วเหตุใดฝั่ง ป.ประมุข ถึงปรบมือ ดีใจที่ บัวขาว เลิกชก เลิกทำผลงานให้ประเทศชาติอย่างนั้นหรือ ถ้าเกิดสื่อนอกตีข่าวออกไป ว่าตกลงผลประโยชน์กันไม่ได้ หน้าตาของประเทศจะเป็นเช่นไร"
       
          เรื่องนี้ "กำนันแก๊" สวนกลับไปว่า "ที่ปรบมือไม่ใช่เพราะ บัวขาว จะไม่ได้ขึ้นชกอีกแล้ว แต่เป็นเพราะปัญหาต่างๆ ที่สั่งสมมาตั้งแต่เดือนมีนาคมจะได้ยุติลงเสียที ที่ผ่านมาผมปวดหัวกับนักชกคนนี้มาก"
       
          ภายหลังประชุมเสร็จ นายประมุข ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว MGR Sport ว่า "นี่เป็นความต้องการของ บัวขาว คงต้องตามใจ จริงๆ เสียดายที่เขาจะไม่ได้กลับมาทำชื่อเสียงให้ประเทศอีก ปัญหาที่จบลงแบบนี้เป็นเพราะมือที่ 3 เข้ามายุ่ง ทั้งที่สมัยอยู่ด้วยกันในค่ายเคยเตือนไปแล้วถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ ไม่คิดว่ากรณีนี้จะมาเกิดกับตน ที่ผ่านมานักมวยดังๆ มักจบอนาคตด้วยปัญหาแบบนี้ อย่างไรก็ตาม โล่งใจที่ทุกอย่างสิ้นสุดเสียที"
       
          ขณะที่ บัวขาว เปิดปากทิ้งท้ายเช่นกันว่า "ส่วนตัวเสียดายที่ต้องเลิกชก ทั้งที่ยังมีเรี่ยวแรงอยู่ แต่ผมอยากยุติปัญหาที่เกิดขึ้นเสียที เรื่องนี้คิดตั้งแต่ก่อนมาที่นี่แล้ว โดยขอยืนยันอีกครั้งไม่มีใครยุโยงทั้งสิ้น ที่ผ่านมาทำชื่อเสียงให้ประเทศมาตลอด วันนี้ขอยุติไว้แค่นี้ หยุดตอนที่กำลังรุ่งดีกว่าเลิกตอนโรยราไปแล้ว เมื่อทุกอย่างจบ ผมจะกลับไปที่บ้านเกิดจังหวัดสุรินทร์ เพื่อฝึกลูกหลานที่อยากต่อยมวยไทยที่ค่ายบัญชาเมฆต่อไป ทั้งนี้ผมยังไม่ทิ้งวงการมวยเสียทีเดียว หากใครมีอะไรให้ช่วยก็พร้อมเต็มที่ ส่วนเรื่องการผันตัวเองเป็นโปรโมเตอร์ เป็นเรื่องอนาคต ตอนนี้ยังไม่ได้คิดไว้ สุดท้ายฝากขอโทษแฟนๆ ที่ต้องตัดสินใจเช่นนี้ จึงอยากเตือนนักมวยรุ่นน้องๆ ให้ดูกรณีผมเป็นตัวอย่าง และขอให้เป็นครั้งสุดท้ายที่เกิดขึ้นกับวงการมวยไทย"

นายไข่นุ้ย

ว่าแต่จริงไหม ไปๆมาๆ กลับมาอีก เฮ้อ
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

ซัมเบ้ Note 7 Jr.

