ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ตามแลรถ "เชนจ์" เปิดศักราชปีกระต่าย

เริ่มโดย ทีมงานบ้านเรา, 10:29 น. 23 ก.พ 54

ทีมงานบ้านเรา

ข้อมูลโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

เปิดปีกระต่ายมามีรถรุ่นใหม่ออกมาก็หลายรุ่นแล้ว ส่วนรถรุ่นเก่าที่นำมาแต่งหน้าทาปากออกวางขายระลอกใหม่รับปีกระต่ายทอง ปีกอบโกยยอดขายของค่ายรถบ้านเรา

เริ่มที่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดตัว มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต และ ไทรทัน ใหม่ โดยถอดเครื่องยนต์ 3.2 ลิตรออกไปจากไลน์อัพ แล้วหันมาคบขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบแปรผัน 178 แรงม้าแทน


       ปาเจโร สปอร์ต ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ยังคงมาพร้อมแนวคิด "More Utility on Demand ความสมบูรณ์แบบที่ตอบทุกไลฟ์สไตล์" เพิ่มความสะดวกสบายและหรูหรายิ่งขึ้น ในขณะที่รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมสมรรถนะเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางไปในทุกที่สำหรับ วันพักผ่อนตามแนวคิด "Performance on Demand...สมรรถนะที่ตอบทุกความต้องการ"
       
       ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ 2.5 ลิตร DI-D ไฮเปอร์คอมมอนเรล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ พร้อมท่อร่วมไอดีแบบทวิน อินเทคแมนิโฟลด์ ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-3,500 รอบต่อนาที ผ่านมาตรฐานมลพิษระดับ 3 ในไทย และรองรับมาตรฐานมลพิษระดับ 4 ของยุโรป ด้วยระบบ EGR ที่นำไอเสียหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ จึงช่วยลดมลพิษ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

       พร้อมระบบ Super -Select 4WD (SS4) ให้เลือกขับได้ทั้ง 4WD และ 2WD ด้วยเทคโนโลยีที่ถูกถ่ายทอดมาจากมิตซูบิชิ ปาเจโร มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ INVECS II พร้อม Sportronic ระบบเกียร์อัจฉริยะที่ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจซึ่งสามารถเรียนรู้และจดจำรูป แบบการขับขี่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างเหมาะสม และทำให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift ในรุ่น GT ขับเคลื่อน 4 ล้อ
       
       ปาเจโร สปอร์ต โดดเด่นด้วยสีตัวถังใหม่ "น้ำตาลทอง (Quartz Brown)" ส่วนไฟหน้าแบบ HID ที่ให้ความสว่างมากยิ่งขึ้น พร้อมระบบปรับระดับลำแสงอัตโนมัติและระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ตามสภาพแสงภายนอก และการติดตั้งระบบน้ำฉีดล้างไฟหน้ารถเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่องสว่างของ ไฟหน้ารถ รวมถึงระบบที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ในรุ่น GT



       ส่วนภายห้องโดยสาร ติดตั้งระบบเครื่องเสียงใหม่ รองรับวิทยุ ซีดี MP3 AUX in ช่องเสียบ USB ในรุ่น GLS พร้อมความอเนกประสงค์กับเบาะนั่งแบบ 3 แถว รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ง่ายถึง 5 รูปแบบ โดยในรุ่น GT เบาะที่นั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง
       
       ขณะที่เบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับเลื่อนเดินหน้าและถอยหลังได้ และยังสามารถแยกพับพนักพิงแบบ 60:40 เพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้มากขึ้น เช่นเดียวกับเบาะนั่งแถวที่ 3 ซึ่งสามารถแยกพับแบบ 50:50 ราบกับพื้นห้องโดยสาร เพื่อให้การเก็บสัมภาระด้านหลังรถที่มากขึ้น พร้อมระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลังให้ความเย็นทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร

       