ผมว่านะ  ถ้าบัวขาวเลิกชกในขณะที่ร่างกายยังแข็งแรง ก็นับว่าดี
เรื่องเงินทองไม่เข้าใครออกใคร ถ้าตัดใจได้ ก็จะเป็นภาพที่ดีต่อบัวขาวและครอบครัว ว่า ไม่งก ไม่เห็นแก่เงิน

แต่ถ้าหากบัวขาว กับค่าย ป.ประมุข ยังเกี่ยงกันแบบนี้ ต่อให้ขึ้นชกอีกมันก็ไม่สนุกแล้ว แม้บัวขาวจะมีใจรักชกมวยก็ตาม
ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป

นายไข่นุ้ย

ปัญหามาก เลิกเสียก็ดี ได้ไม่ต้องเจ็บตัวอีก   ส.โบยบิน ส.โบยบิน
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

จำปูดิง

เห็นใจทั้ง2ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเอาเด็กที่ไม่มีอนาคตลงทุนปั้นจนดังระดับโลก ฝ่ายนักมวยก็ไม่คิดว่าตัวเองจะก้าวไกลมาถึงขนาดนี้ได้ เมื่อผลประโยชน์มหาศาลลอยอยู่ตรงหน้า ความสับสนก็ตามมา

ซัมเบ้ Note 7 Jr.

บัวขาว เจ้าเพื่อนยาก
ทำไมเจ้า แขวนนวมเร็วไป .......  ส.อืม ส.อืม
ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป

นายไข่นุ้ย

อ้างจาก: ผู้พันตาดำๆ เมื่อ 08:52 น.  01 มิ.ย 55
บัวขาว เจ้าเพื่อนยาก
ทำไมเจ้า แขวนนวมเร็วไป .......  ส.อืม ส.อืม
ปัญหามาก คุยไม่รู้เรื่อง แบ่งเค้กไม่ลง เลิกๆไปนะดีแล้ว ไปทำอย่างอื่นดีกว่า ส.โบยบิน
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

ซัมเบ้ Note 7 Jr.

อ้างจาก: นายไข่นุ้ย เมื่อ 10:17 น.  01 มิ.ย 55
ปัญหามาก คุยไม่รู้เรื่อง แบ่งเค้กไม่ลง เลิกๆไปนะดีแล้ว ไปทำอย่างอื่นดีกว่า ส.โบยบิน

ครับ ร่างกายยังถือว่าแข็งแรง ปกติ   ดีกว่าเลิกชกเพราะไม่สมประกอบ

ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป

นายไข่นุ้ย

ต่อยมวยเจ็บตัวอยู่แล้ว มาเจ็บใจอีก ดีแล้วที่แขวนนวม จบๆ
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

ดีแล้วละนะ

เราว่าก็ดีแล้วนะ นักมวยนี่หาคนที่ตายแก่ยากจัง  แก่ตัวมาก็ไม่สมประกอบอีก  ส่วนแบ่งก็น่าสงสาร โดนเอาเปรียบเหมือนชาวนาเลย -*-

MUANGWONG

อ้างจาก: นายไข่นุ้ย เมื่อ 15:55 น.  01 มิ.ย 55
ต่อยมวยเจ็บตัวอยู่แล้ว มาเจ็บใจอีก ดีแล้วที่แขวนนวม จบๆ
ส.ยกน้ิวให้


ช่อ2012

ส่วนตัวคิดว่าบัวขาวคิดถูกแล้วครับ
เครื่องแบบเปื้อนดินไม่มีกินแต่มีเกียรติ

ช่อ2012

อ้างจาก: นายไข่นุ้ย เมื่อ 15:55 น.  01 มิ.ย 55
ต่อยมวยเจ็บตัวอยู่แล้ว มาเจ็บใจอีก ดีแล้วที่แขวนนวม จบๆ
ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้
เครื่องแบบเปื้อนดินไม่มีกินแต่มีเกียรติ

เด็กป้อมหก(ไม่6)

สมัยผมหัดชกมวยอยู่นราธิวาสยุคพ.ศ.14-20 ยุคเดียวกับ"จงอาง ศักดิ์สุริยา" "สายทอง ชำนาญวารี"ฯลฯแต่ไม่ได้ชกจริงจังเท่าพวกนี้ เชื่อไหมค่าชกเขาให้แบบนี้ครับ ชกชนะได้500 ถ้าแพ้ได้300 ค่ารถค่ากินออกเอง การหัดมวยต้องเดินไปขอเขาซ้อม เวลาจะชกถ้าเขาไม่เปรียบมวยให้ก็ไม่ได้ชก หรือมีอีกวิธีคือวันไหนมีมวยก็ตีตั๋วเข้าไปดูแล้วเตรียมกางเกงมวยไปด้วย เผื่อคู่ไหนขาดมาไม่ทันรถ ถ้าเห็นว่าสู้ได้รีบเปลี่ยนกางเกงขึ้นเวทีไปเลย ถ้าช้าคนอื่นจะขึ้นแทนอดได้เงิน เป็นแบบนี้จริงๆ ระหว่างนักมวยกับเจ้าของค่ายไม่มีสัญญาใดๆ เขาให้ชกกับใครก็ไป บางทีไม่รู้มาก่อนพอถึงวันเปรียบมวยบ้านผมเขาใช้วิธีเอาคนไปยืนเทียบกันก่อน ไม่ีมีชั่งน้ำหนัก หัวหน้าค่ายถามว่าสู้ไหมถ้า"ยักคอ"เป็นอันตกลง มวยบางคู่ฝ่ายแดงสูงชะลูด ฝ่ายน้ำเงินเตี้ยม่อกท่อก แต่พอชกไปได้แค่ยกเดียวตัวเตี้ยน๊อกตัวสูงก็เยอะ
เจ้าของค่ายสมัยก่อนไม่ต้องมาประคบประหงมมากมายอะไร นักมวยหากินเอง ซ้อมบ้างไม่ซ้อมบ้างก็ไม่ว่า ขอให้มีแรงก็พอ บางคนก่อนชกกินไม่เลือก ให้อิ่มท้องไว้ก่อนไม่มีหลักโภชนาการ พอขึ้นเวทีถูกถีบเข้า้ท้องอ๊วกออกขนมจีนก็มี ส-เหอเหอ
ผิดกับสมัยนี้ เจ้าของค่ายเอาเด็กมาฝึกเยอะๆดูแลทุกเรื่องแม้แต่อาหารการกิน การนอนฯลฯแล้วค่อยๆคัดเอาหน่วยก้านดีขึ้นชก ลงทุนสูงมาก แต่ละคนกว่าจะดังบางทีเฉียดล้าน ค่ากินค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายครอบครัว(บางค่ายใจดีส่งให้)นักมวยทุกคนใช่ว่าจะใ้ช้ได้หมด รับมาฝึกมวย50บางทีเอาดีไม่ได้เลยก็มี น่าเห็นใจเจ้าของค่าย นับว่าเสี่ยงมาก แต่ถ้าค่ายไหนได้ตัวดีแค่ตัวเดียวอย่างบัวขาว ถือว่าเกินคุ้ม สมัยก่อนนักมวย(ส่วนใหญ่มากจากอิสาน)หัวหน้าค่ายจะเตะจะตบจะตียังไงก็ไม่ตอบโต้ เพราะสำนึกในบุญคุณที่ทำให้มีกินมีใช้พ่อแม่ไม่ต้องลำบาก แต่ทุกวันนี้เด็กมันไม่โง่แล้ว มีกุนซือคอยเสี้ยมสอน มีโซเชียลเน็ตเวิร์คให้ติดตาม และมีสิ่งยั่วยุมากมาย บุญคุณกับผลประโยชน์จึงแยกกันโดยสิ้นเชิง
ไม่เข้าข้างใครนะครับ