       ไทรทัน ใหม่ หลากหลายทางเลือก
       
       ไทรทัน รุ่น ดับเบิ้ลแค็บ พลัส รุ่น GLS เกียร์อัตโนมัติ และดับเบิ้ลแค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ รุ่น GLS-Limited เกียร์ธรรมดาและเกียร์ ด้วยเครื่องยนต์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ล่าสุดเพื่อความสมบูรณ์แบบของ สมรรถนะ สำหรับการขับขี่ที่ให้ความประหยัดกว่า ของเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร DI-D ไฮเปอร์คอมมอนเรล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ พร้อมท่อร่วมไอดีแบบทวิน อินเทคแมนิโฟลด์ ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที โดยในรุ่นเกียร์ธรรมดามาพร้อมแรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000-2,800 รอบต่อนาที ในขณะที่เกียร์อัตโนมัติมาพร้อมแรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 - 3,500 รอบต่อนาที

       ส่วนเกียร์อัจฉริยะ 5 จังหวะ พร้อม Sportronic ที่สามารถเลือกปรับเปลี่ยนเกียร์ได้ตามความต้องการ จะมาในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ GLS-Limited เกียร์อัตโนมัติ
       


       ขณะเดียวกันในรุ่นดับเบิ้ลแค็บ กระบะท้ายถูกดีไซน์ใหม่ โดยตัดตรงยาวขึ้น 180 มิลลิเมตร และสูงขึ้นอีก 57 มิลลิเมตร ที่จะช่วยเพิ่มปริมาตรการบรรทุก แต่ก็ใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว
       
       ในรุ่นซิงเกิ้ลแค็บ เมกะแค็บ ดับเบิ้ลแค็บ ขับเคลื่อน 2 ล้อ รวมไปถึงเมกะแค็บ พลัส GLX ใช้เครื่องเสียงใหม่รองรับวิทยุ ซีดี MP3 AUX in ช่องเสียบ USB ในขณะที่รุ่น เมกะแค็บพลัส GLS และดับเบิ้ลแค็บพลัส มีการติดตั้งเครื่องเล่นวิทยุ DVD พร้อมจอภาพระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว





อีกหนึ่งค่าย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว "แจ๊ซ ไมเนอร์เชนจ์" ที่มากับรูปลักษณ์สดใหม่ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก-ปลอดภัยเพียบ สนนราคาเพิ่มขึ้น 10,000-20,000 บาท แล้วแต่รุ่น

       "แจ๊ซ ไมเนอร์เชนจ์" ออกแบบชนหน้า-หลัง ไฟหน้า กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ไฟท้ายแบบ LED และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ทั้งนี้ยังมาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครันมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณกะระยะกันชนหลัง 4 จุด ไฟตัดหมอกคู่หน้า เครื่องเสียงแบบโมดูลพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB เบาะนั่งสีใหม่ และสีส้มบริลเลียนใหม่
       
       นอกจากนี้ ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ ทุกรุ่นยังมาพร้อมกับถุงลมคู่หน้า Dual SRS และระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ส่งผลให้ฮอนด้า แจ๊ซ เป็นรถขนาดซับคอมแพ็กต์รายแรกที่ยกระดับ มาตรฐานด้านความปลอดภัยให้สูงยิ่งขึ้นสำหรับทั้งคนขับและผู้โดยสาร



       อาซึชิ ฟูจิโมโตะ ประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ฮอนด้า แจ๊ซ ยังคงเป็นรถที่ขายดีที่สุดของฮอนด้าในตลาดรถซับคอมแพ็กต์ 5 ประตูทั่วโลก นับถึงตอนนี้ ยอดขายสะสมของฮอนด้า แจ๊ซ ใน 115 ประเทศทั่วโลกขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3.6 ล้านคันแล้ว นับตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรกไปในปี 2544"
       