wareerant

อ้างถึงสมัยผมหัดชกมวยอยู่นราธิวาสยุคพ.ศ.14-20 ยุคเดียวกับ"จงอาง ศักดิ์สุริยา" "สายทอง ชำนาญวารี"ฯลฯแต่ไม่ได้ชกจริงจังเท่าพวกนี้ เชื่อไหมค่าชกเขาให้แบบนี้ครับ ชกชนะได้500 ถ้าแพ้ได้300 ค่ารถค่ากินออกเอง การหัดมวยต้องเดินไปขอเขาซ้อม เวลาจะชกถ้าเขาไม่เปรียบมวยให้ก็ไม่ได้ชก หรือมีอีกวิธีคือวันไหนมีมวยก็ตีตั๋วเข้าไปดูแล้วเตรียมกางเกงมวยไปด้วย เผื่อคู่ไหนขาดมาไม่ทันรถ ถ้าเห็นว่าสู้ได้รีบเปลี่ยนกางเกงขึ้นเวทีไปเลย ถ้าช้าคนอื่นจะขึ้นแทนอดได้เงิน เป็นแบบนี้จริงๆ ระหว่างนักมวยกับเจ้าของค่ายไม่มีสัญญาใดๆ เขาให้ชกกับใครก็ไป บางทีไม่รู้มาก่อนพอถึงวันเปรียบมวยบ้านผมเขาใช้วิธีเอาคนไปยืนเทียบกันก่อน ไม่ีมีชั่งน้ำหนัก หัวหน้าค่ายถามว่าสู้ไหมถ้า"ยักคอ"เป็นอันตกลง มวยบางคู่ฝ่ายแดงสูงชะลูด ฝ่ายน้ำเงินเตี้ยม่อกท่อก แต่พอชกไปได้แค่ยกเดียวตัวเตี้ยน๊อกตัวสูงก็เยอะ
เจ้าของค่ายสมัยก่อนไม่ต้องมาประคบประหงมมากมายอะไร นักมวยหากินเอง ซ้อมบ้างไม่ซ้อมบ้างก็ไม่ว่า ขอให้มีแรงก็พอ บางคนก่อนชกกินไม่เลือก ให้อิ่มท้องไว้ก่อนไม่มีหลักโภชนาการ พอขึ้นเวทีถูกถีบเข้า้ท้องอ๊วกออกขนมจีนก็มี
ผิดกับสมัยนี้ เจ้าของค่ายเอาเด็กมาฝึกเยอะๆดูแลทุกเรื่องแม้แต่อาหารการกิน การนอนฯลฯแล้วค่อยๆคัดเอาหน่วยก้านดีขึ้นชก ลงทุนสูงมาก แต่ละคนกว่าจะดังบางทีเฉียดล้าน ค่ากินค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายครอบครัว(บางค่ายใจดีส่งให้)นักมวยทุกคนใช่ว่าจะใ้ช้ได้หมด รับมาฝึกมวย50บางทีเอาดีไม่ได้เลยก็มี น่าเห็นใจเจ้าของค่าย นับว่าเสี่ยงมาก แต่ถ้าค่ายไหนได้ตัวดีแค่ตัวเดียวอย่างบัวขาว ถือว่าเกินคุ้ม สมัยก่อนนักมวย(ส่วนใหญ่มากจากอิสาน)หัวหน้าค่ายจะเตะจะตบจะตียังไงก็ไม่ตอบโต้ เพราะสำนึกในบุญคุณที่ทำให้มีกินมีใช้พ่อแม่ไม่ต้องลำบาก แต่ทุกวันนี้เด็กมันไม่โง่แล้ว มีกุนซือคอยเสี้ยมสอน มีโซเชียลเน็ตเวิร์คให้ติดตาม และมีสิ่งยั่วยุมากมาย บุญคุณกับผลประโยชน์จึงแยกกันโดยสิ้นเชิง
ไม่เข้าข้างใครนะครับ

เป็นอย่างนี้จริง สมัยผมเป็นเด็ก เคยไปดูมวยที่ตลาดหาดใหญ่ใน (เมื่อก่อนเป็นโรงลิเก) ค่าตัวผู้ชก 300 บาทจริง ๆ โดนต่อยโดนเตะเกือบตาย