       ในประเทศไทย ฮอนด้า แจ๊ซ ทำสถิติยอดขายไปแล้วมากกว่า 130,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวฮอนด้า แจ๊ซ เจเนอเรชั่นแรกในปี 2546 ขณะ ที่ฮอนด้า แจ๊ซ เจเนอเรชั่นที่สองซึ่งเปิดตัวในปี 2551 ยังคงครองใจผู้บริโภคได้อย่างเหนียวแน่น ด้วยรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว สะดุดตายิ่งขึ้น

       "ฮอนด้า แจ๊ซ เป็นรถที่ขับสนุก บังคับควบคุมได้ดั่งใจ คล่องแคล่วยามโลดแล่น และใช้งานได้หลากหลาย รูปแบบ ความนิยมชมชอบอย่างแพร่หลายในตัวฮอนด้า แจ๊ซ เป็นผลมาจากรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว แลดูสปอร์ตยิ่งขึ้น ประหยัดน้ำมัน และมีเนื้อที่ใช้สอยภายในที่กว้างขวาง พื้นที่ห้องโดยสารที่ใหญ่กว่ารถในระดับเดียวกัน รวมไปถึงคุณสมบัติด้านการขับขี่ที่สนุกสนาน ส่งผลให้ฮอนด้า แจ๊ซ เป็นรถแฮทช์แบ็ค 5 ประตูที่ขายดีที่สุดของเมืองไทย ในประเภทรถยนต์นั่งซับคอมแพ็กต์ ตลอดช่วงเจ็ดปีที่ผ่านมา" นายฟูจิโมโตะ กล่าว



       ฮอนด้า แจ๊ซ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น คือ รุ่น S รุ่น V และรุ่นสูงสุด SV โดยทั้ง 3 รุ่นติดตั้งเครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร 120 แรงม้า พร้อมถุงลมคู่หน้า Dual SRS และระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS สามารถใช้ได้กับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20
       
       ฮอนด้า แจ๊ซ รุ่นท็อป คือ รุ่น SV มาพร้อมกันชนหน้า-หลังแบบสปอร์ต สเกิร์ตข้างและล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว เพื่อเสริมภาพลักษณ์ความเป็นรถสไตล์สปอร์ตให้สมบูรณ์เต็มพิกัด นอกจากนี้ยังมีสัญญาณกะระยะกันชนหลัง 4 จุด ไฟตัดหมอก ไฟท้ายแบบ LED และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ฮอนด้า แจ๊ซ รุ่นนี้ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด มาพร้อมถุงลมคู่หน้า Dual SRS ภายในสีดำ/น้ำเงินเข้ม กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยสไตล์สปอร์ต ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ด้วยสัมผัสปลายนิ้ว พนักเท้าแขนด้านคนขับและสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย แจ๊ซ รุ่น SV ราคา 715,000 บาท

       ฮอนด้า แจ๊ซ รุ่น V ซึ่งเป็นรุ่นกลาง ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานใหม่ เช่น สัญญาณกะระยะกันชนหลัง 4 จุด สวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย ไฟท้ายแบบ LED ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ เซ็นทรัลล็อคพร้อมสวิทช์ควบคุมที่ตำแหน่งคนขับ เครื่องเสียงซีดี MP3 1 แผ่น แบบโมดูลพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB ถุงลมคู่หน้า Dual SRS และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว แจ๊ซ รุ่น V ราคา660,000 บาท
สนับสนุนการขับเคลื่อนโดย
- ฮอนด้าพิธานพาณิชย์-อริยะมอเตอร์ www.phithan.co.th/hondaphithan
- ปาล์มสปริงส์ & ซิตี้รีสอร์ท บ้านและคอนโดคุณภาพจากเครืองศุภาลัย www.hatyainakarin.com
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ (เยื้องบิ๊กซีคลองแห) โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy
- เอนกการช่าง ผู้นำการพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร โทร 081-7382622 www.an-anek.com/contact.php
รีวิวธุรกิจ เกาะติดบ้านเมือง ร้อยเรื่องท้องถิ่น TLP 0897384215